บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 627 ไม่ควรเข้า
ตอนที่ 627
ไม่ควรเข้า
“เจ้า….ทำอะไรลงไป”หนี่หลิงหนานเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างของอาทู้ที่ล้มลงนอนกับพื้นด้วยท่าทีเจ็บปวด
“ก็จัดการคนทรยศไง”ปู่เฉินก้มลงใช้มือดึงเส้นผมของอาทู้ขึ้นมาทำให้ครึ่งตัวบนของอาทู้ถูกยกขึ้นมาทั้งอย่างนั้น แต่ถึงจะมองเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากศิษย์ร่วมสำนักปู่เฉินก็ยังไม่มีความสงสารใดๆผุดออกมาจากดวงตาอยู่ดี
“ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นสายให้กับสำนักเหยี่ยวทะเลทราย เห็นเจ้าทำตัวลับๆล่อๆมาหลายปีแล้ว ในที่สุดก็จับได้เสียที”ปู่เฉินหัวเราะออกมาก่อนจะใช้อีกมือจับไปที่คอของอาทู้แล้วยกทั้งร่างขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”อาทู้กัดฟันด้วยท่าทีเจ็บปวดพริบตานั้นแสงสีทองก็ปรากฏออกมารอบๆตัวอาทู้ทำให้บาดแผลที่ท้องค่อยๆบรรเทาลงอย่างช้าๆ
“………”ปู่เฉินที่มองอาทู้ด้วยสายตาเฉยชามาตลอดพอเห็นแสงสีทองเข้าความรู้สึกเกลียดชังก็ฉายวาบขึ้นมาในดวงตาของมันทำให้มันกำลำคอของอาทู้แน่นขึ้น อาทู้นั้นเป็นผู้มีพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากยิ่งทำให้อาจารย์ของอาทู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของปู่เฉินเช่นกันให้ความรักต่ออาทู้มากกว่า แม้แต่ตำแหน่งอาวุโสท่านก็คิดจะส่งต่อให้อาทู้ทั้งๆที่ตอนนั้นตนเองแข็งแกร่งกว่า ตั้งแต่นั้นปู่เฉินก็ไม่เคยไว้ใจอาทู้อีกเลย และยังสังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของอาทู้อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ที่อาทู้แอบมาหาคนของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายทั้งๆที่สำนักของพวกตนกำลังจะก่อสงครามกับสำนักเหยี่ยวทะเลทรายอยู่แล้ว
“อย่ามาโกหก เจ้าก็แค่หาโอกาสสังหารข้าเท่านั้นล่ะ”อาทู้พยายามจะงัดกรงเล็บที่เกราะกุมคอของตนเอาไว้ออก แม้แต่เดิมกำลังของอาทู้จะน้อยกว่าแต่เมื่อมีพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ช่วยเสริมทำให้อาทู้สามารถฝืนใช้พลังมากกว่าที่ตัวเองมีออกมาได้
ผลัก!!
ไม่รอให้อาทู้ฟื้นตัว ปู่เฉินที่ทราบความสามารถของพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้วก็เหวี่ยงอาทู้ลงกระแทกพื้นอย่างจังทำให้อาทู้เสียสมาธิในการควบคุมพลังธาตุไปทันที
“หยุดนะ….”หนี่หลิงหนานที่มองอยู่ด้านหลังทนต่อไปไม่ไหวชักกระบี่ของตนออกมาก่อนจะมุ่งหน้าเข้าหาปู่เฉินในทันทีทั้งๆที่พลังของตนเองมีน้อยกว่าอีกฝ่ายมาก
เปรี้ยง!!
