บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 96 บทลงโทษ
ตอนที่ 96
บทลงโทษ
“พี่ไป๋”หลินหลินกับหงเยว่ที่ยืนอยู่ด้านหลังพยายามจะเข้ามาขวางอีกแรง แต่ไป๋จูเหวินกลับยกมือขึ้นห้ามพลางลุกขึ้นยืนมองหวงหลงตรงๆโดยไม่หลบเลี่ยงไปไหน
“ท่านหัวหน้า ทั้งหมดเป็นความผิดข้าเอง ท่านลงโทษตามที่ท่านต้องการเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางจับไปที่แขนข้างขวาของมัน หากอาการบาดเจ็บไม่หนักมากมันยังสามารถกินยาฟื้นฟูร่างกายของน้าราชสีห์ได้
ตูม! หวงหลงไม่มีท่าทีจะยั้งมือแต่อย่างไร เพียงแต่คราวนี้ไป๋จูเหวินไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย นั่นเพราะฝ่ามือของอาวุโสเทียนหมิงที่เข้ามารับเอาไว้นั่นเอง
“พี่เทียนหมิง…”หวงหลงลดท่าทีคุกคามลงทันทีเมื่อเห็นอาวุโสเทียนหมิงออกมารับการโจมตี ท่าทางชิงหลงจะแพ้ไปแล้ว
“เจ้าคิดจะฆ่าคนของเจ้าเลยหรือยังไง”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางลงมือลงช้าๆ แรงที่มันใส่ลงมาในฝ่ามือไม่ใช่เบาๆ ระดับพลังของไป๋จูเหวินตอนนี้โดนไป 2 ฝ่ามือแล้วยังรอดมาได้นับว่าเหลือเชื่อแล้ว
“มันทำผิด ก็ต้องรับโทษ”หวงหลงว่าพลางจ้องมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีดุดัน มันโมโหทั้งเรื่องที่ไป๋จูเหวินพาเหม่ยหลินหนีออกมา ทั้งเรื่องที่อสูรของมันต่างพากันเข้าข้างไป๋จูเหวินกันหมดโดยไม่ทราบสาเหตุ
“มันเพียงพาบุตรสาวของเจ้ามาพบมารดาเท่านั้น โทษของมันถึงตายเลยงั้นหรือ”อาวุโสเทียนหมิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไป๋จูเหวินเป็นคนที่มันให้ความสนใจไม่น้อย ทั้งช่วยอู๋หมิงศิษย์ของมันเอาไว้และยังเป็นบุคคลน่าสนใจในหลายๆด้าน มันไม่อยากให้ไป๋จูเหวินต้องมาตายเพราะอารมฉุนเฉียวของหวงหลงเท่านั้น
“ทุกคนในหน่วยล่าอสูรทราบดีว่าไม่ควรพูดเรื่องนี้ แต่มันถึงกับพานางมาถึงที่ย่อมมีโทษหนัก”หวงหลงยังยืนยันคำเดิม
“ข้าเป็นคนสั่งให้มันทำเอง”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางเดินเข้ามาขวางระหว่างหวงหลงกับไป๋จูเหวินเอาไว้
“ท่าน…”หวงหลงไม่ทราบความสัมพันธ์ของไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลิน มันจึงไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินทำไปเพื่ออะไร หากเป็นเพราะอาวุโสเทียนหมิงเป็นผู้สั่งก็มีโอกาสเป็นไปได้
“ทำไมมันต้องทำตามคำสางของท่านด้วย”หวงหลงถามพลางมองไป๋จูเหวินอย่างประหลาดใจ
“มันเป็นศิษย์ของข้า”ได้ยินเช่นนั้นหวงหลงยิ่งประหลาดใจ เป็นที่ทราบกันดีทั้งแผ่นดินว่าศิษย์ของเซียนกระบี่อย่างอาวุโสเทียนหมิงนั้นมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือองค์ชายอู๋หมิงผู้ทิ้งราชบัลลังก์เพื่อเดินทางฝึกฝนวิชา
“ข้าพึ่งรับมันมาไม่นาน ข่าวจึงยังไม่แพร่ออกไป”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางจับบ่าของไป๋จูเหวินเบาๆ มันตรวจอาการบาดเจ็บแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ไม่ใช่ว่าท่านเพียงโกหกเพื่อให้มันรอดงั้นหรือ”หวงหลงถามเสียงเรียบ หากอาวุโสเทียนหมิงบอกว่าไป๋จูเหวินคือศิษย์ของมัน แน่นอนว่าหวงหลงไม่สามารถลงมือสังหารไป๋จูเหวินตรงนี้ได้แน่ๆ แต่นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าไป๋จูเหวินเป็นศิษย์ของอาวุโสเทียนหมิงจริงหรือไม่
