บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 626 ผู้ช่วยเหลือ
ตอนที่ 626
ผู้ช่วยเหลือ
เปรี้ยง!!
ร่างของห่าวเหมินถูกหมัดของคู่ต่อสู้กระแทกเข้าอย่างจังแต่ถึงจะอย่างนั้นร่างของห่าวเหมินศิษย์เอกของสำนักเกราะทองก็ยังคงยืนนิ่งไร้ท่าทีสะท้านสะเทือนแม้แต่น้อย ทำเอาคู่ต่อสู้ที่พยายามโจมตีมาพักใหญ่ได้แต่หอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพราะตนใช้แรงไปมากแล้วนั่นเอง
เปรี้ยง!!
เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้หมดแรงแล้วห่าวเหมินจึงใช้ค้อนดาวตกแบบไม่มีหนามเหวี่ยงใส่คู่ต่อสู้ทันที วิชาเกราะทองที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งราวกับโลหะเมื่อรวมกับวิชาค้อนดาวตกที่โจมตีได้หลากหลายระยะนั้นน่ากลัวไม่น้อย นอกจากคู่ต่อสู้จะทำอะไรไม่ได้แล้วยังถูกตามเล่นงานไปทุกที่ ทำให้คู่ต่อสู้ที่เจอกับห่าวเหมินต่างพ่ายแพ้ด้วยอาการเหนื่อยหอบกันทุกคน
แปะๆๆๆ
ทันทีที่การประลองจบลง ผู้ชมรอบข้างสนามก็พากันปรบมือกันอย่างพร้อมเพรียง การประลองของปีนี้สำนักเกราะทองก็แสดงความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคยสมกับเป็นเจ้าภาพจริงๆ น่าเสียดายที่ไม่ทราบทำไมศิษย์คนอื่นๆถึงไม่ได้ขึ้นมาในรอบจริงเลย แต่ถึงอย่างนั้นแค่ห่าวเหมินคนเดียวก็ทำให้สำนักเกราะทองสามารถยืดอกได้แล้ว เพียงแต่…….
“พวกศิษย์หญิงของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายนั่น น่าสนใจดีนะ”แม้การประลองรอบจริงวันแรกจะจบลงด้วยชัยชนะของห่าวเหมิน แต่เสียงพูดคุยของเหล่าแขกผู้ร่วมงานกลับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างเรื่องของศิษย์หญิงเสียเกือบทั้งหมด อาณาจักรซานนั้นมีความเชื่อว่าผู้หญิงต่อให้ฝึกวิชาไปก็ทำอะไรไม่ได้เท่าผู้ชาย แต่วันนี้พวกมันได้เห็นแล้วว่าแท้จริงนั้นศิษย์หญิงก็เก่งกาจได้ไม่ต่างจากชายเลย
“แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ข้าอยากได้คนมาคุ้มกันภรรยาของข้าเวลาเดินทางคนเดียวเหมือนกัน หากได้ผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาเดินทางด้วยกันกับภรรยาข้าก็วางใจได้สินะ”เสียงชายคนหนึ่งแว่วเข้าหูของหลินเฟยพอดี ทำให้หลินเฟยยิ้มบางๆออกมา วันนี้พวกหนี่หลิงหนานแสดงให้เห็นแล้วว่าศิษย์หญิงนั้นก็แข็งแกร่งไม่แพ้ศิษย์ชาย ทำให้หลินเฟยพอใจไม่น้อย
“หลิงหนาน เจ้าคิดว่าจะชนะเลิศได้หรือเปล่า”หลินเฟยถามขึ้นหลังจากพวกหนี่หลิงหนานเดินกลับมาจากลานประลองพอดี
“เอ๊ะ ชนะเลิศหรือเจ้าคะ”หนี่หลิงหนานกะพริบตาปริบๆพลางมองไปบนลานประลอง ในสนามประลองหลังจากนี้ยังมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอีกหลายคน ไม่ใช่ว่าหนี่หลิงหนานจะสามารถเอาชนะได้แน่นอนเสียหน่อย
“ใช่ เจ้าทำได้หรือไม่”หลินเฟยถามพลางยิ้มบางๆออกมา ในสายตาของหลินเฟยนั้นหนี่หลิงหนานมีโอกาสชนะมากทีเดียว เรียกว่าฝากความหวังไว้ได้เลย
