บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 699 คนวางยา
ตอนที่ 699
คนวางยา
“เจ้าทำได้ดีมาก รู้ตัวหรือเปล่า”แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรจินเป่ยพูดพลางเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับหลี่เซียนด้วยท่าทียิ้มแย้มอย่างที่หลี่เซียนไม่เคยเห็นมาก่อน
“ทางฝั่งอาณาจักรไป๋เองก็พอใจมากกับการจัดการโจรของเจ้า พวกมันปล้นฝั่งอาณาจักรไป๋แล้วมาซ่อนในฝั่งอาณาจักรเรา เป็นปัญหาคาราคาซังมาตั้งนานแล้ว วันนี้ได้แก้ไขเสียทีองค์จักรพรรดิถึงกับกล่าวชมอยากพบเจอเจ้าด้วยตัวเองเลยนะ”แม่ทัพใหญ่พูดพลางมองหลี่เซียนด้วยท่าทียินดี แม้หลี่เซียนจะเป็นรองแม่ทัพ แต่การเข้าพบองค์จักรพรรดิของอาณาจักรจินเป่ยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านเป็นคนค่อนข้างหวาดระแวงจะมีเพียงคนไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่พบท่านได้ และการได้พบและทำความรู้จักกับท่านก็ย่อมหมายถึงความก้าวหน้าในอาชีพอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะแม้แต่อั้งจินเป่าแม่ทัพ 3 ของอาณาจักรยังได้พบองค์จักรพรรดิแค่เวลามีงานเท่านั้น
“อย่างนั้นหรือขอรับ”หลี่เซียนเลิกคิ้วด้วยสีหน้าตื่นเต้น มันจะได้พบองค์จักรพรรดิงั้นหรือช่างเป็นข่าวดีจริงๆ
“เจ้าช่วยขจัดปัญหาให้บ้านเมืองก็สมควรได้รับรางวัล เจ้าไปเขียนรายงานภารกิจมาเมื่อองค์จักรพรรดิเรียกตัวก็จงทำตัวให้พร้อมเข้าใจหรือไม่”แม่ทัพใหญ่ว่าพลางจบบ่าหลี่เซียนเบาๆ นี่นับเป็นข่าวดีมากสำหรับหลี่เซียนเลยทีเดียว
.
.
“นายท่าน กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”หลังจากได้รับคำชื่นชมจากท่านแม่ทัพใหญ่ หลี่เซียนก็เขียนรายงานภารกิจจนเสร็จ ทำให้กว่าจะกลับมาถึงบ้านของตนชิวซุยก็จัดการเรื่องซุปบำรุงร่างกายจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ดูไม่เลวนี่นา เจ้าว่ามันจะช่วยรักษาอาการของท่านแม่ทัพได้หรือเปล่า”หลี่เซียนพอทราบว่าซุปบำรุงร่างกายเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปดูในหม้อทันที สีของซุปออกจะเข้มไปหน่อยเพราะใส่สมุนไพรหลายชนิดแต่ของบำรุงมันก็ประมาณนี้แหละนะ
“ข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ ข้าไม่ใช่หมอนี่นา”ชิวซุยโกหกออกไปเพราะแม่ค้าคงไม่สามารถทำยารักษาโรคที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นโรคอะไรได้หรอก แต่ซุปที่ชิวซุยทำสามารถช่วยรักษาอาการของท่านแม่ทัพได้จริงๆ ถึงตอนนั้นค่อยบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็แล้วกัน
“งั้นหรือ………”หลี่เซียนพยักหน้าพลางเหม่อมองภายในหม้ออยู่นาน ท่าทีของหลี่เซียนยังกังวลอยู่มากดูแล้วน่าสงสารไม่น้อยเลย
“นายท่าน เป็นอะไรหรือเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางมองหลี่เซียนด้วยท่าทีสงสัย เรื่องที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของท่านแม่ทัพนางก็เข้าใจ แต่หลี่เซียนเหมือนจะกังวลเรื่องอื่นอยู่ด้วยนี่สิ
“เปล่า…ไม่มีอะไรหรอก”หลี่เซียนยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางส่ายหน้าช้าๆ แม้จะดูเป็นคนซื่อๆ แต่หลี่เซียนหาใช่คนโง่ไม่ อาการบาดเจ็บของท่านแม่ทัพหลี่เซียนก็พอมองออกว่าเกิดจากการวางยา โรคของท่านแม่ทัพไม่เกี่ยวกับทางเดินอาหารหรือหลอกลม เป็นไปไม่ได้ที่จะไอเป็นเลือดออกมาแบบนั้น ยามนี้หลี่เซียนก็กำลังคาดเดาว่ามีโอกาสแต่ไหนที่ท่านแม่ทัพจะถูกวางยา แล้วใครที่เป็นคนวางยากัน….
