ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 46
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 46
ฮาร์วี่ย์ ยอร์ก ครุ่นคิดสักพักและพูดว่า “ผมค่อยกลับไปหลังจากนี้… ”
“มีอะไรหรือเปล่า?” แมนดี้ ซิมเมอร์ ใคร่อยากรู้ว่าสามีของเธอ เจ้าลูกเขยที่ไม่เคยออกไปไหนเลยในช่วงสามปีที่ผ่านมา เขาจะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?
ฮาร์วี่ย์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะบอกออกไปว่า “ผมจะไปทำงานครับ ผมจะทำอะไรได้อีกนอกจากนั้นล่ะ?”
“งานอะไรคะ?” แมนดี้รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ในที่สุดสามีที่ไร้ประโยชน์คนนี้ ก็เริ่มคิดที่จะพัฒนาตัวเองหลังจากผ่านมาสามปี
ฮาร์วี่ย์ยักไหล่และพูดว่า “ผมทำงานเป็นผู้ช่วยของเพื่อนร่วมชั้นที่ให้ผมยืมเงิน เขากลับมาที่นิอัมมี่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อกี้ผมก็มาช่วยเขาซื้อรถ”
ทันใดนั้นแมนดี้ก็นึกขึ้นได้และถามอย่างสงสัยว่า “เขาทำธุรกิจอะไร? ถ้าเขาทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างบางทีเขาอาจจะทำงานร่วมกับครอบครัวของเราได้”
แมนดี้รู้สึกกระตือรือร้นเล็กน้อยในขณะที่พูดถึงเรื่องนี้ เธอกลัวว่าฮาร์วี่ย์จะบอกเธอว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขาทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ท้ายที่สุดแมนดี้ก็รู้ดีว่าเธอไม่มีอิทธิพลใด ๆ ในตระกูลซิมเมอร์อีก แล้วนับประสาอะไรกับฮาร์วี่ย์
“เป็นเพียงบริษัทลงทุนเล็ก ๆ และยังไม่ดีพอที่จะแข่งขันในตลาด” ฮาร์วี่ย์พูดอย่างเป็นเรื่องธรรมดา ๆ แม้ว่าเขาต้องการเปิดเผยความจริงสักเสี้ยววินาที แต่เขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมพอเมื่อได้คิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
เขาสังเกตเห็นว่าแมนดี้ค่อย ๆ เปลี่ยนมุมมองของเธอที่เคยมีต่อเขาในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอคงมีความรู้สึกดี ๆ ต่อเขาบ้าง
ถ้าเป็นไปได้ฮาร์วี่ย์ก็คาดหวังว่าแมนดี้จะชอบเขาในแบบที่เขาเป็น ณ ปัจจุบัน เขาไม่ต้องการให้แมนดี้ปฏิบัติต่อเขาแตกต่างออกไปเพียงเพราะจู่ ๆ เขาก็กลับมาร่ำรวยอีกครั้ง
แมนดี้รับรู้ได้และเธอก็หยุดถามทันทีหลังจากเห็นฮาร์วี่ย์ลังเลที่จะพูดอะไรอีก เธอคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “ตอนนี้คุณก็เริ่มทำงานแล้ว ฉันจะบอกแม่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำงานบ้านที่บ้านแล้ว เราสามารถจ้างสาวใช้ได้”
“โอเคครับ มันอยู่ที่การตัดสินใจของคุณ” ฮาร์วีย์พยักหน้าตอบรับ
แมนดี้คิดสักพัก ทันใดนั้นเธอก็จ้องไปที่ฮาร์วี่ย์และพูดว่า “ฮาร์วี่ย์ ฉันขอถามอะไรคุณหน่อย วันนั้นตอนนี้คุณถูกขอให้เป็นตัวประกันแทนฉันและตระกูลซิมเมอร์ก็ปฏิบัติกับคุณเช่นนั้น คุณโกรธพวกเราหรือเปล่า?”
“โกรธสิ” ฮาร์วี่ย์ตอบ เขาพูดต่อหลังจากเห็นการท่าทีที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของแมนดี้ “แต่ผมไม่โกรธคุณ…”
“ทำไมล่ะ?” แมนดี้ถามออกมาโดยทันที
“ก็เพราะคุณเป็นภรรยาของผม” ฮาร์วี่ย์ยิ้มอย่างจริงใจ “นั่นคือสิ่งที่ผมควรทำไม่ใช่เหรอ?”
