ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 320
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 320
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอะไร ตอนนี้เธอทำได้ดีทุกอย่างแล้ว เธอสามารถแก้ปัญหาได้มากมาย เรื่องเล็กน้อยนี้ไม่น่าจะยากสำหรับเธอใช่ไหม?” แซ็คยิ้มและถาม
“ใช่! แซ็คพูดถูก ตอนนี้ใคร ๆ ก็บอกว่าเธอเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในตระกูลซิมเมอร์ และเธอเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการลงทุนจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ในเมืองนิอัมมี่นี้!”
“ถ้าเป็นแมนดี้ เธอจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!”
“แมนดี้ เราไม่ได้พยายามทำให้เธอเครียด บางครั้งความกดดันอาจกลายเป็นแรงจูงใจได้ เธอก็รู้ไหม?”
แมนดี้พูดไม่ออก
แซ็คจงใจทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับแมนดี้ สมาชิกหลายคนในตระกูลซิมเมอร์ ก็เห็นด้วยกับเขาหลังจากได้ยินแบบนั้น
เขาไม่ต้องการจัดการกับเรื่องที่น่าอับอายแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น แมนดี้ยังเข้มงวดกับการบริหารการเงินของบริษัท เมื่อไม่นานมานี้สมาชิกหลายคนในตระกูล ไม่สามารถโกยผลกำไรของบริษัทได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสในการพุ่งเป้าไปที่แมนดี้
“ตกลง ทุกคนหุบปาก!” ในบรรดาทุกคนในตระกูลตอนนี้มีเพียงผู้อาวุโสซิมเมอร์เท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อตระกูลซิมเมอร์เพียงใด
ผู้อาวุโสซิมเมอร์มักจะช่วยแซ็คปรามแมนดี้ แต่วันนี้เขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อแมนดี้ เขามองไปที่แมนดี้และพูดว่า “แมนดี้ไป พบเขาและทำให้ดีที่สุด แม้ว่าหลานจะล้มเหลว ปู่ก็จะไม่โทษหลาน”
นั่นเป็นเพราะผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้ว่าหากแมนดี้เต็มใจที่จะไปพวกเขาอาจยังมีโอกาส อย่างไรก็ตามหากเขาบังคับแมนดี้และเธอปฏิเสธที่จะไป ตระกูลซิมเมอร์ก็ไม่มีแม้แต่โอกาสเลย แม้ว่าเขาจะไม่พอใจแมนดี้ แต่เขาก็ต้องเกลี้ยกล่อมเธอ
แมนดี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด ยิ่งผู้อาวุโสซิมเมอร์ทำตัวแบบนี้เธอก็ยิ่งเครียด เธอรู้ว่าถ้าเธอล้มเหลวแซ็คและคนอื่น ๆ จะใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างในการข่มเธอ
แม้แต่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ที่ปฏิบัติกับเธออย่างดีในตอนนี้ก็ยังเปลี่ยนทัศนคติของเขาอีกครั้ง มันเป็นแบบนี้มาตลอด
ลิเลียนเม้มริมฝีปากแน่นอย่างเสียใจ นี่เป็นกับดักและพวกเขากำลังผลักแมนดี้เข้าไปในนั้น ไม่มีใครเต็มใจที่จะช่วยเธอ
“คุณปู่ หลาน…” ขณะที่แมนดี้กำลังจะพูดอีกครั้งฮาร์วีย์ก็ถอนหายใจและลุกขึ้นยืนทันที
“ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ให้ผมไป” ฮาร์วีย์ดูสงบ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากช่วยเหลือตระกูลซิมเมอร์เลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่ต้องการให้แมนดี้ต้องลำบาก
ทุกคนหัวเราะทันทีเมื่อเขาพูดแบบนี้ เขารู้หรือไม่ว่าจุดที่เขายืนอยู่มันเป็นแบบไหน? จะให้เขาได้พบกับนายใหญ่ไนส์เวลล์ในนามของตระกูลซิมเมอร์งั้นเหรอ? เขาควจะต้องถูกเตะออกมาแน่นอน!
“ฮาร์วีย์ ดูเหมือนว่านายลืมเอาสมองมาด้วยวันนี้ ให้นายไปจัดการงั้นเหรอ? มันไม่ทำให้ตระกูลซิมเมอร์อับอายเลยหรือไง?”
“ในเวลานั้น ไม่เพียงแต่ตระกูลซิมเมอร์จะต้องอับอาย แต่นายยังอาจทำให้พวกเขาไม่พอใจ ใครจะแบกรับความรับผิดชอบนั้นได้?”
“นายมันโง่มาก นายคิดว่านายสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์ได้งั้นหรือ?”
“ใช่ นายเป็นเพียงลูกเขยไร้ค่าของตระกูลซิมเมอร์ ถ้าไนส์เวลล์ คิดว่าเราไม่จริงใจ ผลที่ตามมาก็อาจจะคาดไม่ถึง!”
แซ็คยืนขึ้นและยิ้มอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์ นายเริ่มทำตัวโอหัง! เป็นเพราะแมนดี้ได้รับอำนาจใช่ไหม? นายคิดว่านายกลายเป็นคนสำคัญในตระกูลซิมเมอร์งั้นหรือ? นายเป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ ทำไมนายถึงเข้ามาแทรกแซงกิจการของเรา? เราควรให้นายเป็นซีอีโอของตระกูลซิมเมอร์เลยไหม?”
การแสดงออกของผู้อาวุโสซิมเมอร์มืดหมองลงเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น
แซ็คบอกใบ้ว่าถ้าเขาไม่ปล่อยให้เขาได้เป็นซีอีโอ ลูกเขยคนนี้ก็อาจจะกลายเป็นซีอีโอและแย่งทุกอย่างไปจากตระกูลซิมเมอร์
แซ็คค่อนข้างกล้าได้กล้าเสีย เขาถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนั้น
ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่พูดเะไร แต่เขาต้องการดูว่าแซ็คจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
“อย่างที่คุณบอกผมไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลซิมเมอร์ ผมได้รับเชิญจากตระกูลไนส์เวลล์ให้เข้าร่วมงานแสดงวัตถุโบราณ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าตระกูลซิมเมอร์ได้รับเชิญด้วย อย่างไรก็ตามผมยินดีที่จะพยายามเพื่อตระกูลซิมเมอร์เพื่อประโยชน์ของแมนดี้” ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยชา
“บ้าบอที่สุด” ควินน์ปิดปากของเธอขณะที่เธอกลั้นหัวเราะ “ฮาร์วีย์ นายเป็นคนที่น่าทึ่งมาก! นายกำลังพูดราวกับว่านายได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานนี้ นายไม่คิดว่าตัวเองโอ้อวดมากเกินไปหน่อยเหรอ?”
“ผมได้รับเชิญจริง ๆ และเป็นหญิงสาวจากไนส์เวลล์ที่เชิญผม” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น