“ข้า…..”หนี่หลิงหนานหันไปมองทางด้านเซี่ยจินเย่ครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองห่าวเหมินที่กำลังเดินลงจากลานประลอง ในสายการต่อสู้เดียวกันหนี่หลิงหนานยังต้องเจอกับเซี่ยจินเย่อีกหากทั้งสองสามารถเอาชนะต่อกันมาเรื่อยๆ พวกนางฝึกฝนด้วยกันย่อมเข้าใจฝีมือกันดี และพวกนางก็รู้กันดีว่าหนี่หลิงหนานฝีมือเหนือเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นนางต้องเจอกับห่าวเหมินศิษย์เอกของสำนักเกราะทอง ซึ่งวิชาเกราะทองของมันนั้นเป็นปัญหามากทีเดียวเพราะหนี่หลิงหนานเองก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเจาะการป้องกันของอีกฝ่ายได้หรือไม่
“ชนะได้เจ้าค่ะ”หนี่หลิงหนานเลื่อนมือไปจับที่กระบี่ของตนช้าๆ ในการต่อที่ผ่านมา นางได้ใช้กระบี่ที่ฟงเป่าสร้างขึ้นมาต่อสู้หลายครั้ง ทำให้ทราบว่ากระบี่เล่มนี้ทนทานมาก แถมยังคมกล้ามากอีกด้วย เมื่อปะทะอาวุธของคู่ต่อสู้บางคนถึงกับเกิดรอยแตกเลยก็มี ตรงกันข้ามกระบี่เล่มนี้กลับไร้ริ้วรอยทำให้หนี่หลิงหนานมีความมั่นใจอยู่มากว่าจะสามารถเอาชนะห่าวเหมินได้
“ดี”หลินเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะบอกให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนเสีย พรุ่งนี้ยังมีการประลองอีก ยิ่งสามารถแสดงความสามารถออกไปได้มากเท่าไหร่ การยอมรับในตัวพวกนางก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
“อาจารย์…. ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้าค่ะ”ก่อนจะกลับไปที่พัก หนี่หลิงหนานก็วิ่งกลับไปหาหลินเฟยเพียงคนเดียว ทำให้พวกฟงเป่าและศิษย์คนอื่นๆต้องล่วงหน้ากลับที่พักมาก่อน เพราะแบบนั้นฟงเป่าเลยได้โอกาสถามพวกศิษย์น้องถึงเรื่องผ้าพันแผลว่ามันเกิดอะไรขึ้นเสียที
.
.
.
“อะไรนะ ศิษย์ของสำนักหมู่ดาวที่ชื่ออาทู้ช่วยพวกเจ้างั้นหรือ”ฟงเป่าถามด้วยท่าทีอึ้งๆ เรื่องที่สำนักเหยี่ยวทะเลทรายไม่ถูกกับสำนักหมู่ดาวนั้นฟงเป่าทราบดีเพราะตนเองก็เคยบาดเจ็บจนแขนหักเพราะเรื่องนี้ แต่ข่าวที่ว่าอาทู้ช่วยเหลือพวกศิษย์น้องของตนเอาไว้นั้นช่างน่าประหลาดใจจริงๆ
“เจ้าค่ะ พี่อาทู้บอกว่าสำนักหมู่ดาวส่งพี่อาทู้มาทำร้ายพวกเราเจ้าค่ะ แต่พี่อาทู้ไม่อยากทำก็เลยขอร้องให้พวกเราแกล้งทำเป็นบาดเจ็บ”ศิษย์น้องของฟงเป่าเล่าด้วยท่าทีลำบากใจ เรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับกับสำนักหมู่ดาวเพราะอาทู้ไม่อยากให้สำนักหมู่ดาวรู้ว่าตนเองไม่ทำตามคำสั่ง ไม่อย่างนั้นมันจะถูกอาวุโสลงโทษอย่างแน่นอน
“งั้นหรือ…..”ฟงเป่าตอบด้วยท่าทีข้องใจ สำนักหมู่ดาวก็มีคนที่ไม่สนใจเรื่องความแค้นระหว่างสำนักงั้นหรือ แต่อีกฝ่ายโดนส่งมาทำร้ายพวกหนี่หลิงหนาน หากไม่ทำก็โดนลงโทษไม่ใช่หรืออย่างไร แล้วทำไมมันต้องมาเสี่ยงเพื่อช่วยพวกหนี่หลิงหนานกัน…..
