บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 680 ครอบครัวแสนสุข
ตอนที่ 680
ครอบครัวแสนสุข
“ท่านพี่ อากาศวันนี้ก็สดชื่นเช่นเดิมนะเจ้าคะ”เสียงของหญิงสาวนางหนึ่งดังขึ้นภายในศาลากลางสระบัวที่เต็มไปด้วยดอกบัวสีสันสวยงามดูแล้วน่าชื่นใจแล่ผ่อนคลายอย่างมาก ทั้งเสียงของน้ำและเสียงของสิ่งมีชีวิตรอบๆชวนให้บรรยากาศรื่นรมย์เหมาะแก่การนั่งเล่นยามสายเช่นนี้ไม่น้อยเลย
“ท่านรู้หรือไม่ว่าข้ารู้สึกโชคดีเพียงไรที่มีท่านอยู่เคียงข้าง ทุกวันช่างแสนมีความสุขจนไม่อาจลืมเลือนได้แม้แต่วันเดียว”เสียงหญิงสาวนางเดิมยังคงดังเจื้อยแจ้วประกอบเสียงบรรยากาศด้วยท่าทีมีความสุข นางเลื่อนมือของนางไปจับมือของอีกฝ่ายช้าๆก่อนจะเกาะกุมกันเอาไว้อย่างแนบแน่น
“บางครั้งข้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ว่าความรักระหว่างอสูรและมนุษย์จะเป็นไปได้ด้วยดีหรือไม่”หญิงสาวว่าพลางเอนตัวซบลงบนไหล่ของชายหนุ่มช้าๆ ภาพหญิงสาวชายหนุ่มอิงแอบกันอยู่ในศาลาเช่นนี้ช่างเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบยิ่งนักสำหรับคู่รักหวานชื่น เพียงแต่หากมองดีๆแล้วใต้กระโปรงของหญิงสาวแทนที่จะมีเท้าโผล่พ้นออกมาจากชายกระโปรง แต่มันกลับเป็นหางลักษณะเหมือนหางงูสีม่วงอ่อนเสียอย่างนั้น ประกอบกับสิ่งที่นางพึ่งพูดไปเมื่อครู่ก็แทบจะแน่ใจได้ทันทีว่าร่างที่แท้จริงของนางนั้นเกรงว่าจะเป็นอสูรอย่างแน่นอน
“แต่ท่านก็อยู่กับข้าตลอด คอยเป็นห่วงข้า ให้กำลังใจข้า และยังมอบความรักยามค่ำคืนให้ข้าอีกต่างหาก”หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าเขินอายราบกับเด็กสาววัยแรกรุ่นเพิ่งเคยได้พบรักเป็นครั้งแรก ใบหน้านางแดงก่ำแต่ก็ยังไม่เลิกซบไหล่ชายคนรัก
“ท่านพี่ คืนนี้ข้าให้บริวารของข้าจัดเตรียมอาหารอย่างที่ท่านชอบเอาไว้แล้ว หลังจากทานเสร็จข้าจะขอรางวัลเหมือนเดิมได้หรือไม่”จิ้งหลิงพูดพลางส่งสายตาอ้อนไปให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่กับตน แน่นอนว่าชายผู้นี่ก็คือหวังโจวชูที่ทิ้งเซี่ยหลิงซูมาอยู่กับนางที่เขตอสูรนั่นเอง
“……..”หวังโจวชูไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่มันก็พยักหน้าช้าๆเหมือนเป็นการให้คำตอบ พอหวังโจวชูตอบรับเรื่องมอบรางวัลให้ตน จิ้งหลิงก็มีท่าทีดีใจอย่างมาก แถมยังเปลี่ยนจากซบไหล่เป็นเลื่อนมือเข้ามากอดแขนของหวังโจวชูเอาไว้แน่น หน้าอกของนางกดทับบนแขนของหวังโจวชูจนแทบจะกลืนแขนเข้าไป แถมท่าทีของนางพอบอกว่าจะได้รับรางวัลก็ดูยั่วยวนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั่งชมสวนจิ้งหลิงก็พาคนรักของตนไปเดินเล่นกันในสวนดอกไม้ที่ตนจัดขึ้นสำหรับหวังโจวชูโดยเฉพาะ แต่เดิมบึงแห่งนี้เต็มไปด้วยดินเลนและน้ำสีม่วงคล้ำจากพิษของตัวจิ้งหลิงเอง นางคือพญางูพิษที่น่ากลัวมากตนหนึ่ง แม้แต่อสูรระดับสูงกว่ายังไม่กล้าเข้ามาในบึงเพราะพิษที่เจือจางอยู่ในพื้นที่ต่างๆที่นางอยู่อาศัย ทำให้ในเขตอสูรนี้มีแต่นางและลูกน้องของนางเท่านั้นที่เข้ามาได้
