บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 625 ฝืนประลอง
ตอนที่ 625
ฝืนประลอง
“พี่หลิงหนาน เมื่อวานพวกท่านไปไหนมางั้นหรือ ข้าไม่เห็นพวกท่านกลับมาที่พักเลย”ในเช้าวันต่อมาก่อนงานประลองรอบจริงจะเริ่มขึ้น ฟงเป่าที่นอนอยู่ในที่พักคนเดียวมาทั้งคืนก็พบว่าพวกหนี่หลิงหนานและศิษย์หญิงคนอื่นๆพึ่งจะกลับมาถึงสำนักเสียอย่างนั้น
“พวกเราไปนอนที่บ้านของศิษย์พี่หลิงหนานมาเจ้าค่ะ”ศิษย์น้องคนหนึ่งของฟงเป่าตอบด้วยท่าทีแปลกๆ เหมือนพวกนางไม่กล้าสบตาฟงเป่าเสียเท่าไหร่
“งั้นหรือขอรับ”ฟงเป่ากะพริบตาปริบๆมองพวกนางด้วยท่าทีงงๆ ก็เข้าใจหรอกว่าการพักท่ามกลางกลุ่มผู้ชายในสำนักเกราะทองนั้นอาจจะลำบากใจมากกว่าไปพักที่บ้านหนี่หลิงหนาน แต่เท่าที่ได้ยินมาบ้านของหนี่หลิงหนานไม่ได้ใหญ่โตอะไรนี่นา แบบนั้นพวกนางไม่นอนเบียดเสียดกันแย่หรือ
“งั้นพวกเราไปเตรียมตัวก่อนนะ”หนี่หลิงหนานยิ้มเจื่อนๆออกมาก่อนจะทำท่าจะเข้าไปในห้องพักของพวกนาง แต่ระหว่างกำลังเดินผ่านฟงเป่าอยู่นั้นสายตาของฟงเป่าก็เหลือบไปเห็นผ้าพันแผลที่ข้อมือของหนี่หลิงหนานเข้าพอดี ผ้านั่นมันอะไรกันเมื่อวานยังไม่มีไม่ใช่หรือไง
“พี่หลิงหนาน ผ้าพันแผลพวกนี้มัน……..”ฟงเป่าทักพลางเดินเข้าไปหาหนี่หลิงหนานด้วยท่าทีตกใจ หรือว่าหนี่หลิงหนานจะได้รับบาดเจ็บกัน
“ฟงเป่า…ไม่มีอะไรหรอก”หนี่หลิงหนานจ้องมองฟงเป่าด้วยท่าทีเหมือนจะขอร้องว่าอย่าทักอะไรพวกนางเลย แถมเมื่อฟงเป่ามองดีๆตามร่างกายของศิษย์น้องแต่ละคนต่างมีผ้าพันแผลโผล่ออกมาให้เห็นกันทั้งนั้นไม่ว่าจะตรงข้อมือ ลำคอ หรือที่ข้อเท้า แม้แต่ตัวเซี่ยจินเย่เองยังมีผ้าพันแผลมัดที่คอเอาไว้อีกต่างหาก
“แต่…….”ฟงเป่าอยากจะถามออกมาแต่สายตาของหนี่หลิงหนานนั้นจริงจังมากทำเอาฟงเป่าไม่ทราบจะทำเช่นไรดี
“ฟงเป่า เรื่องนี้ไม่ต้องบอกอาจารย์หรอกนะ”เซี่ยจินเย่ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะจับต้นแขนของฟงเป่าเอาไว้เหมือนจะอยากสื่อว่าพวกนางไม่เป็นอะไรหรอก
“ข้า………”ฟงเป่าไม่ทราบจะทำเช่นไรดี สุดท้ายก็ปล่อยพวกนางเข้าไปในห้องพักเพื่อเตรียมตัวตามที่พวกนางต้องการ
.
.