“เรื่องนั้นจริงแน่นอน ข้าได้มอบเคล็ดวิชาโลหิตมังกรให้แก่มันไปแล้ว หากไม่เชื่อก็ให้มันแสดงออกมา”อาวุโสเทียนหมิงพูดพลางมองไปทางไป๋จูเหวิน เมื่อเห็นดังนั้นไป๋จูเหวินก็เดินพลังด้วยเคล็ดวิชาโลหิตมังกรทันที แน่นอนว่าร่างกายที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงนั้นเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามันคือเคล็ดวิชาโลหิตมังกร
“….”หวงหลงนิ่งไปพักหนึ่งเพราะไม่อาจทำอะไรไป๋จูเหวินได้อีก
“หวงหลง อย่างไรหญิงสาวคนนั้นก็เป็นมารดาของเหม่ยหลิน เจ้าให้แม่ลูกได้พบหน้ากันบ้างเถอะ”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางถอนหายใจออกมาอย่างละเหี่ยใจ
“ความรู้สึกของแม่ลูกไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยให้เหม่ยหลินแข็งแกร่งขึ้น มันไม่จำเป็น”หวงหลงว่าพลางมองเหม่ยหลินด้วยสายตาเย็นชา
“…..ท่านพ่อ”เหม่ยหลินก้มหน้าลงช้าๆพลางมองไปทางบ้านที่มารดาของนางอยู่ เพราะการต่อสู้เมื่อครู่ทำให้ชาวบ้านออกมามองกันหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น โชคดีที่การต่อสู้ไม่ได้บานปลายอะไรคนรอบๆจึงไม่ได้รับบาดเจ็บไปด้วย
“หากท่านให้ข้ามาพบท่านแม่ได้บ้าง ข้าจะตั้งใจฝึกฝนตามที่ท่านสั่ง”เหม่ยหลินว่าพลางมองมารดาของนางที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน นางมีสีหน้าเป็นห่วงอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาขวางเพราะนางไม่ใช่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่เก่งกาจอะไร
“เจ้าแน่ใจงั้นหรือ”หวงหลงมีท่าทีสนใจข้อเสนอของเหม่ยหลินอย่างชัดเจน มันยอมทำทุกอย่างที่ทำให้เหม่ยหลินแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ
“ค่ะ”เหม่ยหลินตอบเสียงเบาพลางหยิบของบางอย่างออกมาจากมิติของนาง มันคือมุกกระเบนที่บิกาของนางไปเอามาจากเขตอสูรทะเลสาบหมื่นราตรีนั่นเอง แม้จะชิงมาด้วยความลำบากยากเย็นแต่เพราะมุกกระเบนมีพลังธาตุน้ำเข้มข้นมากทำให้เหม่ยหลินยังไม่กล้ากลืนมันลงไป
อึก…เหม่ยหลินกลืนมุกกระเบนลงไปอย่างรวดเร็วเพื่อพิสูจน์ความตั้งใจของนาง พริบตานั้นพลังของมุกกระเบนก็แล่นเข้าสู่ร่างกายของนางพร้อมทำให้พลังวิญญาณและพลังอสูรของนางปั่นป่วน แต่ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีร่างกายของนางก็เริ่มกลับมาเป็นปกติเพียงแต่พลังวิญญาณและพลังอสูรของนางแข็งแกร่งขึ้นระดับหนึ่งในทันทีเท่านั้น ทั้งนี้เพราะพลังวิญญาณและพลังอสูรของเหม่ยหลินต่างเป็นธาตุน้ำ ทำให้พลังธาตุน้ำส่งผลอย่างดีให้กับตัวนางเอง หลังจากนี้นางสามารถดูดซับพลังจากมุกกระเบนได้เรื่อยๆ
“ดีมาก…”หวงหลงว่าพลางยิ้มออกมา พลังของเหม่ยหลินสูงขึ้นสร้างควาพึงพอใจให้กับมันมาก
“ข้าจะให้เจ้ามาพบกับมารดาของเจ้าได้ปีละครั้งก็แล้วกัน”หวงหลงว่าพลางพยักหน้าช้าๆ หากมันทำให้เหม่ยหลินพัฒนาได้เร็วขึ้นก็เป็นการลงทุนที่ดีไม่น้อย