ใบหน้าของแมนดี้แดงก่ำเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา เธอไม่รู้ว่าเธอเขินหรืออาย
บรรยากาศระหว่างพวกเขาสองคนกลายเป็นความคลุมเครือเล็กน้อย
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของแมนดี้ก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศ…
แมนดี้รับโทรศัพท์อย่างเก้ ๆ กัง ๆ เล็กน้อย จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฮาร์วี่ย์ ฉันต้องกลับไปที่บริษัทเพื่อจัดการกับบางอย่าง…คุณจะติดรถไปด้วยไหม?”
“ไม่เป็นไร ที่ ๆ ผมทำงานอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง” ฮาร์วี่ย์ส่งยิ้มตอบ
“เอางั้นก็ได้…อย่าลืมกลับมาทานอาหารเย็นในคืนนี้นะคะ” แมนดี้หน้าแดงและขับรถออกไปทันทีหลังจากพูดแบบนั้น เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะขอให้ฮาร์วีย์กลับบ้านเพื่อมารับประทานอาหารค่ำด้วยกัน
ฮาร์วี่ย์ยิ้มเล็กน้อยอย่างสุขใจมองดูรถปอร์เช่สีแดงขับออกไปแล้ว แมนดี้อาจจะกลายมาเป็นภรรยาที่จริง ๆ ของเขาในไม่ช้านี้ก็ได้
***
ในขณะเดียวกันในเมืองยานยนต์ แองเจิล จะระบายความโกรธออกมาเธอจึงหาข้ออ้างและแอบออกไป
แม้ว่าเควินจะโกรธเล็กน้อย แต่เขาก็จำได้ว่าเขายังมีงานต้องที่ทำ ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงไม่สนใจแองเจิล เขารวบรวมกฝผู้บริหารระดับสูงในบริษัทเพื่อเข้าแถวด้านนอกห้องโถงจัดแสดงรถและรอรับการมาถึงของท่านประธานจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส?
น่องขาของหลาย ๆ คนเริ่มเจ็บหลังจากรอมานานกว่าสิบนาทีแล้ว และดูเหมือนว่ายังไม่มีวี่แววเลย
“ทำไมเขายังไม่มา? เป็นไปได้ไหมที่เขาจะไม่มาแล้ว?” เควินมีประเด็นบางอย่าง การลงทุนจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ มีความสำคัญมากสำหรับเมืองแห่งยานยนต์ของเขา หากไม่มีเงินสำหรับการหมุนเวียนของเงินทุนของเมืองยานยนต์ของเขาจะล้มละลายในไม่กี่นาที
เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะอดทนรอและรีบโทรหาอีวอนน์
“สวัสดีครับ นี่มิสซาเวียร์ใช่ไหม? ใช่ ๆ ผมคือมิสเตอร์ควินน์ ซีอีโอของเมืองยานยนต์ ในตอนเช้าคุณบอกผมว่าม่านประธานของคุณต้องการมาเยี่ยมชมบริษัทของเราและให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานของเรา” เควินกล่าวอย่างสุภาพ เขายังคงพยักหน้าและโค้งคำนับแม้ว่าเขาจะคุยผ่านโทรศัพท์ก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ มิสซาเวียร์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ใช่ค่ะ ท่านประธานออกไปที่นั่นเกือบจะหนึ่งชั่วโมงแล้ว”
“อะไรนะ? เขามาแล้วงั้นเหรอ? แต่ทำไมผมไม่เห็นใครเลย” เควินงุนงง “มิสซาเวียร์ ผมไม่รู้ว่าท่านประธานของคุณหน้าตาเป็นอย่างไรและเขาขับรถอะไรมา จะเป็นไรไหมถ้าคุณจะให้เลขทะเบียนรถของเขา?”
อีวอนน์ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและบอกว่า “ท่านประธานคนใหม่ของเราเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว ยังไงเขาก็ตาม เขาเป็นคนที่มีรูปร่างสูงและผอม ดูเหมือนเขาจะอายุยี่สิบต้น ๆ ถ้าคุณเห็นใครบางคนขี่รถจักรยานไฟฟ้าที่ขาดรุ่งริ่งนั่นคือเขาเอง”