ปึงๆ…
ระหว่างหลี่เซียนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น อยู่ๆที่หน้าประตูก็มีเสียงดังมาจากหน้าประตูบ้าน แน่นอนว่ามันคือเสียงเคาะประตูนั่นเอง
“สือหลง เจ้าตามข้ามามีอะไรงั้นหรือ”เมื่อเปิดประตูบ้านออก หลี่เซียนก็พบว่าคนที่มาคือสือหลงที่เจอกันในกรมทหารนั่นเอง
“ข้าก็แค่มาแสดงความยินดีกับเจ้าเท่านั้นเอง ขอเข้าไปหน่อยได้หรือเปล่า”สือหลงถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ใบหน้างดงามของมันทำให้ดูไร้พิษภัยแต่หลี่เซียนทราบดีว่าสือหลงไม่ใช่คนดีเช่นนั้น ในยามสงครามมันเป็นคนที่วางแผนได้โหดเหี้ยมที่สุด และยามต่อสู้มันก็เป็นพวกไม่ลังเลหากต้องใช้วิธีคดโกงเลย
“เข้ามาสิ”หลี่เซียนมองสือหลงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมให้มันเข้ามาในบ้าน แน่นอนว่ายามนี้ภายในบ้านของหลี่เซียนนอกจากทหารรับใช้ที่มาช่วยงานแล้วก็ยังมีชิวซุยอยู่ด้วย
“กลิ่นนี่….มันอะไรกัน”สือหลงถามพลางมองไปรอบๆบ้าน แน่นอนว่ากลิ่นที่มันพูดถึงนั้นคือกลิ่นน้ำซุปที่เคี่ยวอยู่ในครัวมาเป็นชั่วโมงแล้วนั่นเอง เพราะใส่สมุนไพรลงไปหลายชนิดทำให้กลิ่นของมันแรงมาถึงในตัวบ้านเลย
“ข้ากำลังทำซุปให้ท่านแม่ทัพบำรุงร่างกายอยู่ ไม่มีอะไรหรอก”หลี่เซียนตอบพลางเดินนำเข้ามาในบ้านช้าๆ แต่พอได้ยินเช่นนั้นสือหลงกลับแสดงท่าทีสนใจออกมา
“ซุปงั้นเหรอ แปลกจริงๆที่เจ้าทำของแบบนั้นขอข้าไปดูหน่อยได้หรือเปล่า”สือหลงยิ้มพลางเดินไปทางห้องครัวโดยไม่รอหลี่เซียนอนุญาตเสียด้วยซ้ำ
“เจ้าสนใจเรื่องอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เมื่อก่อนไม่เห็นเจ้าอยากรู้อยากเห็นแบบนี้นี่นา”หลี่เซียนถามพลางมองสือหลงที่เดินเข้าไปในครัวด้วยท่าทีเหนื่อยใจ
“ก็ตั้งแต่ตาแก่เริ่มป่วยนั่นล่ะ”สือหลงตอบพลางมองหม้อซุปด้วยท่าทีสนใจ มันพอจะศึกษาสมุนไพรมาบ้างก็มองออกในทันทีว่าในหม้อนี้ใส่ของดีไม่น้อยเลย
“อาการของท่านแม่ทัพ แย่ลงตั้งแต่เมื่อไหร่งั้นเหรอ”หลี่เซียนถามพลางเดินตามสือหลงเข้ามา เห็นมันกำลังดมกลิ่นน้ำซุปอยู่ก็รู้สึกแปลกๆทันทีเพราะแต่ก่อนเจ้าสือหลงไม่เคยทำแบบนี้นี่นา
“สองปีได้ อยู่ๆอาการของตาแก่ก็แย่ลง บางทีอาจจะต้องลงจากตำแหน่งแม่ทัพในปีนี้ก็ได้”สือหลงตอบพลางถอยออกมาจากหม้อซุปช้าๆ