“แต่ก็ต้องขอบคุณพี่อาทู้จริงๆนะเจ้าคะ หากพี่อาทู้ไม่เสนอตัวเป็นคนมาทำร้านพวกเรา แล้วให้คนอื่นมาแทนพวกเราคงแย่แน่ๆ”ศิษย์น้องคนหนึ่งพูดพลางถอนหายใจออกมาอย่างโลกอก พวกนางสัมผัสพลังของอาทู้ได้ชัดเจน และยังสามารถสัมผัสพลังของชายที่ชื่อปู่เฉินได้อีกด้วย พลังของมันทั้งสองเหนือกว่าหนี่หลิงหนานและเซี่ยจินเย่มาก ต่อให้ทุกคนร่วมกันสู้แล้วเลี่ยงการบาดเจ็บสาหัสมาได้ก็ยังต้องบาดเจ็บจนมีผลกับการประลองในวันนี้อยู่ดี
“งั้นหรือ….”แม้ศิษย์น้องของฟงเป่าจะชมอาทู้กันหมด แต่ฟงเป่าก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าอาทู้จะไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะไม่ว่าจะอย่างไรมันก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่าทำไมอาทู้ถึงต้องมาช่วยหนี่หลิงหนานกันแน่
.
.
กึก….
ขณะอยู่ในช่วงพักผ่อนยามค่ำคืน อยู่ๆฟงเป่าที่เข้าไปพักในห้องของตนเองที่แยกออกมาจากห้องของพวกศิษย์คนอื่นก็ได้ยินเสียงดังบางอย่างมาจากที่พักของพวกศิษย์น้อง แม้จะเป็นเสียงที่เบามากแต่ฟงเป่าที่เคยอยู่ในเขตอสูรนั้นไม่ปล่อยให้เสียงแบบนี้ลอดผ่านไปได้แน่ๆเพราะมันเหมือนเสียงฝีเท้าของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง
“………..”ฟงเป่าลอบเดินออกมาจากห้องพร้อมใช้วิชาปกปิดพลังวิญญาณและพลังอสูรของตนเอาไว้เพื่อไม่ให้คนที่ก่อให้เกิดเสียงรู้สึกตัว แม้จะยังไม่เท่าอาจารย์แต่ฟงเป่าก็ปกปิดพลังได้ดีมากทีเดียว และเมื่อเดินเข้าไปในส่วนพี่พักของพวกศิษย์น้อง ฟงเป่าก็พบว่าคนที่ทำให้เกิดเสียงนั้นคืออาทู้ศิษย์จากสำนักหมู่ดาวนั่นเอง นี่มันลอบเข้ามาในที่พักของสตรียามค่ำคืนแบบนี้ได้อย่างไร
“พี่อาทู้ ท่านมาแล้วหรือ”ระหว่างกำลังจะเข้าไปจับตัวอาทู้ อยู่ๆเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังลอดออกมาจากภายในห้องเสียอย่างนั้น ก่อนที่หนี่หลิงหนานจะเดินออกมาจากห้องเข้าไปหาอาทู้ด้วยท่าทีดีใจ
“น้องหลินหนาน เจ้าเรียกข้ามาหามีอะไรงั้นหรือ”อาทู้ยิ้มด้วยท่าทีอ่อนโยนพลางหันหน้าไปมองทางหนี่หลิงหนาน แต่สิ่งที่ทำให้ฟงเป่าตกใจก็คืออยู่ๆหนี่หลิงหนานก็ตรงเข้าไปจับมือทั้งสองข้างของอาทู้เอาไว้ด้วยรอยยิ้มเสียอย่างนั้น
“ข้าถามอาจารย์มาให้แล้ว ท่านบอกว่าต่อให้ท่านเป็นคนของสำนักหมู่ดาวก็ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ”หนี่หลิงหนานพูดด้วยท่าทีมีความสุขทำเอาฟงเป่างุนงงไปหมด นี่มันเรื่องอะไรกัน
“งั้นหรือ ดีจริงๆเช่นนั้นข้า….”อาทู้กำลังจะตอบรับหนี่หลิงหนานด้วยท่าทีดีใจเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ทันพูดจบอาทู้ก็ชะงักไปก่อนจะหันไปมองรอบๆ
“ใครอยู่ตรงนั้น ออกมาซะ”อาทู้สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของคนผู้หนึ่งทำให้รีบถอยห่างหนี่หลิงหนานออกมาทันทีก่อนจะตะโกนสั่งให้ผู้เข้ามาใกล้ออกมาทันทีทำเอาฟงเป่าที่แอบตามมาถึงกับสะดุ้งโหยง หรือว่าอาทู้จะสัมผัสพลังวิญญาณของฟงเป่าได้กัน นี่มันลดพลังจนแน่ใจว่าระยะนี้จับสัมผัสไม่ได้แล้วนะ
“หึหึ…..แบบนี้นี่เอง”ฟงเป่ายังไม่ทันได้แสดงตัว อยู่ๆเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากฝั่งตรงข้ามกับฟงเป่าเสียอย่างนั้น และผู้ที่แสดงตัวออกมานั้นก็คือ ปู่เฉิน ศิษย์เอกของสำนักหมู่ดาวเช่นเดียวกับอาทู้นั่นเอง
“ปู่เฉินเจ้า…..”
