บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 590 ช่างทำอาวุธ
ตอนที่ 590
ช่างทำอาวุธ
“ช่างทำอาวุธ…”ชุนเจ๋อเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟย ก็พอเข้าใจได้หรอกว่าการสร้างอาวุธอย่างที่ท่านจิ๋นจี้หลงต้องการนั้นเป็นเรื่องลำบากมาก ท่าทางหลินเฟยคงจะอยากไปตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีช่างทำอาวุธที่มีฝีมือพอหรือไม่นั่นเอง
“ขอรับ นายท่านเองก็ขายทั้งแร่ชั้นดีและอาวุธระดับสูงข้าเชื่อว่าท่านคงมีช่างทำอาวุธที่ไว้ใจได้ถูกต้องหรือไม่ขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาบางๆ การจะสร้างอาวุธอย่างที่หลินเฟยต้องการนั้นต้องมีช่างทำอาวุธฝีมือดี อย่างน้อยก็ต้องเป็นช่างทำอาวุธที่เก่งให้ได้สักเศษเสี้ยวหนึ่งของท่านตาราชสีห์ละนะ
“แน่นอน ข้ามีช่างทำอาวุธที่ติดต่อซื้อขายกันมานานหลายคนทีเดียว….”ชุนเจ๋อครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก็ได้รายชื่อ ช่างทำอาวุธฝีมือดีในเมืองหลวงออกมาหลายคน แต่มันจะพาหลินเฟยไปตอนนี้เลยก็คงไม่ได้เพราะตัวมันต้องกลับไปจัดการเรื่องแร่ชนิดอื่นที่หลินเฟยต้องใช้ในการสร้างอาวุธ
“พอกลับไปแล้วข้าจะให้ชุนถังพาเจ้าไปก็แล้วกัน”ชุนเจ๋อตอบพลางยิ้มออกมาบางๆ บุตรชายของมันดูท่าทีจะชื่นชอบหลินเฟยไม่น้อย คงสามารถร่วมทางไปกับหลินเฟยได้อย่างสบายใจเป็นแน่
“ขอบพระคุณขอรับนายท่าน”หลินเฟยตอบพลางก้มหัวลงอย่างนอบน้อม ตนเองก็ไม่ได้ขัดอะไรที่ต้องไปกับชุนถัง แถมยังเริ่มจดรายการแร่ที่ต้องใช้ลงในกระดาษเพื่อให้ชุนเจ๋อรวบรวมแร่พวกนั้นมาอีกด้วย
.
.
“น้องหลินเฟย เจ้ากลับมาแล้วงั้นหรือ”หลังจากรถม้าของชุนเจ๋อเดินทางกลับมาถึงร้าน ตัวชุนถังก็เข้ามาทักหลินเฟยที่พึ่งเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทีแปลกประหลาดทันที ท่าทีของชุนถังยามนี้แปลกไปนิดหน่อย มันดูประหม่ามากขึ้นเมื่อได้พบหลินเฟย ถึงกับเข้าไปทักหลินเฟยก่อนบิดาตนเองที่เดินนำหน้ามาเลยทีเดียว
“ชุนถัง เจ้ามาก็ดีแล้วข้าอยากจะให้เจ้าพาหลินเฟยไปยังร้านขายอาวุธในเมืองหน่อย”ชุนเจ๋อเห็นท่าทีแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา หากที่นี่ไม่ใช่ร้านของมันแล้วชุนถังไม่ใช่บุตรชายของมันมีหวังชุนถังได้โดนตำหนิไปแล้วแน่ๆ
“ข้าหรือขอรับ”ชุนถังหน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ทราบข่าวดีเช่นนั้น ตัวมันพึ่งได้เห็นรูปของชิวซุยเข้าแล้วทำเอาหลงหลินเฟยยามนี้หัวปักหัวปำ ในใจยังอยากหาโอกาสชวนหลินเฟยไปเที่ยวด้วยกันอยู่เลยไม่นึกว่าท่านพ่อจะเปิดทางให้เช่นนี้
“เจ้ารู้จักช่างทำอาวุธฝีมือดีตั้งมากมายไม่ใช่หรือไง ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร”ชุนเจ๋อตอบพลางถอนหายใจออกมา
“เช่นนั้นน้องหลินเฟย เราไปกันเลยดีหรือไม่”ชุนถังยิ้มกว้างพลางหันมาหาหลินเฟยด้วยท่าทีกระตือรือร้นอย่างมาก
“คุณชาย ข้าไปเดินตลาดในชุดนี้คงไม่เหมาะนัก ให้ข้าเปลี่ยนชุดสักครู่นะขอรับ”หลินเฟยยิ้มบางๆก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนชุดที่ห้องพนักงานด้านหลังเสียก่อน ชุดทางการของร้านนั้นแม้จะงดงามก็จริงแต่ก็รุ่มร่ามไม่น้อย เอาชุดแบบนี้ไปเดินในตลาดคงเดินไม่สะดวกนัก
“ปะ เปลี่ยนชุด..”ชุนถังมองตามหลินเฟยไปพลางจินตนาการภาพที่ไม่ควรจินตนาการออกมาเสียอย่างนั้น แถมยังหน้าแดงจัดขึ้นมาเสียก่อนทำเอาชุนชิงน้องสาวของมันต้องหยิกแขนมันจนเจ็บจี๊ดเพื่อให้มันสงบใจลงก่อน
.