“เรื่องนี้เจ้าคิดว่าไง”สือหลงถามพลางเดินเข้าไปหาหลี่เซียนอย่างไม่เกรงกลัว แม้ขนาดตัวจะต่างกัน และหลี่เซียนจะเก่งกว่ามันนิดหน่อย แต่ตอนนี้พวกมันไม่ได้จะสู้กันนี่นา
“ท่านแม่ทัพต้องหายดีแน่ๆ ข้าเชื่อแบบนั้น”หลี่เซียนตอบพลางถอนหายใจออกมา แต่คำตอบของหลี่เซียนทำให้สือหลงหัวเราะเสียอย่างนั้น
“เจ้าเป็นคนแรกเลยนะที่บอกว่าตาแก่จะหาย ที่ข้าถามหมายถึงตำแหน่งแม่ทัพที่จะว่างลงตอนตาแก่โดนปลดต่างหาก”สือหลงพูดพลางจ้องมองหลี่เซียนอย่างจริงจัง พวกมันทั้ง 4 เป็นรองแม่ทัพเมื่อแม่ทัพลงจากตำแหน่งคนที่จะขึ้นไปแทนก็ต้องเป็น 1 ในพวกมัน ที่สือหลงถามคือหลี่เซียนต้องการจะเป็นแม่ทัพหรือไม่นั่นเอง
“เรื่องนั้นท่านแม่ทัพเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่หรือไง เจ้าถามข้าก็คงไม่ได้อะไรหรอก”หลี่เซียนตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ
“แล้วถ้าตาแก่ไม่อยู่ตัดสินล่ะ……”สือหลงถามคำถามที่ไม่ควรถามออกมาหน้าตาเฉย หลี่เซียนเองก็ไม่ทราบว่าอาการของท่านแม่ทัพหนักแค่ไหน พอได้ยินสือหลงพูดเช่นนี้ก็อดมีน้ำโหไม่ได้เหมือนกัน
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบชิงอำนาจ แต่ข้าต้องถามเพื่อเอาไว้ว่าเวลานั้นมาถึงเจ้าจะเข้าข้างใคร”สือหลงว่าพลางถอยออกห่างหลี่เซียนทันที แม่หลี่เซียนจะเป็นเจ้ายักษ์บ้าพลังแต่ก็ไม่คลุ้มคลั่งง่ายๆเหมือนอวิ๋นฉาง แต่ใครจะไปรู้ถ้าโกรธขึ้นมาหลี่เซียนอาจจะน่ากลัวมากก็ได้ สือหลงเลยตัดสินใจจะถอยกลับไปก่อนปล่อยให้หลี่เซียนได้มีเวลาคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
“นายท่าน….”ชิวซุยที่แอบดูเหตุการณ์อยู่หลังประตูเดินเข้าไปหาหลี่เซียนช้าๆ พอโดนพูดใส่แบบนั้นหลี่เซียนก็มีท่าทีกังวลจนไม่ได้ยินเสียงที่ชิวซุยเรียกมันเสียด้วยซ้ำ
“นายท่านซุปเสร็จแล้วพวกเราเอาซุปไปให้ท่านแม่ทัพกันเถอะเจ้าค่ะ”ชิวซุยว่าพลางส่งสายตาปลอบโยนให้หลี่เซียน
“นั่นสินะ…..”หลี่เซียนพยายามปรับสภาพจิตใจก่อนจะยิ้มออกมาให้ชิวซุยได้เห็น ท่าทีฝืนทำเป็นยิ้มเพื่อให้ชิวซุยสบายใจของหลี่เซียนช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน แต่ชิวซุยก็ไม่ชอบมันเท่าไหร่เพราะหลี่เซียนต้องฝืนนี่เอง
.
.
