บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 71 ประลองอีกครั้ง
ตอนที่ 71
ประลองอีกครั้ง
งานชุมนุมของเจ้าเมืองผาหยกจัดขึ้นตลอดทั้งวันไปจนถึงกลางคืนงานก็ยังไม่เลิกรา ทำให้ภาพของวังหยกที่มีแสงไฟสีส้มอ่อนๆส่องสะท้อนกับผนังและเสาที่ทำจากหยกทั้งหมดดูสวยงามกว่าที่เห็นอยู่ทุกวันหลายเท่า
“เป็นมุมมองที่สวยดีนะ”อู๋หมิงว่าพลางมองเมืองผาหยกจากยอดหน้าผาที่อยู่เหนือกำแพงสีเขียวขึ้นไปหลายร้อยเมตร
“ต้องขอบคุณน้องจื่อลู่ที่แนะนำสถานที่ให้จริงๆ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มมองลงมายังเมืองผาหยกเบื้องล่าง ตามปกติแล้วไม่มีใครขึ้นมาเหนือผาหยกได้เพราะกำแพงหน้าผาสูงมากแถมยังลื่นจนปีนไม่ได้ เพียงแต่จื่อลู่ที่เป็นหลานสาวเจ้าเมืองกลับรู้ที่ถึงทางลับแห่งหนึ่งที่จะพาขึ้นมาเหนือผาหยกแห่งนี้ได้ง่ายๆ
“ทั้งๆที่นางยังไม่เคยบอกข้าเลยแท้ๆทำไมน้องขื่อลู่ถึงบอกเรื่องนี้กับพี่ไป๋กันนะ”เหม่ยหลินถอนหายใจพลางมองมาทางไป๋จูเหวินด้วยท่าทีไม่พอใจนัก เมื่อก่อนนางก็เคยมาหาขื่อลู่อยู่นานเพราะนครผาหยกอยู่ติดกับนครร้อยแปดอสูรมาก
“ยังไงก็ต้องขอบคุณนางที่บอกพวกเรานี่นา”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปรอบๆ เหนือผาหยกเป็นเนินเขากว้างไม่มีต้นไม้ เป็นเนินว่างที่เหมาะกับการต่อสู้มากทีเดียว
“เอาล่ะ พวกเราไม่ได้มาชมวิวกันนี่นา”อู๋หมิงว่าพลางเดินห่างออกไปจากขอบหน้าผาเพื่อเว้นระยะให้มากพอจะใช้ต่อสู้
“นั่นสิ”ไป๋จูเหวินเองก็เดินไปยืนอยู่ตรงข้ามกับอู๋หมิงเช่นกัน ส่วนเหม่ยหลินนั้นมาเพื่อเป็นพยานรู้เห็นเท่านั้นนางเลยยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาเผื่อจะมีอะไรหล่นลงไปในเมืองเพราะการต่อสู้ของพวกไป๋จูเหวินฃ
เปรี้ยง! ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ อู๋หมิงเป็นฝ่ายเริ่มใช้ธาตุสายฟ้าออกมาก่อนเป็นคนแรกเพราะมันรู้ดีว่าคู่ต่อสู้แบบไป๋จูเหวินไม่ใช่คนที่จะออมมือด้วยได้
วูม..ร่างของไป๋จูเหวินแดงขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเคล็ดวิชาโลหิตมังกร แถมด้วยพลังอสูรและพลังวิญญาณที่มากขึ้นทำให้ระยะห่างของไป๋จูเหวินและอู๋หมิงกดสั้นลงไปมาก เพียงแต่คราวนี้อู๋หมิงไม่ได้ถือกระบี่เหล็กธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ยามนี้ในมือของมันคือกระบี่ทัณฑ์สวรรค์ที่ส่องประกายสีฟ้าน่าเกรงขามออกมา
ตูม! กระบวนท่าแรกที่ทั้งสองใช้ออกมาสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งภูเขา วิชาฝ่ามือเพลิงพิโรธของไป๋จูเหวินรุนแรงอย่างน่าหวาดกลัว แถมมันยังเป็นท่าที่เคยหยุดอู๋หมิงเอาไว้ได้อีกต่างหาก
“สมแล้วที่เป็นกระบี่วิเศษ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองกระบี่ในมืออู๋หมิง แม้จะโดนฝ่ามือพลิงพิโรธเข้าไป แต่กระบี่ในมือของอู๋หมิงก็ยังคงสภาพเอาไว้เหมือนเดิมไม่บุบสลายไปไหน
