บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 579 จังหวะดี
ตอนที่ 579
จังหวะดี
“คุณหนู ยังไม่กลับจริงๆหรือเจ้าคะ”หลังจากสั่งสอน?พี่ชายของเหมาเหมาเสร็จแล้ว แทนที่ชิวซุยจะเดินทางกลับบ้านอย่างที่เหมาเหมาคิด ชิวซุยกลับเลือกที่จะเดินทางต่อลงมาทางใต้จนข้ามทะเลทรายที่ก่อนหน้านี้พวกตนเคยมาหาซื้อช็อกโกแลตเสียด้วยซ้ำ
“ข้ายังไม่อยากกลับนี่นา”ชิวซุยตอบพลางเดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมืองอาณาจักรทางใต้
“แค่ว่าคุณหนู ถ้าไม่รีบกลับไปท่านแม่จะเป็นห่วงนะเจ้าคะ”เหมาเหมาเตือนด้วยความเป็นห่วง แม้ชิวซุยจะมีพลังสูงกว่าตัวเหมาเหมาระดับหนึ่ง แต่ชิวซุยก็ยังไม่ถึงระดับยอดฝีมือเสียด้วยซ้ำ อาจจะเพราะนางอยู่กับตระกูลไป๋มาสักพักแล้วเลยรู้สึกว่าพลังของชิวซุยตอนนี้อาจจะยังน้อยเกินไปและอาจจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับชิวซุยก็ได้
“ไม่เอา ข้ายังไม่อยากเจอท่านพี่”ชิวซุยหันหน้าหนีพลางส่ายหน้าช้าๆ น่าเสียดายเพราะพลังของเหมาเหมาน้อยกว่าชิวซุย ทำให้นางไม่สามารถฝืนใช้กำลังลากตัวชิวซุยกลับไปได้ และต่อให้เหนือกว่านางก็ไม่อาจต่อต้านพลังดึงดูดเหล่าอสูรของตระกูลไป๋ได้อยู่ดี ขอเพียงชิวซุยบอกให้ปล่อยนางเหมาเหมาก็ไม่สามารถต่อต้านได้แล้ว
“โถ่คุณหนู”เหมาเหมาถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเป็นห่วงอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพราะเรื่องจะเกิดอันตรายอะไรกับคุณหนูของนางหรอก แต่เพราะคุณหนูของนางยามนี้ดูไม่ร่าเริงเอาเสียเลย ถึงจะเข้าใจว่านางกำลังงอนพี่ชายแต่ปกติแล้วชิวซุยมักจะอยู่กับพี่ชายเสมอนอกจากบางเวลาที่หลินเฟยขอตัวออกไปไหนเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่หลินเฟยอยู่บ้านหรือไปเที่ยวด้วยกันชิวซุยจะเกาะติดพี่ชายไม่ไปไหนเลย ถึงขั้นโกรธเวลาพี่ชายทิ้งให้ตนเองอยู่คนเดียวแบบนี้ก็ต้องเพราะว่าปกติพวกนางใกล้ชิดกันมากไม่ใช่หรืออย่างไร
ยิ่งอยู่ในเมืองทางใต้แบบนี้เหมาเหมาก็ยิ่งจำได้ว่าตอนที่หลินเฟยแค่ออกไปซื้อนมกับน้ำตาลจากเมืองข้างๆ ชิวซุยยังออกมารอที่ประตูเพื่อดูว่าพี่ชายของนางจะกลับมาตอนไหนเลย ลงเป็นแบบนี้นางจะโกรธพี่ชายจนตัดขาดกันได้จริงๆงั้นหรือ
.
.
ดูเหมือนการงอนครั้งนี้ของชิวซุยจะหนักมากจริงๆ เพราะเวลาผ่านไป 3 วันแล้วชิวซุยยังไม่มีท่าทีจะหายโกรธหลินเฟยแล้วเดินทางกลับบ้านเลย นางเดินทางจากเมืองนั้นไปเมืองนี้ทีราวกับคนกำลังเที่ยวรอบโลก เป้าหมายหลักๆตอนนี้ของนางคือการหาอาหารของทางใต้มาลองชิมดูเผื่อจะมีอะไรน่าสนใจ เพียงแต่…..