แม้หนี่หลิงหนานจะเป็นคนพุ่งเข้าไปโจมตีปู่เฉินก่อน แต่คนที่เข้าไปโจมตีปู่เฉินเป็นคนแรกกลับเป็นฟงเป่าเสียอย่างนั้น แม้จะไม่รู้จักกับอาทู้แต่เห็นคนถูกทำร้ายเช่นนี้ฟงเป่าเองก็อยู่เฉยไม่ได้หรอก
“เจ้าเป็นใคร”ปู่เฉินมองมาทางฟงเป่าที่เข้ามาโจมตีตนเอง ปราณกระบี่ที่ปล่อยออกมาจากนิ้วนั้นคมกล้าเสียยิ่งกว่ากระบี่เหล็กเสียอีก แต่ปู่เฉินกลับใช้กรงเล็บของมันรับเอาไว้ หรือก็คือมันเอามือเปล่ารับคมกระบี่ลมปราณของฟงเป่านั่นเอง แถมมือของมันยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำเอาฟงเป่าเองยังตกใจเลย
“ปล่อยมือซะ”ฟงเป่าพูดพลางมองร่างของอาทู้ที่โดนเหวี่ยงลงพื้นเมื่อครู่ มันไม่ได้ไว้ใจอาทู้หรอกแต่พอเห็นคนโดนทำร้ายแบบนั้นแล้วทำให้ฟงเป่านึกถึงภาพคืนที่ตระกูลของตนโดนเล่นงาน พอรู้ตัวอีกทีฟงเป่าก็ตรงเข้าไปช่วยเหลืออาทู้เสียแล้ว
“แบบนี้ก็ยิ่งชัด เจ้าหนูนี่พยายามปกป้องเจ้าขนาดนี้แสดงว่าเจ้าเป็นสายของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายจริงๆ”ปู่เฉินยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ไม่นึกเลยว่าอาทู้แท้จริงแล้วจะเป็นสายของสำนักเหยี่ยวทะเลทราย หากเอาเรื่องนี้ไปแจ้งให้อาวุโสท่านอื่นๆทราบและสังหารอาทู้เสียนอกจากตำแหน่งผู้สืบทอดจะไม่โดนแย่งไปแล้วตนเองยังสร้างความดีความชอบให้สำนักได้อีก
“พี่อาทู้ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”หนี่หลิงหนานพอไม่ได้โจมตีใส่ปู่เฉินก็รีบเข้าไปดูอาการของอาทู้ทันที
“ไม่เป็นไร ข้ายังสบายดี”อาทู้ตอบพลางกุมไปที่ท้องของตนเอง เรื่องโดนบีบคอและเหวี่ยงกระแทกพื้นนั้นไม่เท่าไหร่ ตอนนี้อาทู้ต้องรักษาบาดแผลที่ท้องให้เร็วที่สุดเสียก่อน
“คิดว่าข้าจะยอมให้เจ้ารักษางั้นหรือ”ปู่เฉินกระโจนเข้ามาหาอาทู้ที่กำลังรักษาบาดแผลอยู่ ขอเพียงมันฆ่าอาทู้เสียตรงนี้แล้วกลับไปรายงานความผิดของมันก็ไม่มีใครมาสืบสาวราวเรื่องได้อีก
หมับ….