“เจ้าทำได้ไม่เลวนี่ นึกว่าจะทำร้ายผู้หญิงไม่ลงเสียอีก”ทันทีที่การประลองรอบจริงเริ่มขึ้น ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้ชมภายนอกที่เข้ามาชมการประลองเป็นครั้งแรก ศิษย์เอกของสำนักหมู่ดาวนามว่าปู่เฉินก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทีชั่วร้ายเช่นเดิมเมื่อสังเกตเห็นผ้าพันแผลบนร่างของพวกหนี่หลิงหนาน
“เพื่อสำนักแล้วไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้หรอก”อาทู้ชายหน้าหวานพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆราวกับเรื่องที่ตนเองทำลงไปไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเสียอย่างนั้น
“นึกว่าเจ้าสำนักพวกมันจะฉลาดพอเสียอีก หากเป็นข้าศิษย์บาดเจ็บเช่นนี้คงไม่ส่งลงประลองแล้ว หากพ่ายแพ้ง่ายๆก็จะเสียหน้าสำนักเปล่าๆ”อาวุโสของสำนักหมู่ดาวหัวเราะออกมาพลางมองไปทางหลินเฟย ตัวหลินเฟยนั้นนั่งดูการประลองเฉยๆไม่มีท่าทีจะสั่งห้ามแต่อย่างไร หรือว่ามันไม่สังเกตเห็นบาดแผลของศิษย์แต่แรกแล้วกัน
“เท่านี้ก็รอดูพวกมันขายหน้ากันได้แล้ว”ปู่เฉินเอนตัวพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีสบายใจก่อนจะมองการประลองเบื้องหน้าตนเองด้วยรอยยิ้มน่ารังเกียจ
.
.
.
“พี่หลิงหนาน พยายามเข้านะเจ้าคะ”ศิษย์น้องคนหนึ่งของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายส่งเสียงให้กำลังใจหลังจากการประลองเข้ามาถึงคู่ของหนี่หลิงหนาน โดยคู่ประลองของหนี่หลิงหนานนั้นคือศิษย์คนหนี่งของสำนักลำดับ 3 สำนักลิ้นมังกรที่ใช้ทวนยาวเป็นอาวุธ
“……….”หนี่หลิงหนานเดินขึ้นมาบนลานประลองท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้เข้าชม แต่ยังไม่ทันเริ่มการประลองหนี่หลิงหนานก็เลื่อนมือมาจับตรงข้อมือตนเองเสียก่อนราวกับรู้สึกเจ็บจนแทบจะชักกระบี่ออกมาไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นหนี่หลิงหนานก็ยังฝืนดึงกระบี่ออกมาตั้งท่าเตรียมต่อสู้อยู่ดี
สำหรับนางแล้วนี่ไม่ใช่แค่การประลองเพื่อทำให้ศิษย์หญิงได้รับการว่าจ้างงาน แต่เป็นการประลองในเมืองที่เคยดูถูกตนเองมาก่อน
“นั่นมัน เด็กบ้านหนี่ไม่ใช่หรือ”ภายในกลุ่มผู้ชมนอกจากผู้สนใจวิชายุทธจากที่ต่างๆแล้วผู้ชมส่วนใหญ่ก็คือเหล่าคนในเมืองนั่นเอง และคนจำนวนมากก็เห็นเหตุการณ์ที่หนี่หลิงหนานเคยมาคุกเข่าขอเข้าสำนักเกราะทองกันทั้งนั้น ทำให้ชื่อตระกูลหนี่อื้อฉาวไม่น้อย เรียกได้ว่าป้าข้างบ้านหนี่หลิงหนานยังเอามาคุยกับแม่ของหนี่หลิงหนานเลยว่าบุตรสาวท่านใช่หรือไม่ที่ไปคุกเข่าอยู่หน้าสำนัก
“เจ้าบาดเจ็บงั้นหรือ”คู่ต่อสู้ของหนี่หลิงหนานถามพลางมองที่ข้อมือของหนี่หลิงหนาน เมื่อครู่นางมีท่าทีเจ็บปวดชัดเจนเมื่อหยิบกระบี่ขึ้นมาเลย
“เล็กน้อย ท่านไม่ต้องใส่ใจหรอก”หนี่หลิงหนานตอบพลางกำด้ามกระบี่นิ่ง
“ข้าเห็นการต่อสู้ของเจ้าเมื่อวานแล้ว ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งถึงเจ้าจะบาดเจ็บข้าก็อ่อนข้อให้ไม่ได้หรอกนะ”ชายจากสำนักลิ้นมังกรว่าพลางตั้งท่าทวนของตนเช่นเดียวกัน เมื่อวานมันเห็นแล้วว่าหนี่หลิงหนานสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่พลังเหนือกว่าได้อย่างงดงาม ตัวมันที่มีพลังน้อยกว่าคู่ต่อสู้ของหนี่หลิงหนานเสียอีกนั้นไม่อาจประมาทได้
“ข้าเองก็ไม่หวังให้ท่านอ่อนข้อให้เหมือนกัน”หนี่หลิงหนานตอบพลางยิ้มบางๆออกมา นานๆทีนี่หลิงหนานถึงจะได้พบคนที่ไม่ดูถูกว่านางเป็นหญิง แถมอีกฝ่ายยังตั้งใจจะสู้กับนางเต็มที่อีกนับว่าให้เกียรติหนี่หลิงหนานมาก
เปรี้ยง!!
