ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 701
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 701
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่โจเอล ฟลินน์ด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา
ในขณะที่เขาได้บอกคุณค่าของนาฬิกาโบราณนั้นออกมา อีกทั้งมันก็ยังเป็นสมบัติของคนที่ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย
ในเวลาเพียงไม่นานนัก สีหน้าของฮาร์วีย์ ยอร์กก็ได้กลับกลายเป็นเย็นชาราวกับพายุหิมะที่กำลังจะโหมกระหน่ำ
ซีนเธียร์ ซิมเมอร์และโรซาลี ไนส์เวลล์ ทั้งสองเหลือบไปมองที่ฮาร์วีย์ ยอร์กโดยอัตโนมัติ
ทั้งสองสัมผัสได้ถึงออร่าความปราถนาที่จะฆ่าใครบางคนในแววตาของเขา
ในทางกลับกันทั้งโจเอล ฟลินน์และบรูซ คลาวด์ พวกเขานั้นไม่เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กอยู่ในสายตาของพวกเขาด้วยซ้ำ ทั้งสองจึงไม่ทันสังเกตเห็นออร่าที่เต็มเปี่ยมจนแทบจะเอ่อล้นออกมาในสายตาคู่นั้น
ในขณะเดียวกัน ภายในใจของฮาร์วีย์ ยอร์กนั้นมันเต็มไปด้วยความเจตนาและความปราถนาที่จะฆ่า
สิ่งของของเพื่อนรักของเขาไม่เพียงแต่ถูกกระจายออกไปเท่านั้น แต่ยังมีคนที่คิดจะนำมันไปเป็นของขวัญมอบให้กับบุคคลอื่นอีกด้วย!
โจเอล ฟลินน์โบกมือขึ้น และลูกน้องของเขาก็ถือกล่องนิรภัยออกมาอย่างระมัดระวัง
โรซาลี ไนส์เวลล์ เธอเดินเข้าไปและเหลือบมองสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า “ใช่แล้ว นี่คือนาฬิกาปาเต็ก ฟิลีปป์รุ่นโบราณที่หายากจริง ๆ”
โจเอล ฟลินน์ยิ้มกว้างหลังจากที่ได้รับการยืนยันจากเธอ
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมก็สบายใจ ผมจะเข้าไปในไม่ช้าครับคุณไนส์เวลล์ อีกสักครู่เจอกันนะครับ”
หลังจากที่โจเอลพูดจบ เขาก็ออกไปพร้อมกับนาฬิกาและลูกน้องของเขาทันที
ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ เธอเอ่ยถามเบา ๆ ว่า “พี่เขย ทำไมพี่ถึงได้โกรธมากขนาดนั้นล่ะ? สิ่ง ๆ นั้นมันเกี่ยวข้องกับพี่หรือเปล่า?”
ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างเย็นชาว่า “วิลเลียม เบลล์ เขาเป็นเพื่อนรักของผมในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยน่ะ”
ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ เธอตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นและพูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ยังไงก็ช่างเถอะพี่ โกรธไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก!”
“นั่นมันเป็นของขวัญสำหรับพันโทอีธาน เราจะเอามันคืนมาไม่ได้!”
ฮาร์วีย์ ยอร์กตอบกลับเธออย่างใจเย็นว่า “ไม่เป็นไร ผมจะได้นาฬิกาเรือนนั้นคืนมาเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน”
“ฮาร์วีย์ ยอร์ก คุณนี่มัน…!”
โรซาลี ไนส์เวลล์ถอนหายใจออกมา เธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่ฮาร์วีย์ ยอร์กนั้นไร้ซึ่งความสามารถ
บรูซ คลาวด์ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้เมื่อเขาได้ยินบทสนทนานั้น
“นายจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้มันกลับมาเหรอ?”
“นายกำลังคิดว่านายเป็นพันโทอีธานอยู่หรือเปล่า?”
ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างใจเย็นว่า “อีกสักพัก อีธาน ฮันต์ก็จะมอบนาฬิกาเรือนนั้นให้กับผมด้วยตัวของเขาเอง”
“เฮ้อ! เพื่อน! ถ้านายหยุดโม้ได้ ฉันอาจจะยังเห็นนายเป็นคนปกติทั่วไปได้อยู่!”
บรูซ คลาวด์ส่ายหัวและมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยความรังเกียจ
‘ผู้ชายคนนี้กำลังคุยโวโอ้อวดในสิ่งที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ออกมา’
‘เขาคงไม่สนใจแม้กระทั่งชื่อเสียงของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ถึงขนาดที่สามารถพูดอะไรที่ไร้สาระเช่นนี้ออกมาได้!’
“เราไปจากที่นี่กันเถอะพี่เขย อย่าไปใส่ใจเขาเลย!”
ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ เธอไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป
‘แม้ว่าพี่เขยของฉันจะไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ แต่ทำไมเขาถึงพูดออกไปแบบนั้น? หรือว่าเขาเพียงแค่จะพูดสั่งสอนคนพวกนั้นที่มาเยาะเย้ยเขาเหรอ?’
เมื่อพวกเขากำลังเดินออกจากห้องโถง กลุ่มคนจากตระกูลยอร์กก็ปรากฏตัวต่อหน้าของพวกเขา
ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าสุดคือโยนาธาน ยอร์กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตามมาด้วย ควินตัน, สตีเฟ่น, และ ควินนี่ ยอร์ก ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
“คนพวกนี้เป็นใครเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงดูเหมือนกับพวกผู้มีอิทธิพล?” ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ เธอเอ่ยถามเบา ๆ ราวกับกระซิบ เธอไม่เคยเห็นบุคคลเหล่านี้มาก่อนเลย
สายตาของฮาร์วีย์ ยอร์กกวาดไปรอบ ๆ ก่อนที่จะสบตากับโยนาธาน ยอร์ก
โยนาธาน ยอร์กยิ้มเย้ยเบา ๆ
ควินตัน ยอร์กที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนหน้านี้ เขาได้เข้ามาหาฮาร์วีย์ทันทีพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เย็นยะเยีอก
“ว่าไง พ่อหนุ่มลูกเขยของซิมเมอร์”
“ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนายมามากมาย! แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน แต่ก็รู้สึกราวกับว่าเรารู้จักกันมาแล้วทั้งชีวิต!”
“ช่างเป็นเกียรติของผมเสียจริง ๆ ที่ท่านควินตัน ยอร์กรู้จักผมด้วย”
ควินตัน ยอร์กหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ผมได้ยินมาว่าพวกคุณคือสี่ผู้ลือชื่อแห่งตระกูลยอร์ก แล้วอีกท่านล่ะครับ?”
“หรือว่าเขาถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่ายอร์กไม่ได้?”
ควินตัน ยอร์กตอบกลับด้วยรอยยิ้มพรางพูดขึ้นว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก นายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน สี่ผู้ลือชื่อแห่งตระกูลยอร์กมักอยู่ด้วยกันตลอดจนเป็นเอกลักษณ์สินะ เวย์นเขามีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มาด้วยในวันนี้”
“อย่างนั้นเองหรอกหรือ?”
“เขาอาจจะกำลังทำสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่ก็ได้ในตอนนี้ บางอย่างที่สำคัญกว่างานเลี้ยงนี้?”
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม