ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 32
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 32
“ใช่ค่ะท่าน เขาเป็นแค่คนรู้จัก ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโทรหาดิฉัน” เวนดี้เอามือปิดโทรศัพท์และพูดอย่างระมัดระวัง
ฮาร์วีย์กระตุกยิ้มเล็กน้อย “บอกให้เขาไสหัวไป ”
“ได้ค่ะท่าน!” เวนดี้ถือโทรศัพท์แล้วเดินออกจากห้องทำงาน จากนั้นเธอก็ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา “ซีอีโอของเราบอกให้คุณไสหัวไปไกล ๆ ค่ะ!”
หลังจากนั้นเธอก็วางสายโทรศัพท ‘แซ็คช่างเป็นคนที่โง่เขลาจริงๆ!’
***
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ในตอนแรกแซ็คนั้นหยิ่งพยองเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ตอนนี้เขากลับต้องตกตะลึง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็แทบลุกพรวดขึ้นมา “ให้ตายเถอะ! เธอมันก็เป็นแค่ผู้จัดการเท่านั้น! เธอทำตัวเย่อหยิ่งกับฉันได้ยังไง! เธอคิดว่าเธอเป็นใครกันหะ? เธอจะบอกให้ฉันไสหัวไปได้อย่างไร? เธอดูถูกตระกูลซิมเมอร์ของเราแบบนี้ได้ยังไง!”
คนในตระกูลซิมเมอร์มองหน้ากันอย่างยอมจำนน ‘เมื่อกี้แซ็คยังได้ยินไม่ชัดงั้นเหรอ?’
‘เธออ้างว่าซีอีโอของเธอบอกให้คุณไหัวไปซะ’
“คุณปู่ครับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ล้ำเส้นเกินไป!” แซ็คกัดฟันกรอดอย่างเคืองโกรธ “พวกเขาช่างกล้าและทำกับตระกูลซิมเมอร์ของเราแบบนี้ได้อย่างไร เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาดูถูกเรา เราควรขอให้ใครสักคนไป…”
“หุบปาก!” ก่อนที่แซ็คจะพูดจบผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ก็ขัดจังหวะเขาขึ้นมาซะก่อน “อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก ฉันได้ยินมาว่าซีอีโอของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ ซีอีโอนี้อายุค่อนข้างน้อย แต่มีความสามารถ นั่นมันจึงเป็นเรื่องปกติหากซีอีโอค่อนข้างหยิ่งผยอง”
“ฉันพิจารณาแล้ว เนื่องจากเขายกเลิกการลงทุนทั้งหมดก่อนหน้านี้และเพิ่มเงินลงทุนอีกแปดร้อยล้านดอลลาร์ นั่นแสดงว่าเขาสนใจโครงการที่โดดเด่นที่มีคุณภาพ แล้วนี่อะไร? ในพวกแกมีใครที่เต็มใจจะเป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์ เพื่อไปเข้าพบซีอีโอคนใหม่และมีใครจะลองดูบ้างไหม”
‘อะไรนะ?’
พวกเขาต่างมองหน้ากันอย่างหมดหนทาง ‘เมื่อกี้ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ไม่ได้ยินสิ่งที่มิสซอร์เรลล์พูดงั้นเหรอ? เธอพูดอย่างชัดเจนว่าซีอีโอขอให้แซ็คไสหัวไปไกล ๆ ‘
‘ถ้าเราไปขอเงินลงทุนแบบนี้ มันจะไม่เหมือนกับการไปที่นั่นเพียงเพื่อให้อับอายขายหน้าหรอกหรือ?’
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์มีสีหน้าสลดลง เขารู้ดีว่างานมันค่อนข้างยาก หากพวกเขาไปขอเงินลงทุนด้วยตนเองพวกเขาอาจถูกปฏิเสธและได้รับความอับอายอีกครั้ง
แต่ปัญหาคือถ้าพวกเขาไม่คว้าโอกาสนั้น ตระกูลซิมเมอร์อาจจะไม่สามารถลุกขึ้นฟื้นตัวมาได้อีก
แซ็คเห็นว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์จับจ้องมาที่ตัวเอง สีหน้าของเขาแย่ลง ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “คุณปู่ครับ ทำไมเราไม่ขอให้แมนดี้ลองไปดูล่ะครับ?”
“แซ็ค! นาย!” แมนดี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างตกใจ ‘แซ็คช่างไร้ยางอายสิ้นดี เขากำลังถูกตำหนิ แต่ตอนนี้เขากลับที่จะผลักอีกคนออกไปรับแทน’
“มีอะไรผิดงั้นเหรอ” แซ็คพูดอย่างเย็นชา “เธอก็เป็นหนึ่งในตระกูลซิมเมอร์ไม่ใช่เหรอ นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าบริษัทที่เธอรับผิดชอบอยู่ต้องการเงินแปดแสนดอลลาร์ไม่ใช่หรือ? แม้ว่าเธอจะไม่สามารถดูแลบริษัทได้ดี แต่ตอนนี้เธอก็แค่ถูกขอให้ทำบางอย่างเพื่อตระกูลของเรา ฉันแน่ใจว่าเธอจะไม่ปัดความรับผิดชอบของเธอใช่ไหม?”
“นอกจากนี้ตระกูลของเรายังช่วยเลี้ยงดูสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอมาหลายปีแล้ว ฉันมั่นใจว่าเธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ฟรี ๆ โดยไม่มีเงินช่วยเหลือจากตระกูลหรอกใช่ไหม?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นแซ็คก็ยิ้มอย่างคนเหนือกว่าและพูดว่า “มิหนำซ้ำยังมีข่าวลือว่าซีอีโอเป็นผู้ชายด้วยนะ แมนดี้เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ลองไปดูสิ บางทีเธออาจจะประสบความสำเร็จกลับมาก็ได้”