ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 1148
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1148
ยังดีที่เหล่ากลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ซื้อวิลล่าไปเพียงแค่สิบหลัง ตระกูลเยตส์จึงได้จำนองบ้านของบรรพบุรุษของพวกเขาที่ใจกลางบัควู้ด และในที่สุดก็รวบรวมเงินได้ทั้งหมดสิบห้าล้านดอลลาร์เพื่อตัดปัญหาจากคนเหล่านั้นออกไปก่อนในตอนนี้
ในช่วงเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ทั้งบ้านและรถยนต์ทั้งหมดของตระกูลเยตส์ก็ได้ถูกจำนองไปจนหมด
หากไม่สามารถเคลียร์หนี้ได้เมื่อถึงกำหนดจำนองและขอสินเชื่อเพิ่ม พวกเขาอาจที่จะต้องนอนใต้สะพานลอยเสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าใครจะมาทวงหนี้หลังจากนี้อีก ตระกูลเยตส์ก็คงจะไม่มีเงินจ่ายอีกแล้ว
พวกเขาเคยคิดว่าตระกูลเยตส์เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าตระกูลเยตส์จะจบลงแบบนี้
คุณย่าเยตส์รู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจ!
“คุณย่าคะ! พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?”
ใบหน้าของฟีบีถอดสีในขณะนั้น เธอไม่คิดว่าเธอจะต้องมาเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ทันทีที่เธอกลับประเทศมา
การแสดงออกของคุณย่าเยตส์เปลี่ยนไปราวกับว่าเธอกำลังจะคลุ้มคลั่ง จากนั้นในที่สุดเธอก็แสดงท่าทีอันน่ากลัวออกมา
“ดูจากสถานการณ์ต่าง ๆ แล้ว พวกเราจะต้องรักษาโอกาสในเรื่องของหัวหน้าผู้ฝึกสอนเอาให้ไว้ได้ ถ้าหากว่าพวกเราต้องการแก้ไขวิกฤติในครั้งนี้ให้ทันท่วงที!”
“ฉันได้ยินมาว่าทรัพย์สินของหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่ต่างประเทศอาจที่จะมีมูลค่าสูงถึงล้านล้านดอลลาร์! ถ้าหากว่าเราทำให้เขาตกมาเป็นหลานเขยของเราได้ ทุกอย่างก็จะสามารถแก้ไขได้ในพริบตาเดียว!”
“ถ้าหากว่าพวกเราได้เขามาเป็นลูกเขย อำนาจและความมั่งคั่งของตระกูลเยตส์ก็จะไม่มีใครอีกแล้วที่จะสามารถเทียบเคียงได้ในเซาท์ไลท์แห่งนี้!”
“หัวหน้าผู้ฝึกสอนจะมาที่นี่ในอีกสามวันข้างหน้า ดังนั้น ฟีบี เธอหยุดคิดเรื่องอื่นก่อน ทำตัวเองให้สวยสะพรั่งเอาไว้ เธอจะต้องคว้าใจหัวหน้าผู้ฝึกสอนเอาไว้ให้อยู่หมัดเมื่อถึงเวลานั่น!”
“ได้ค่ะ หนูรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร!”
ฟีบีรีบจากไป เธอตัดสินใจที่จะไม่กินอะไรเลยเป็นเวลาสามวัน เธอจะต้องต้อนรับหัวหน้าผู้ฝึกสอนในสภาพที่หุ่นเพรียวที่สุดและสวยที่สุดอย่างแน่นอนในอีกสามวันข้างหน้า
เหล่าตระกูลเยตส์แสดงความหวังอันริบหรี่ออกมาทางแววตาราวกับว่าพวกเขายึดเหนื่ยวกับฟางเส้นนี้เป็นเส้นสุดท้ายแล้วในชีวิตของพวกเขา
แม้ว่าสถานการณ์ของพวกเขาจะเลวร้ายมาก ๆ แต่ทว่าตระกูลเยตส์จะสามารถลุกขึ้นอีกครั้งได้อย่างรวดเร็วถ้าหากว่าพวกเขาสามารถจับหัวหน้าผู้ฝึกสอนมาเป็นลูกเขยได้
พวกเรายังมีหวัง!
หลังจากที่ฟีบีจากไป คุณย่าเยตส์ก็รีบพูดขึ้นพร้อม ๆ กับกัดฟันว่า “ทุกคน ตระกูลเยตส์กำลังต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความเป็นหรือความตายอยู่!”
“พวกเราต้องรอดไปให้ได้จนถึงสามวันข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม! ต่อให้ต้องลำบากมากแค่ไหนพวกเราก็จะต้องผ่านไปให้ได้!”
“พวกเรายังพอที่จะมีความหวังถ้าหากเราผ่านสามวันนี้ไปได้! ถ้าไม่อย่างนั้น ความตายจะมาหาพวกเราทุกคนในไม่ช้า!”
สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเยตส์ต่างก็มองหน้ากันไปมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคุณย่าเยตส์ จากนั้นทุกคนก็กัดฟันแน่น
“เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนมีทรัพย์สินและเงินเก็บของส่วนตัวอยู่พอสมควร ตอนนี้พวกเธอทุกคนจะต้องเอามันออกมาเพื่อให้พวกเราทุกคนสามารถผ่านพ้นสามวันนี้ไปให้ได้!”
“เมื่อพวกเราสามารถผ่านความมืดมิดก่อนรุ่งสางนี้ไปได้ ตระกูลเยตส์จะตอบแทนกลับให้พวกเธอถึงสามเท่าของจำนวนเงินที่พวกเธอได้มอบให้ ไม่สิ มากกว่านั้นเป็นสิบเท่าเลย!”
เมื่อคุณย่าเยตส์ได้เอ่ยวาจานั้นออกมา
เหล่าตระกูลเยตส์ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน ถ้าหากพวกเขาขายทรัพย์สินทั้งหมดและรวมถึงนำเงินเก็บที่มีทั้งหมดของพวกเขาออกมาแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรถ้าตระกูลเยตส์ไม่สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้จนถึงสามวัน?
ไม่เพียงแต่ตระกูลเยตส์จะถูกทำลายลงเท่านั้น พวกเขาก็จะยังต้องมีจุดลงเอยเช่นเดียวกันอีกด้วย!
ด้วยพฤติกรรมอันเห็นแก่ตัวของเหล่าตระกูลเยตส์ พวกเขาจะไม่ยอมรับเรื่องแบบนี้แน่นอนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม!
ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของฟินน์ก็ได้ดังขึ้น
หลังจากที่ได้รับสายนั้นเขาก็รู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง
“คุณย่าครับ เหล่าทวยเทพยังไม่ได้ทอดทิ้งตระกูลของเราไปซะที่เดียวเลย! ลูกน้องคนหนึ่งของผมได้พบกับฮาร์วีย์และแมนดี้แล้ว พวกมันทั้งคู่ไปที่ สกาย คอร์ปอเรชั่นเพื่อคุยเรื่องธุรกิจ!”
คุณย่าเยตส์รู้สึกยินดีทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
“ดีแล้ว เร็วเข้า พวกเราจะต้องส่งคืนความยุ่งเหยิงครั้งใหญ่ ของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์กลับไปหาพวกมัน!”
ในเวลาไม่นานนัก เหล่าตระกูลเยตส์ก็ออกไปข้างนอกพร้อมด้วยแสงสว่างของความหวังในการกลับไปรุ่งโรจน์และมุ่งหน้าไปที่สกาย คอร์ปอเรชั่น
ภายในห้องรับรองของสกาย คอร์ปอเรชั่น
ฮาร์วีย์และแมนดี้ ทั้งสองกำลังรอตัวแทนของสกาย คอร์ปอเรชั่นศึกษาแผนการลงทุนที่พวกเขามานำเสนออยู่อย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้น จู่ ๆ แมนดี้ก็เหลือบไปเห็นคนกลุ่มคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งผ่านทางหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“ทำไมพวกเขาถึงได้ที่นี่?”