โชคดีที่หวังโจวชูมีพลังต้านทานพิษมาตั้งแต่เกิดเช่นเดียวกับตระกูลไป๋ ทำให้สามารถอาศัยอยู่ในเขตอสูรของนางได้ แต่นางก็อยากจะเปลี่ยนบึงมรณะที่มีแต่ความน่ากลัวให้กลายเป็นสถานที่สวยงามให้เหมาะกับการอยู่ร่วมอาศัยกับคนรักของนางให้ได้ สุดท้ายกว่าจะเปลี่ยนบึงให้กลายเป็นสวนดอกไม้และสระบัวได้ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่เพื่อคนรักของนางแล้วนางยินดีทำเสมอ
“ท่านพี่….น่าเสียดายที่เราไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ ข้าเลยคิดว่าอยากจะรับบุตรบุญธรรมมาอยู่ด้วยท่านคิดว่าอย่างไร”จิ้งหลิงถามพลางมองหวังโจวชูด้วยท่าทีเศร้าๆ สิ่งหนึ่งที่อสูรและมนุษย์ไม่สามารถมีด้วยกันได้ก็คือทายาท แม้อสูรจะผสมพันธุ์ข้ามสายระหว่างอสูรที่มีรูปร่างเหมือนสัตว์ชนิดหนึ่งไปผสมกับอสูรที่มีรูปร่างเหมือนสัตว์อีกชนิดได้อย่างไม่มีปัญหา แต่กับอสูรและมนุษย์ หรืออสูรกับสัตว์ป่าทั่วไปแล้วไม่อาจทำได้
“……..”หวังโจวชูไม่ได้ตอบเช่นเดิม มันเพียงพยักหน้าช้าๆเป็นสัญญาณว่าตกลงเท่านั้น
“จริงหรือเจ้าคะ งั้นข้าจะลองไปที่เมืองข้างๆ หาเด็กสักคนมาเลี้ยงก็แล้วกัน”จิ้งหลิงตอบด้วยท่าทียินดี แต่น่าเสียดายเด็กมนุษย์คงไม่สามารถมาอยู่ที่นี่ได้ แม้สภาพจะเป็นเหมือนสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ แต่ที่นี่ก็ยังล้างไอพิษออกไปไม่ได้ หากไม่มีพลังต้านพิษก็คงไม่มีมนุษย์คนไหนมาอาศัยในเขตอสูรแห่งนี้ได้หรอก
ตุบ…
ขณะเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ อยู่ๆเบื้องหน้าของจิ้งหลิงและหวังโจวชูก็ปรากฏร่างของเซี่ยจินเย่ออกมาตรงหน้า เหล่าบริวารของจิ้งหลิงไม่อาจต้านทานพลังดึงดูดเหล่าอสูรของนางได้ พวกมันนำทางเซี่ยจินเย่เข้ามาในสวนดอกไม้อย่างง่ายดาย แถมนางเองก็มีสายเลือดของหวังโจวชูพิษที่ลอยในอากาศไม่มีผลอะไรกับนางอยู่แล้ว
“เจ้า…เป็นใครกัน”จิ้งหลิงชะงักไปครู่หนึ่งเพราะไม่คิดว่าจะมีคนแอบเข้ามาง่ายๆแบบนี้ แถมลูกน้องของนางยังไม่มีท่าทีจะหยุดอีกฝ่ายด้วย