ก่อนที่ปู่เฉินจะเข้ามาโจมตีอาทู้หรือพวกฟงเป่า ร่างของหลินเฟยก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าปู่เฉินเสียก่อน เพียงจับไปที่ข้อมือของปู่เฉินหลินเฟยก็หยุดการโจมตีของปู่เฉินได้อย่างง่ายดาย
“ที่นี่เป็นเขตที่พักของสตรี เจ้าไม่ควรเข้ามาในยามวิกาลนะ”หลินเฟยพูดก่อนจะปล่อยมือของปู่เฉินออก ทำให้ปู่เฉินต้องถอยออกไปทันที แม้ตนเองจะได้ชื่อว่ายอดฝีมือรุ่นใหม่ แต่ก็ไม่คิดจะสู้กับเจ้าสำนักของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายที่พึ่งฆ่าเจ้าสำนักคนเก่ามาหรอก
“อาจารย์”หนี่หลิงหนานเห็นหลินเฟยมาช่วยก็โล่งใจทันที แถมปู่เฉินยังถอยไปแล้วอีกต่างหาก เท่านี้อาทู้ก็ไม่ปลอดภัยเสียที
“ฟงเป่า”หลินเฟยเดินกลับมาหาพวกหนี่หลิงหนานและฟงเป่าก่อนจะก้มลงมองอาการบาดเจ็บของอาทู้ แม้แต่หลินเฟยก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“ขอรับอาจารย์”ฟงเป่าตอบรับพลางประสานมืออย่างนอบน้อม
“เจ้าเองก็ห้ามเข้ามาที่นี่โดยพลการ สำนักเราเป็นสำนักที่รับทั้งหญิงทั้งชาย อย่าเดินเล่นเข้าเขตผู้หญิงง่ายๆเช่นนี้อีก ส่วนคราวนี้ข้าถือว่ามีความจำเป็นจะยกโทษให้”หลินเฟยว่าพลางถอนหายใจออกมาช้าๆ
“เอ๊ะ แต่อาจารย์ก็….”ฟงเป่ากำลังจะถามย้อนว่าอาจารย์เองก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือไง แต่กลับโดนหลินเฟยดีดหน้าผากไปทีหนึ่งเข้าให้
“เจ้ากลับที่พักไป ส่วนหลิงหนานเจ้าพาอาทู้มาที่ห้องของข้า ข้าจะรักษาแผลให้”หลินเฟยพูดพลางลากฟงเป่าออกไปด้วยกัน เมื่อส่งฟงเป่ากลับห้องหลินเฟยก็ไปหาอาทู้ที่ห้องของตนเอง
“โดยพื้นฐานแล้วพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าคงรักษาได้เองหมด”หลินเฟยมาถึงก็ตรวจสอบร่างกายของอาทู้ทันทีก่อนจะนั่งลงข้างๆร่างของอาทู้ที่นอนอยู่กับพื้น โชคดีที่อาทู้มีพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์เลยเสียเลือดไปไม่มาก แถมปากแผลยังเริ่มสมานตัวแล้วด้วย
“ไหนๆเจ้าก็มาแล้ว เรามาคุยเรื่องที่หลิงหนานมาขอร้องข้าเลยก็แล้วกัน”หลินเฟยว่าพลางหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากมิติของตน มันเป็นเพียงยาช่วยบรรเทาความเจ็บเท่านั้นไม่ใช่ยาหายากอะไร
“ขอบพระคุณขอรับ ไม่นึกเลยว่าข้าจะโดนปู่เฉินแอบตามมาด้วย”อาทู้ตอบพลางรับยามาอย่างยินดี แม้จะมีพลังช่วยรักษาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บปวด
“เรื่องเข้าสำนัก ข้าไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ แต่เจ้าจะออกจากสำนักหมู่ดาวได้งั้นหรือ สำนักฝึกฝนวิชาไม่ใช่ว่าศิษย์อยากออกแล้วจะออกได้เลยนะ”หลินเฟยถามพลางด้วยท่าทีจริงจัง ยิ่งออกจากสำนักเดิมแล้วไปเข้าสำนักคู่อริแล้วยิ่งเป็นเรื่องประหลาดเข้าไปใหญ่ ยิ่งอาทู้อยู่ในตำแหน่งศิษย์เอกเพียงไม่กี่คนของสำนักแล้วด้วย
“ข้าโดนตัดสินว่าเป็นคนทรยศไปแล้ว เรื่องออกจากสำนักคงไม่มีปัญหาแล้วขอรับ”อาทู้หัวเราะออกมาเบาๆ แม้ตนเองจะอยากไปอยู่สำนักเหยี่ยวทะเลทรายด้วยเหตุผลส่วนตัว แต่อาทู้ไม่เคยคิดทรยศสำนักออกไปเลย อย่างน้อยอาทู้ก็มีเพื่อน ศิษย์พี่ และ ศิษย์น้องในสำนักหมู่ดาว หากทำได้ก็อยากออกจากสำนักด้วยดีอยู่หรอก
“เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา อย่างไรสำนักหมู่ดาวกับสำนักเราก็เป็นคู่แค้นกันอยู่แล้ว หลังจากจบการประลองข้าจะรับเจ้าเข้าเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ กว่าจะถึงตอนนั้นเจ้ารักษาตัวให้หายดีก่อนก็แล้วกัน”หลินเฟยว่าพลางลุกขึ้นยืนช้าๆ และมอบห้องพักของตนให้อาทู้ใช้พักผ่อนเพราะคงให้อาทู้กลับไปที่พักของตนไม่ได้แล้ว แถมอาทู้ยังไม่ได้เข้าสำนักจะให้ไปพักกับศิษย์ของตนก็คงไม่ได้ ส่วนหลินเฟยนั้นมีนัดร่ำสุรากับเจ้าสำนักกิ่งจันทร์คิดว่าคืนนี้จะไม่ได้กลับมาที่ห้อง
.
