ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 1149
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1149
ฮาร์วีย์หันไปมองนอกหน้าต่างแล้วยิ้ม
“ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? พวกเขามาที่นี่เพื่อทำให้คุณกลับไปเป็นแพะรับบาปไง”
“ใครกันล่ะที่พวกเขาจะสามารถมอบความโกลาหลครั้งใหญ่ของบริษัทให้ได้นอกจากคุณ”
แมนดี้ได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ผ่านแหล่งข้อมูลของเธอแล้ว จากนั้นเธอก็พูดพร้อมกับขมวดคิ้วว่า “ตามความเข้าใจของฉันเกี่ยวกับซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ มันไม่น่าจะมีปัญหามากมายขนาดนี้ ทำไมปัญหามากมายจึงเกิดขึ้นทันทีที่ฉันไม่ได้ดำรงตำแหน่งในฐานะประธานกรรมการบริหารของที่นั่นอีกต่อไป?
“ฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด”
“แน่นอน” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น
“ผมเอง”
“ฮะ? มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า! ถ้าหากคุณมีความสามารถขนาดนั้น เราก็คงจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อรอให้ตัวแทนของสกาย คอร์ปอเรชั่นตอบตกลงลงทุนในข้อเสนอทางธุรกิจของฉันหรอกน่า”
แมนดี้ไม่เชื่อฮาร์วีย์
ฮาร์วีย์ยิ้มและตอบกลับว่า “มันก็ค่อนข้างตรงไปตรงมาอยู่แล้วว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์สูญเสียการสนับสนุนจากสกาย คอร์ปอเรชั่นยังไงล่ะ”
“หากไม่มีสกาย คอร์ปอเรชั่นผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายกลางจะไม่มีวันไว้วางใจซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่แล้ว และผู้ที่อยู่ในระดับสูง ๆ ของบริษัทก็จะรู้สึกเหมือนกับว่ามองไม่เห็นอนาคตของบริษัทนี้อีกต่อไป และคนงานก่อสร้างก็จะคิดว่าพวกเขาจะไม่สามารถหาเงินได้จากที่นี่ด้วยเช่นกัน”
“นี่เป็นเพียงปฏิกิริยาลูกโซ่เท่านั้นเอง!”
“ถ้าคุณยังอยู่ที่นั่น คุณก็คงจะเพียงแค่ต้องแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ และสำหรับส่วนที่เหลือก็แก้ไขด้วยตนเองได้ไม่ยากนัก แต่น่าเสียดายที่ตระกูลเยตส์มีแต่คนโง่เขลา พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหานี้อย่างไร พวกเขารู้แค่วิธีเก็บเงินเอาไว้อย่างอดทนเพียงเท่านั้น”
ฮาร์วีย์แสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยามตระกูลเยตส์ที่มีความทะเยอทะยานสูง แต่มีชีวิตที่เปราะบางยิ่งกว่ากระดาษเสียอีก
พวกเขาต้องการหารายได้ แต่พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรเลย อีกทั้งพวกเขายังพยายามวางแผนใส่ร้ายผู้อื่นอีกด้วย
หลังจากที่แมนดี้ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์และคิดเกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมด เธอก็พยักหน้าและตอบกลับว่า “มีวิธีแก้ไขปัญหาตั้งมากมาย ตัวอย่างเช่น พวกเขาสามารถจำนองหุ้นทั้งหมดของตนในธนาคารและนำเงินสดใส่เข้าในบัญชีของบริษัท และด้วยเหตุนี้พวกเขาจะสามารถจ่ายเงินส่วนหนึ่งให้กับคนงานก่อสร้างได้โดยเร็วที่สุด และสิ่งต่าง ๆ ก็จะไม่ทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงจุดนี้”
“ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ แม้แต่ตอนนี้ฉันเองก็คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว!”
แมนดี้ถอนหายใจ อีกทั้งเธอยังจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยท่าทางที่แปลกไป
ผู้ชายคนนี้ดูน่าเชื่อถือเมื่อเขาพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมธุรกิจ อาจเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้ตระกูลเยตส์ต้องกลายมาเป็นแบบนี้
แต่เธอก็ยังไม่อยากที่จะเชื่อเลย ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม เขาจะสามารถทำเช่นนั้นได้จริง ๆ น่ะหรือ?
เว้นแต่ว่าฮาร์วีย์จะเป็นเจ้าชายยอร์กจริง ๆ เพราะไม่มีคนอื่นในเซาท์ไลท์นี้อีกแล้วที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้
…
ในอีกด้านหนึ่ง ตระกูลเยตส์ก็ได้มาถึงยังชั้นล่างของอาคารบริษัทสกายคอร์ปอเรชั่น อีกทั้งพวกเขายังบุ่มบ่ามที่จะเข้ามายังข้างในทันทีที่มาถึง
“ประทานโทษนะครับ พื้นที่นี้เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล คุณไม่สามารถเข้าและออกที่นี่ได้ตามอำเภอใจหรือโดยที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร ไม่ทราบว่าพวกคุณมาติดต่อเรื่องอะไรเหรอครับ?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้าได้เข้ามาขวางทางของพวกเขาเอาไว้ทันที
“พวกเรามาเพื่อพบกับแมนดี้ครับ” ฟินน์พูดขึ้นอย่างใจเย็น
“แมนดี้? เธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหรือเปล่า? ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินชื่อคน ๆ นี้มาก่อนเลยล่ะ?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีสีหน้างุนงง
“คือแบบนี้นะ แมนดี้น่าจะมาคุยกับบริษัทของคุณเกี่ยวกับธุรกิจบางอย่างของเธอ และที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาตามหาตัวเธอ” ฟินน์ตอบกลับ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตกตะลึงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
“คุณมีปัญหาอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าล่ะ? ผมจะยื่นเรื่องให้พวกคุณได้อย่างไร ในเมื่อเธอก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเรา”
“ถ้าพวกคุณอยากที่จะพบกับใครสักคนก็แค่โทรนัดหมายกับคน ๆ นั้นให้ไปพบสิ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงสีหน้าราวกับว่าเขากำลังพูดคุยอยู่กับกลุ่มคนบ้า
ฟินน์รู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“เป็นได้แค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำไมแกถึงได้พูดจาอวดดีนักนะ? ก็แค่ส่งคำขอของพวกเราไปให้แมนดี้ หยุดพูดเรื่องไร้สาระงี่เง่าได้แล้ว แค่ทำตามที่เราบอก!”
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?! ถ้าขืนแกยังไม่หุบปากเน่า ๆ ของแกนะ ฉันจะจับแกเข้าคุก คอยดู!”