บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 652 ใคร
ตอนที่ 652
ใคร
“……….” แม้เซี่ยจินเย่จะไม่ค่อยได้เข้ามาในเขตอสูรนัก แต่นางก็สัมผัสได้เลยว่าในเขตอสูรผาไร้ก้นนั้นแตกต่างออกไปจากที่อื่นมาก อสูรของที่นี่หลากหลายอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งๆที่นางลงมาในเขตป่าวัฒนะแต่กลับมีอสูรของเขตอืนๆเข้ามาอาศัยราวกับเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ทำให้เซี่ยจินเย่รู้สึกแปลกๆคือพลังอสูรที่เหลือล้นของเขตอสูรแห่งนี้นั่นเอง
“ความรู้สึกนี้มัน…..ไปเรียกท่านราชามา”อสูรตนหนึ่งพูดพลางมองเซี่ยจินเย่ด้วยท่าทีปละหลาดใจ พลังดึงดูดเหล่าอสูรของเซี่ยจินเย่ทำงานแล้ว แต่อสูรในเขตอสูรผาไร้ก้นต่างเคยชินกับพลังดึงดูดเหล่าอสูรดี แม้จะเข้าไปห้ามอะไรเซี่ยจินเย่ไม่ได้ แต่ก็ยังมีจิตสำนึกของตนเองพอจะตัดสินให้เรียกตัวพวกราชามาเพื่อตรวจสอบ เพราะพวกตนไม่เคยเห็นเด็กสาวคนนี้มาก่อนเลย
วูบ…..
ใช้เวลาไม่นานร่างของราชินีมังกรภรรยาของมังกรธรณีก็บินลงมายังจุดที่เซี่ยจินเย่อยู่พร้อมร่างของมังกรธรณีในร่างมนุษย์ที่อยู่บนหลังของนาง
“แม่หนูเจ้าเป็นใคร”มังกรธรณีถามพลางลงมาหาเซี่ยจินเย่ด้วยท่าทีระแวดระวัง พลังดึงดูดเหล่าอสูรไม่มีผลอะไรกับพวกน้าๆของไป๋จูเหวินอีกแล้วทำให้พวกมังกรธรณีไม่ได้ทำตามคำสั่งของผู้มีพลังดึงดูดเหล่าอสูรแล้ว
“ข้า..ข้ามีนามว่าเซี่ยจินเย่เจ้าค่ะ”เซี่ยจินเย่ตอบพลางมองมังกรธรณีด้วยท่าทีสงสัย มังกรธรณีทำตัวเหมือนปกติมากไม่เหมือนอสูรตนอื่นๆเลย
“เซี่ย…”มังกรธรณีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทีประหลาดใจ นางไม่ได้ใช้ชื่อสกุลไป๋ งั้นก็หมายความว่ามีคนอื่นนอกจากตระกุลไป๋ครอบครองพลังดึงดูดเหล่าอสูรอยู่อีกงั้นหรือ
“เจ้าเข้ามาที่นี่ต้องการอะไร ที่นี่เป็นสถานที่ห้ามเข้านะ”มังกรธรณีถามด้วยท่าทีสุภาพ แม้อีกฝ่ายจะลักลอบเข้ามาแต่ผู้มีพลังดึงดูดเหล่าอสูรนอกตระกูลไป๋ เรื่องนี้มังกรธรณีไม่อาจมองข้ามได้จริงๆ
“ข้า…ข้าได้ยินว่าคนตระกูลไป๋มีพลังแปลกๆเหมือนกับข้า ข้าก็เลยอยากจะมาขอพบเจ้าค่ะ”เซี่ยจินเย่บอกออกไปตามตรง นางได้ยินว่าอีกฝ่ายคือราชาของเขตอสูรแห่งนี้ งั้นหากอีกฝ่ายช่วยเหลือบางทีนางอาจจะได้เจอคนตระกูลไป๋ตามที่หวังก็ได้
“ก็จริง พลังของเข้ากับคนตระกูลไป๋เหมือนกัน…..ได้สิข้าจะพาเจ้าไป”มังกรธรณีพยักหน้าช้าๆ พลังของเซี่ยจินเย่ยังน้อยมาก นางคงไม่คิดจะต่อสู้อะไรหรอก แต่ถึงจะต่อสู้ในเขตอสูรผาไร้ก้นนี้คงจัดการนางได้ไม่ยาก เรื่องน่าสงสัยเกี่ยวกับพลังในตัวนางนั้นคาใจมังกรธรณีมากกว่าเสียอีก
“จริงหรือเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ”เซี่ยจินเย่ตอบพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เห็นท่าทีอสูรของเขตอสูรแห่งนี้แปลกๆนางก็ยังกังวลอยู่ แต่ได้พบคนตระกูลไป๋จนได้นางก็หมดห่วงเสียที
.
