บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 712 หาไม่พบ
ตอนที่ 712
หาไม่พบ
“………….”ระหว่างชิวซุยกำลังนั่งร่วมโต๊ะกับมารดาของตนเองและพวกหยงเวยฝั่งหลี่เซียนที่รออยู่ที่เมืองหลวงของอาณาจักรหลิวก็เริ่มรู้สึกว่าชิวซุยหายไปนานมากจนเริ่มเป็นห่วงแล้ว ตอนนี้หลี่เซียนไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับชิวซุยเท่าไหร่ ไม่รู้หรอกว่าในอาณาจักรหลิวนางใช้ชีวิตแบบไหนมา นางมีมิตรสหายแค่ไหน หรือนางมีศัตรูกี่คน ยิ่งชิวซุยปล่อยให้มันรอนานเท่าไหร่หลี่เซียนก็ยิ่งคิดมาก บางทีนางอาจจะไปเจอศัตรูเก่าก็ได้ จะว่าไปเหมือนนางก็มีท่าทีไม่ค่อยอยากมาอาณาจักรหลิวเท่าไหร่นี่นา
“…………..”ยิ่งเวลาค่อยๆผ่านไป หลี่เซียนก็ยิ่งรู้สึกอยู่ไม่สุข ตอนนี้มันกอดอกแน่นและปล่อยให้นิ้วชี้ขยับช้าๆเป็นจังหวะเหมือนกำลังอดทนกับเวลาที่ผ่านไปอยู่
“ต้องตามหาแล้ว”หลังจากอดทนมาได้พักใหญ่ หลี่เซียนก็ทนกังวลไม่ไหว ไม่ว่านางจะไปทำธุระอะไรแบบนี้มันก็นานเกินไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องเป็นห่วงเหมือนกันทั้งนั้น
เมื่อตัดสินใจได้หลี่เซียนก็วิ่งออกตามหาไปทั่วเมือง ทักษะของกองทัพสำหรับติดตามตัวคนร้ายหลี่เซียนก็มีไม่น้อย เพียงแต่ตามรอยชิวซุยมาได้แค่นิดหน่อยกลับพบว่าร่องรอยของนางหายไปจนหมด ไม่มีการต่อสู้พบเพียงรอยเท้าอสูรขนาดใหญ่ตนหนึ่งเท่านั้น แล้วแบบนี้มันจะไปตามต่อที่ไหนกัน
ฟุบ!
แม้จะไม่มีเบาะแสหรือข้อมูล แต่หลี่เซียนก็ยังออกตามหาไม่เลิก หากชิวซุยเพียงไปทำธุระก็ดีไปแต่หากนางเป็นอะไรขึ้นมาแล้วมันไม่ได้ไปช่วยมันคงโทษตัวเองไปทั้งชีวิต หญิงสาวคนนั้นเด่นสะดุดตาเสียด้วย หากเผลอเปิดหน้าให้คนอื่นเห็นแล้วมีพวกคิดไม่ดีเข้าละก็มีหวัง….
“หยุด”หลี่เซียนกำลังวิ่งหาตามเมือง อยู่ๆตรงหน้าของหลี่เซียนก็มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาขวางเอาไว้ แต่เพราะหลี่เซียนวิ่งมาตลอดทางแถมอีกฝ่ายยังโผล่มาไม่บอกไม่กล่าวทำให้หลี่เซียนหยุดไม่ทันเสียแล้ว
หมับ…
ผิดคาดแทนที่หลี่เซียนจะชนชายตรงหน้าอย่างจังจนเกิดอุบัติเหตุแต่ชายตรงหน้ากลับจับไหล่ของหลี่เซียนที่พุ่งเข้ามาหาตนเองเอาไว้แล้วออกแรงรับเพียงเล็กน้อยก็สามารถจับตัวหลี่เซียนได้อย่างไม่ยากเย็น เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายมีพลังเหนือกว่าหลี่เซียนหลายเท่า
“เจ้าต้องการอะไรกันแน่ ข้าได้รับรายงานมาว่าเจ้าวิ่งไปวิ่งมาในเมืองหลวงอย่างกับคนบ้า รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เมืองหลวงกำลังจัดงานอะไร”ชายคนนั้นถามด้วยท่าทีสงสัย หลี่เซียนวิ่งอยู่ในเมืองมาสักพักแล้ว ตัวใหญ่อย่างกับหมีอย่างมันไม่แปลกที่จะมีคนเห็นและเกิดอาการสงสัยว่าเจ้าหมีนั่นเป็นอะไรถึงวิ่งไปวิ่งมาอย่างกับคนบ้า