“……..” ชิวซุยที่มักจะร่าเริงเวลาได้ทานอาหารอร่อยๆนั้นกลับนั่งทานอาหารเงียบๆอยู่ตรงหน้าเหมาเหมาเสียอย่างนั้น ยิ่งนางเจออาหารที่หลินเฟยน่าจะชอบนางก็ยิ่งดูหงอยเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ 3 วันนี้ชิวซุยจะยังดื้อไม่ยอมกลับบ้าน แต่ท่าทีโกรธของนางก็ลดไปมาก บางทียังเผลอบ่นเรื่องพี่ชายออกมาเสียเฉยๆเลย
“คุณหนูอิ่มแล้วหรือเจ้าคะ”เหมาเหมาถามพลางมองชิวซุยที่เลิกแตะอาหารไปแล้ว
“อืม….”ชิวซุยตอบพลางพยักหน้าช้าๆ นางพึ่งกินไปนิดเดียวเอง ทั้งๆที่ปกตินางชอบชิมจานละนิดละหน่อยเพื่อเอาไปปรับใช้กับอาหารของตนเองไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่านางกำลังคิดถึงพี่ชายไม่ใช่หรือไง จะว่าไปตั้งแต่เหมาเหมามาอยู่กับชิวซุยนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่หลินเฟยไม่ได้มาเจอชิวซุยเกือบเดือนแบบนี้ แม้จะมีกลับบ้านมานิดหน่อยก็แทบไม่ได้คุยอะไรกับชิวซุยแล้วหายไปอีก พอหลินเฟยกลับมา ชิวซุยก็หนีออกมาก่อนเสียอีก ทำเอาครั้งนี้กลายเป็นครั้งที่นานที่สุดแล้วที่ชิวซุยแยกกับหลินเฟย
“คุณหนู เรากลับบ้านดีหรือเปล่าเจ้าคะ”เหมาเหมาถามพลางมองชิวซุยที่กำลังนั่งเหงาอยู่กับโต๊ะอาหาร
“….”ชิวซุยนิ่งไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากเพราะคราวก่อนนั้นนางแทบจะปฏิเสธหัวชนฝาเลยทีเดียว
“ท่านพี่ อันนั้นข้าขอได้หรือเปล่า”ขณะชิวซุยกำลังคิดอยู่นั้น อยู่ๆที่โต๊ะข้างๆก็มีเสียงเด็กหญิงคนหนึ่งดังขึ้น แถมคำว่าท่านพี่ของนางยังทำให้ชิวซุยเผลอไปมองอีกต่างหาก
“ไม่ได้ ชิ้นนี้พี่เก็บเอาไว้กินทีหลังนะ”เมื่อหันไปมองชิวซุยก็พบว่าที่โต๊ะข้างๆนั้นมีพี่น้องคู่หนึ่งกำลังคุยกันเรื่องอาหารบนจานของคนพี่ ดูเหมือนน้องสาวจะกำลังขออะไรบางอย่างในจานของพี่สาวกระมัง
“ไม่ได้เหรอ”เด็กหญิงถามพลางทำตาแป๋วใส่ด้วยท่าทีอ้อนๆ แม้ทั้งสองจะเป็นหญิงทั้งคู่ แต่เห็นแบบนั้นก็ทำเอาชิวซุยอดคิดถึงตนเองกับพี่ชายไม่ได้ ก็พี่ชายนางหน้าตาไม่ต่างจากผู้หญิงเสียด้วยสิ
“ก็ได้”สุดท้ายพี่สาวก็ยอมให้น้องสาวจนได้ ท่าทางพี่น้องคู่นี้จะรักกันดีกระมัง
“……..กลับกันเถอะ”ชิวซุยพูดขึ้นมาพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย พอเห็นพี่น้องสองคนนั้นแล้วชิวซุยก็นึกถึงตอนสมัยเด็กขึ้นมา เวลานางเอาแต่ใจพี่ชายก็มักจะยอมให้เสมอเลย ไม่ใช่แค่ตอนเด็กด้วยแม้แต่ตอนนี้พี่ชายก็มักจะตามใจนางเสมอแม้จะมีนิสัยเสียที่ชอบหายไปไหนก็ไม่รู้บ่อยๆก็เถอะ…
