บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 587 แล้วต่อกัน
ตอนที่ 587
แล้วต่อกัน
“คุณชายชุนถัง มาทำอะไรที่นี่หรือขอรับ”หลังจากเกิดเรื่องของจงต้าน สถานการณ์ของร้านตระกูลชุนก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ดูเหมือนพวกจงต้านจะไม่ได้ทำอะไรหลังจากกลับออกไปเมื่อตอนเย็น แต่ถึงอย่างนั้นที่หน้าห้องพักของหลินเฟยกลับมีชายคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆเสียอย่างนั้น แต่หลินเฟยก็คงจะว่าอะไรไม่ได้เพราะเจ้าตัวเป็นบุตรชายเจ้าของบ้านนี่สิ
“น้องหลินเฟย….”ชุนถังสะดุ้งโหยงเมื่อรู้ว่าตนเองถูกจับได้เสียแล้ว
“ข้าแค่มาดูว่าเจ้ายังปลอดภัยดีอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง”ชุนถังตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แน่นอนว่ามันมาดูตรงที่พักของพนักงานก็เพราะห่วงความปลอดภัยของหลินเฟยด้วยส่วนหนึ่ง แต่ใจจริงแล้วตัวมันแค่อยากจะได้พบหลินเฟยเท่านั้นเอง
“ท่านไม่ต้องกังวลหรอกขอรับ ข้างนอกมียามคุ้มกันตั้งหลายคน”หลินเฟยตอบพลางยิ้มบางๆออกมา ทันทีที่ชุนถังไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นชุนเจ๋อก็เรียกผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับสูงมาป้องกันบ้านตนเองเอาไว้ทันทีก่อนจะนัดพบกับจงเถ่าบิดาของจงต้านในเช้าวันต่อมา เรียกได้ว่าภายในบ้านยามนี้ปลอดภัยไร้กังวลอย่างแน่นอน
“น้องหลินเฟย เจ้าต้องระวังตัวให้มากเข้าใจหรือเปล่า เจ้าไม่มีพลังวิญญาณคงรับมือพวกของจงต้านไม่ได้แน่ๆ”ชุนถังตอบพลางถอนหายใจออกมา สมแล้วที่หลินเฟยกล้ายืนต่อต้านจงต้านตรงๆ ยามนี้นางก็ยังดูไม่หวาดกลัวอะไรเลย ตรงกันข้ามกับตัวมันจริงๆที่ห่วงหลินเฟยจนนอนไม่หลับต้องออกมาเดินดูแบบนี้
“คุณชายท่านวางใจเถอะขอรับ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก”หลินเฟยตอบออกมาตามตรง ต่อให้จงต้านยกคนมาบุกจริงหลินเฟยก็ไม่คิดว่าตนเองจะบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะหลินเฟยมั่นใจในตัวทหารยามที่เฝ้าอยู่รอบๆ แต่เพราะหลินเฟยไม่คิดว่าจงต้านจะหาคนมีพลังสูงส่งอะไรมากมาท้าทายตนเองได้หรอก