“ถ้าเช่นนั้น โทษของพี่ไป๋ก็ไม่ถือว่าผิดแล้วสินะคะ”เหม่ยหลินว่าพลางมองบิดาของตนอย่างคาดหวัง ในเมื่อนางได้รับอนุญาตให้มาพบมารดาได้ การที่ไป๋จูเหวินพานางมาก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด
“เรื่องนั้นมันคนละเรื่องกัน”หวงหลงว่าพลางมองไป๋จูเหวินอีกครั้ง มันเป็นเพียงเด็กเหลือขอที่มีพลังระดับหลอมรวมนภาเท่านั้น ทำไมพี่เทียนหมิงถึงให้ความสนใจมันนัก แต่มันก็มีความสามารถในฐานะหน่วยสำรวจทีเดียว นอกจากอาวุโส 7 แล้วแทบจะไม่มีใครเลยที่สามารเข้าออกวังอสูรโดยมันไม่รู้ได้
“เอาเป็นว่า ข้าจะยังไม่ฆ่ามันก็แล้วกัน”หวงหลงเหลือบมองอาวุโสเทียนหมิงและองค์ชายอู๋เทียนเหวินครู่หนึ่ง พวกมันมีท่าทีต่อต้านอย่างมากเมื่อมันจะฆ่าไป๋จูเหวิน ท่าทางเจ้าหนูนี่จะเป็นที่รักไม่น้อย
“แต่ข้าจะมอบโทษให้กับมันตามเหมาะสม”พูดจบมันก็ส่งสายตาให้จูเชวี่ย ทำให้นางกลับร่างเป็นวิหคเพลิงอีกครั้ง หากเป็นคำสั่งที่ไม่ได้ทำร้ายไป๋จูเหวิน นางยอมทำตามได้เสมอ
“เหม่ยหลิน เจ้ามากับข้า” หวงหลงว่าพลางยื่นมือไปให้เหม่ยหลิน แน่นอนว่ายามนี้เหม่ยหลิไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกจากยื่นมือไปหาบิดาอย่างช่วยไม่ได้
“ส่วนเจ้า”หวงหลงว่าพลางมองไป๋จูเหวินที่ยังอยู่บนพื้น
“นี่เป็นคำสั่งของหัวหน้ากลุ่มโดยตรง ทางเหนือของนครแก้วผลึกมีเขตอสูรที่ชื่อว่าถ้ำกระจกเงาอยู่ จงไปสำรวจที่นั่นและเก็บข้อมูลมาทุกซอกทุกมุมซะ”ได้ยินเช่นนั้นอาวุโสเทียนหมิงและพวกอู๋เทียนเหวินต่างตะลึงงันกันถ้วนหน้า เขตอสูรถ้ำกระจกเงาเป็นเขตอสูรที่แม้แต่ตัวหวงหลงเองยังไม่สามารถเข้าไปได้ง่ายๆ การส่งไป๋จูเหวินไปคนเดียวนั้นไม่เท่ากับบอกให้มันไปตายเลยงั้นหรือ
“หวงหลง แบบนี้มันเกินไป”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางกำหมัดแน่น ตัวมันเข้าใจดีว่าถ้ำกระจกเงาน่ากลัวแค่ไหน ที่นั่นเป็นเขตหิมะที่หนาวเหน็บ เพียงแค่การเอาชีวิตรอดภายในก็ยากมากแล้ว ไหนจะถ้ำน้ำแข็งที่เป็นใจกลางของเขตอสูรนั่นอีก นอกจากอสุรธาตุน้ำและน้ำแข็งจำนวนมากแล้ว เพียงแค่ไม่ให้หลงในถ้ำที่มีแต่เงาสะท้อนก็เป็นเรื่องลำบากสำหรับคนทั่วไปแล้ว
“นี่เป็นคำสั่งของหัวหน้ากลุ่ม หากเจ้าไม่ทำข้าก็ไม่ว่าเพียงแต่เจ้าจะต้องถูกไล่ออกจากกลุ่มนักล่าอสูรและอย่าได้มาเหยียบย่ำเมืองร้อยแปดอสูรอีกเลย”หวงหลงพูดจบก็ให้จูเชวี่ยพามันบินจากไป ไม่นานหลังจากนั้นร่างของพยัคฆ์เมฆาสีขาวและเต่าสีดำก็พากันทะยานตามไปติดๆพร้อมกับร่างของมังกรฟ้าที่ปรากฏร่างที่นอกเมืองอีกต่างหาก
“พี่ไป๋ ท่านมาอยู่ในวังหลวงกับข้าเถอะ”อู้เทียนเหวินว่าพลางเดินมาจับบ่าของไป๋จูเหวินเอาไว้ ตัวมันคิดว่าไป๋จูเหวินไม่สามารถเข้าไปสำรวจเขตอสูรได้อย่างแน่นอน
“เมื่อครู่ข้าบอกไปแล้วว่าเจ้าเป็นศิษย์ของข้า จะเดินทางไปพร้อมกับอู๋หมิงก็ได้นะ”อาวุโสเทียนหมิงเองก็คิดเช่นนั้น
เพียงแต่..
“ไม่เป็นไรขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเลือกยาของน้าราชสีห์ออกมากินเม็ดหนึ่งเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
“ข้าจะไปสำรวจเขตอสูร”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางปัดฝุ่นออกจากเสื้อตนเองช้าๆ หากเป็นเรื่องของอสูรตัวมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว