ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 162
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 162
แมนดี้ โรซาลี และอีวอนน์ ผู้หญิงที่น่าทึ่งทั้งสามคนยืนอยู่รอบ ๆ ฮาร์วีย์ นั่นทำให้ผู้ชายหลายคนมองเขาอย่างอิจฉา
อีวอนน์ไม่สนใจสายตาของคนอื่นและมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้ม “มิสเตอร์ยอร์ก ฉันสนใจ ‘ภาพวาดยอดเขาแลนเดอร์ เทือกเขาร็อกกี’ ของคุณ ไม่ทราบว่าคุณพอจะส่งต่อมาให้ฉันได้ไหม”
ทุกคนที่นั่นเงียบไม่ส่งเสียงทันทีที่อีวอนน์พูดอย่างนั้น หลังจากนั้นไม่นานบางคนถึงกับอ้าปากค้างและอุทานด้วยความตกใจ
ถ้าตระกูลคลาวด์ เป็นเจ้าพ่อในเซาท์ไลท์ แล้วตระกูลยอร์กก็เป็นู้มีอำนาจเหนือเจ้าพ่อเหล่านั้นเสียอีก ผู้หญิงคนนี้ที่เป็นตัวแทนของยอร์ก ถ้าลูกเขยอย่างฮาร์วีย์ยังยืนยันยู่ที่จะปฏิเสธ เขาไม่รู้เลยว่าฮาร์วีย์จะต้องตายด้วยวิธีใด
หลายคนมองฮาร์วีย์อย่างใจจดใจจ่ออยากเห็นว่าเขาจะทำอย่างไร
ฮาร์วีย์พูดด้วยความสนใจ “มิสซาเวียร์ งั้นคุณเชิญเสนอราคามาได้เลย”
“เท่าไหร่ก็ได้ เราสามารถจ่ายได้ ท่านประธานของเราสนใจภาพวาดของคุณมาก” หลายคนอ้าปากค้างเมื่ออีวอนน์เอ่ยถึงคำว่าท่านประธาน
ท่านประธานคนใหม่ของยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เป็นคนลึกลับและมีอำนาจมาก
แมนดี้รู้สึกประหม่าเล็กน้อยต่อหน้าอีวอนน์และไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ในอีกด้าน เซซิเลียทำตัวน่ารังเกียจมากเกินไป เธอพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “สามีในอนาคตของฉันมีอำนาจมากจริง ๆ แม้แต่เลขาของเขาก็ทำตัวชอบออกคำสั่ง! ฉันชอบเธอจริง ๆ !”
ฮาร์วีย์แทบสำลักเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เซซิเลียน่าทึ่งจริง ๆ ! เธอพูดอะไรแบบนั้นได้ยังไง? เธอไม่กลัวหรือว่าอีวอนน์จะทำให้เธอกระอักตาย?
ดอว์สันมองฮาร์วีย์อย่างมีความหมาย เขาอาจเป็นคนเดียวที่นั่นที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ เขาไม่เข้าใจว่าฮาร์วีย์พยายามทำอะไรในตอนนี้ แต่เขารู้ว่าเขาฉลาดแค่ไหน เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเป็นเพื่อนกับฮาร์วีย์ แล้วเขาจะเปิดโปงฮาร์วีย์ได้อย่างไร?
ฮาร์วีย์ดูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ในตอนแรกผมคิดจะเก็บภาพวาดนี้ไว้ แต่เนื่องจากท่านประธานของคุณ สนใจมันมาก ผมจึงคิดว่ามจะส่งต่อภาพนี้ให้กับเขา”
“ฮะ!” ไวแอตต์เยาะเย้ย “ฮาร์วีย์ ถ้าคุณกลัวก็แค่พูดออกมา ไม่จำเป็นต้องแก้ตัว”
จากนั้นเจคก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์คุณกลัวเพราะสิ่งที่มิสเตอร์คลาวด์พูดงั้นเหรอ? ก่อนหน้านี้คุณไม่ทำตัวแข็งกร้าวไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงต้องการขายภาพวาดนี้ออกไปล่ะ? คุณก็แค่ไม่มีความสามารถแล้วยังทำตัววางมาดเย่อหยิ่งอีกเหรอ? ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงหาหลุ่มหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร? คุณคิดว่าทุกคนไม่รู้หรือว่าคุณกลัวแค่ไหน?”