.
“เซี่ยจินเย่…..”ทันทีที่มังกรธรณีพาเซี่ยจินเย่เดินทางมาที่เมืองจำลองใจกลางเขตอสูรผาไร้ก้น คนแรกที่เห็นเซี่ยจินเย่แล้วมีปฏิกิริยาก็คือ ชิวซุย นั่นเอง
“อาจารย์อา…”เซี่ยจินเย่เห็นชิวซุยก็เข้าไปหาทันที อย่างน้อยได้เจอคนรู้จักก่อนก็นับว่าทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน หรือว่าพี่ชายข้าให้เจ้ามาส่งข่าวอะไร”ชิวซุยถามด้วยท่าทีกังวล เพราะเท่าที่นางทราบเหตุผลที่เซี่ยจินเย่จะมาที่นี่แทบไม่มีเลย
“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าเข้ามาที่นี่เพราะความต้องการของข้าเอง”เซี่ยจินเย่ตอบพลางมองไปรอบๆ พอเห็นว่าคนที่มาเป็นคนรู้จักของชิวซุยคนในเมืองจำลองก็ไม่มีท่าทีระแวดระวังอะไรอีก แถมคนตระกูลไป๋ยังออกมาดูสถานการณ์อีกต่างหากเพราะได้ยินว่าเซี่ยจินเย่เป็นคนรู้จักของหลินเฟยอีกที
“เข้ามาเอง? เซี่ยจินเย่ที่นี่ห้ามคนนอกเข้านะ ถ้าเจ้าเข้ามาโดยพลการอาจจะโดนทำร้ายได้”ชิวซุยได้ยินว่านางแอบเข้ามาก็มีท่าทีเป็นห่วงทันที การลักลอบเข้าเขตอสูรผาไร้ก้นนั้นอันตรายมาก แค่รอดจากพวกอสูรเฝ้ายามก็ยากลำบากมากแล้ว แม้แต่ยอดฝีมือของอาณาจักรไป๋ยังทำกันไม่ค่อยได้เลยไม่ต้องพูดถึงเวลาพวกอสูรระดับสูงเข้าไปจัดการอีกเลย
“นางไม่โดนอสูรเล่นงานหรอก นางมีพลังดึงดูดเหล่าอสูรเหมือนกับพวกเจ้า”มังกรธรณีพูดออกมาเพื่อจะให้เซี่ยจินเย่เข้าเรื่องเสียที
“พลังดึงดูดเหล่าอสูร………”ทันทีที่ได้ยินคำนั้นคนตระกูลไป๋ก็มองหน้ากันไปมาด้วยท่าทีเลิกลักทันที เพราะในบ้านหลังนี้ไม่มีใครรู้จักเซี่ยจินเย่เลย
“นางมีพลังดึงดูดเหล่าอสูรได้ไง…..นางเกิดที่อาณาจักรซานนะ”ชิวซุยถามด้วยท่าทีงุนงง เท่าที่พวกนางทราบคนมีพลังดึงดูดเหล่าอสูรคือตระกูลไป๋เท่านั้น หากมีจริงก็ต้องเป็นลูกหลานตระกูลไป๋ไม่ใช่หรือ
“หรือว่าจะเป็นลูกของจูล่ง”ราชสีห์เพลิงถามพลางไปทางจูล่งที่อยู่หน้าประตู แม้จะไม่คิดว่าคนอย่างจูล่งจะไปแอบวางไข่ไว้ที่ไหนก็เถอะ แต่จูล่งก็เป็นคนที่มีภรรยาเยอะที่สุดหากไม่นับหลินเฟยที่จีบไปทั่ว บางทีอาจจะไปเผลอทำใครท้องโดยไม่รู้ตัวก็ได้
“ไม่มีทางๆ”ทันทีที่ได้ยินคำกล่าวหา เหล่าภรรยาของจูล่งก็พากันส่ายหัวทันที
“ทำไมพวกเจ้ามั่นใจนักล่ะ”ราชสีห์เพลิงถามพลางมองไปทางพวกสาวๆด้วยท่าทีสงสัย เห็นแบบนี้จูล่งเนื้อหอมอยู่ตลอดเลยนะ
“เรื่องนั้น…..”สาวๆได้ยินเช่นนั้นก็พากันหน้าแดงมองกันไปคนละทาง จะให้บอกได้อย่างไรว่าพวกตนต้องสอนจูล่งอยู่นานมันถึงจะทราบว่ายามค่ำคืนคนรักเขาทำกันเช่นไร ไม่มีทางที่ก่อนหน้านี้จูล่งจะไปแอบมีลูกเอาไว้ก่อนแน่ๆ