.
“คุณชายถัง วันนี้มาที่ร้านเราต้องการอาวุธแบบไหนหรือขอรับ”หลังจากหลินเฟยและชุนถังเดินทางเข้ามาในตัวเมืองเพื่อมาหาช่างทำอาวุธชื่อดังของเมืองหลวง ตัวเจ้าของร้านก็เข้ามาต้อนรับด้วยท่าทีดีใจเพราะชุนถังและชุนเจ๋อนั้นเป็นลูกค้าประจำของร้านขายอาวุธในเมืองเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพอสร้างอาวุธชั้นดีออกมาได้ชุนเจ๋อก็จะมาช้อนซื้อไปทันทีเพื่อนำไปขายต่อ และเพราะแบบนั้นชุนเจ๋อเลยเป็นลูกค้ารายใหญ่ของร้านอาวุธทั่วเมืองเลยก็ว่าได้
“เถ้าแก่ ข้ามาครั้งนี้ไม่ได้มาซื้อหาอะไรหรอกขอรับ แต่มาเพื่อให้สหายของข้าท่านนี้ได้ชมการทำงานของร้านท่านเท่านั้นเอง”ชุนถังตอบพลางยิ้มอย่างนอบน้อมออกมาทันที ร้านขายอาวุธแห่งนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดในเมือง ทำให้ชุนถังมั่นใจว่าหลินเฟยจะต้องถูกใจแน่ๆ
“ได้แน่นอนขอรับ เช่นนั้นเชิญคุณชายกับสหายเข้ามาด้านใน”เถ้าแก่เจ้าของร้านรอบพลางพาชุนถังเข้าไปยังโรงหลอมหลังร้าน ปกติชุนถังและบิดาของมันเข้ามาบ่อยอยู่แล้วแค่พาสหายของมันเข้ามาด้วยเลยไม่มีปัญหาอะไร
“เป็นอย่างไรบ้างน้องหลินเฟย”ชุนถังถามพลางพาหลินเฟยเข้ามาในโรงหลอมที่มีเหล่าช่างทำอาวุธกำลังทุบแร่โลหะกันอย่างแข็งขัน บรรยากาศแบบนี้ทำให้นึกถึงโรงงานของท่านยายรูบี้เลย
“ไม่เลวขอรับ…”หลินเฟยตอบพลางมองการทำงานของเหล่าช่างทำอาวุธ พวกมันทำงานกันอย่างขันแข็ง แถมผลงานที่ออกมานั้นยังเป็นผลงานที่ดีอีกด้วย เพียงแต่ในร้านแห่งนี้ไม่มีช่างทำอาวุธที่ฝึกฝนพลังวิญญาณอยู่เลย ทำให้หลินเฟยเพียงเดินชมและกล่าวของคุณเถ้าแก่เจ้าของร้านอย่างนอบน้อมและกลับออกมาโดยไม่ได้ว่าจ้างใครเลย
.
.
