บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 701 ความในใจ
ตอนที่ 701
ความในใจ
“อย่างนี้นี่เอง เป็นคุณหนูนี่เองที่ทำซุปให้ข้า ซุปของคุณหนูตระกูลไป๋งั้นหรือข้าทำเสียของจริงๆ”อั้งจินเป่าส่ายหน้าช้าๆด้วยท่าทีเสียดายอย่างที่มันบอกจริงๆ
“เรื่องนั้นช่างเถอะ ข้าแค่สงสัยว่าทำไมท่านต้องวางยาตัวเองด้วย”ชิวซุยถามพลางมองอั้งจินเป่าด้วยท่าทางสงสัย ตอนนั้นคนอื่นอาจจะมองไม่เห็น แต่ชิวซุยที่มีเนตรแมงมุมมองเห็นได้ชัดเจนว่าอั้งจินเป่าโรยผงอะไรบางอย่างลงไปในซุปก่อนจะดื่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ข้าแก่แล้ว…ต่อให้ไม่โดนวางยาก็คงรักษาตำแหน่งแม่ทัพเอาไว้ไม่ได้ ยิ่งเมื่อเทียบกับเหล่าแม่ทัพของอาณาจักรไป๋แล้วด้วย…”อั้งจินเป่าตอบพลางมองชิวซุยนิ่ง แม่ทัพของอาณาจักรไป๋แต่ละคนเหนือล้ำเกินจินตนาการทั้งนั้น ต่อให้มันกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งก็คงไม่อาจเทียบคนเหล่านั้นได้
“ข้าก็เลยคิดว่าต้องหาคนมาแทนตำแหน่งของข้าเสียทีเท่านั้นเอง”อั้งจินเป่าตอบพลางถอนหายใจออกมา ที่มันทำแบบนี้ก็เพื่อจะทดสอบเหล่ารองแม่ทัพเท่านั้นว่าจะทำเช่นไรหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ต่อให้รองแม่ทัพที่เก่งที่สุดอย่างอวิ๋นฉางหรือหลี่เซียนสามารถข้ามระดับไปเป็นระดับเจ้าสวรรค์ขั้น 10 ได้ก็ไม่มีทางสู้รบประมือกับอาณาจักรไป๋ได้อยู่ดี แม่ทัพที่จะมารับตำแหน่งจึงต้องเพ่งเน้นไปที่ความสามารถด้านอื่นแทน แม่ทัพคนต่อไปของกองทัพราชสีห์คลั่งจะต้องตามเกมทัน รู้จักใช้สมองต่อกรกับเหล่าแม่ทัพของอาณาจักรไป๋และอาณาจักรอื่นๆไม่อย่างนั้นอาณาจักรของมันคงไม่รอดแน่ๆ
“แต่ทำแบบนี้ไปก็..”ชิวซุยชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะลองนึกภาพตาม การทำแบบนี้จะสามารถเลือกแม่ทัพคนใหม่ได้อย่างไร หรือว่าอั้งจินเป่าจะเพ่งเล็งเป้าหมายอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่แล้ว
“หรือว่าท่านจะทดสอบสือหลงงั้นหรือเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางทำท่าเหมือนนึกอะไรออก
“สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของตระกูลไป๋”อั้งจินเป่าได้ยินก็มีท่าทีตกใจก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทียอมรับ ที่มันทำเช่นนี้ก็เพราะอยากทราบว่าสือหลงจะทำอย่างไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือพูดง่ายๆก็คืออั้งจินเป่าวางตัวสือหลงเอาไว้เป็นแม่ทัพคนต่อไปนั่นเอง แต่เพราะสือหลงเป็นคนเหี้ยมโหดไม่แสดงออกว่ารักพวกพ้องเสียเท่าไหร่ ทำให้อั้งจินเป่ากลัวว่าหากมอบตำแหน่งแม่ทัพให้ไปแล้วสือหลงจะทำอะไรไม่สนใจสหายพวกพ้องจนเกิดการแตกแยก การที่อั้งจินเป่าแกล้งโดนวางยานั้นก็เพื่อให้สือหลงหวาดระแวงเหล่ารองแม่ทัพคนอื่นๆและดูการกระทำของสือหลงนั่นเอง และผลที่ออกมาก็ทำให้อั้งจินเป่าประหลาดใจไม่น้อย แม้สือหลงจะสงสัยรองแม่ทัพคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ยอมประกาศความสงสัยนั้นออกมา เหมือนกับว่าเป็นห่วงความรู้สึกของเหล่ารองแม่ทัพคนอื่นๆอยู่นั่นเอง เรียกได้ว่ามันทำได้ดีเลยก็คงได้ ถึงขนาดอั้งจินเป่าแกล้งทำเหมือนว่าซุปของหลี่เซียนมีพิษมันก็ยังไม่ตัดสินหลี่เซียนและเลือกที่จะกักตัวหลี่เซียนเอาไว้แล้วกลับมาคิดใหม่อีกครั้ง แบบนี้ไม่เหมือนภาพเจ้าหนูที่ชอบทำอะไรโหดร้ายเกินตัวเลย
โครม!