“ขออภัยขอรับ ข้าไม่ใช่คนน่าสงสัยหรอกขอรับ”หลี่เซียนได้ยินก็สะดุ้งโหยงรีบประสานมือให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าหลี่เซียนไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไรชายตรงหน้าก็ปล่อยมือจากหลี่เซียนเสีย
“เจ้าเป็นใคร ตอบคำถามข้ามาก่อน”ชายตรงหน้าถามพลางมองหลี่เซียนด้วยท่าทีจับผิด ตอนนี้มีการฉลองให้กับการสถาปนาอาณาจักร ผู้นำอาณาจักรต่างๆเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก ลำพังหลี่เซียนทำตัวน่าสงสัยเช่นนี้ก็สามารถจับตัวไปสอบสวนก่อนได้ทันทีเสียด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มเห็นหน้าตาหลี่เซียนซื่อๆก็เลยไม่ได้คิดว่ามีอันตรายอะไร
“ข้าเป็นรองแม่ทัพสามแห่งอาณาจักรจินเป่ยขอรับ ขออภัยด้วยที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย”หลี่เซียนตอบพลางนำป้ายประจำตัวออกมาให้ชายตรงหน้าดู
“ทหารงั้นเหรอ……”เมื่อได้เห็นป้ายประจำตำแหน่งชายตรงหน้าก็มีท่าทีงุนงงอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วทหารอาณาจักรจินเป่ยวิ่งไปทั่วเมืองทำไมกัน”ชายหนุ่มถามออกมาด้วยท่าทีไม่เข้าใจแบบสุดๆเลย ไม่ใช่แค่ทหารธรรมดา แถมยังเป็นถึงรองแม่ทัพ มันน่าจะรู้นี่ว่าทำแบบนั้นคนเขาจะแตกตื่นกัน
“ขออภัยด้วยจริงๆขอรับ ข้าพลัดหลงกับสหายผู้หนึ่งก็เลยออกตามหา แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบตัวเสียทีก็เลยเกิดความร้อนใจ”หลี่เซียนตอบออกไปตามตรงเพราะตอนนี้มันอยากจะไปตามหาตัวชิวซุยต่อมากกว่า
“หายตัวไปงั้นหรือ”ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ในเมืองหลวงอาณาจักรหลิวตอนนี้การคุ้มกันแน่นหนา ไม่น่าจะมีเรื่องอย่างการจับตัวคนกลางวันแสกๆได้นี่นา
“ขอรับ บางทีนางอาจจะแค่ไปทำธุระก็ได้ แต่นางหายไปครึ่งค่อนวันแล้วข้าเลยอดเป็นห่วงไม่ได้”หลี่เซียนว่าพลางถอนหายใจออกมา สายตากังวลของหลี่เซียนนั้นเห็นได้ชัดเจนมาก แม้จะไม่อยากเชื่อว่ามีการลักพาตัวหรือการหายตัวไปกลางเมืองแบบนี้ แต่เรื่องที่หลี่เซียนหาตัวสหายของมันไม่เจอชายหนุ่มก็รู้สึกเชื่อไม่น้อยเลย
“งั้นข้าจะช่วยเจ้าตามหาอีกแรง สหายของเจ้าชื่ออะไรงั้นหรือ”ในเมื่อตัดสินใจว่าหลี่เซียนมีความน่าเชื่อถือ ชายหนุ่มก็เอ่ยปากถามเพื่อจะช่วยตามหาสหายของอีกฝ่าย ยังไงมันก็เคยเป็นทหารมาก่อน การช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันถือเป็นเรื่องสมควรทำที่สุด
“ชิวซุยขอรับ”
“………..”ทันทีที่ได้ยินคำตอบของหลี่เซียน ชายหนุ่มตรงหน้าก็ชะงักไปพักหนึ่ง ชิวซุยงั้นหรือทำไมชื่อถึงได้คุ้นนัก
“เอ่อ…. ช่วยบอกลักษณะภายนอกให้ข้าฟังได้หรือเปล่า”ชายหนุ่มถามพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา มันทำท่าเหมือนไม่อยากเชื่อหูตนเองเท่าไหร่