“น้องหลินเฟย ไม่มีใครถูกใจเจ้าเลยงั้นหรือ”ชุนถังที่พาหลินเฟยเดินทางเข้าร้านขายอาวุธมาแล้ว 7 ร้านเริ่มมีท่าทีกังวลเสียแล้ว เห็นท่าทีหลินเฟยเหมือนจะคิดหนักอยู่ก็ทำเอามันกังวลว่าหลินเฟยจะไม่พอใจที่ตนนำทางหรือไม่ แม้จะรู้ว่านางไม่พูดอะไรออกมาแน่ๆ หรือไม่แสดงท่าทีโกรธอะไรตัวมันหรอก แต่มันในตอนนี้ใส่ใจตัวหลินเฟยมากจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ
“ขอรับ…น่าเสียดายช่างทำอาวุธในร้านเหล่านั้นยังมีฝีมือไม่พอตามที่ข้าต้องการ อย่างน้อยข้าก็อยากได้ช่างทำอาวุธที่ใช้พลังวิญญาณได้”หลินเฟยตอบพลางถอนหายใจออกมา บางทีหลินเฟยอาจจะเคยชินกับอาณาจักรไป๋ของตนเองที่มีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณมากมายจนผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณเข้าไปทำงานในทุกตำแหน่ง แต่อาณาจักรซานแห่งนี้นั้นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณเป็นบุคลากรมีค่า ไม่มีใครเอาพลังวิญญาณมาฝึกฝนการทำอาวุธเลย
“น้องหลินเฟยอยากได้ช่างทำอาวุธที่เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณนี่เอง ทำไมไม่บอกข้าตั้งแต่แรกล่ะ”ชุนถังได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจขึ้นมาทันที เพราะมันไม่ทราบแล้วว่าจะพาหลินเฟยไปหาร้านขายอาวุธที่ไหนอีก
“คุณชายรู้จักหรือขอรับ”หลินเฟยเลิกคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ ยามแรกมันถอดใจไปแล้วว่าอาจจะต้องสร้างอาวุธเอาเองเสียอีก
“ข้าได้ยินมาอีกที แต่ข้ารู้ว่าใครสามารถพาข้าไปพบคนๆนั้นได้”ชุนถังตอบพลางยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
“งั้นหรือขอรับ โชคดีจริงๆที่ได้คุณชายนำทางในวันนี้”หลินเฟยยิ้มออกมาด้วยท่าทีโล่งอก แต่ตัวชุนถังที่ได้รับคำชมแถมด้วยรอยยิ้มหวานชื่นในสายตาของมันแล้วก็ทำเอาตัวแทบลอย วันนี้มันจะต้องทำให้น้องหลินเฟยพอใจให้ได้ ไม่อย่างนั้นอย่าเรียกมันว่าชุนถังอีก
“แน่นอนขอรับ ว่าแต่ทำไมถึงต้องเป็นช่างทำอาวุธที่มีพลังวิญญาณหรือขอรับ”ชุนถังถามด้วยท่าทีประหลาดใจ แค่ให้ช่างทำอาวุธสร้างออกมาก็น่าจะพอแล้วนี่นา
“การหาของที่ดีที่สุดมาเสนอขายให้กับลูกค้าคืองานของเราไม่ใช่หรือขอรับ”หลินเฟยตอบออกมาช้าๆ ร้านตระกูลชุนนั้นเป็นร้านขายของล้ำค่า เถ้าแก่อย่างชุนเจ๋อเดินทางไปทั่วอาณาจักรเพื่อหาสินค้าชั้นดีมาวางขาย พอได้ยินหลินเฟยพูดเช่นนั้นชุนถังที่นั่งอยู่ข้างๆก็เหมือนได้เห็นแสงสว่างสาดส่องเข้ามาจากด้านหลังของหลินเฟย บิดาของมันนั้นทุ่มเททุกอย่างเพื่อหาสินค้าดีเยี่ยมมาให้ลูกค้า เพราะแบบนั้นลูกค้าถึงได้เชื่อใจและซื้อขายกันมาเสมอ ยามนี้มันเห็นภาพของบิดาทับซ้อนกันกับหลินเฟยไม่มีผิด ยามนี้ในใจมันนั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมเต็มไปหมด แถมยังคิดอีกด้วยว่าคงหาหญิงใดที่ดีเท่าหลินเฟยนางนี้ไม่ได้อีกแล้ว สักวันมันจะทำให้นางยอมเปิดเผยความจริงแล้วทำให้นางมาเป็นสะใภ้ตระกูลชุนให้จงได้
