ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 870
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 870
แบร์รี่รู้ดีว่าตามแผน แมนดี้น่าจะตกไปอยู่ในมือของแฟรงค์ คอสเทลโล
อย่างไรก็ตาม เขากระชากหัวของฮาร์วีย์และเยาะเย้ย “ไอ้ขยะ! ถ้าการที่เมียของแกออกไปพบกับชู้ นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของฉันเลยสักนิด ถ้าหล่อนถูกลักพาตัวไป แกก็ควรไปตามหาหล่อน! แล้วแกมาตามหาฉันทำไม?”
เลขาฯ สาวขายาวของแบร์รี่ก็เดินตามออกมาด้วย เธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก “แกคือใคร? กล้าดียังไงมาทำร้ายท่านประธานกรรมการบริหารวอเตอร์! แกไม่รู้หรือว่าเขาสามารถเรียกตำรวจให้มาลากคอแกเข้าคุกได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว”
“วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ฉันจะไม่มาเสียเวลาพูดคุยเรื่องไร้สาระกับแก”
“ฉันจะถามอีกครั้ง” การแสดงออกของฮาร์วีย์เย็นชายิ่งขึ้น “แกส่งคนไปลักพาตัวภรรยาฉัน แมนดี้ ซิมเมอร์ไปใช่หรือเปล่า?”
“ฮาร์วีย์ แกคงต้องแสดงหลักฐานในสิ่งที่แกพูด! ฉันเป็นนักธุรกิจที่จริงจังมาก ๆ คนหนึ่ง ฉันจะไม่ทำเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกน่า!”
“ที่ฉันกำลังจะบอกแกก็คือ! ถ้าขืนแกมาดูถูกฉันอีกครั้งนะ ฉันจะฟ้องแกในข้อหาหมิ่นประมาท!”
แบร์รี่ชี้นิ้วสาปแช่งกล่าวหาไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่รู้สึกผิด อันที่จริง เขาลืมกล่าวหาฮาร์วีย์ว่าทุบตีเขาอีกด้วยซ้ำ
“โอเค ถ้าจะเอาอย่างนั้น แต่ถ้าฉันจับได้ว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับแก ฉันสัญญาว่าแกจะต้องตายลาจากโลกนี้แน่”
“แกมายุ่งเกี่ยวกับภรรยาของฉัน มันยังไม่จบง่าย ๆ ฉันจะชำระบัญชีกับแกหลังจากที่ฉันได้จัดการกับเหตุการณ์ปัจจุบันก่อน”
หลังจากที่เขาพูดจบ ฮาร์วีย์ก็หันหลังและจากไป
แบร์รี่ปิดประตูเสียงดัง เขาทั้งตกใจและงุนงง
“ท่านประธานกรรมการบริหารวอเตอร์คะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? เขากล้าทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?” เลขาฯสาวพูดพรางตัวสั่น “เขากล้าตีคนด้วยขวดเบียร์จริงเหรอเนี่ย!”
“มันก็เป็นแค่ไอ้โรคจิต อย่าไปสนใจมันเลย รอวันที่ฉันเติบฌตในสังคมมากกว่านี้ เมื่อถึงวันนั้นฉันจะฆ่ามันเอง!” แบร์รี่กัดฟันกรอดอย่างหัวเสีย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลาหรือสถานที่ที่จะแสดงออกดังคำกล่าวที่ว่า “การขาดความอดทนในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำให้แผนการใหญ่ ๆ แย่ลง”
ถ้าเขาโพล่งเรื่องไร้สาระออกมาและทำลายแผนของเวย์น อนาคตของเขาก็จะจบลงอย่างเลวร้ายด้วยเช่นกัน
เมื่อคิดได้อย่างนั้น แบร์รี่ก็ไม่กังวลอะไรมากนัก
ลูกเขยที่อาศัยเกาะชายกระโปรงของภรรยาคนนั้นน่าจะเป็นตัวแทนของผู้ที่มีอิทธิพลบางคน
เท่าที่แบร์รี่รู้ แผนของพวกเขาคือจะทำให้ทีมใหญ่ ๆ ไปจัดการกับตระกูลเซอร์เรย์
ด้วยวิธีนี้จะมีสถานการณ์การขาดทุนต่าง ๆ และพวกเขาจะสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำจากเหตุการณ์นี้
“ยิ่งพวกเขาหุนหันพลันแล่นมากเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งขยับขยายได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ฉันล่ะหวังว่าไอ้เจ้าขยะนั่นมันจะตรงไปหาตระกูลเซอร์เรย์!”
แบร์รี่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมากจนลืมความเจ็บปวดจากแผลที่หน้าผากของเขาไปโดยปริยาย
…
ณ พื้นที่สีเทาในเขตชานเมืองบัควู้ด
แมนดี้ถูกพาตัวมาที่นี่ และมีคนทิ้งเธอไว้ที่มุมมืดแห่งหนึ่ง
เธอไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนโดยไม่จำเป็น เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์ที่จะพาเธอมาที่นี่
หากว่าเธอแสดงสัญญาณของความอ่อนแอออกมามากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้พวกเขาเหล่านี้รู้สึกพึงพอใจมากเท่านั้น
ดังนั้นเธอจึงเงียบไว้
ผ่านไปครู่หนึ่ง แฟรงค์ก็เดินเข้ามา เขามองดูแมนดี้ขณะที่สูบบุหรี่ไปด้วย เขาพ่นควันบุหรี่ออกมาและพูดว่า “เธอคือ ซิมเมอร์ เอ็นเทอร์ไพรส์… อ่อไม่สิ มันควรจะเป็น ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์…”
“เธอเป็นประธานกรรมการบริหารของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ แมนดี้ ซิมเมอร์ ใช่ไหม?”
แมนดี้ขมวดคิ้วกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน อีกฝ่ายกำลังติดตามเธอมาจริง ๆ ด้วยพวกเขาไม่ได้จับผิดคนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แมนดี้ไม่ได้ประหม่าเลย ในทางกลับกัน เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ จ้องไปที่แฟรงก์ที่กำลังยิ้มแย้ม และตอบอย่างใจเย็นว่า “แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร…”
“เนื่องจากคุณก็รู้ว่าฉันเป็นประธานกรรมการบริหารของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ งั้นคุณก็ควรเข้าใจเอาไว้ด้วยว่าหุ้นของบริษัทห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์เป็นของสกาย คอร์ปอเรชั่น”
“ไม่เป็นไรหรอกถ้าคุณทำให้ฉันขุ่นเคือง แต่คุณควรรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณทำเช่นเดียวกันนี้กับสกาย คอร์ปอเรชั่น”
“คุณควรปล่อยฉันไปตอนนี้ ฉันสามารถทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ได้”