“เจ้าไม่กังวลก็ดี เช่นนั้นถ้าเกิดเรื่องอะไรก็ร้องเรียกดังๆนะ พวกทหารยามได้ยินจะต้องรีบมาช่วยเจ้าแน่ๆ พวกนั้นอยู่ระดับเซียนเหมือนกับจงต้านต้องรับมือได้แน่ๆ”ชุนถังตอบพลางลอบมองหลินเฟยด้วยท่าทีเป็นห่วง ระดับเซียนที่พวกมันเรียกกันนั้นสำหรับชาวอาณาจักรซานนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับที่เหนือกว่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณคนอื่นๆแล้ว เป็นระดับที่พลังวิญญาณจะเปลี่ยนรูปแบบไปและทำให้ผู้ฝึฝนพลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นนั่นเอง ในสายตาของชาวอาณาจักรทางใต้ ระดับนี้ถือเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุด แต่น่าเสียดายระดับนี้ในอาณาจักรไป๋ก็เป็นแค่ระดับก่อกำเนิดพลังเซียนเท่านั้น ดูเหมือนทางใต้จะไม่คิดว่ายังมีระดับพลังเหนือไปกว่านั้นอีกกระมัง
“แน่นอนขอรับ”หลินเฟยตอบพลางส่งคุณชายชุนถังกลับไปที่ตัวบ้านหลัก จะว่าคราวก่อนที่ตนเดินทางมาทางใต้กับชิวซุยและหลานฮวาก็ได้เจอกับพวกผู้ตรวจการของวังหลวง ตำแหน่งนั้นต้องเป็นผู้มีฝีมือพอสมควรเลยนี่นา แต่ระดับพลังที่หลินเฟยจับสัมผัสได้ในตอนนั้นพวกมันก็อยู่ระดับเสินเซียนขั้นแรกๆเท่านั้น เกรงว่าในอาณาจักรซานนั้นระดับเทียนเซียนก็เป็นระดับที่สูงจนเกินเอื้อมแล้ว แถมพวกมันยังเข้าใจว่าตั้งแต่ระดับก่อกำเนิดพลังเซียนขึ้นมาเป็นขั้นเดียวกันหมดเสียด้วย
.
.
.
ตึง…
ในเช้าวันถัดมาตัวจงเถ่าบิดาของจงต้านก็เดินทางมาตามนัดพร้อมตัวจงต้านเอง เพียงแต่ท่าทีของจงเถ่านั้นไม่ได้มีความเกรงใจชุนเจ๋อเลยแม้แต่น้อยเพราะถึงอย่างไรจงเถ่าก็เป็นขุนนางใหญ่ของเมืองหลวง แถมเรื่องคราวนี้เป็นเรื่องระหว่างจงเถ่ากับชุนเจ๋อเท่านั้น ขุนนางคนอื่นจะมายุ่งก็ต้องมีขอบเขตกันบ้าง
“ท่านชุนเจ๋อ ของที่ข้าสั่งมาถึงหรือยัง”แต่แทนที่จะพูดเรื่องเมื่อวาน อยู่ๆจงเถ่ากลับถามหาของที่ตนเองสั่งมาเสียอย่างนั้น ทำเอาชุนเจ๋อที่เตรียมจะถกเรื่องเมื่อวานชะงักไปทันที
“แน่นอนขอรับ ข้าพึ่งเดินทางไปรับมาเมื่อไม่นานนี้เอง”ชุนเจ๋อตอบพลางนำม้วนตำราม้วนหนึ่งออกมาวางตรงหน้าจงเถ่า บนม้วนตำรานั้นเขียนเอาไว้ว่าวิชาทวนสี่ทิศท่าทางจะเป็นตำราฝึกฝนวิชากระมัง
“ตอนแรกเราตกลงราคากันที่ 2,000 เหรียญทองสินะ”จงเถ่าถามพลางมองมาทางชุนเจ๋อด้วยท่าทีจริงจัง ใบหน้าบึ้งตึงดูน่ากลัวของมันคงทำให้คนอื่นๆกลัวกันไม่น้อยเลย
“ถูกแล้วขอรับราคานี้นับว่าสมน้ำสมเนื้ออย่างมากแล้ว”ชุนเจ๋อตอบด้วยท่าทีสงสัย ความจริงตำราม้วนนี้จะส่งไปให้จงเถ่าถึงบ้านในตอนสิ้นเดือน ทำไมมันถึงพูดเรื่องตำราม้วนนี้ขึ้นมาเสียเฉยๆกัน