“ตอนนี้นาง…สวมเสื้อผ้าปิดบังตัวเองอยู่ขอรับ มันเป็นหมวกที่มีผ้าติดเอาไว้ บอกตามตรงว่ามันเด่นมากจนข้าไม่คิดว่าจะหานางไม่เจอด้วยซ้ำ”หลี่เซียนตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา มุ้งเดินได้แบบนั้นสะดุดตาจะตาย แต่วิ่งรอบๆตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่เจอมันถึงได้กังวลมากไง
“นางอาจจะไม่ได้สวมชุดเดิมก็ได้ เจ้าช่วยอธิบายหน้าตาให้ข้าฟังได้หรือเปล่า”ได้ยินอีกฝ่ายตอบ ชายหนุ่มก็เอ่ยปากถามอีกครั้งเพราะเสื้อผ้าสามารถเปลี่ยนได้เสมอ หากนางถอดหมวกที่ว่าออกก็จบกัน
“จริงสิ ข้ามีรูปของนางอยู่ขอรับ”หลี่เซียนว่าพลางนำรูปออกมาจากมิติของตนเอง รูปพวกนี้สือหลงเป็นคนถ่ายเพื่อจะใช้สืบหาตัวจริงของชิวซุย แต่หลี่เซียนไปพบเข้าเสียก่อนเลยแอบยึดมา
“………………………”ชายหนุ่มได้เห็นรูปก็อึ้งไปทันที ไม่ว่าจะมองอย่างไรคนในรูปก็คือ ไป๋ชิวซุย ชัดๆแถมนางยังนั่งอยู่กับหลี่เซียนด้วยท่าทีสนิทสนมอีกต่างหาก
“ท่านเป็นอะไรหรือขอรับ”หลี่เซียนเห็นอีกฝ่ายอึ้งไปก็เอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง อยู่ๆมันก็เหมือนจะทรุดลงไปนั่งเสียให้ได้
“เปล่า….ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มตอบด้วยท่าทีเหมือนข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ความรู้สึกของพ่อที่เห็นบุตรสาวที่บอกว่าจะไปอยู่เล่นกับพี่ชายไปโผล่คู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่ทราบเป็นเช่นนี้นี่เอง
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะช่วยเจ้าตามหาเอง แล้วก็เอาป้ายแสดงตัวออกมาแขวนด้วยคนจะได้ไม่แตกตื่น”ชิงชิวว่าพลางจ้องมองหลี่เซียนนิ่ง มันเป็นใครกันแน่ถึงได้มาตามหาบุตรสาวของมันเช่นนี้ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยของอาณาจักรแล้ว แต่เป็นเรื่องของพ่อคนหนึ่งที่กำลังจะปกป้องบุตรสาวตนเองอยู่
“จริงหรือขอรับ ขอบคุณท่านมาก หากนางเป็นอะไรขึ้นมาละก็ข้าต้องเสียใจไปทั้งชีวิตแน่ๆ”หลี่เซียนตอบด้วยท่าทีโล่งอกทำเอาชิงชิวที่คิดจะเชือดหลี่เซียนเสียตรงนี้ชะงักไปเล็กน้อย มันก็ดูเป็นคนดีนี่นา….
.
.
“เจ้าหนู ผู้หญิงในรูปเป็นอะไรกับเจ้างั้นเหรอ”ระหว่างกำลังตามหาชิวซุย แทนที่ชิงชิวจะแยกไปตามหาที่อื่นมันกลับเดินตามหลี่เซียนและเริ่มถามคำถามเสียอย่างนั้น หากฟังจากที่หลี่เซียนเล่าชิวซุยน่าจะหายตัวไปช่วงนี้ไป๋หลินมาพอดี ชิงชิวเลยเดาว่าไป๋หลินน่าจะเจอตัวชิวซุยแล้วพานางไปด้วยแน่ๆ มันเลยไม่มีท่าทีเป็นห่วงบุตรสาวแต่อย่างไร ตอนนี้มันสนใจเจ้าหมอนี่ที่กำลังตามหาบุตรสาวของมันมากกว่า
“นาง…..”หลี่เซียนไม่ทราบจะตอบคำถามข้อนี้อย่างไร จะบอกว่าเป็นเพื่อนหรือก็ไม่ใช่ คนรักก็ไม่ใช่ ชิวซุยแค่ขอมาอยู่ด้วยเท่านั้นแล้วมันก็ใจอ่อนให้นางได้พักอาศัยร่วมกัน
“ถ้าตอบไม่ได้ งั้นสำหรับเจ้านางเป็นคนยังไงงั้นหรือ”ชิงชิวถามพลางจ้องมองหลี่เซียนอย่างตั้งใจ