“น้องหลินเฟย พอลงไปแล้วตามข้ามาเข้าใจนะ”หลังจากได้ทราบแล้วว่าหลินเฟยต้องการพบช่างทำอาวุธที่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ ชุนถังก็ไม่ต้องลังเลอีกแล้ว มันสั่งให้คนขับรถม้ามุ่งหน้าไปยังสำนักฝึกฝนพลังวิญญาณแห่งหนึ่งในเมืองหลวงอาณาจักรซานทันที ซึ่งสำนักที่ว่านั้นก็คือสำนักเหยี่ยวทะเลทรายนั่นเอง
“ขอรับ”หลินเฟยตอบรับพลางเดินตามชุนถังเข้าไปในสำนักเหยี่ยวทะเลทรายด้วยท่าทีสนใจ มิน่าเล่าชุนถังถึงได้ระมัดระวังตัวอย่างมากเพราะภายในสำนักนั้นมีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่เหนือกว่าชุนถังเต็มไปหมด เรียกได้ว่าหากมีใครสักคนมาหาเรื่องชุนถังตัวมันคงทำอะไรไม่ได้เหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่รังแกไม่มีผิด
“ท่านอาวุโสซง ไม่ได้พบกันนานนะขอรับ”ทันทีที่เดินเข้ามาในส่วนชั้นในของสำนักเหยี่ยวทะเลทราย ชุนถังก็เข้าไปหาชายชราท่านหนึ่งที่กำลังเดินอยู่ภายในสำนัก ดูเหมือนท่านอาวุโสท่านนี้จะเป็นลูกค้าของร้านตระกูลชุน ทำให้ชุนถังพอจะรู้จักอยู่บ้าง เพียงแต่คนที่ชุนถังพาหลินเฟยมาพบนั้นไม่ใช่อาวุโสท่านนี้ แต่เป็นท่านรองเจ้าสำนักของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายต่างหาก
“พวกเจ้าต้องการพบข้ามีอะไรงั้นหรือ”หลังจากได้ท่านอาวุโสช่วยนำทางและขอเข้าพบท่านรองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายได้ ในที่สุดทั้งชุนถังทั้งหลินเฟยก็เข้ามาภายในห้องของท่านได้เสียที แถมดูเหมือนคราวนี้ชุนถังจะไม่ทำให้หลินเฟยผิดหวังจริงๆ เพราะที่ฝาผนังของห้องมีอาวุธชั้นเยี่ยมวางเอาไว้เต็มไปหมด แถมลักษณะการสร้างยังไม่เหมือนสร้างด้วยวิธีปกติอีกต่างหาก
“ท่านรองเจ้าสำนัก ยินดีที่ได้พบขอรับ”หลินเฟยไม่รอช้าเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าท่านรองเจ้าสำนักทันที
“ข้ามีนามว่าหลินเฟยเป็นคนของร้านตระกูลชุนขอรับ ข้ามาที่นี่เพื่อว่าจ้างท่านให้สร้างอาวุธชิ้นหนึ่งขึ้นมาขอรับ”หลินเฟยยิ้มพลางจ้องมองดวงตาของอีกฝ่าย นัยน์ตาหยิ่งยโสเช่นนั้นก็เหมือนคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงดี ท่าทางคงไม่ยอมทำอาวุธให้ง่ายๆแน่ๆ
“ทำไมข้าต้องสร้างอาวุธให้เจ้ากัน”รองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายตอบด้วยท่าทีเบื่อๆ มีคนมาขอให้มันสร้างอาวุธให้ตลอดนั่นล่ะ และหลินเฟยก็คงเป็นอีกคนที่อยากได้อาวุธของมันเช่นกัน
“เพราะข้าคิดว่า ท่านเองก็คงอยากสร้างอาวุธที่สามารถเจาะผิวหนังของท่านแม่ทัพเจี่ยหุนได้ขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ
“เป็นไปไม่ได้ วิชาป้องกันของท่านเจี่ยหุนร้ายกาจมาก อาวุธอะไรก็….”
“แล้วถ้าข้าบอกว่าสามารถทำได้ล่ะขอรับ….แล้วยังเป็นอาวุธที่ท่านสร้างขึ้นด้วยตัวเองอีกด้วยนะขอรับ”หลินเฟยยิ้มอย่างรู้ทัน ช่างทำอาวุธจะมีความฝันอะไรมากไปกว่าการสร้างอาวุธเลื่องชื่ออีก อาวุธที่สามารถทำร้ายแม่ทัพเจี่ยหุนได้ทำเอาแม่ทัพหลายคนถึงกับยอมมาลงประลองเพื่อแย่งมันไป ไม่ว่าจะเป็นช่างทำอาวุธคนไหนก็ต้องอยากเป็นผู้สร้างอาวุธชิ้นนั้นเป็นแน่ อย่าเข้าใจผิดไปหลินเฟยมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อขอร้องให้อีกฝ่ายสร้างอาวุธให้ แต่มาเพื่อมอบโอกาสล้ำค่าให้อีกฝ่ายต่างหาก