“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ข้าจะเพิ่มเงินค่าตำราเล่มนี้ให้เป็น 5,000 เหรียญทองเพื่อเป็นการขอโทษเรื่องที่บุตรชายของข้าก่อเรื่องในร้านของเจ้า”จงเถ่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจอย่างมาก ตัวเลข 5,000 เหรียญทองนั้นไม่ใช่จำนวนน้อยๆสำหรับชุนเจ๋อเลย ลำพังราคากำไรที่ชุนเจ๋อจะได้รับก็เป็นเงิน 2 เท่าของแต่เดิมอยู่แล้ว นับว่าครั้งนี้ชุนเจ๋อได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียวต่อให้หักค่าจ้างยามรักษาความปลอดภัยไปด้วยก็ตาม
“ชุนถัง ลูกคิดว่าไง”ชุนเจ๋อถามพลางหันไปมองบุตรชายตนเอง ตัวชุนถังเป็นผู้ถูกตบ เกรงว่ามันจะไม่ยอม
“ท่านเสนอราคาเช่นนี้เพื่อจะให้ทั้งสองฝ่ายเลิกแล้วต่อกันหรือขอรับ”ชุนถังถามเช่นนี้เพราะต้องการทราบว่าตัวจงต้านนั้นจะไม่มายุ่งกับพวกตนอีกหรือไม่
“ถูกแล้ว บุตรชายข้าบอกว่ายินดีจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอีก”จงเถ่าตอบพลางหยักหน้าช้าๆ หากจงต้านไม่มาหาเรื่องอีกราคานี้ก็นับว่าไม่เลวเลย
“เช่นนั้นก็ตกลงขอรับ หากทั้งสองฝ่ายเลิกแล้วต่อกันราคานี้ก็นับว่าสมน้ำสมเนื้อแล้ว”ชุนถังตอบพลางยิ้มออกมาอย่างโล่งอก วันนี้นึกว่าจะโดนจงเถ่ามาเล่นงานหนักๆเสียแล้ว
“เช่นนั้นเรื่องของบุตรชายท่านกับบุตรชายข้านับว่าจบแล้ว”จงเถ่าพูดพลางใช้ดวงตาดุดันของมันจ้องมองไปทางหลินเฟยแทน
“หลังจากนี้คือเรื่องที่พนักงานของท่านเสียมารยาทกับบุตรชายของข้า”จงเถ่าว่าพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมาจากร่าง สมแล้วที่บุตรชายเป็นยอดฝีมือมีชื่อเสียง ตัวจงเถ่านั้นแม้จะไม่เหมือนขุนนางฝ่ายบู๊แต่ก็มีพลังระดับตี้เซียนเลยทีเดียว
“เดี๋ยวก่อนท่านลุง ไหนท่านบอกว่าเรื่องนี้จบแล้วไม่ใช่หรือ”ชุนถังถามออกมาทันที เรื่องของหลินเฟยนั้นชุนถังเป็นห่วงมากกว่าตนเองเสียอีก
“ที่ข้าตกลงนั้นเป็นแค่เรื่องของเจ้ากับจงต้านเท่านั้น นางไม่เกี่ยว”จงเถ่าว่าพลางหยิบม้วนตำราขึ้นมาเก็บใส่ช่องมิติก่อนจะนำเหรียญทองจำนวน 5,000 เหรียญออกมาวางเอาไว้ตรงหน้าชุนเจ๋อ
“ท่านจงเถ่า วันนั้นบุตรชายของท่านทำเรื่องเสียมารยาท พนักงานของข้าต่อว่าตามความจริงข้าไม่คิดว่าพนักงานของข้าจะมีความผิดอะไร”จงถังรีบเถียงกลับทันทีก่อนบิดาของตนเองจะรับเงินมา เจ้าแก่นี่เจ้าเล่ห์ไม่น้อย ตอนแรกเจรจาสงบศึกแต่กลับสงบศึกเพียงเรื่องของตนกับจงต้านเท่านั้น หากตกลงเรื่องนั้นไปแล้วตนเองก็เอาเรื่องที่จงต้านตบหน้าตนเองมาป้องกันหลินเฟยไม่ได้นะสิ
