ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก - บทที่ 935
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 935
ฮาร์วีย์ค่อนข้างแน่ใจกับบุคลิกของฮาลซีย์
เขาไม่ได้สนใจเลยในตอนนั้นและโยนเงินใส่เข้าไปในกล่องที่วางของภายในรถ
ฮาลซีย์อดไม่ได้ที่จะแสดงสายตาเหยียดหยามหลังจากเห็นภาพดังกล่าว
เธอคิดถูกแล้วที่ตัดสินฮาร์วีย์เช่นนี้
เธอคิดว่าคนหยาบคายคนนี้สามารถหาเงินจากเธอได้มากกว่านี้อีก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาใส่ใจอย่างไม่มีเหตุผล!
ผู้ชายอย่างนี้จะคู่ควรกับแมนดี้ ซิมเมอร์ได้อย่างไร?
ฮาร์วีย์ไม่ลืมที่จะแกล้งฮาลซีย์อย่างสนุกสนานพร้อมกับถามขึ้น “คุณมาที่นี่เพื่อคุยธุรกิจเหรอ? เป็นไปได้ดีไหม? คุณรวยแล้วอย่าลืมผมนะ!”
ฮาลซีย์กลอกตาหลังจากที่เธอได้ยินคำถามที่เฉยเมยของเขา
“นายรู้หรือเปล่าว่าที่นี่คือที่ไหน?”
“มันก็เขียนไว้บนอาคารไม่ใช่เหรอ? ที่นี่คือสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกไงครับ” ฮาร์วีย์ตอบกลับ
“เป็นเรื่องดีที่นายรู้เพราะนายควรที่จะรู้ หลังจากที่ทรัพย์สินของตระกูลยอร์กทั้งหมดได้มารวมกัน บริษัทแห่งนี้ก็กลายเป็นบริษัทชั้นนำที่สุดในเซาท์ไลท์ ในอนาคตบริษัทแห่งนี้มีการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างมาก มันอาจจะยังมีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ระดับสากลอีกด้วย!”
“และฉันก็เพิ่งได้เป็นผู้จัดการทั่วไปของสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโก หัวหน้าของฉันยังบอกอีกด้วยว่าฉันจะเป็นคนรับผิดชอบบริษัทในกังนัมกับบริษัททั้งหมดในโกลเด้นแซนและอีกหลายที่อีกด้วย!”
“ถ้าฉันรับมือกับทุกเรื่องได้อย่างดี ฉันยังอาจจะได้หุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทอีกด้วย ด้วยสิ่งนี้รายได้ต่อปีของฉันอาจมากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์!”
สำหรับฮาลซีย์ นี่เป็นเพียงแค่งานง่าย ๆ เท่านั้น
เธอสามารถหาเงินจำนวนมากเท่านี้ที่ไหนก็ได้ที่เธอต้องการด้วยศักยภาพที่เธอมี
เหตุผลที่สำคัญที่ทำให้เธอลงสมัครในสกาย คอร์ปอเรชั่นในวันนั้นก็เพราะข่าวที่เธอได้รับมาจากแหล่งข่าวของเธอ
เจ้าชายยอร์กจากสกาย คอร์ปอเรชั่นผู้ซึ่งเป็นตำนานที่มีชีวิตและหัวหน้าผู้ฝึกสอนแห่งค่ายศัสตราวุธเป็นผู้ชายที่เธอชื่นชมมากที่สุด
พูดตรง ๆ ก็คือถึงแม้ว่าภายนอกของฮาลซีย์จะมีความสวยงามที่แสนเย็นชา แต่ภายในเธอก็ยังมีหัวใจของหญิงสาวอยู่ภายใน ส่วนสำคัญของการกลับมาจากต่างประเทศเพื่อสมัครงานในตำแหน่งนี้ก็เพราะว่าไอดอลของเธอ
“ยินดีด้วยนะครับ งั้นคุณก็น่าจะเลี้ยงข้าวผมเพื่อเป็นการเลี้ยงฉลองนะ” ฮาร์วีย์หัวเราะพร้อมกับแนะนำอย่างเฉยเมย
ฮาลซีย์กลอกตาและตอบกลับ “ได้สิ วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันจะเลี้ยงอะไรดี ๆ นายแล้วกัน”
ทันทีที่ฮาร์วีย์ได้ยินคำพูดของเธอ เขาขับรถตรงไปใจกลางเมืองซานฟรานซิสโกอย่างไม่ลังเลและหาร้านอาหารราคาแพงที่สุดเพื่อทานอาหาร
แน่นอนว่าการทานอาหารเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น ตามจริงแล้วเขาไปที่นั่นเพื่อดูมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากร้านอาหารมาก
ตามจริงแล้วยังมีหน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างที่จะต้องทำเมื่อเขามาที่ซานฟรานซิสโกและนั่นคือการช่วยซีนเธียร์ ซิมเมอร์สำรวจสิ่งแวดล้อมโดยรอบของมหาวิทยาลัยในอนาคตของเธอ
เขายังวางแผนที่จะสำรวจดูภายในมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ฮาร์วีย์ไม่ได้รักษามารยาทของเขาเลยเมื่อเขากำลังทานอาหาร ที่จริงแล้วเขาไม่มีอะไรตกถึงท้องของเขาทั้งวันเลยแม้แต่ขนมปังหนึ่งชิ้น
ฮาลซีย์รู้สึกรังเกียจทันทีเมื่อเธอเห็นท่าทางการทานอาหารที่ตะกละของฮาร์วีย์จนเธอทานอาหารของตัวเองไม่ได้
“มาสิ มา มา! ไม่ต้องเกรงใจหรอก อาหารที่นี่มันแพงนะ! ผมจะกินหมดนะถ้าคุณไม่หิว!”
ภายใต้สายตาอันดูถูกของฮาลซีย์ ฮาร์วีย์ได้หยิบสเต็กที่ยังไม่ได้ทานของเธอพร้อมกับงับและกลืนมันลงทันที
ไม่ใช่ว่าฮาร์วีย์ไม่มีบรรทัดฐานหรอก แต่มีนิสัยสองอย่างที่เขาได้รับมาจากตอนที่เขาไปออกรบ
หนึ่ง คืออย่าทานอาหารทิ้งขว้าง
สอง คืออย่าทิ้งโอกาสเมื่อมีโอกาสที่จะได้กิน
นี่ยังเป็นข้อกำหนดที่เขามอบให้กับทหารในค่ายศัสตราวุธเช่นเดียวกัน
กระแสของสงครามมักจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา ไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสที่จะได้กินอาหารอีกครั้งเมื่อไหร่เมื่อเขาออกไปที่นั่น อาจจะหลายวันที่พวกเขาจะได้ทานอาหารอีกครั้ง
และฮาลซีย์ โลว์ก็ไม่ได้เข้าใจเหตุผลอย่างนี้อยู่แล้ว ในเมื่อเธอไม่เคยไปรบมาก่อน
ยิ่งเธอจ้องฮาร์วีย์มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจมากเท่านั้น