“งั้นก็ไม่ใช่ท่านน้าจูล่งสินะเจ้าคะ ถ้าแบบนั้นก็เหลือแต่ท่านตา กับท่านแม่….”ชิวซุยว่าพลางมองไปทางมารดาของตนที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“แม่เนี่ยนะ”เหม่ยหลินชี้ไปที่หน้าของตัวเองด้วยท่าทีอึ้งๆ นี่นางแอบไปมีลูกโดยที่ตัวเองไม่รู้ได้ด้วยงั้นหรือ
“ไม่มีทางหรอก แม่ของลูกจะแอบไปมีลูกอีกคนโดยไม่มีใครรู้ได้ยังไง”ชิงชิวโบกมือไปมาเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาของบุตรสาว เหม่ยหลินก็อยู่กับครอบครัวตลอด ตระกูลไป๋แต่ละคนมีดวงตาทั้งสีเขียวและสีม่วงกันทั้งนั้น เหม่ยหลินท้องแต่ละทีไม่ว่าจะเป็นหลินเฟยหรือชิวซุยก็แทบจะรู้กันทันทีทั้งบ้านอยู่แล้ว
“ไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะอาจารย์อา ท่านแม่ของข้าเป็นคนคลอดข้ามาจริงๆ ข้าได้รับพลังนี้มาจากพ่อเจ้าค่ะ”เซี่ยจินเย่เองก็ยืนยันด้วยอีกเสียงว่าไม่ใช่เหม่ยหลินอย่างแน่นอน
“งั้น…..ก็เหลือแค่”ชิวซุยว่าพลางมองไปทางทิศเหนืออันเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ตอนนี้ไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินยังอยู่ที่วังหลวงตอนเย็นถึงจะกลับมานี่สิ
.
.
“ท่านลุง ที่เหลือก็แค่รอให้ถึงพิธีราชาภิเษกเท่านั้นขอรับ แต่เปลี่ยนชื่ออาณาจักรเลยมันจะดีหรือขอรับ”หลิวซีหลง จักรพรรดิองค์ปัจจุบันแห่งอาณาจักรไป๋ถามไปทางไป๋จูเหวินด้วยท่าทีกังวล หลิวซีหลงผู้นี้แม้จะอายุน้อยแต่ก็เป็นคนดีและมีความสามารถดีกว่าพี่ชายพี่สาวของตนเองเสียอีก
“ดีแล้ว แต่เดิมอาณาจักรไป๋ก็เปลี่ยนมาจากอาณาจักรหลิวอยู่แล้ว คิดซะว่าเป็นการส่งคืนก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีใจดี
“แต่ที่อาณาจักรของเราเป็นแบบนี้ก็เพราะท่านลุงนะขอรับ ข้ารู้สึกเสียดายที่จะลบชื่ออาณาจักรไป๋ออก”หลิวซีหลงตอบพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีเป็นห่วง
“ข้าเพียงเข้ามาช่วยเท่านั้น ท่านแม่ของเจ้าดูแลอาณาจักรนี้มาตั้งนาน รวมถึงอาของเจ้าเองก็คิดค้นอะไรต่อมิอะไรตั้งหลายอย่าง อาณาจักรนี้ไม่ได้พึ่งพาแต่ข้าเพียงคนเดียวหรอก”ไป๋จูเหวินตอบอย่างจริงจัง หากมีไป๋จูเหวินเพียงคนเดียวเทคโนโลยีคงไม่ก้าวไกลแบบนี้ก็ได้
“ขอรับ”หลิวซีหลงตอบพลางพยักหน้าช้าๆ การที่ไป๋จูเหวินตัดสินใจส่งมอบอาณาจักรคืนรวมทั้งแบ่งผลประโยชน์ต่างๆให้คนอื่นมาดูแลนั้นก็เพื่อขยายอำนาจให้กับประชาชนบ้างเท่านั้นเอง และที่สำคัญภาระของไป๋จูเหวินก็จะน้อยลงไปมากเช่นกัน
.