“เรื่องนั้นข้ารู้แล้ว แต่.. บุตรชายของข้าต่อให้ทำผิดคนอย่างนังหนูนั่นก็ไม่มีสิทธิ์มาต่อว่า”จงเถ่าปล่อยพลังวิญญาณออกมาหนักหน่วงขึ้นกว่าเดิมทำเอาชุนเจ๋อและชุนถังถึงกับเหงื่อตก กำลังของทั้งสองสู้จงเถ่าไม่ได้เลย
“เช่นนั้น….”ชุนเจ๋อยิ้มพลางมองจงเถ่าด้วยท่าทีอ่อนโยน
“เพื่อเป็นการขอโทษให้กับพนักงานของข้า ม้วนตำรามูลค่า 5,000 เหรียญทองเล่มนี้ข้าไม่คิดเงินก็แล้วกัน”ชุนเจ๋อดันกองเหรียญทองกลับไปด้วยท่าทีเฉยชาอย่างมาก คิดว่ามันเสาะหาผู้มีความสามารถเช่นนี้มานานแค่ไหนกัน
“นายท่าน เรื่องนี้ท่านไม่ต้องเสียสละเพื่อข้าหรอกขอรับ”หลินเฟยว่าพลางห้ามชุนเจ๋อเอาไว้ เงิน 5,000 เหรียญทองหากเป็นตนเองสมัยก่อนคงใช้จ่ายได้สบาย แต่เมื่อเทียบกับเงินเดือนตอนนี้ของหลินเฟยแล้วเงินจำนวนนั้นกว่าจะหามาคืนได้ครบก็คงต้องทำงานร่วม 80 ปีเลยนะ
“ใช่แล้ว เจ้าเก็บเงินนั่นไว้เถอะ สิ่งที่ข้าต้องการคือตัวพนักงานของเจ้ามากกว่า ข้าล่ะอยากรู้เหลือเกินว่าถ้าเอานางไปเป็นนางบำเรอให้บุตรชายข้าแล้วยังจะกล้าปากเก่งอีกหรือเปล่า”จงเถ้ายิ้มชั่วร้ายออกมาพลางจ้องมองมาทางหลินเฟยนิ่ง เป้าหมายที่แท้จริงของจงเถ่านั้นคือตัวหลินเฟยมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่จะโดนต่อว่าจงต้านก็ยังเน้นย้ำเรื่องความงามของหลินเฟยแถมยังบอกอีกด้วยว่าอยากได้มาเป็นของตนเอง ที่จงเถ่ายอมเสียเงินเพิ่มอีก 3,000 เหรียญนั้นก็เพื่อเรื่องนี้นั่นเอง
“หึ….แล้วข้าจะรอดู”หลินเฟยตอบพลางจ้องมองจงเถ่านิ่ง จะเอาไปเป็นนางบำเรองั้นเหรอ คิดว่าพวกมันจะทำอะไรหลินเฟยได้กัน พอไปถึงบ้านตระกูลจงหลินเฟยจะจัดการให้ชื่อตระกูลจงหายไปจากเมืองหลวงเลยคอยดู
“ท่านจงเถ่า…”ชุนเจ๋อพูดพลางจ้องมองจงเถ่านิ่ง น่าเสียดายที่ตัวชุนเจ๋อนั้นไม่คิดจะปล่อยหลินเฟยให้ไปอาละวาดในบ้านตระกูลจงอย่างที่มันตั้งใจ
“พนักงานคนนี้เป็นคนที่ท่านจิ๋นจี้หลงระบุตัวให้ต้อนรับท่านโดยเฉพาะ เกรงว่าหากท่านจะนำตัวมันไปก็ต้องไปรายงานให้ท่านจิ๋นจี้หลงได้รับทราบเสียก่อน”อยู่ๆชุนเจ๋อก็เอ่ยนามของคนผู้หนึ่งออกมา แม้ไม่ทราบว่าคนผู้นั้นเป็นใครแต่ใบหน้าของจงเถ่าก็เปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินชื่อของคนผู้นั้น