“ข้าบอกให้พวกเจ้ากลับไปไม่ใช่หรือยังไง”ทันทีที่หลี่เซียนนำซุปบำรุงร่างกายมาที่บ้านพักของท่านแม่ทัพ สิ่งที่มันได้พบก็คือเหล่ารองแม่ทัพอีก 3 คนต่างมารวมตัวกันที่บ้านของแม่ทัพกันอย่างพร้อมหน้าทั้งๆที่ไม่ได้นัดกันมาก่อน ทำเอาท่านแม่ทัพที่นั่งพักอยู่บนเก้าอี้ยาวแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
“ข้าเป็นห่วงท่านก็เลยเอาซุปบำรุงร่างกายมาฝากขอรับ”หลี่เซียนตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ตอนนี้บนโต๊ะเบื้องหน้าของท่านแม่ทัพมีทั้งยาที่ดูหายากมาก สมุนไพรที่อยู่ในกล่องหรูหรารวมถึงตำราวิชาฝึกฝนพลังเพื่อการรักษาอีกด้วย ท่าทางรองแม่ทัพคนอื่นๆก็เตรียมของช่วยรักษาอาการของท่านแม่ทัพมาเหมือนกัน
“พวกเจ้านี่มันเหลือเกินจริงๆ ข้าไม่ชอบกินยาเอามันไปไกลๆ”ท่านแม่ทัพอั้งจินเป่าว่าพลางดันยาที่เจียนหู่เอามาให้ออกไปพร้อมๆกับสมุนไพรของสือหลง ตาแก่นี่ทำตัวเหมือนเด็กไม่ยอมกินยาเสียอย่างนั้น
“ท่านแม่ทัพ อย่างน้อยก็ทานซุปที่ข้าทำมาให้หน่อยเถอะขอรับ”หลี่เซียนว่าพลางนำซุปที่ใส่มาในกระติกเก็บความร้อนวางไว้ตรงหน้าท่านแม่ทัพ มันไม่เหมือนยาหรือสมุนไพรตรงที่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็เน่าเสียได้ทันที หากไม่กินก็คงเสียของไปเลย
“ก็ได้….”อั้งจินเป่าตอบพลางถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ในกลุ่มรองแม่ทัพหลี่เซียนเป็นคนที่มีความจริงใจที่สุด จะทำมันเสียน้ำใจก็คงทำไม่ลง
“ข้าจะเอาไปใส่ถ้วยให้ พวกเจ้ารออยู่นี่แล้วกัน”เจียนหู่ว่าพลางหยิบกระติกใส่ซุปของหลี่เซียนเข้าไปในครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมถ้วยน้ำซุปในเวลาไม่นาน
“พวกเจ้านี่แปลก ร้อยวันพันปีไม่เคยเอาของฝากมาให้ข้า ข้าแค่ไอนิดหน่อยทำอย่างกับเรื่องใหญ่”อั้งจินเป่ายังคงบ่นรองแม่ทัพอย่างกับตาแก่ขี้โมโห ก่อนจะหยิบถ้วยน้ำซุปของหลี่เซียนขึ้นมาดื่มจนหมดในครั้งเดียว แม้มันจะเป็นคนไม่ชอบกินยานักแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าซุปถ้วยนี้รสชาติไม่เลวเลย
“พูดอะไรของท่าน พวกเราก็ต้องเป็นห่ว……”สือหลงยังพูดไม่ทันจบ อยู่ๆที่มุมปากของท่านแม่ทัพก็มีเลือดไหลออกมาเสียอย่างนั้น
“อัก……….”ท่านแม่ทัพกุมมือไปที่คือก่อนจะล้มลงนอนกับพื้นด้วยท่าทีทรมานทำเอารองแม่ทัพทั้ง 4 เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“หลี่เซียน เจ้าใส่อะไรลงไปในน้ำซุป”เจียนหู่เข้าไปตรวจอาการของท่านแม่ทัพก็หันมามองหลี่เซียนด้วยท่าทีโกรธจัดทันที พอดื่มน้ำซุปเข้าไปท่านแม่ทัพก็ล้มไปเลย ยามนี้รองแม่ทัพทั้ง 3 ต่างมองมาทางหลี่เซียนกันทั้งสิ้น