“………..”เซี่ยจินเย่ไม่ได้ตอบ เพราะตอนนี้ดวงตาของนางจ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆจิ้งหลิงไม่วางตา ภาพของหวังโจวชูที่เซี่ยจินเย่เห็นนั้นช่างน่าตกใจอย่างมาก ที่คอ ขา แขน มีอสูรงูรัดเอาไว้แน่นอย่างกับโดนโซ่ตรวน ร่างกายผอมแห้งและดวงตาก็ยังดำคล้ำ สภาพเช่นนี้ของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้น 8 นั้นเป็นภาพที่หาได้ยากมากเพราะปกติร่างกายจะทนทานต่อการอดอาหารและการอดนอนอยู่แล้ว จะทำให้คนระดับยอดฝีมือเป็นเช่นนี้ได้ต้องอดอาหารนานเท่าไหร่ หลับไม่เต็มตื่นนานเท่าไหร่กัน
“ท่านคือหวังโจวชูหรือเปล่าเจ้าคะ”เซี่ยจินเย่ถามด้วยท่าทีไม่มั่นใจ สภาพของอีกฝ่ายต่างจากภาพที่นางเห็นมาก
“ใช่….”หวังโจวชูตอบเบาๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มันเองก็ตกใจเช่นกันที่มีผู้อื่นเข้ามาในเขตอสูรแห่งนี้
“ข้าบอกท่านแล้วไงว่าข้าไม่ชอบให้ท่านคุยกับหญิงอื่น”จิ้งหลิงหันมาหาหวังโจวชูด้วยท่าทีไม่พอใจ ก่อนที่งูที่พันอยู่บนลำคอของหวังโจวชูจะรัดคอของหวังโจวชูเอาไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก สีหน้าของหวังโจวชูทรมานมาก แต่จะทรุดลงกับพื้นก็ไม่ได้เพราะงูที่พันตามแขนขาคอยค้ำเอาไว้ เรียกได้ว่าการก้าวเดินตลอดเส้นทางชมสวนของหวังโจวชูเกิดจากงูพวกนี้คอยบังคับร่างของมันเลยก็ว่าได้
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ข้าไม่ยอมให้หญิงอื่นเข้ามาใกล้สามีของข้าหรอกนะ”จิ้งหลิงเดินเข้าไปหาเซี่ยจินเย่ก่อนจะเปลี่ยนร่างตนเองเป็นร่างของงูสีม่วงอ่อนขนาดใหญ่ แถมนางยังแผ่แม่เบี้ยออกเพื่อขู่เซี่ยจินเย่อีกต่างหาก
“ปล่อยท่านพ่อของข้านะ”เซี่ยจินเย่พูดพลางกำหมัดแน่นด้วยท่าทีหวาดกลัว จิ้งหลิงพญางูนางนี้มีพลังอยู่ที่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 ระดับของนางไม่แปลกเลยที่จะทำให้หวังโจวชูทำอะไรไม่ได้
วืด….
ยังไม่ทันตั้งตัว จิ้งหลิงก็เลื้อยไปรอบๆตัวเซี่ยจินเย่ เพื่อจะรัดร่างของนางเสีย แต่ดูเหมือนเซี่ยจินเย่เองก็ไม่คิดจะให้โดนจับง่ายๆ พริบตาที่รู้ตัวว่าจะโดนรัดร่างเซี่ยจินเย่ก็สร้างรากไม้ดำขึ้นมาป้องกันตัวเองเอาไว้เสียก่อน ทำให้การรัดของจิ้งหลิงทำอะไรเซี่ยจินเย่ไม่ได้เลย
“อะไรกัน แข็งจริงๆ”จิ้งหลิงพูดออกมาด้วยท่าทีประหลาดใจเพราะรากไม้พวกนี้ไม่พังง่ายๆ แม้แต่อสูรปักเป้าระดับบรรพกาลขั้น 10 ยังต้องใช้เวลากว่าจะทำลายมันได้ จิ้งหลิงไม่มีทางรัดกรงรากไม้ที่เซี่ยจินเย่สร้างได้ด้วยการรัดครั้งเดียวแน่ๆ
วูบ…
แต่แทนที่จะรัดต่อเพื่อทำลายรากไม้ของเซี่ยจินเย่ จิ้งหลิงกลับเปลี่ยนร่างกายตนเองเป็นของเหลวสีม่วงก่อนจะลอดตามช่องว่างของรากไม้เข้าไปหาเซี่ยจินเย่ทั้งๆอย่างนั้น
“อย่า…”หวังโจวชูได้ยินเซี่ยจินเย่เรียกตนเองว่าพ่อก็เอะใจขึ้นมาก่อนจะพยายามส่งเสียงห้ามจิ้งหลิง แต่งูที่คอก็รัดแน่นไม่ยอมปล่อยเสียอย่างนั้น