“ท่านอย่ามาหลอกข้าเลย พนักงานคนนี้เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่ชั้น 1 ไม่ใช่หรือไง ไม่มีทางเป็นคนที่ท่านผู้นั้นเรียกใช้ได้หรอก”จงเถ่าขมวดคิ้วด้วยท่าทีไม่ชอบใจเสียเท่าไหร่ จิ๋นจี้หลงเป็นขุนนางคนสนิทขององค์จักรพรรดิ ตำแหน่งสูงกว่าจงเถ่าหลายขั้น การเสียมารยาทแม้เพียงเล็กน้อยกับท่านนั้นอาจจะทำให้หน้าที่การงานของจงเถ่าถดถอยลงได้เลยทีเดียว
“อ๋อ… วันนั้นหลินเฟยเพียงลงไปช่วยงานที่ชั้น 1 เท่านั้น แต่จริงๆแล้วมันเป็นพนักงานประจำชั้น 7 ขอรับ”ชุนเจ๋อตอบพลางยิ้มออกมาบางๆ ชั้น 7 ของร้านตระกูลชุนนั้นมีแต่ลูกค้าชนชั้นสูง แม้แต่จงเถ่าเองยังเข้าถึงได้แค่ชั้น 6 เท่านั้น เรียกได้ว่าการเอาเรื่องกับพนักงานชั้น 1 กับชั้น 7 นั้นความหมายย่อมต่างกันโดยสิ้นเชิง พนักงานชั้น 7 นั้นย่อมต้องทำงานให้กับชนชั้นสูงที่แม้แต่จงเถ่าก็ไม่กล้าหาเรื่อง หากมีสักคนที่ยื่นมือมาช่วยจงเถ่าก็คงเดือดร้อนแน่ๆ เมื่อเทียบกับความสะใจเล็กน้อยของบุตรชายแล้วความเสี่ยงเช่นนี้นับว่าไม่คุ้มเลยจริงๆ
“ชะ เช่นนั้น…..ข้าจะรับตำราม้วนนี้เอาไว้เป็นคำขอโทษจากท่านก็แล้วกัน”จงเถ่าตอบพลางนำเงิน 5,000 เหรียญทองกลับไปทันที เจ้าแก่นี้ร้ายไม่เบา พอรู้ว่าเอาเรื่องหลินเฟยไม่ได้ก็รีบตอบรับข้อเสนอที่ดีน้อยลงมาทันที
“เช่นนั้นเรื่องในครั้งนี้ก็นับว่าจบลงด้วยดี ร้านตระกูลชุนของเรายินดีต้อนรับท่านในโอกาสหน้าเสมอขอรับท่านจงเถ่า”ชุนเจ๋อยิ้มกว้างพลางเดินออกไปส่งจงเถ่าด้วยตนเอง
“นายท่าน….”หลินเฟยเดินเข้าไปหาชุนเจ๋อด้วยท่าทีกังวล ไม่นึกเลยว่าชุนเจ๋อจะช่วยเหลือมันขนาดนี้
“เรื่องจบลงแล้ว พวกเราก็คงไม่ต้องกังวลอะไรอี”ชุนเจ๋อตัดบทหลินเฟยไปก่อนจะสั่งให้พนักงานคนอื่นๆไปแยกย้ายทำงานของตนเองเสีย มันพึ่งขาดทุนไป 1,000 ทองคงต้องรีบหาเงินมาชดเชยเสียแล้ว
“แล้วก็หลินเฟย พรุ่งนี้เจ้าต้องไปกับข้า”ชุนเจ๋อว่าพลางเดินมาตบบ่าหลินเฟยเบาๆ
“ไปกับท่านหรือขอรับ?”หลินเฟยขมวดคิ้วงงๆออกมา
“ข้าพึ่งบอกจงเถ่าไปว่าเจ้าเป็นพนักงานที่ท่านจิ๋นจี้หลงเรียกใช้ไปนะสิ แบบนั้นหากพรุ่งนี้เจ้าไม่ตามข้าไปบ้านท่านจิ๋นจี้หลงคงได้ความแตกกันพอดี”ชุนเจ๋อตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีขำขัน แต่จริงๆแล้วชุนเจ๋อก็ตั้งใจให้หลินเฟยรับงานส่วนตัวของพวกขุนนางชั้นสูงจริงๆอยู่แล้ว