เจคจงใจพูดเสียงดัง เมื่อเขาพูด หลาย ๆ คนรอบตัวเขาก็หัวเราะ
ฮาร์วีย์ไม่สนใจเขา เขาหันไปหาแมนดี้ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “ที่รัก คุณชอบแหวนรักนิรันดร์นั่นไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ ฉันชอบ” แมนดี้พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างอ่อนโยน “งั้นผมจะมอบมันให้กับคุณ”
หลังจากพูดจบฮาร์วีย์มองไปที่อีวอนน์และพูดว่า “ผมไม่ต้องการเงิน หากคุณสนใจภาพวาดนี้ ขอแลกกับแหวานรักนิรันดร์ที่คุณประมูลไปได้หรือไม่?”
อีวอนน์แสร้งทำเป็นว่าเธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการพิจารณาเรื่องนี้ก่อนจะค่อย ๆ พูดว่า “โอเค ฉันตกลง!”
อะไรนะ?!
ทุกคนไม่อยาจะเชื่อ
แม้ว่า ‘ภาพวาดยอดเขาแลนเดอร์ เทือกเขาร็อกกี’ จะเป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงในสายตาของทุกคน แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าของภาพนี้ พวกเขายังคงมีโอกาสที่จะได้มันมทตราบใดที่มันอยู่ในมือของเขา บางคนถึงขนาดจ้างคนมาแย่งชิงไปจากเขาทันทีที่การประมูลสิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันต่างออกไป ใครจะกล้าลงมือทำแบบนั้นในเมื่อ ‘ภาพวาดยอดเขาแลนเดอร์ เทือกเขาร็อกกี’ ตกอยู่ในมือของอีวอนน์
ยิ่งไปกว่านั้นฮาร์วีย์ยังเอาแหวนรักนิรันดร์มาต่อรองแลกเปลี่ยน ดังนั้นแม้แต่คลาวด์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ สุดท้ายแล้วมันก็ตกไปในมือของตระกูลยอร์ก ใครที่กล้ายุ่งกับข้อตกลงนี้ก็เหมือนจะดูหมิ่นตระกูลยอร์กเช่นเดียวกัน
ไม่มีใครในเซาท์ไลท์กล้าทำสิ่งนี้แน่นอน
สีหน้าเจคหมานหมองลง เขาไม่อยากจะเชื่อเลย!
เขาบอกแมนดี้ไปแล้วว่าเขาจะมอบแหวนเพชรรักนิรันดร์ให้เธอ แต่เขาไม่สามารถทำได้ ตอนนี้ฮาร์วีย์ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนี้โชคดีมากที่เขาสามารถประมูล ‘ภาพวาดยอดเขาแลนเดอร์ เทือกเขาร็อกกี’ ได้ในราคาเพียงสิบห้าดอลลาร์และยังแลกเป็นแหวนรักนิรันดร์ได้
นี่เขากำลังถูกเยาะเย้ยอยู่หรือเปล่า?
เจครู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาเป็นสายเลือด!
ได้ยังไง? ทำไมลูกเขยคนนี้ถึงได้ของที่เขาหาไม่ได้? ทำไม?
ความสามารถในการประเมินวัตถุโบราณเขาเพียงแค่โชคดีใช่มั้ย? ถ้าเขามีความสามารถจริง ๆ เขาคงมีสมบัติมามานไปนานแล้ว เขาจะมาเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลซิมเมอร์ทำไม?