ทันทีที่กรรมการให้สัญญาณเริ่มประลอง หนี่หลิงหนานก็เข้าไปหาชายตรงหน้าทันที ทวนของอีกฝ่ายได้เปรียบเรื่องระยะ หากเข้าไปประชิดได้ก่อนหนี่หลิงหนานก็จะได้เปรียบ แต่ฝ่ายที่ถือทวนก็โดนไม้นี้จนชินแล้ว พริบตาเดียวฝั่งตรงข้ามก็เหวี่ยงทวนมาทางหนี่หลิงหนานทำให้นางต้องยกกระบี่ขึ้นมารับเอาไว้ทำให้หนีหลิงหนานชะงักอยู่ที่ระยะทวนของอีกฝ่ายพอดี
“ขอโทษทีนะ”พูดจบชายหนุ่มจากสำนักลิ้นมังกรก็เลื่อนปลายทวนมาเบื้องหน้าหนี่หลิงหนานก่อนจะปล่อยพลังวิญญาณออกมา
เปรี้ยง!!!
ทวนของชายหนุ่มพุ่งเข้าหามาหนี่หลิงหนานตรงๆด้วยความเร็วที่น่าตกใจ แต่หนี่หลิงหนานก็ไวพอที่จะยกกระบี่ป้องกันเอาไว้ได้
“……..”ความจริงแล้วหนี่หลิงหนานที่บาดเจ็บตรงข้อมือควรจะรับกระบวนท่านี้ไม่ได้ แต่นางกลับยืนนิ่งรับกระบวนท่าเฉยๆเสียอย่างนั้น ทำเอาอีกฝ่ายอดประหลาดใจไม่ได้ว่าหนี่หลิงหนานไม่เจ็บเลยงั้นหรือ
“อะ โอ้ย….”หนี่หลิงหนานร้องออกมาด้วยท่าทีแปลกๆทำเอาชายตรงหน้ากะพริบตาปริบๆ
“นี่เจ้าแกล้งบาดเจ็บงั้นหรือ”ศิษย์สำนักลิ้นมังกรถามด้วยท่าทีข้องใจ นางรับทวนของตนด้วยการยกกระบี่ขึ้นมารับมือเดียวทั้งๆที่ปกติต้องใช้ 2 มือช่วยรับ นอกจากนางจะรับได้สบายแล้วนางยังพึ่งมาร้องเจ็บทีหลังเหมือนพึ่งนึกได้เสียอย่างนั้น
“ปะ เปล่าข้าเจ็บจริงๆนะ”หนี่หลิงหนานแก้ตัวพลางหลบสายตาไปทางอื่น ช่วยไม่ได้นี่นานางโกหกไม่เก่งนี่
“หรือว่าเจ้าตั้งใจจะหลอกให้ข้าประมาท”ชายหนุ่มสำนักลิ้นมังกรว่าพลางกำด้ามทวนแน่น
“ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น”หนี่หลิงหนานได้ยินก็สะดุ้งโหยง นางก็มีเหตุผลของนางหรอก แต่ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ผ้าพันแผลเพื่อหลอกว่าตนเองบาดเจ็บหรอกนะ
“ไม่… เจ้าไม่ต้องแก้ตัวหรอก กลวิธีในการต่อสู้มีมากมาย การหลอกคู่ต่อสู้ให้ประมาทก็ถือเป็นกลวิธีหนึ่ง”ชายหนุ่มจากสำนักลิ้นมังกรตอบด้วยท่าทีหนักแน่น ทำเอาหนี่หลิงหนานเหงื่อตกทันที ทำไมกลายเป็นว่านางวางกลยุทธเสียอย่างนั้นล่ะ
“แต่ข้าไม่หลงกลหรอกนะ มาเลยข้าจะใส่เต็มแรงแล้ว”แทนที่จะโกรธอีกฝ่ายกลับไปลุกโชนเสียอย่างนั้นทำเอาหนี่หลิงหนานยิ้มเจื่อนๆออกมา
“ข้าไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆนะ”หนี่หลิงหนานเหงื่อตกพลางตั้งท่ากระบี่เตรียมรับมือ แถมอีกฝ่ายยังบอกว่าคราวนี้มันจะใช้แรงเต็มที่งั้นหมายความว่าก่อนหน้านี้มันออมแรงจริงๆงั้นหรือ แสดงว่าหากนางวางแผนไว้แบบนั้นจริงก็ได้ผลสินะ
“พวกเจ้า…..”ขณะหนี่หลิงหนานกำลังต่อสู้บนลานประลอง ฟงเป่าที่เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหวก็เดินเข้าไปหาพวกศิษย์น้องที่กำลังให้กำลังใจหนี่หลิงหนานอู่ข้างสนามด้วยท่าทีลังเล