“เจ้าค่ะคุณหนู”เหมาเหมายิ้มด้วยท่าทีดีใจ ในที่สุดชิวซุยก็ยอมใจอ่อนเสียที ถึงปากจะบอกไม่อยากเจอหรือจะเดินทางหนีไปไกลเท่าไหร่ ชิวซุยก็เอาแต่คิดถึงพี่ชายอยู่ตลอด เห็นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ ท่าทางสัมพันธ์พี่น้องของทั้งสองจะตัดขาดไม่ได้ง่ายๆเลย
“ชิวซุย เจ้าอยู่นี่เอง”ยังไม่ทันจะคิดเงินเสร็จ อยู่ๆหลินเฟยตัวเป็นๆก็เข้ามาในร้าน พร้อมเดินเข้ามาหาชิวซุยด้วยท่าทีเป็นห่วง ตัวมันกลับบ้านไปตั้งแต่วันแรกที่ชิวซุยแอบออกมาข้างนอก ทำให้มันทราบทันทีว่าชิวซุยงอนเรื่องของมันแล้วออกจากบ้านไป แต่พอออกตามหากลับหาชิวซุยไม่เจอ ท่านแม่ไปตามหาที่อาณาจักรอู๋ ท่านพ่อไปตามหาที่อาณาจักรไป๋ ส่วนท่านน้าไปดูที่อาณาจักรไชน์ก็ไม่เจอร่องรอย สุดท้ายหลินเฟยเลยเดาเอาว่านางอาจจะลงมาทางใต้ก็ได้ หลินเฟยเลยขอแรงป้าไป๋ไป่ให้ช่วยพามันออกมาตามหาชิวซุยอีกแรง
“ท่านพี่…”ชิวซุยกะพริบตาปริบๆมองไปทางหลินเฟยนิ่ง นางพึ่งยกโทษให้หลินเฟยไปเมื่อครู่เอง จะว่าสมแล้วที่เป็นชายเจ้าชู้ หาโอกาสโผล่หน้ามาได้เหมาะเกินไปก็ว่าได้ แม้จะกับน้องสาวก็ตาม
“ชิวซุย กลับบ้านกันเถอะ”หลินเฟยว่าพลางเดินเข้ามาหาน้องสาวในทันที ใบหน้าเป็นห่วงของหลินเฟยทำให้ชิวซุยยิ่งหายโกรธลงไปอีกมาก
“ทะ ท่านเป็นห่วงข้าเป็นด้วยงั้นหรือ” แม้จะหายโกรธแล้ว แต่จะให้ปล่อยเรื่องหลินเฟยลืมวันเกิดตนเองไปง่ายๆได้อย่างไร ชิวซุยจึงหันหน้าหนีพร้อมพูดประชดหลินเฟยในทันที
“ก็ต้องห่วงสิ เจ้าเป็นน้องสาวคนเดียวของข้านะ”หลินเฟยว่าพลางจ้องมองชิวซุยด้วยท่าทีจริงจัง แม้ชิวซุยจะยังไม่หันมามองหลินเฟยแต่หน้านางก็แดงขึ้นมาเสียแล้ว พี่ชายเล่นพูดออกมาแบบนี้ทำเอาความโกรธที่ติดอยู่หน่อยๆลอยหายไปทันที
“ท่านเป็นห่วงข้าจริงๆเหรอ”ชิวซุยหันหน้ากลับมามองหลินเฟยเล็กน้อย แบบนี้นางจะทำท่าทีแข็งใส่ต่อได้อย่างไรกัน
“ไม่ให้ข้าห่วงเจ้าแล้วจะให้ข้าห่วงใครกัน”หลินเฟยถอนหายใจออกมาเพราะชิวซุยดูจะไม่โกรธมากอย่างที่คิด มันจึงเลื่อนมือไปลูบศีรษะของชิวซุยเบาๆ ทำให้นางหลับตาลงอย่างกับแมวไม่มีผิด นี่เป็นจุดหนึ่งที่หลินเฟยเท่านั้นที่ทราบชิวซุยชอบให้ลูบหัวมากเลยล่ะ
“กลับบ้านกันเถอะ ท่านแม่เป็นห่วงมากเลยนะ”หลินเฟยว่าพลางยื่นมือไปให้น้องสาวช้าๆ
“อื้อ…”ชิวซุยพยักหน้าเบาๆพลางจับมือของหลินเฟยอย่างว่าง่าย อย่างน้อยนางก็พยายามจะโกรธแล้วจริงๆนะ
.
.
