ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 387
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 387
ดวงตาของเจนเซ่น ซึ่งยืนอยู่ที่โพเดียมเกิดประกายความไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม เขาเก็บงำความลับไว้ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เอลล่า ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? เขาพูดเรื่องเหลวไหลอะไรแบบนี้ที่นี่ได้ยังไง? เขาไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันจริงจังแค่ไหน!” เกรกอรี่ซึ่งอยู่ไม่ไกลพูดอย่างไม่พอใจ
เกิดอะไรขึ้น?
ไม่ผิดถ้าเอลล่าจะพาผู้ชายมาที่นี่ถ้าเขาคนนั้นไม่ถามอะไรเหลวไหล แต่ตอนนี้ชายคนนี้กลับพูดเป็นนัยว่าเจนเซ่นเอาผลงานของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง
เขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหางั้นเหรอ?
ในตอนนี้เกรกอรี่โกรธมาก!
บางเรื่องไม่สามารถพูดโดยไร้ซึ่งหลักฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้!
ผลที่ตามมาอาจร้ายแรงมาก
มันจะเปลี่ยนช่วงเวลาที่ควรจะเป็นเรื่องราวที่สวยงามให้กลายเป็นเรื่องตลกร้ายสำหรับทุกคน
“เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนคุณจะไม่ใช่คนที่ทำงานด้านการแพทย์ ถ้าคุณพูดจาลวก ๆ แบบนี้ ผู้อำนวยการคาร์ลสันสามารถฟ้องคุณข้อหาหมิ่นประมาทได้ คุณรู้ใช่ไหม?”
“พ่อหนุ่ม ระวังปากของคุณไว้ก็ดี! อย่าพูดเรื่องเหลวไหลอะไรที่นี่!”
“รีบไปขอโทษ ดร.คาร์ลสันซะ ถ้าไม่ใช่เพราะจะยังรักษามารยาทต่อ ดร.คาร์ลสัน เราคงสั่งให้หน่วยรักษาความปลอดภัยมาจับคุณออกไปตอนนี้…”
เสียงของทุกคนพูดประณามเขาออกมาจากทุกที่
ทั้งยังมีหมอหนุ่มสองสามคนจ้องไปที่ฮาร์วีย์ในจังหวะที่พวกเขาเดินผ่านราวกับว่าพวกเขาจะลงมืออะไรทันทีที่ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วย
ถึงอย่างนั้นเจนเซ่นมาจากตระกูลด้านการแพทย์และเรียนรู้ฝึกฝนจากเกรกอรี่นักบุญที่มีชื่อเสียงของโรงพยาบาลประจำมณฑล หลายคนต้องเข้าข้างเขา
เกรกอรี่ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาก้าวเดินไปข้างหน้าและกระแอ่มไอ จากนั้นเขาก็พูดว่า “เอลล่า ฉันไม่แน่ใจว่าเพื่อนของคุณเป็นอะไร ตอนนี้เราไม่ต้อนรับเขาแล้ว ขอให้เขาออกไปเถอะ”
เกรกอรี่กลัวว่าเรื่องต่าง ๆ จะแย่ลงไปอีก แต่เขายังคงพูดจาสุภาพอยู่
อย่างไรก็ตามหมอคนอื่น ๆ ไม่ค่อยจะอารมณ์ดีเท่าไหร่ คนที่ต้องการประจบเจนเซ่น เริ่มกดดันฮาร์วีย์และพยายามบีบเขาออกจากที่นี่ราวกับว่าพวกเขาจะหักแข้งหักขาเขาถ้ายังไม่ออกไป
ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว ตอนแรกเขาไม่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ถ้าไม่ใช่เพราะคำเชิญของเอลล่า เขาก็ไม่สนใจเข้าร่วมการสัมมนาทางการแพทย์นี้แน่นอน
ตอนนี้ฮาร์วีย์เริ่มที่จะอารมณ์เสียเพราะมีคนมุ่งประเด็นมาที่เขา
เขาดูเอกสารในมืออีกครั้งและพูดอย่างเย็นชาว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้แต่คนที่เอาผลงานวิจัยของคนอื่นมาเป็นของตนเองก็ยังได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมาย พวกคุณอยู่ในวงการแพทย์ คุณไม่ละอายใจบ้างหรือไง?”
เกรกอรี่ผู้ซึ่งสงบนิ่งในตอนแรกพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณต้องรับผิดชอบคำพูดที่เหลวไหลของคุณ!”
เอลล่าไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอพลิกดูเอกสารในมืออย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็กระซิบว่า “ฮาร์วีย์ ข้อมูลในเอกสารนี้มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?”
เอลล่าไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และเหตุใดเธอจึงไว้วางใจคนนอกวงการแพทย์ถึงเพียงนี้ เธอรู้สึกว่าฮาร์วีย์มีเหตุผลของเขาที่จะพูดคำเหล่านั้นออกมาอย่างแน่นอน
เจนเซ่นเสียใจมากเมื่อเห็นการกระทำตรงหน้านี้
ผู้หญิงที่เขาชอบกลับเชื่อในคำพูดของคนอื่น!
เขาเป็นเด็กหนุ่มไฟแรงที่มีชื่อเสียงในวงการด้านการแพทย์ในเซาท์ไลท์ ผู้หญิงคนนี้จะพาเขามาเพื่ออะไร?
ฮาร์วีย์เหลือบมองไปที่เอลล่าและพูดอย่างใช้ความคิดว่า “เราไม่ต้องพูดถึงข้อผิดพลาดหรือความถูกต้องในแนวคิดชุดนี้ แต่ถ้าผมจำไม่ผิดมีงานวิจัยคล้าย ๆ กันนี้เมื่อห้าปีก่อน ใช่ไหม?”
“ยิ่งไปกว่านั้น คน ๆ นั้นได้ทุ่มเทความพยายามอย่างมากในโครงการนี้ ผมไม่เข้าใจว่าจู่ ๆ มันก็กลายเป็นผลการวิจัยของคนอื่นได้ยังไง?”
ฮะ?
เขาหมายถึงอะไร?
เขากำลังกล่าวหาว่าเจนเซ่นขโมยผลการวิจัยของคนอื่นมางั้นเหรอ?
ที่สำคัญเขาพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องจริง
เกิดความโกลาหลในฝูงชนทันที หลาย ๆ คนกำลังพูดถึงประเด็นนี้อย่างดุเดือด
การคัดลอกหรือปลอมแปลงข้อมูลทางวิชาการเป็นความผิดร้ายแรง ชายหนุ่มคนนี้เพิ่งจะพูดอะไรออกมาเป็นนัยให้สงสัย
ฮาร์วีย์พุ่งประเด็นไปที่เจนเซ่นที่บอกว่าเขาได้ขโมยผลงานวิจัยของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง และดูเหมือนว่าวันนี้คงจะเกิดปัญหาขึ้นเป็นแน่