ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 708
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 708
อีธาน ฮันต์หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คนเดียวที่สมควรนั่งที่ตรงนี้ในงานนี้คงจะไม่ใช่ฉัน…”
“ยังมีคนอื่นอีกเหรอ?”
“ใครคือคน ๆ นั้นกัน? โปรดช่วยประทานความกระจ่างแก่พวกเราที่เถอะ ผู้พันฮันต์!” โยนาธาน ยอร์กเอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้
“อืมมมม ถ้าคน ๆ นั้นไม่เปิดเผยตัวเองขึ้นมา ฉันเองก็คงไม่กล้าที่จะพูดชื่อของเขาออกมา”
อีธานมีใบหน้าที่ดูลึกลับอย่างมาก
“และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็อยู่ในงานนี้แล้ว และฉันก็เห็นเขาแล้วด้วย!”
“อะไรกัน?! มีใครบางคนที่มีสถานะสูงกว่าพันโทฮันต์ในงานนี้อีกเหรอเนี่ย?”
“และประเด็นสำคัญคือคน ๆ นั้นดำรงตำแหน่งสูงกว่าผู้พันฮันต์ แม้แต่คนระดับเขาก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะบอกเราว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร?”
ในขณะนั้น ในงานกลับกลายเต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหล แม้แต่คุณย่ายอร์กที่อยู่ภายในห้องส่วนตัวก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองออกมาผ่านช่องว่างระหว่างหน้าต่าง
เธอยังต้องการรู้อีกว่าคนที่มีสถานะใหญ่โตขนาดไหนกันที่มาที่บัควู้ด
หวังว่ามันคงจะไม่ใช่คนสำคัญที่มาจากโวลซิ่งใช่ไหม?
“ผู้พันฮันต์ ต้องขออภัยสำหรับการเสียมารยาท แต่ฉันขอทราบชื่อของคนผู้นั้นได้ไหม?”
ภายในห้องส่วนตัว คุณย่ายอร์กพูดด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง แต่ก็ทำให้ความโกลาหลในงานเงียบสงบลงแทบจะในทันที
คุณย่ายอร์กเคยควบคุมปกครองตระกูลยอร์กทั้งหมดมาเป็นเวลาหลายสิบปี และในตอนนี้อายุอานามของเธอก็ปาไปร้อยปีแล้ว
คนอย่างเธอเคยผ่านร้อนผ่านหนาวพบเห็นสิ่งต่าง ๆ มามากมายตลอดช่วงชีวิต จนในตอนนี้มันแทบจะทำให้ตัวเธอเองคือประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิต
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคุณย่ายอร์กแล้ว แม้แต่อีธานเองก็ไม่กล้าลังเลที่จะตอบคำถามของท่าน เขาประสานมือเข้าด้วยกันและหันไปทางท่านก่อนที่จะกล่าวว่า “เพื่อตอบคำถามของคุณย่ายอร์ก ผู้ชายคนนี้คือตำนานในหมู่กองกำลังติดอาวุธ เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตจริง ๆ !”
“อะไรนะ?!”
“ตำนานในหมู่กองกำลังติดอาวุธเหรอ?”
“เขาเป็นคนสร้างค่ายศัสตราวุธในตำนานเหรอ?”
ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างไปชั่วขณะ…
ทุก ๆ คนในงานต่างก็อึ้งปนสงสัย
เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ ถึงได้รับการจดจำและยอมรับจากชายผู้ยิ่งใหญ่อย่างอีธาน?
แม้ว่าตระกูลยอร์กอาจจะมีอำนาจที่เหลือล้น แต่อย่างไรก็ตาม โยนาธาน, ควินตัน, และสตีเฟน ยอร์ก พวกเขาต่างทำได้เพียงจ้องมองกันและกันไปมา ขณะเดียวกันเม็ดเหงื่อก็เริ่มผุดขึ้นและไหลอยู่บนหน้าผากของพวกเขา
ระดับตระกูลยอร์กจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามีคนที่น่านับถือระดับคน ๆ นั้นอยู่ในบริเวณนี้ตลอดเวลา?
นี่มันช่างน่าประหลาดใจเสียจริง ๆ
หากชายที่อีธานกล่าวถึงไม่พอใจกับการจัดเตรียมงานและที่นั่งในคืนนี้ ตระกูลยอร์กจะได้รับผลกระทบอย่างไร?
โยนาธานแสดงสีหน้าจริงจังและเคร่งขรึมพร้อมกับเอ่ยถาม
“ผู้พันฮันต์ คุณช่วยบอกเราหน่อยได้ไหมครับ ว่าชายผู้มีชื่อเสียงคนนั้นอยู่ที่ไหน? พวกเราตระกูลยอร์กยินดีที่จะต้อนรับเขาอย่างสมเกียรติที่สุดอย่างแน่นอน!”
อีธานตอบอย่างใจเย็นว่า “คุณไม่คู่ควรที่จะทำการต้อนรับเขา ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนไปต้อนรับเขาด้วยตัวเอง!”
อีธานก้าวออกไปในขณะที่บรรดาผู้สูงศักดิ์ของตระกูลยอร์กก็รีบตามหลังเขาไปติด ๆ
แม้แต่ไคล์ ควินแลน, โยเอล เกรฮัม และคนอื่น ๆ ต่างก็ยืนขึ้นโดยอัตโนมัติและปฏิบัติตาม
สายตานับพันคู่จับจ้องมาที่อีธาน
ทุกคนต่างก็สงสัยว่าผู้ชายที่อีธานพูดถึงคือใคร!
อีธานเดินผ่านผู้คนในแถวหน้าขณะที่มุ่งหน้าไปทางด้านหลัง
นี่อาจหมายความได้ว่าไม่มีใครที่นั่งแถวหน้าเลยที่เป็นคนที่อีธานได้กล่าวถึง
ในขณะเดียวกัน คนที่นั่งตรงกลางและแถวหลังเริ่มอยู่ไม่สงบ
ทุกคนต่างจ้องหน้ากันไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร
แม้แต่โรซาลี ไนส์เวลล์ เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ใครคือคนที่อีธาน ฮันต์พูดถึงกัน?”
บรูซ คลาวด์ก็มีสีหน้าตกใจเช่นเดียวกัน “ถ้าเรามีความสัมพันธ์กับชายที่ผู้พันฮันต์กำลังพูดถึงมันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีสุด ๆ เลยทีเดียว!”
“เมื่อกี้เราไม่ได้แกล้งใครไว้ใช่ไหม?”
บรูซมองดูผู้คนรอบ ๆ ตัวที่ดูสงบและสังเกตว่ามีใครในนั้นที่พอจะมีแววเป็นคนที่อีธานพูดถึงหรือไม่
มันช่างเป็นความอัปยศอดสูเหลือเกินที่อีธานเดินผ่านที่นั่งของพวกเขาไป ซึ่งนั่นมันก็ได้ทำให้บรูซรู้สึกผิดหวังขึ้นมาในทันที
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้เสียโอกาสที่จะได้รู้จักชายคนนั้นไปเสียแล้ว