ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 329
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 329
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ฮาร์วีย์ก็เหล่ตามอง ดูเหมือนว่าหลุยส์ไม่ได้เป็นมิตรกับเขาเลย
เมื่อคิดแบบนั้น ฮาร์วีย์ก็หันไปมองโรซาลี ด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอมันทำให้เกิดปัญหาอะไรกับเขาอีก?
เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองของฮาร์วีย์ สีหน้าเย็นชาของโรซาลีอ่อนลงและถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอขยิบตาให้เขาอย่างซุกซน
ฮาร์วีย์ยิ้มกลับอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ในขณะเดียวกันหลุยส์ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็กำหมัดแน่น ไอ้เวรนี่ไม่รู้หรือไง่ว่าไม่ควรยุ่งกับสุดที่รักของเขา? เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้!
ชาร์ลส์สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากหางตาของเขาและถอนหายใจ นักเรียนของเขาแพ้ชายหนุ่มคนนี้แล้วเพียงแค่ดูจากความสงบนิ่งและการกระทำ
แต่แน่นอนว่าชาร์ลส์ต้องช่วยหลุยส์ในฐานะสมาชิกในครอบครัวเขาจึงจ้องไปที่หลุยส์และบอกเขาว่า “หลุยส์ ที่ผ่านมาฉันสอนอะไรนายโดยตลอด? จงถ่อมตัวและอย่าแสดงความเย่อหยิ่งเพียงเพราะความสามารถและทักษะของนาย เข้าใจไหม?”
แต่เห็นได้ชัดในสายตาของฮาร์วีย์ว่าแม้ว่าชาร์ลส์กำลังั่งสอนนักเรียนของเขา แต่ความเชื่อและศรัทธาในตัวนักเรียนของเขาก็ไม่สามารถเก็บซ่อนได้ฟังดูจากน้ำเสียงในการพูดของเขา
“อาจารย์ ผมทนไม่ได้ที่คนบางคนทำเหมือนว่ารู้ทุกอย่างในเมื่อพวกเขาไม่ได้เป็นนักประเมินอยู่แล้ว ก็แค่เพียงเพราะแค่โชคเข้าข้างของเขาในครั้งที่แล้ว!” หลุยส์พูดออกมาอย่างไม่พอใจ
คำพูดของเขาสะกิดโรซาลีทันที และก่อนที่ฮาร์วีย์จะตอบกลับ
เธอจ้องไปที่หลุยส์และพูดว่า “มิสเตอร์ซาราเต้ อย่าคิดว่าตัวเองสูงเพียงเพราะความสามารถพื้น ๆ ของคุณ ทักษะของคุณเทียบไม่ได้เลยกับทักษะของฮาร์วีย์”
“โรซาลี ผมไม่อยากให้คุณหลงกลผู้ชายคนนี้…” หลุยส์ตอบเธอทันที
“คุณเป็นใครถึงเรียกฉันว่าโรซาลี? อย่าทำเหมือนว่าเราสนิทกัน” โรซาลีกล่าวอย่างเย็นชา
หลุยส์ตามจีบเธอมาเป็นเวลานาน ยิ่งกว่านั้นตระกูลของพวกเขาพยายามจับคู่ทั้งสองแต่งงานกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงพูดกับเธอในแบบนั้นได้
ก่อนหน้านี้โรซาลีเพิ่งพูดกับเขาอย่างดีเพราะได้รับแรงกดดันจากผู้อาวุโส แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่าหัวใจของเธอมีแต่ฮาร์วีย์ เธอไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
หลุยส์โกรธมาก และจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสายตาขุ่นมัว
ฮาร์วีย์ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก มันเป็นความผิดของหลุยส์ที่ไม่สามารถทำให้ผู้หญิงที่เขาเพ้อฝันพอใจได้ แล้วทำไมเขาถึงโกรธฮาร์วีย์? นอกจากนี้ฮาร์วีย์ก็ไม่ได้สนใจเธออยู่แล้ว
ในขณะนั้นเชนหัวเราะเบา ๆ และแสดงความคิดเห็นว่า “คนหนุ่มสาวทุกวันนี้เต็มไปด้วยเรี่ยวแรงพลังวังชา เราแก่แล้ว ถ้าเด็ก ๆ อยากเล่นก็ปล่อยให้เล่นเป็นไป ตราบใดที่ทุกคนยังอยู่ในเงื่อนไขที่ดี เราไม่ยุ่งในฐานะคนที่แก่แล้ว”
ชาร์ลส์มองเชนแล้วขมวดคิ้ว เขาบอกได้เลยว่าเชนพยายามปกป้องฮาร์วีย์เพราะกลัวว่าชาร์ลส์จะกลั่นแกล้งเด็กหนุ่มสาวด้วยสถานะและอายุของเขา
เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ ‘กลั่นแกล้ง’ ฮาร์วีย์อีกต่อไปและเขาก็ยิ้มให้แทน “นายพูดถูกไนส์เวลล์ คนหนุ่มสาวมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันตลอดเวลา แล้วทำไมนายไม่นั่งลงและลองดูว่าใครคือผู้ประเมินที่แท้จริงที่นี่ ในสาขาของเราของจริงมักจะเป็นของจริงและของปลอมมักจะเป็นของปลอมอยู่วันยังค่ำ”
หลุยส์จึงมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาโดยแสดงให้เห็นว่าเขาไม่กลัวใครเลยในอุตสาหกรรมการประเมินราคาวตถุโบราณ เขาค่อนข้างมั่นใจ
โรซาลีเลิกคิ้วด้วยความทึ่งกับความคิดนี้ จากนั้นเธอก็จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความคาดหวังและชื่นชมด้วยดวงตาที่สุกใสสวยงามราวกับแก้วของเธอ
เป็นความจริงที่ฮาร์วีย์ประเมินภาพวาดของ ‘เทือกเขาฟูชุน’ ได้สำเร็จ แต่เขาไม่เคยแสดงทักษะของเขาอีกเลยหลังจากนั้น
ฮาร์วีย์ถอนหายใจเมื่อรู้ว่าวันนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการแข่งขัน
เขาไม่ได้พยายามถ่วงเวลาอะไรให้มากกว่านี้และนั่งลงแทนพร้อมพูดว่า “ถ้าเป็นแบบนั้น ลองดูก็ได้ครับ ผมขอทราบได้ไหมว่าคุณต้องการให้เรามีการแข่งขันครั้งนี้ยังไง? โดยใช้อะไร?”
เชนครุ่นคิดสักครู่แล้วเดินไปที่ด้านข้างของชั้นวางหนังสือ หยิบกล่องไม้เก่า ๆ ออกมาวางบนโต๊ะ “นาฬิกาโบราณชิ้นนี้คือสิ่งที่ฉันได้มาระหว่างการเดินทางในนิอัมมี่ ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือไม่ ช่วยดูให้หน่อยแล้วกันได้ไหม?”
การประเมินนาฬิกาโบราณเป็นเพียงหนึ่งในการทดสอบที่พวกเขาต้องทำเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมการประเมิน แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เชนนำออกไปก็ต้องมีความหมายแฝงไว้ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทั้งฮาร์วีย์และหลุยส์ไม่ยอมปริปากถามแม้แต่คำเดียว
“กฎข้อเดียวคือพวกนายสามารถสังเกตได้ด้วยตาเท่านั้นโดยห้ามสัมผัส แล้วพวกนายบอกฉันว่าของจริงหรือของปลอม เริ่มได้” เชนเปิดกล่องไม้ด้วยรอยยิ้มความขี้เล่นของเขา