ระหว่างกำลังคุยอยู่กับแม่ทัพอั้งจินเป่าอยู่นั้น อยู่ๆเสียงดังโครมครามก็ดังมาจากทางฝั่งที่สือหลงมุ่งหน้าไปก่อนหน้านี้หรือก็คือห้องที่กักตัวหลี่เซียนเอาไว้นั่นเอง
“เกิดอะไรขึ้น…”ชิวซุยได้ยินเสียงโครมครามก็เปลี่ยนสภาพเป็นล่องหนหายตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเหตุทันทีเช่นเดียวกันกับแม่ทัพอั้งจินเป่าที่ตามมาติดๆ
“หลี่เซียนใจเย็นๆก่อน ที่สือหลงถามแบบนั้นมันมีสาเหตุนะ”ภาพที่ชิวซุยได้เห็นหลังจากกลับมาที่ห้องที่ใช้กักตัวหลี่เซียนก็คือภาพของหลี่เซียนกับสือหลงที่กำลังจ้องหน้ากันด้วยท่าทีดุดันโดยมีเจียนหู่ห้ามอยู่ตรงกลาง
“เจ้าจะหาว่าชิวซุยเป็นคนวางยาท่านแม่ทัพเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้หรอก”ที่แท้ที่หลี่เซียนทำเสียงปึงปังก็เป็นเพราะเรื่องที่สือหลงผูกเรื่องว่าคนวางยาอาจจะเป็นชิวซุยนั่นเอง แน่นอนว่าหลี่เซียนไม่คิดว่าชิวซุยจะทำแบบนั้นแน่นอนมันถึงได้โกรธขนาดนี้นั่นเอง
“ฟังข้าก่อนสิ ข้าอ่านรายงานของเจ้าแล้ว แม่ค้าธรรมดาที่บังเอิญถูกโจรจับตัวมางั้นเหรอ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็น่าสงสัย”สือหลงว่าพลางยืนยันสิ่งที่ตนเองคิด
“เจ้าจะบอกว่านางวางแผนเอาไว้หมดทุกอย่างเลยงั้นหรือ มันจะบ้าบอเกินไปแล้ว”หลี่เซียนส่ายหน้าปฏิเสธ ที่สือหลงพูดได้ก็เพราะสือหลงเห็นเพียงรายงานเท่านั้น หากชิวซุยจะวางแผนแยบยลเช่นนั้นเพื่อวางยาท่านแม่ทัพ วิธีอื่นไม่ง่ายกว่าหรือ นางจะยอมถูกพวกโจรจับตัวทั้งๆที่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าหลี่เซียนจะช่วยหรือไม่ไปทำไมกัน และนางก็ไม่ทราบเรื่องตัวจริงของหลี่เซียนมาแต่แรกเสียด้วยซ้ำ
“มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นี่นา อย่างน้อยให้ข้าลองสืบดูเถอะ”สือหลงว่าพลางกำหมัดแน่น มันพยายามสืบอยู่นานแต่ก็ไม่ทราบเสียทีว่าใครเป็นคนวางยา ไม่ว่าจะสืบเท่าไหร่ผลที่ออกมาก็มีเพียงคนใกล้ตัวอย่างเหล่ารองแม่ทัพเท่านั้นที่จะวางยาได้ แต่เพราะมันสนิทสนมกับเหล่ารองแม่ทัพดีเลยไม่เชื่อว่าคนร้ายจะอยู่ในกลุ่มพวกตน แต่เรื่องของชิวซุยเป็นข้อสงสัยแรกที่ทำให้สือหลงหันไปสงสัยคนอื่น มันจึงกัดเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อยและพยายามจะไปสอบปากคำชิวซุยให้ได้
“ไม่….นางไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าขอรับรองด้วยหัวของข้าว่านางไม่ใช่คนวางยาเด็ดขาด”หลี่เซียนว่าพลางยืดอย่างมั่นใจ มันอยู่กับชิวซุยมาสักพักไม่มีทางที่นางจะเป็นคนวางยาได้หรอก
“ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเป็นนางเสียหน่อย บางทีอาจจะเป็นคนขายสมุนไพรที่ผสมสมุนไพรมีพิษมาให้ก็ได้ หรือว่าพวกมันจะทำงานกันเป็นขบวนการ”สือหลงว่าพลางแสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมา แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกจนเริ่มจะกลายเป็นแผนสมคบคิดไปเสียแล้ว
“สือหลง ทำไมเจ้าต้องพยายามสร้างคนร้ายขึ้นมาด้วย”เจียนหู่ถามพลางมองสือหลงด้วยท่าทีสับสน ตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่าทำไมสือหลงถึงพยายามกัดเรื่องชิวซุยนัก ถึงขั้นเพ้อพกไปถึงเรื่องคนแอบยัดสมุนไพรพิษเข้ามาในสมุนไพรที่ชิวซุยซื้ออีกงั้นหรือ มันออกจะเป็นแผนเกินจริงไปหน่อย ไม่ว่าจะไปกล่าวหาใครก็คงไม่มีคนเชื่อหรอก
“ก็เพราะข้าไม่อยากสงสัยพวกเจ้าไง”สือหลงตอบพลางมองทั้ง 3 ด้วยท่าทีสุดกลั้น มันพยายามมาตลอดแต่ก็หาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะอย่างไรก็คิดแต่ว่าคนร้ายต้องเป็นหนึ่งในรองแม่ทัพแน่ๆ
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเป็นพวกเจ้า ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด”สือหลงที่ทำตัวเลือดเย็นเหมือนไม่สนใจอะไรใครกลับแสดงท่าทีอ่อนแอออกมาให้เหล่ารองแม่ทัพเห็นกันถ้วนหน้ามันอยู่กับรองแม่ทัพทุกคนมาตั้งแต่เด็ก หลี่เซียนเป็นเจ้าซื่อบื้อที่ทำดีกับคนอื่นไปทั่ว อวิ๋นฉางเป็นพวกไม่สนใจโลกเอาแต่ฝึกฝนวิชา เจียนหู่เป็นพวกทำตัวตามกฎอย่างเคร่งครัด ภาพพวกมันในวัยเด็กยังคงติดอยู่ในความทรงจำของสือหลงไม่เคยคลาย รวมถึงเรื่องราวต่างๆที่ได้เจอกันมาทั้งในสงครามและในการใช้ชีวิต สือหลงไม่อาจคิดภาพสหายเหล่านี้เป็นคนวางยาได้จริงๆ
“ฮ้าๆๆๆๆ”หลังจากสือหลงสารภาพความคิดตัวเองออกไป อยู่ๆก็มีเสียงหัวเราะของอั้งจินเป่าดังมาจากด้านหลังเสียอย่างนั้น ทำเอาเหล่ารองแม่ทัพหันไปมองเป็นตาเดียว
“อะไรกัน เจ้ารักพวกพ้องของเจ้าขนาดนี้เลยงั้นหรือ”อั้งจินเป่าพูดพลางเดินเข้าไปตบบ่าสือหลงอย่างร่าเริง
“ตาแก่ ไม่ใช่ว่าหลับไปแล้วงั้นหรือ”สือหลงถอยหลังออกมาจากแม่ทัพอั้งจินเป่าทันที ไม่ใช่ว่าแม่ทัพหลับไปเพราะผลของพิษหรอกหรือ
