ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 748
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 748
ลิเลียนหงุดหงิดมากที่ได้ยินฮาร์วีย์พูด เธอมองไปที่เขาแล้วพูดด้วยอารมณ์ว่า “ฉันไม่ได้เพิ่งบอกไปเหรอไง!”
“พี่ชายของฉันเป็นหัวหน้าตระกูลเยตส์และเป็นผู้บัญชาการลำดับสามแห่งเซาท์ไลท์!”
“แกจะบอกว่าผู้บัญชาการลำดับสามแห่งเซาท์ไลท์จะมาส่งบัตรเชิญให้แกเป็นการส่วนตัวเหรอ?”
“ใช่ครับ” ฮาร์วีย์ตอบออกมาอย่างเฉยเมย “ตอนแรกผมปฏิเสธ แต่เพราะแมนดี้อยากไป ผมจะให้เขามาส่งบัตรเชิญร่วมงาน”
ลิเลียนและไซม่อนต่างตกอยู่ในอารมณ์โกรธ
พวกเขาเคยเห็นผู้คนชอบคุยโอ้อวด แต่ไม่เคยถึงขนาดนี้
มันเป็นเพียงการโกหกของฮาร์วีย์แต่ดูเหมือนกับความจริงมาก
ลิเลียนไม่มีอารมณ์จะโกรธไปมากกว่านี้ แต่เธอเหลือบมองแมนดี้และพูดว่า “แมนดี้ ในฐานะแม่ แม่ขอเกลี้ยกล่อมลูกอีกครั้ง คนโกหกแบบนี้พูดอะไรดูใหญ่โตได้เท่านั้นแต่ไม่ได้ทำอะไรจริง ๆ ลูกน่าจะไล่เขาออกไปตั้งนานแล้ว!”
ไซม่อนก็เดินหลีกหนีออกไป เขาถูกกำหนดให้มีชีวิตที่น่าสังเวชเพราะต้องเข้าไปพัวพันกับลูกเขยที่ไร้ประโยชน์แบบนี้
แมนดี้ยังคงโกรธอยู่
มีเพียงซีนเธียร์ที่มีท่าทีนิ่งสงบ เธอรู้ตัวตนของพี่เขยของเธอ ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าเขาพูดความจริง
ลุงของเธอซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาอันดับสามแห่งเซาท์ไลท์อาจจะต้องให้เกียรติพี่เขย ยังไงซะพี่เขยเธอเป็นบุคคลในตำนาน!
กลับมาที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นท์ ฮาร์วีย์โทรหาอีวอนน์
อีกด้านอีวอนน์รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย “ท่านคะ ดิฉันได้ยินมาว่าปู่ของดิฉันไปพบท่านเมื่อสองวันก่อน”
ฮาร์วีย์หัวเราะ “ผู้เฒ่าซาเวียร์มาถามเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ผมบอกเขาไปแล้วว่าเราเป็นแค่หัวหน้าและลูกน้อง”
“ยังไงก็ตาม บอกคีธว่าผมจะไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิด”
“รับทราบค่ะ!”
คืนที่เงียบสงบผ่านพ้นไป
วันรุ่งขึ้น ณ สกาย คอร์ปอเรชั่น
ออดี้ เอ6 ป่ายทะเบียน 00003 จอดอยู่ในมุม ๆ หนึ่งชั้นล่าง
ภายในออฟฟิศของประธานบริษัทชั้นบนสุดของสกาย คอร์ปอเรชั่น ชายวัยกลางคนผู้สง่างามยื่นบัตรเชิญให้อีวอนน์อย่างให้เกียรติ
“มิสซาเวียร์ เนื่องจากท่านประธานไม่สะดวก รบกวนช่วยส่งบัตรเชิญนี้ให้ท่านด้วยนะครับ”
“เป็นเรื่องน่ายินดีมากเลยค่ะที่ท่านประธานยอร์กจะไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดในครั้งนี้!”
คีธรู้สึกเป็นเกียรติมาก
เขารู้ว่าเจ้าชายยอร์กทรงอำนาจแค่ไหน
ลืมเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วไปได้เลย การได้เห็นเขาบีบให้เมลิสซาต้องหนีไปยังฮ่องกง เป็นการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของเขานั่นก็เพียงพอแล้ว
แม้ว่าสตีเฟ่นที่มีความสามารถมากจะยังคงอยู่ที่ แต่เมลิสซาไม่ได้อยู่ในเซาท์ไลท์อีกต่อไปแล้ว พวกตระกูลเยตส์ ตระกูลเซอร์เรย์ ตระกูลคลาวด์ และตระกูลร็อบบินส์ ทั้งสี่ตระกูลนี้อาจจะไม่เหมือนเดิมและทำตามที่พวกเขาบอกไว้
คีธมาด้วยตัวเอง เขาอาจมีความตั้งใจที่จะยอมแพ้แล้ว
อีวอนน์ไม่เงยหน้าขึ้นมอง เพียงแต่ทำท่าทางให้คีธวางบัตรเชิญลง
คีธไม่กล้าพูดอะไรไร้สาระออกไป เขาวางบัตรเชิญลงบนโต๊ะก่อนจะเดินจากไป
ภายในรถออดี้ เอ6 ของเขา คีธกลับมามีท่าทีที่เหนือกว่าและขมวดคิ้ว
จากนั้นเขาก็กดเบอร์ลงบนโทรศัพท์
“เห็นเจ้าชายยอร์กไหม?” เสียงทุ้มต่ำดังเข้ามาในโทรศัพท์
คีธพูดเบา ๆ “เจ้าชายยอร์กยังคงลึกลับเหมือนเดิม แต่เขาสั่งให้เลขาฯ โทรหาผมเพื่อส่งบัตรเชิญ เขาอาจจะปรากฏตัวที่งานเลี้ยงวันเกิด!”
“ดี ดี! คราวนี้มาดูกันว่าเจ้าชายยอร์กที่สามารถขับไล่เมลิสซาออกไปได้นั้นทรงอำนาจเหนือกว่าจริง ๆ ไหม?!” เสียงในโทรศัพท์ยังคงพูดต่อ
“เราต้องรายงานเรื่องนี้กับสตีเฟ่นไหม?” คีธถาม
“สตีเฟ่นเหรอ? เขาเป็นแค่เด็กเหลือขอ! เมลิสซาคิดว่าเขาควบคุมเราได้จริงหรือถ้าเขาอยู่เบื้องหลัง?”
“รอจนกว่าเราจะกำจัดเจ้าชายยอร์กได้ หลังจากนั้นเซาท์ไลท์จะเป็นของสี่ตระกูลในอนาคต!”
คีธถอนหายใจ “นั่นดูจะเป็นเรื่องยาก!”
“ใช่ มันคงจะยาก แต่ถึงแม้เราจะล้มเหลว เราก็ยังมีสตีเฟ่นเป็นแพะรับบาปของเรา” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ผู้พูดยิ้มอย่างมีความหมาย