.
“น้องหลิงหนาน ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าไปพักบ้างเถอะ”แม้หลินเฟยจะไม่ได้บอกให้หนี่หลิงหนานคอยดูแลอาทู้ แต่นางก็ยังนั่งอยู่กับอาทู้อย่างใกล้ชิด หนี่หลิงหนานยามนี้มองมาที่อาทู้ด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างมากแม้อีกฝ่ายจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วก็ตาม
“ข้าไม่เป็นไรหรอก”หนี่หลิงหนานตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ นางเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณแค่ไม่นอนคืนเดียวย่อมทนได้สบายอยู่แล้ว
“ขอบใจนะ ทั้งเรื่องช่วยขอร้องให้ข้าเข้าสำนัก ทั้งเรื่องที่ช่วยข้าก่อนหน้านี้”อาทู้ว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอ่อนโยน ใบหน้าอ่อนหวานของมันยามนี้ยิ่งดูอบอุ่นกว่าทุกทีเสียอีก
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเข้าใจความลำบากของท่านดี ข้าถึงได้อยากช่วยไงล่ะ”หนี่หลิงหนานตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเหมือนคนที่รู้ใจกันดี แม้จะพึ่งพบกันไม่นานหนี่หลิงหนานก็พบว่าตนเองกับอาทู้นั้นมีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง เพราะแบบนั้นนางถึงไว้ใจอาทู้มากกว่าคนอื่นๆมาก
“จริงสิ ในรอบชิงเจ้าต้องสู้กับศิษย์เอกของสำนักเกราะทองสินะ”อาทู้ยิ้มออกมาด้วยท่าทางผ่อนคลายก่อนจะนึกถึงเรื่องการประลองของหนี่หลิงหนานขึ้นมาได้
“เจ้าค่ะ”หนี่หลิงหนานพยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีงงๆ
“ข้าจะบอกจุดอ่อนของวิชาเกราะทองให้ หากเจ้าโจมตีตรง……”อาทู้ที่เป็นศิษย์เอกของสำนักหมู่ดาวย่อมเคยประลองกับคนสำนักเกราะทองอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้บอกหนี่หลิงหนานก็รีบเอามือเข้ามาปิดปากอาทู้เสียก่อน
“พี่อาทู้ ท่านไม่ต้องบอกข้าหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะหาทางเอาชนะอีกฝ่ายเอง”หนี่หลิงหนานตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ บอกตามตรงว่านางสนุกกับการประลองครั้งนี้มาก เพราะนอกจากนางจะได้พิสูจน์ฝีมือตนเองแล้วยังได้พบคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจหลายคนอีกต่างหาก ขืนโดนบอกจุดอ่อนการเอาชนะศิษย์เอกของสำนักเกราะทองก็ไม่สนุกพอดี
“ก็ได้ๆ ข้าไม่บอกเจ้าก็ได้”อาทู้ยิ้มออกมาด้วยท่าทีชื่นชม หากระหว่างการต่อสู้หนี่หลิงหนานสามารถหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้นางก็ต้องชนะแน่ๆ