ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 1059
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1059
ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างใจเย็น “บางคนก็แค่ต่ำเกินไป คุณทำให้พวกเขาเห็นไม่ได้หรอกถ้าไม่จัดการเรียกสติพวกเขา”
“ถ้าผมไม่ทำอย่างนั้น เด็กผู้ชายคนนั้นคอยรังควานซีนเธียร์ต่อไปเรื่อย ๆ จากนั้นมีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“อีกอย่าง ผมไม่ได้อยู่กับซีนเธียร์ตลอดเวลาเหมือนกัน”
“ใช่! พี่เขยแค่พยายามจะปกป้องฉันเอง หยุดโทษเขาได้แล้ว”
ซีนเธียร์ดึงมือของแมนดี้มาพร้อมกับทำสายตาน่าสงสาร
แมนดี้ถอนหายใจและไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ
แต่ปัญหาก็คือเมสันถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและเหตุผลทุกอย่างก็อยู่ข้างเขา
เธอจะรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?
แมนดี้ไม่คิดที่จะยอมรับเงื่อนไขที่อีกฝ่ายได้ตั้งขึ้นหรอก
แต่พวกเขาคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่
เรื่องนี้มันชวนปวดหัวสุด ๆ !
ในตอนนั้นเองเสียงออดประตูก็ดังขึ้น
เจคอบ วอร์เนอร์และฟินน์ เยตส์ อยู่ที่ประตูและพากลุ่มสารวัตรมาพร้อมกันกับพวกเขา
ใบหน้าของเจคอบเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
ฟินน์จับไปที่อาวุธที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขาและประกาศอย่างเคร่งขรึม “ฮาร์วีย์ ยอร์กและแมนดี้ ซิมเมอร์! ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของสถานีตำรวจบัควู้ด”
“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายในมหาวิทยาลัยบัควู้ดอย่างไม่มีเหตุผล มากไปกว่านั้นยังสร้างความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่และส่งผลเสียให้แก่สถานที่แห่งนั่นอีกด้วย!”
“ตามกฎหมายแล้วนายจะต้องมากับฉัน!”
“แต่ประธานวอร์เนอร์คู่กรณี ต้องการดำเนินการกับนายอย่างสงบ ดังนั้นฉันมีให้เวลานายจำกัด!”
“นายจะต้องไปที่เอ็มเพอเรอร์ คลับเฮาส์และจัดการกับความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนเวลาเที่ยงคืน“
“ถ้านายไม่ทำตาม พรุ่งนี้ฉันจะจับนายส่งเข้าคุกทันที!”
เจคอบยิ้ม “จำไว้ ก่อนเที่ยงคืน แม้ว่าถ้าคุณคุกเข่าอ้อนวอนหลังจากนั้น ผมก็จะไม่ให้ทางเลือกกับคุณ!”
ซีนเธียร์พูดแทรกขึ้น เต็มไปด้วยความไม่พอใจ “นี่ตาลุง ฟินน์ เยตส์! อย่างน้อยทั้งสองคนควรมีเหตุผลบ้างไม่ใช่เหรอคะเบื้องหลังตรรกะของพวกคุณ?!”
“เมสันต่างหากที่เป็นคนที่เริ่มรังควานฉันก่อน!”
“เขาต่างหากที่เริ่มชกคนแรก!”
“เราก็แค่สู้กลับ! เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนะ!”
หลังจากได้ยินอย่างนี้ ฟินน์และเจคอบก็หัวเราะออกมา
เจคอบถามอย่างเย็นชา “เธอพูดเรื่องทั้งหมดนี้เหมือนว่ามันเป็นความจริง! ไหนล่ะหลักฐาน? เธอมีหรือเปล่า?”
ซีนเธียร์ตอบกลับ “เพื่อนร่วมชั้นของฉันทุกคนเป็นพยานได้!”
“เธอหมายถึงคนพวกนี้เหรอ?”
เจคอบปรบมือของเขา
นักศึกษาหลายสิบคนเดินเข้ามา คนที่เดินนำมาคือดเวย์น ฮาริส ผู้ที่มีเลือดออกที่จมูกและใบหน้าอันขมขื่น
ดเวย์นปิดหน้าของเขาและพูด “ซีนเธียร์ เธอหยุดบิดเบือนความจริงสักทีได้ไหม?”
“เธอกับพี่เขยของเธอเป็นฝ่ายที่กอดกันอย่างไร้ยางอายในมหาวิทยาลัยวันนี้นะ เมสันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและพยายามเข้าไปห้าม ทำให้พี่เขยของเธอทำร้ายเขายังไงล่ะ!”
“ใช่! ตามการคาดการณ์ของครอบครัวของเธอ! พวกเธอทุกคนมันไร้ยางอาย!”
“เมสันมีเจตนาดี! เธอทำกับเขาอย่างนี้ได้ยังไง?!”
“และตอนนี้เธอกำลังแสร้งว่าเธอเป็นฝ่ายผิดต่อหน้าพี่สาวของเธอ! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนไร้ยางอายอย่างพวกเธอ!”
“ทุกคน…”
ซีนเธียร์ตกใจจนแทบไม่อยากเชื่อ
ทุกคนต่างเป็นรุ่นพี่ที่ใจดีกับเธอมาโดยตลอด เมื่อตอนที่พวกเขาพยายามติดตามเธอ พวกเขาดูเต็มใจที่จะทำตามไม่ว่าอะไรก็ตาม
ทุก ๆ คนดูเป็นคนที่จริงใจ
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังพูดจาไร้สาระและพยายามปกปิดความจริง!
ซินเธียร์กัดฟันท่าทางของเธอดูย่ำแย่มาก “ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอตอนที่พูดจาโกหกออกมาอย่างนี้?”
“หรือว่าเมสัน วอร์เนอร์น่ากลัวขนาดนั้นสำหรับรุ่นพี่?”
“อย่างนั้นรุ่นพี่ก็คงเตรียมตัวที่จะเป็นลูกน้องของเขาไปชั่วชีวิตแล้วใช่ไหม? ลูกน้องที่ต้อยต่ำ?”
“ดูเหมือนว่าเขาจะพูดจริงนะที่บอกว่าเขาเป็นราชาของมหาวิทยาลัยบัควู้ด! ทุกคนมันขี้ขลาด!”
คำพูดของซีนเธียร์ทำให้ท่าทีนักศึกษาเหล่านั้นชะงักไปเล็กน้อย
แต่พวกเขาก็รีบดึงสติและจ้องมองด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยที่แสนเย็นชา “ฮื่ม! เมสันยืนหยัดอย่างกล้าหาญเพื่อความจริง เขาเป็นต้นแบบของพวกเรา! ฉันไม่คัดค้านนะถ้าเขาจะขึ้นมาเป็นประธานสภานักศึกษา!”