“ข้าแปลกใจกับฝ่ามือของเจ้ามากกว่า”อู๋หมิงว่าพลางมองฝ่ามือของไป๋จูเหวินที่กลายเป็นสีขาวมาครึ่งแขน
“จะเรียกว่าเป็นของเอาไว้รับมือกระบี่วิเศษละมั้ง”ไป๋จูเหวินว่าพลางหัวเราะออกมา แม้มองภายนอกจะเหมือนสีผิวบริเวนฝ่ามือจนถึงครึ่งแขนเปลี่ยนไป แต่ความจริงแล้วมันคือใยแมงมุมที่ไป๋จูเหวินสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกระบี่ของอู๋หมิงโดยเฉพาะ
“เยี่ยม”อู๋หมิงว่าพลางวาดกระบี่ของตนเข้าใส่ไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็วทำให้ไป๋จูเหวินเผยรอยยิ้มออกมา นี่แหละคือการต่อสู้กับอู๋หมิง แม้แต่ดวงตาสีแดงยังมองการเคลื่อนไหวของอู๋หมิงได้ไม่ค่อยทัน ทำให้ไป๋จูเหวินต้องรับมือด้วยฝ่ามือประกายอัสนีอย่างช่วยไม่ได้
เปรี้ยงๆๆๆๆ เสียงกระบี่ทัณฑ์สวรรค์กับฝ่ามือที่พันด้วยใยแมงมุมฟังดูน่าหวาดกลัวอย่างมาก แต่ในคราวนี้ผู้ที่ได้เปรียบกลับเป็นฝ่ายไป๋จูเหวินเสียอย่างนั้น ครั้งก่อนคามเร็วของอู๋หมิงเพิ่มขึ้นเพราะธาตุสายฟ้าและผลของธาตุสายฟ้ายังสร้างอาการบาดเจ็บตกค้างบนร่างของไป๋จูเหวินอีกต่างหาก แต่คราวนี้เพราะมีถุงมือใยแมงมุมอยู่สายฟ้าและคมกระบี่จึงแทบจะทำอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้เสียด้วยซ้ำ แถมจำนวนฝ่ามือที่ไป๋จูเหวินซัดออกมาในหนึ่งห้วงลมหายใจก็ยังมากขึ้นทำให้ยิ่งได้เปรียบมากกว่าเดิม ในรอบนี้ความเร็วของไป๋จูเหวินกลับมากกว่าเสียแล้ว
เปรี้ยง! เป็นฝ่ายอู๋หมิงเองที่ถอยออกมาจากการประลองความเร็วด้วยสีหน้าตกใจ มันไม่คาดคิดแลยว่าฝ่ามือไปของไป๋จูเหวินจะเร็วขึ้นขนาดนี้
“เจ้าพัฒนาไปเร็วมาก เร็วจนน่ากลัวเลย”อู๋หมิงพูดพลางกำด้ามกระบี่แน่น หากฟาดกระบี่ใส่กันเฉยๆมันต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่ๆ
ฟุบ! ร่างของอู๋หมิงกระโจนขึ้นสูง ท่าร่างวิชาตัวเบาของอาวุโสเทียนหมิงรวดเร็วรุนแรงราวสายฟ้าฟาด เพียงพริบตาเดียวก็อยู่เหนือหัวจองไป๋จูเหวินไปกว่า 5 เมตร
เปรี้ยง!! กระบี่ของอู๋หมิงพุ่งตรงลงมาใส่ไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็วเสียจนแม้แต่ไป๋จูเหวินยังมองไม่ทัน โชคดีที่อู๋หมิงไม่ได้เล็งจุดตายและเสื้อของไป๋จูเหวินก็สามารถป้องกันคมกระบี่เอาไว้ได้ แต่อู๋หมิงไม่ได้หยุดแค่นั้นมันถอยออกหางไม่ให้ไป๋จูเหวินใช้ฝ่ามือได้แล้วพุ่งโจมตีเข้ามาด้วยความเร็วจนน่าเหลือเชื่ออีกครั้ง
เปรี้ยง! คราวนี้ไป๋จูเหวินสามารถใช้แขนรับกระบี่เอาไว้ได้ แต่ก็แทบจะไม่ทันเพราะความเร็วที่น่าเหลือเชื่อของอู๋หมิง
“วิชานี้…”ไป๋จูเหวินกัดฟันแน่นพลางใช้ฝ่ามือประกายอัสนีออกไป แต่อู๋หมิงกลับถอยออกไปก่อน
“นี่เป็นวิชาที่เร็วที่สุดของข้าในตอนนี้ ท่าร่างเทพอัสนี”อู่หมิงว่าพลางเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