“ความรู้สึกนี้มัน….”ระหว่างที่จิ้งหลิงกำลังพยายามใช้ร่างของตนเองที่เปลี่ยนเป็นของเหลวรัดเซี่ยจินเย่จากภายในกรงรากไม้ อยู่ๆจิ้งหลิงก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนกับโจวชู ความรู้สึกนี้คือสัมผัสที่ได้เจอพลังดึงดูดเหล่าอสูรนั่นเอง
“เจ้าเหมือนกับสามีของข้าเลย….”จิ้งหลิงไหลออกมาจากกรงของเซี่ยจินเย่ ก่อนจะรวมกันเป็นร่างมนุษย์อีกครั้ง นางเดินเข้าไปหากรงของเซี่ยจินเย่พลางยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“เป็นเพราะฟ้าเห็นความรักของข้ากับท่านพี่แน่ๆถึงได้ส่งเจ้ามา ท่านพี่นางจะกลายเป็นลูกของเราไงล่ะเจ้าคะ”จิ้งหลิงยิ้มกว้างก่อนจะจับไปที่กรงของเซี่ยจินเย่ ทันทีที่แตะโดนกรงที่ทำจากรากไม้ดำก็เริ่มมีควันออกมาราวกับกำลังโดนหลอมละลาย แม้จะทำลายทันทีไม่ได้ แต่กรงรากไม้ดำนี้คงทนจิ้งหลิงได้ไม่นาน แถมจิ้งหลิงยังไม่มีท่าทีจะเชื่อฟังความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรอีกต่างหาก
“มาเถอะลูกรัก มาหาแม่มา”จิ้งหลิงยิ้มหวานด้วยท่าทีรักใคร่พลางพลางฉีกรากไม้ดำออกด้วยกำลังหลังจากใช้พิษละลายเนื้อไม้แล้ว
“กรีด….”ทันทีที่จิ้งหลิงทำลายกรงได้ อสูรงูลูกน้องของจิ้งหลิงก็พุ่งเข้าไปหาเซี่ยจินเย่ทันที ราวกับรู้งานพวกมันเข้าไปรัดตามแขนขาของเซี่ยจินเย่ทันทีก่อนจะบังคับร่างของนางให้เดินออกมาหาจิ้งหลิงด้วยตนเอง เจ้างูพวกนี้แต่ละตัวระดับพลังไม่น้อยเลย ถึงขั้นมีตัวระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 อยู่ที่คอเซี่ยจินเย่ตนหนึ่งเลยทีเดียว
“ลูกรัก ตั้งแต่นี้ไปเจ้าคือพยานรักของพวกเรา มาสิมากอดแม่หน่อย”จิ้งหลิงยิ้มหวานด้วยท่าทีดีใจอย่างมาก นางปลื้มปีติจนน้ำตาคลอพร้อมอ้าแขนทั้งสองข้างเพื่อรับกอดเซี่ยจินเย่
“…….”ร่างของเซี่ยจินเย่ถูกงูพวกนี้เชิดอย่างกับเป็นหุ่นไม้ นางเดินเข้าไปกอดจิ้งหลิงทั้งๆที่ไม่อยากเลยสักนิดทำเอาเซี่ยจินเย่ฝืนตัวสุดแรง แต่น่าเสียดายที่กำลังของนางสู้งูพวกนี้ไม่ได้
“ลูกรัก หลังจากนี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปตกลงไหม”จิ้งหลิงยิ้มกว้างด้วยท่าทีซาบซึ้งก่อนจะมองตาเซี่ยจินเย่ราวกับมารดาได้พบบุตรสาวครั้งแรกจริงๆ
“…….”ฝ่ายเซี่ยจินเย่ไม่มีทางตอบตกลงอยู่แล้ว แต่เจ้างูที่พันตรงคอกลับยื่นหางเข้ามาที่หลังคอของเซี่ยจินเย่ ก่อนจะออกแรงบังคับให้นางพยักหน้าตอบรับอีกฝ่ายไปเสียอย่างนั้น
“อาจารย์…..”เซี่ยจินเย่ที่โดนจับเอาไว้มองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเจออสูรที่มีอาการเช่นนี้หลังจากโดนพลังดึงดูดเหล่าอสูรด้วย นางเหมือนพวกโรคจิตที่กำลังจินตนาการว่าตอนนี้ตนเองกำลังสร้างครอบครัวแสนสุขเลยไม่ใช่หรือไง