“ขอรับ…เจอแล้วขอรับท่านแม่”ระหว่างกำลังขี่หลังของไป๋ไป่กลับบ้าน หลินเฟยก็โทรกลับไปหาไป๋หลินผู้เป็นแม่ทันทีที่เข้าเขตสัญญาณของอาณาจักรไป๋
“ท่านพี่ ท่านแม่ว่ายังไงบ้าง”ชิวซุยถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีหงอยๆ นางหนีออกจากบ้านเป็นครั้งแรกย่อมกลัวท่านแม่จะต่อว่าอยู่แล้ว แม้ก่อนหน้านี้จะทำเป็นไม่สนใจเพราะกำลังโกรธหลินเฟย แต่พอต้องกลับไปพบท่านพ่อท่านแม่จริงๆก็ทำเอาชิวซุยหงอยไปอีกรอบทันที
“ท่านแม่ไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก แต่พี่นี่สิ…..”หลินเฟยยิ้มเจื่อนๆออกมาเพราะเรื่องนี้หลินเฟยผิดเต็มไปเลย ทำให้ไป๋หลินต่อว่าหลินเฟยหนักกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าหลินเฟยเองก็ได้แต่ยอมรับเท่านั้น
“แบบนี้ท่านพี่อาจจะโดนกักบริเวณก็ได้”ชิวซุยหัวเราะออกมาน้อยๆพลางกอดแขนของพี่ชายเอาไว้แน่น
“ถึงตอนนั้นเจ้าช่วยแอบเอาอะไรมาให้ข้ากินหน่อยแล้วกัน”หลินเฟยยิ้มกว้างออกมาพลางมองชิวซุยด้วยท่าทีเอ็นดู ก่อนหน้านี้มันเจออะไรมาหลายอย่าง เจอน้องสาวกอดแบบนี้ก็พอจะทำให้มันสบายใจขึ้นมามากเลย
“ท่านพี่ พอกลับไปแล้วข้าขอไปนอนที่ห้องของท่านได้หรือเปล่า”ชิวซุยพูดด้วยท่าทีขอร้องพลางใช้สายตาออดอ้อนจ้องมาทางพี่ชายตนเอง แม้หลินเฟยจะพึ่งได้เรียนรู้เรื่องมารยาหญิงมา แต่สายตาอ้อนของน้องสาวกับพวกสาวๆนั้นช่างต่างกันเหลือเกิน
“ทำไมต้องมานอนห้องพี่ด้วยเล่า เราแยกห้องกันตั้งแต่เจ้า 6 ขวบไม่ใช่หรือไง”หลินเฟยถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย เพราะเป็นพี่น้องหญิงชายก็เลยโดนท่านแม่สั่งให้แยกห้องตั้งแต่เล็ก ทำให้ชิวซุยไม่ได้นอนกับหลินเฟยมาตั้งนานแล้ว
“ข้าก็แค่คิดถึงสมัยก่อน”ชิวซุยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู จะว่าไปตอนแรกที่ท่านแม่บอกให้ทั้งสองนอนแยกห้องกันได้แล้วชิวซุยก็แอบย่องมานอนที่ห้องหลินเฟยอยู่บ่อยๆนี่นา แม้ตอนนี้จะโตพอจะนอนคนเดียวได้แล้วก็ตาม
“งั้นก็ได้”หลินเฟยตอบพลางถอนหายใจออกมาช้าๆ…..
.
.
“หลินเฟย เจ้ากลับมาแล้วงั้นหรือ”หลินเฟยพึ่งจะโล่งใจที่ชิวซุยไม่ได้โกรธมันอย่างที่คิด แต่พอกลับมาถึงเขตอสูรผาไร้ก้น อยู่ๆหลินเฟยก็รู้สึกถึงลางร้ายขึ้นมาเสียเฉยๆ
“ยินดีที่ได้พบขอรับท่านน้า ท่านยาย”หลินเฟยยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางมองแขกที่ไม่ได้มาพบกันเสียนาน หนึ่งคือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรอู๋ อู๋เทียนหมิง อีกหนึ่งคือจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรไป๋ หลิวเมิ่ง พวกท่านทั้งสองเดินทางมาถึงนี่ แถมยังรอหลินเฟยโดยเฉพาะท่าทางจะไม่ใช่เรื่องดีเสียแล้ว
“ไป๋หลินเฟย ตามแม่มา”และสำหรับหลินเฟยแล้ว คนที่น่ากลัวที่สุดที่กำลังยืนรอมันอยู่นั้นคงหนีไม่พ้นไป๋หลินผู้เป็นแม่นั่นเอง นางกอดอกยืนรอหลินเฟยอยู่ด้วยท่าทีจริงจังมากเสียด้วย แถมยังจงใจเรียกชื่อเต็มของหลินเฟยอีกต่างหาก แบบนี้มันแย่แล้วจริงๆไม่ใช่หรือไง