เปรี้ยง! แต่ละกระบี่ที่พุ่งเข้ามาไวจนน่าขนลุก ขนาดใช้ดวงตาสีแดงแล้วยังทำได้แค่เดาว่าอีกฝ่ายจะมาทางไหนเท่านั้น ช่างเป็นวิชาที่รวดเร็วจริงๆ เพียงแต่ทุกครั้งที่ใช้ไม่ทราบทำไมอู๋หมิงต้องทิ้งระยะห่างออกไปก่อนเสมอ
เปรี้ยง! ไป๋จูเหวินใช้ดวงตาสีแดงเพ่งมองอย่างตั้งใจไปที่ท่าก่อนโจมตีของอู๋หมิง แต่เพราะความเร็วของกระบวนท่าสูงเกินไปจนมองไม่ทัน
ฉั๊ว!! กระบี่ทัณฑ์สวรรค์แทงเข้าที่แขนข้างหนึ่งของไป๋จูเหวินทำให้เลือดสีแดงสดของไป๋จูเหวินไหลออกมา เพราะมัวแต่มองท่าของอีกฝ่ายเลยอ่านการโจมตีของอู๋หมิงพลาดไป พริบตานั้นกระบี่ของอู๋หมิงเลยเฉือนใส่แขนบริเวณที่ไม่มีใยแมงมุมปกป้องเอาไว้ แถมมันยังเป็นอย่างที่ไป๋จูเหวินคิดเอาไว้ไม่มีผิด กระบี่ของอู๋หมิงเล่มนี้สามารถเฉือนร่างของมันเข้าจริงๆ แม้จะไม่ใช่แผลลึกแต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันโดนอาวุธทำร้ายตรงๆแบบนี้
อู๋หมิงเมื่อโจมตีแล้วก็ถอยออกไปอีกครั้งด้วยความเร็ว แต่ตอนถอยกลับช้ากว่าตอนพุ่งเข้าโจมตีเล็กน้อย ทำให้ไป๋จูเหวินมองท่วงท่าการเคลื่อนไหวได้ง่ายกว่าตอนแรกมาก
เปรี้ยง! กระบี่ของอู๋หมิงพุ่งเข้าโจมตีไป๋จูเหวินอีกครั้งแต่คราวนี้ไป๋จูเหวินยกแขนขึ้นมาป้องกันได้อย่างปลอดภัย เพียงแต่จะให้มันรับฝ่ายเดียวก็อย่างไรอยู่
กึดดด ทันทีที่อู๋หมิงถอยออกไป ใยแมงมุมที่ไป๋จูเหวินติดเอาไว้บนร่างกายก็ดึงร่างของอู๋หมิงเอาไว้ไม่ให้ถอยไปไกล วินาทีที่อู๋หมิงกำลังตกใจอยู่นั้นไป๋จูเหวินก็ได้โอกาสโจมตี
ตูม!! ฝ่ามือเพลิงพิโรธของไป๋จูเหวินยังคงรุนแรงเช่นเดิม ไม้อู๋หมิงจะใช้กระบี่ขึ้นมาป้องกันเอาไว้ได้ แต่ก็ยังรู้สึกชาไปทั้งแขน
กึดดด อู๋หมิงใช้กระบี่ทัณฑ์สวรรค์ฟันใส่ใยแมงมุมของไป๋จูเหวิน แต่มันก็เหนียวจนน่ากลัว แม้แต่กระบี่ทัณฑ์สวรรค์ยังไม่สามารถตัดมันขาดได้
ฟุบ! ไป๋จูเหวินพุ่งเข้ามาหาอู๋หมิงที่ทิ้งระยะห่างไม่ได้อีกแล้ว ดูเหมือนวิชาท่าร่างเทพอัสนีจะต้องใช้การรวบรวมพลังระยะหนึ่งเพื่อเพิ่มความเร็วมหาศาลให้แก่ตนเอง หากไม่มีเวลาที่ว่าความเร็วก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เปรี้ยงๆๆๆ ฝ่ามือของไป๋จูเหวินโจมตีอย่างต่อเนื่องใส่อู๋หมิงชนิดไม่ให้หยุดพัก ไม่ว่าอู๋หมิงจะถอยออกไปขนาดไหนไป๋จูเหวินก็ตามราวกับเงาตามตัว
ฟุบ! อู๋หมิงเร่งความเร็วฉีกตัวออกมาทางซ้าย แต่ฝ่ามือของไป๋จูเหวินกลับพุ่งตรงมาทางมันจนไม่สามารถไปไหนได้ ไม่นานการเคลื่อนไหวของมันก็ราวกับโดนจำกัดอยู่ที่พื้นที่วงกลมแคบๆเท่านั้น นี่มันราวกับตอนที่มันใช้กระบี่ไม่ให้ไป๋จูเหวินหลบได้ไม่มีผิด
คราวก่อนไป๋จูเหวินลำบากไม่น้อยที่ต้องใช้กระบวนท่าฝ่ามือประกายอัสนีในการรับมือกระบี่ของอู๋หมิง หากมันสามารถใช้ฝ่ามือปักษาพัวพันได้ตั้งแต่คราวนั้นคงทุลักทุเลเช่นนั้นแน่ๆ
ฟุบ! อู๋หมิงเห็นท่าทีไม่สู้ดี มันเลยใช้ท่าเท้ากระโดดขึ้นไปเหนือหัวของไป๋จูเหวินในทันที เพียงแต่คราวนี้ไป๋จูเหวินก็ตามขึ้นมาด้วย