.
“จูเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้วเหรอ”หลังจากกลับมาจากทำธุระที่วังหลวง ไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินก็ได้รับการต้อนรับแบบผิดปกติสุดๆจากพวกท่านน้าทันที ตอนนี้พวกท่านน้าและภรรยารวมทั้งสามีของพวกท่านน้ามายืนรอไป๋จูเหวินอยู่ที่หน้าปราสาทของเมืองจำลองกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว
“ขอรับ ท่านน้ามีเรื่องอะไรกันเหรอขอรับ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองพวกท่านน้าด้วยท่าทีงุนงง ทำไมทำหน้าจริงจังกันแบบนั้นล่ะ
“จูเอ๋อ เจ้าคุ้นหน้าเด็กคนนี้หรือเปล่า”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางพาเซี่ยจินเย่ออกมาหาไป๋จูเหวินด้วยท่าทีจริงจังมาก
“ไม่ขอรับ ข้าไม่เคยพบเด็กคนนี้มาก่อน”ไป๋จูเหวินตอบพลางกะพริบตาปริบๆ ทำไมพวกท่านน้าถึงได้ดูจริงจังกันนัก
“ท่านตา เซี่ยจินเย่มีพลังดึงดูดเหล่าอสูรเหมือนกับพวกเรา แต่นางไม่ทราบว่าใครคือพ่อของนาเจ้าค่ะ”ชิวซุยว่าพลางมองมาทางไป๋จูเหวินนิ่ง
“งั้นหรือ เจ้ากำลังตามหาพ่อของตัวเองงั้นสินะ”ไป๋จูเหวินได้ยินเช่นนั้นก็มองไปทางเซี่ยจินเย่ด้วยท่าทีสงสาร นางไม่ทราบว่าบิดาของตนคือใครงั้นก็แสดงว่าไม่เคยพบหน้าบิดามาก่อนเลยสินะ เด็กตัวแค่นี้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับแม่ตามลำพังคงจะลำบากมาก
“ท่านพี่หลินเฟยก็อายุพอๆกับเซี่ยจินเย่ ท่านน้าจูล่งก็ไม่ใช่ ก็เลยเหลือแต่ท่านตาเจ้าค่ะ”ชิวซุยว่าพลางมองไป๋จูเหวินนิ่ง ในช่วงที่เซี่ยจินเย่เกิดตอนนั้นเป็นช่วงที่ไป๋จูเหวินพึ่งกลับมาเขตอสูรผาไร้ก้นได้ไม่นาน หรือก็คือเป็นช่วงที่กลับมาอาณาจักรไป๋ได้ไม่นานนั่นเอง ตอนนั้นไป๋จูเหวินเดินทางไปหาคนรู้จักหลายต่อหลายครั้ง และบางครั้งก็ไปตัวคนเดียว แม้จะไม่เชื่อว่าไป๋จูเหวินจะไปทำใครท้องแล้วหนีมา แต่คนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็เหลือแค่ไป๋จูเหวินแล้วเท่านั้น
“ท่านพี่ นี่ท่าน…..”เหม่ยหลินทำสีหน้าตกใจออกมาพลางมองไปทางไป๋จูเหวินด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อ นางไม่คิดเลยว่าไป๋จูเหวินจะทำแบบนี้ได้ลงคอ