“ข้าแกล้งหลับเท่านั้นเอง ไม่งั้นคงไม่ได้เห็นเจ้าแสดงความรักต่อสหายเช่นนี้ อ่อรวมถึงความรักที่มีต่อข้าด้วยนะ”อั้งจินเป่าสละท่าทีชราและป่วยหนักออกไปทันทีพร้อมทุบหลังสือหลงอีกหลายทีอย่างร่าเริง
“โอ้ย เจ็บนะโว้ยตาแก่”สือหลงทำเป็นโวยวายก่อนจะปัดมือของอั้งจินเป่าออก
“ข้าแกล้งทำเป็นโดนวางยานับว่าคุ้มค่าจริงๆ”อั้งจินเป่ายิ้มพลางเฉลยเรื่องทั้งหมดให้เหล่ารองแม่ทัพฟังช้าๆ ทำเอาเหล่ารองแม่ทัพต่างมองตากันด้วยท่าทีอึ้งๆ แต่คนที่อาการหนักที่สุดกลับเป็นสือหลงที่ยามนี้หน้าแดงก่ำไม่รู้จะเอาตาไปไว้ไหน นอกจากมันจะโง่โดนท่านแม่ทัพปั่นหัวแล้วยังเผลอพูดอะไรน่าอายออกไปต่อหน้าเหล่ารองแม่ทัพคนอื่นๆอีกต่างหาก
“เช่นนั้นตำแหน่งแม่ทัพก็จะส่งมอบให้สือหลงสินะขอรับ”เจียนหู่ได้ฟังเรื่องก็สรุปออกมาทันที การที่อั้งจินเป่าเฉลยออกมาก็หมายความว่าสือหลงผ่านการทดสอบแล้วอย่างนั้นหรือ
“ถูกแล้ว พวกเจ้าก็ไม่คิดใช่ไหมล่ะว่ามันจะพูดออกมาแบบนั้น”อั้งจินเป่าว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีโล่งใจ
“ข้าคิดว่าสือหลงเหมาะที่สุดแล้วขอรับ”หลี่เซียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม สำหรับมันแล้วนี่เป็นข่าวดีชัดๆ นอกจากจะรู้ว่าท่านแม่ทัพไม่ได้โดนวางยารวมถึงไม่ได้ป่วยหนักอะไรขนาดนั้นด้วย ยังได้รับคำสารภาพซึ้งๆจากสหายสนิทอีกต่างหาก
“สือหลง ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นห่วงพวกเราขนาดนี้ ข้าต้องมองเจ้าใหม่แล้ว”อวิ๋นฉางว่าพลางมองสือหลงด้วยท่าทีเป็นมิตรทำเอาสือหลงหน้าแดงด้วยความอับอายเสียอย่างนั้น
“ไม่เป็นโว้ย ตาแก่ไปหาแม่ทัพเอาใหม่ก็แล้วกัน ข้าไม่ยุ่งแล้ว”สือหลงว่าก่อนจะเดินทำท่าทีโมโหออกไปจากห้องพร้อมปิดประตูเสียงดังปั้ง แต่ท่าทีเช่นนั้นกลับไม่ทำให้ทุกคนในห้องตกใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามพวกมันกลับพากันหัวเราะเสียอย่างนั้น
“ว่าแต่ท่านแม่ทัพ….”พอเรื่องคลี่คลายเจียนหู่ก็หันไปมองแม่ทัพด้วยท่าทีโมโหทันที แม้จะเป็นพวกเรียบร้อยระเบียบจัดแต่พอโมโหขึ้นมาเจียนหู่ก็น่ากลัวไม่น้อยเลย
“แผนของท่านทำพวกเราเป็นห่วงขนาดไหนรู้หรือไม่ขอรับ ข้านี่กินไม่ได้นอนไม่หลับไปเป็นเดือนๆเพราะแผนของท่านแท้ๆ”เจียนหู่โวยพลางต่อว่าท่านแม่ทัพไปหลายยกเล่นเอาหลี่เซียนกับอวิ๋นฉางต้องมาเป็นคนห้ามโดยไม่เต็มใจเสียอย่างนั้น