หมับ! ไป๋จูเหวินล็อคร่างของอู๋หมิงเอาไว้ก่อนจะทางฝ่ามือไว้ที่คางของอู๋หมิงในท่าที่จับอู๋หมิงหันหัวลง
ซ่า!! เสียงกระแทกที่ไป๋จูเหวินใช้ท่าปักษาคืนดินกลับเป็นเสียงน้ำแทนที่จะเป็นเสียงกระแทกพื้นเสียอย่างนั้น
“พวกท่านสู้กันแรงแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”เหม่ยหลินถามพลางมองไป๋จูเหวินและอู๋หมิงที่เปียกไปทั้งตัวเพราะบ่อน้ำที่นางสร้างขึ้น
“ไม่นะ นี่ยังไม่รุนแรงเหมือนครั้งก่อนเลย”อู๋หมิงว่าพลางจับคางตัวเองที่โดนกดกระแทกพื้น แม้จะได้บ่อน้ำของเหม่ยหลินช่วยลดแรงกระแทกแต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี
“ใช่ ครั้งก่อนน่าจะรุนแรงกว่านี้”ไป๋จูเหวินพยักหน้าพลางปลดใยแมงมุมออกจากเสื้อของอู๋หมิง
“ใยแมงมุมนั่นอะไรกัน ทำไมมันถึงได้เหนียวขนาดนั้น”อู๋หมิงถามพลางมองใยแมงมุมที่ไป๋จูเหวินพึ่งดึงออกไป
“มันเป็นความสามารถของอสูรที่พวกเรากลืนแก่นอสูรของมันลงไปนะสิ”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปทางเหม่ยหลิน ท่าทางมันจะตอบได้ถูกแล้วนางเลยไม่ทักท้วงอะไร
“งั้นเจ้าก็กลืนแก่นอสูรแมงมุมเข้าไปสินะ”อู๋หมิงว่าพลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่อสูรแมงมุมที่มันเคยเจอก็ไม่มีตนไหนมีใยเหนียวจนตัดไม่ขาดแบบนี้มาก่อนเลย
“ว่าแต่ ท่าร่างของเจ้าเองก็ใช่ย่อย ข้ามองตามไม่ทันเลย”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองอู๋หมิงด้วยสายตาชื่นชม
“ไม่ๆ ท่าร่างของเจ้าก็ไม่เลวเลย ตามข้ามาอย่างกับเงาตามตัวแนะ แถมท่าตอนทุ่มข้าลงพื้นยังแน่นหนามาก ข้าดิ้นไม่หลุดเลย”กลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างพากันวิจารวิชาของอีกฝ่ายพลางถกกันอย่างออกรสเสียอย่างนั้นทำเอาเหม่ยหลินถอนหายใจออกมาทันที แม้แต่ในกลุ่มนักล่าอสูรยังไม่สู้กันถึงเลือดถึงเนื้อขนาดนี้ในการประลองฝีมือธรรมดาๆเลย นี้พวกมันบ้าพลังกันขนาดไหนกันนะ ดูสิแขนของไป๋จูเหวินยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดเลย
“ดีล่ะ งั้นเรามาประลองกันอีกรอบ”อยู่ๆอู๋หมิงก็เริ่มเปิดการประลองขึ้นมาใหม่ ส่วนไป๋จูเหวินเองก็มีท่าทีจะสู้ต่อเลยเช่นกัน
“เดี๋ยว”เหม่ยหลินห้ามคนทั้งสองเอาไว้พลางดึงแขนของไป๋จูเหวินให้นั่งลงเช่นเดิม
“พี่ไป๋แขนของท่านยังเจ็บอยู่เลย ให้ข้าช่วยรักษาท่านก่อนเถอะ”เหม่ยหลินว่าพลางเรียกลูกบอลน้ำออกมาจากอากาศ ก่อนจะบังคับมันให้ไปเกาะตรงบาดแผลของไป๋จูเหวินเอาไว้
“นี่มัน..น้ำจากบ่อชีพจรวารี”ไป๋จูเหวินว่าพลางเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ หรือว่าเหม่ยหลินจะเก็บน้ำจากบ่อชีพจรวารีเอาไว้ตอนมันพานางเที่ยวชมแดนอสูรกัน
“น้ำในบ่อชีพจรวารีมีพลังเยียวยาสูงมาก มันรักษาได้เร็วกว่าน้ำธรรมดาหลายเท่าเลย”เหม่ยหลินพูดจบแผลของไป๋จูเหวินก็เริ่มสมานตัวอย่างช้าๆ