“ศิษย์พี่ มีอะไรหรือเจ้าคะ”พวกศิษย์น้องของฟงเป่าถามพลางมองไปทางฟงเป่าด้วยท่าทีสงสัย
“พี่หลิงหนานบอกข้าว่าอย่าถามก็จริง แต่…..”ฟงเป่าว่าพลางมองไปทางผ้าพันแผลของพวกศิษย์น้องตนเอง
“พวกเจ้าเอาผ้าพันแผลเปล่าๆมาพันตามตัวทำไมหรือ”ฟงเป่าถามด้วยความสงสัยสุดๆ ตอนนี้มันใช้ดวงตาสีทองตลอดเวลาทำให้มองออกทันทีว่าผ้าพันแผลนั้นไม่มียาอะไรอยู่ภายในเลย แถมผิวหนังของพวกนางก็ปกติไม่มีร่องรอยบาดเจ็บอะไรด้วย
“ศิษย์พี่อย่าเสียงดังสิเจ้าคะ”ทันทีที่ได้ยินฟงเป่าถาม พวกนางก็รีบเข้ามาห้ามฟงเป่าเอาไว้ทันทีก่อนจะหันไปมองทางฝั่งของพวกสำนักหมู่ดาว
“พวกเรามีเหตุผลนิดหน่อยที่ต้องทำแบบนี้เจ้าค่ะ”ศิษย์น้องตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แต่ฟงเป่าเห็นเช่นนั้นก็มองตามสายตาของพวกศิษย์น้องไปยังกลุ่มของสำนักหมู่ดาว พริบตานั้นฟงเป่าก็สบตาเข้ากับอาทู้ที่หันมาทางนี้พอดี
เมื่อสบตากันอาทู้ก็ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นมาสัมผัสริมฝีปากเหมือนเป็นสัญญาณบอกให้ฟงเป่าเงียบเอาไว้
“ศิษย์พี่ มีอะไรหรือขอรับ”ชายร่างใหญ่ที่เป็นศิษย์ของสำนักหมู่ดาวถามพลางมองอาทู้ด้วยท่าทีงงๆ
“ไม่มีอะไร เจ้าดูการประลองไปเถอะ”อาทู้ตอบพลางลดมือลงทันที
“น่าแปลก พวกมันบาดเจ็บกันแล้วทำไมยังสู้ได้อยู่”ปู่เฉินขมวดคิ้วมองการต่อสู้ของหนี่หลิงหนานด้วยท่าทีประหลาดใจ หนี่หลิงหนานแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมาให้เห็นชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังรับทวนของอีกฝ่ายได้สบาย
“บางทีคู่ต่อสู้คงอ่อนเกินไป หากเจอของจริงเข้านางคงฝืนไม่ไหวหรอก”อาทู้ตอบด้วยท่าทีสบายๆ ทั้งๆที่ทราบอยู่แล้วว่าหนี่หลิงหนานไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลย เพราะเมื่อวานมันไม่ได้ทำร้ายพวกนางแม้แต่ปลายนิ้ว
ฉึก…..
หลังจากต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในที่สุดหนี่หลิงหนานก็เป็นฝ่ายปลดอาวุธของศิษย์สำนักลิ้นมังกรลงได้สำเร็จ โชคดีจริงๆที่ยังไม่ต้องใช้วิชากระบี่เกลียวสมุทร ตอนนี้หนี่หลิงหนานยังใช้เพียงกระบี่ร้อยบุปผาชนะได้อยู่
“ฝีมือเจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ แต่ข้ารู้แล้วว่าเจ้าไม่ได้บาดเจ็บทำไมต้องแกล้งเจ็บอยู่อีกล่ะ”ชายจากสำนักลิ้นมังกรถามพลางมองหนี่หลิงหนานด้วยท่าทีไม่เข้าใจ
“เรื่องนั้น……”หนี่หลิงหนานหัวเราะแฮะๆออกมาโดยไม่ทราบจะตอบคำถามว่าอะไรดี ช่วยไม่ได้นี่นานางก็ไม่รู้จะอธิบายว่าอย่างไรเหมือนกัน