“นาง…ออกจะขี้เล่นขอรับ ข้าโดนนางหยอกอยู่เรื่อยเพราะข้าไม่ค่อยชินกับการพบเจอผู้หญิงนัก แม้นางจะเหมือนปิดบังอะไรอยู่ตลอดแต่ข้าก็ไม่อยากจะสงสัยอะไรนาง”หลี่เซียนตอบพลางถอนหายใจออกมา พอเริ่มออกตามหาหลี่เซียนก็ยิ่งมั่นใจว่าตนเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชิวซุยเลย มันไม่ทราบจะไปหานางที่ไหน หรือนางมีความแค้นอะไรกับใคร การตามหาของมันในครั้งนี้เหมือนหลับตาคลำทางไม่มีผิด
“งั้นหรือ”ชิงชิวได้ยินก็ชะงักไปพักหนึ่ง ท่าทีที่หลี่เซียนพูดถึงบุตรสาวมันไม่ได้เสียมารยาทอะไร แถมออกจะจริงใจเสียด้วยซ้ำ ทำให้ระหว่างตามหาอยู่นี้ชิงชิวแอบถามคำถามหลี่เซียนไปหลายคำถาม แต่คำตอบที่ได้แต่ละครั้งหลี่เซียนก็ทำให้ชิงชิวรู้สึกว่ามันเป็นคนที่ไม่เลวเลยขึ้นมาเรื่อยๆ
“ทำไมถึงไม่เจอสักทีนะ”หลี่เซียนถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีเป็นห่วง ตอนนี้ฟ้าเริ่มจะมืดแล้วแต่ก็ยังไม่พบวี่แววของชิวซุยเลย บอกตามตรงหลี่เซียนเริ่มคิดมากเกินไปแล้วด้วยซ้ำทำเอาชิงชิวที่มองอยู่ได้แต่ถอนหายใจออกมา ในเมื่อหลี่เซียนเป็นห่วงขนาดนี้มันก็คงต้องช่วยนิดหน่อย
“ออกมาได้แล้วแม่ตัวดี”ชิงชิวพูดจบก็เดินไปด้านหลังหลี่เซียนก่อนจะยื่นมือไปคว้าบางอย่างกลางอากาศ แม้จะไม่มีดวงตาสีม่วงแต่ประสาทสัมผัสรับกลิ่นของชิงชิวก็ยังดีเสมอ และยิ่งกลิ่นของไม้หอมที่ใช้กลบพลังดึงดูดเหล่าอสูรนั้นยิ่งสัมผัสง่ายเข้าไปใหญ่
“โอ้ย….”ชิวซุยที่กลับมาเมืองหลวงตั้งนานแล้วโดนชิงชิวดึงใบหูออกมาจากความว่างเปล่าเสียอย่างนั้น ทำเอาหลี่เซียนที่มองอยู่ถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก นางทำแบบนั้นได้อย่างไร แล้วนางอยู่ตรงนั้นตลอดเลยงั้นหรือ
“เจ้าทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงรู้ตัวหรือเปล่า”ชิงชิวต่อว่าบุตรสาวก่อนจะพานางมายืนต่อหน้าหลี่เซียน ชิวซุยกลับมาได้พักใหญ่แล้ว แต่เพราะไม่ทราบทำไมหลี่เซียนดันอยู่กับบิดาของนางซะได้ นางเลยไม่กล้าเผยตัวออกไปนะสิ
“หลี่เซียน ขอโทษด้วยที่บุตรสาวของข้าทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน ข้าสั่งสอนนางไม่ดีเอง”ชิงชิวว่าพลางก้มหัวลงเล็กน้อย พอเห็นท่าทีเป็นห่วงของหลี่เซียนชิงชิวก็เข้าใจว่าหลี่เซียนนั้นใส่ใจชิวซุยขนาดไหน การที่บุตรสาวของมันทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงมากขนาดนี้ก็คงต้องขอโทษกันบ้าง
“ลูกสาวหรือขอรับ”หลี่เซียนตอบด้วยท่าทีอึ้งๆก่อนจะมองชิวซุยด้วยท่าทีไม่เข้าใจ
“ไหนเจ้าบอกข้าว่าเจ้าไม่เหลือใครแล้วไม่ใช่หรือ”คำถามของหลี่เซียนทำเอาชิวซุยสะอึกไปทันที นางบอกแบบนั้นเพราะจะหาข้ออ้างอยู่กับหลี่เซียนต่อเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นคำโกหกที่ดูแย่มากๆไปเสียแล้ว หลี่เซียนยามนี้มองนางด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อและเสียใจมาก นั่นไม่ใช่ใบหน้าที่ชิวซุยชอบเลย