“มาทำอะไรที่นี่งั้นหรือ นั่นเป็นคำถามของข้ามากกว่า เจ้ามาทำอะไรในที่พักของสำนักเหยี่ยวทะเลทราย แล้วยังอยู่กับศิษย์สำนักเหยี่ยวทะเลทรายสองต่อสองอีกต่างหาก”ปู่เฉินถามพลางจ้องมองอาทู้ด้วยท่าทีดุดัน
“เรื่องนั้นข้าอธิบายได้”อาทู้ว่าพลางเดินเข้ามาขวางระหว่างปู่เฉินและหนี่หลิงหนานเอาไว้
“อธิบายอะไรอีก ศิษย์สำนักเหยี่ยวทะเลทรายไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสักคน แต่กลับแกล้งทำเป็นบาดเจ็บเพื่อให้เจ้าเหมือนทำภารกิจสำเร็จอีกต่างหาก”ปู่เฉินพูดจบก็ปล่อยพลังวิญญาณออกมา พลังวิญญาณของมันนั้นเข้าสู้ระดับเสินเซียนแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งของอาณาจักรซานแล้วเสียด้วยซ้ำ นี่มันยังอยู่ระดับศิษย์อีกงั้นหรือ
“ไม่ว่าจะมองอย่างไรเจ้าก็กำลังทรยศสำนักของเราอยู่ไม่ใช่หรือไง หรือว่าเจ้าจะตกหลุมรักแม่นางคนนั้นเข้าให้แล้ว”ปู่เฉินว่าพลางเดินเข้าไปหาอาทู้เรื่อยๆ อากัปกริยาก่อนหน้านี้ระหว่างอาทู้และหนี่หลิงหนานนั้นเห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ ท่าทีสนิทสนมเช่นนั้นไม่เหมือนคนที่พึ่งเจอกันเมื่อวานเลย
“น้องหลิงหนาน เจ้าถอยไปก่อน”อาทู้ไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวหาของปู่เฉินแม้แต่ข้อเดียว มันบอกให้หนี่หลิงหนานถอยห่างออกไปเพื่อความปลอดภัยก่อนจะปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมาเช่นเดียวกัน
เปรี้ยง!!
กรงเล็บของปู่เฉินพุ่งวาบเข้ามาหาอาทู้อย่างรวดเร็ว แต่อาทู้ก็ใช้วิชาเดียวกันโต้กลับอีกฝ่ายไปทันที แต่เพียงการปะทะกันครั้งเดียวก็ทำให้อาทู้ถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว แม้วิชาจะเหมือนกันและมีระดับพลังไม่ต่างกันมาก แต่อาทู้กลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างชัดเจน
“ข้าจะลากเจ้ากลับไปรับโทษที่สำนักเอง”ปู่เฉินยิ้มด้วยท่าทีน่ารังเกียจก่อนจะพยายามคว้าจับข้อมือของอาทู้เอาไว้แต่อาทู้ก็ไม่ได้ยอมง่ายๆ มันยังคงต้านกระบวนท่าของปู่เฉินเอาไว้อย่างยากลำบาก แม้จะเป็นศิษย์เอกเหมือนกันแต่ระยะห่างของอาทู้และปู่เฉินก็เห็นได้ชัดเจน
ผลัก!!
ไม่นานความต่างของทั้งสองก็แสดงผลออกมาชัดเจน อาทู้โดนกรงเล็บของปู่เฉินเจาะเข้าที่ท้อง ถึงขั้นนิ้วทะลุเข้าไปในลำตัวจนเลือดไหลออกมาเต็มท้องของอาทู้ในพริบตาเดียว ทำเอาทั้งหนี่หลิงหนานและฟงเป่าที่มองอยู่ถึงกับตกตะลึงขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าศิษย์สำนักเดียวกันอย่างอาทู้กับปู่เฉินจะลงมือใส่กันหนักเช่นนี้