ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 100 ฉันกล้าเดิมพันว่าสือมูเฉินมีอีกหนึ่งตัวตนอย่างแน่นอน
ทิวทัศน์ภายนอกค่อยๆ รกร้างมากขึ้น หลานเสี่ยวถางต้องการปลดเชือกออกจากมือความยับยั้งชั่งใจ แต่เธอพบว่ายิ่งเธอขยับมันมากเท่าไหร่ก็รู้สึกโดนรัดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
การเคลื่อนไหวของเธอนั้นดังไปหน่อย คนขับรถจึงขมวดคิ้ว เขาจอดรถหยิบผ้าออกจากปากเธอพร้อมเตือนว่า :“อย่าคิดว่าจะหนีรอดพ้นจากน้ำมือผมได้!”
หลานเสี่ยวถางสบตาที่เย็นชาของเขา และพยายามพูดอย่างใจเย็น: “คุณน่าจะถูกใครจ้างวานใช่ไหม?เขาจ้างวานคุณมาเท่าไหร่ ?ตอนนี้ฉันได้ทำงานร่วมกับตระกูลฮั่วแล้ว และรายได้ของฉันไม่น้อย เดี๋ยวฉันเสนอเงินให้คุณมากกว่าเป็นสองเท่า แล้วคุณปล่อยฉันไปเถอะ”
คนขับไม่พูดไม่จา หลานเสี่ยวถางพูดอีกครั้ง: “ห้าเท่า?”
คนขับยังคงกัดริมฝีปากแน่น และขับรถไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หลานเสี่ยวถางพอจะเข้าใจเล็กน้อย อีกฝ่ายคงไม่ปล่อยให้เธอไปง่ายๆ อยู่ดี ดังนั้นเธอจึงพูดอีกครั้งว่า: “โอเค ฉันจะไม่หนีแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณควรบอกฉันได้แล้วหรือยัง คุณจับฉันไปที่ไหน ?ทำไมเป้าหมายคือตัวฉัน และต้องการเอาฉันไปข่มขู่ใครอย่างนั้นเหรอ?”
ในที่สุดคนขับก็มีการตอบสนองเล็กน้อย
เขาเหลือบมองที่หลานเสี่ยวถางและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ถ้าจะโทษก็โทษที่คุณเลือกอยู่กับคนผิด อย่างสือมูเฉิน!”
หลานเสี่ยวถางตกตะลึง นี่ฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูของสือมูเฉินเหรอ?
ขนขับยิ้มเยาะ เขาถอดหมวกออก หลานเสี่ยวถางเห็นว่าทรงผมของเขานั้นดูทันสมัย เขาย้อมผมสีฟ้าและสีนั้นก็ตรงกับต่างหูเพชรของเขา
หลานเสี่ยวถางมองดูรูปลักษณ์ของคนขับอย่างละเอียด เขาหล่อและแฝงไปด้วยความชั่วร้าย และเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่ลักพาคนตัวอย่างชำนาญ
เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีแค้นอะไรกับสือมูเฉิน แต่เธอยังคงพูดว่า:“ฉันและเขาเป็นเพียงแค่คนรู้จักกันเท่านั้น คุณลักพาตัวฉันมาแบบนี้ เขาไม่มีทางมาช่วยฉันหรอก คุณอย่าเสียเวลาเปล่าเลย!”
“เหอ เหอ —-” ชายคนนั้นแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ราวกับหัวเราะเยาะคำพูดไร้สาระของหลานเสี่ยวถาง
“สิ่งที่ฉันพูดนั้นมันเป็นความจริง!” หลานเสี่ยวถางรู้ดีว่า ในเมื่อเขาจะใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อข่มขู่สือมูเฉิน ถ้าเป็นเช่นนั้น เวลานี้เธอยังคงปลอดภัยอยู่ ดังนั้นจึงส่งผลให้น้ำเสียงของเธอนั้นผ่อนคลายลงเล็กน้อย: “คุณลองไปสืบหาข้อมูลที่หนิงเฉิงคุณก็จะรู้ว่า ฉันเป็นภรรยาเก่าของหลานชายเขา คุณจับฉันมามันก็ไม่มีผลอะไรต่อเขาหรอกนะ!”
ชายคนนั้นยังนิ่งเงียบ ในขณะนั้นโทรศัพท์ของเขาสั่น เขาหยิบขึ้นรับสายและจงใจเปิดสปีกเกอร์โฟน
แค่ได้ยินเสียงผู้ชายจากปลายสายว่า: “เป้าหมายได้เริ่มไล่ตามแท็กซี่คันนั้นแล้ว”
“ตกลง ทำตามแผนเดิมต่อไป” ชายคนนั้นพูด แล้วกดวางสาย
เขามองไปที่หลานเสี่ยวถางในกระจกมองหลังแล้วพูดว่า:“ไหนคุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่สนิทสนมกับเขาเลยสักนิดเลยล่ะ คุณนายสือ?”
หลานเสี่ยวถางตกตะลึง และสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นรู้ความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสือมูเฉินได้เช่นไร ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนแนวคิดของเธออย่างลับๆ พร้อมพูดว่า: “ขอโทษนะคะ ฉันและหลานชายของสือมูเฉินนั้นเราได้หย่าขาดกันแล้วค่ะ สรรพนามที่คุณเรียกนั้นมันไม่เหมาะกับฉันหรอกนะคะ!”
ชายคนนั้นอาจจะลองใจเธอก็ได้ และหลังจากที่เขาฟังแล้ว เขาไม่พูดอะไรเลย เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น เขาขับไปจนเบื้องหน้าของเขาเริ่มเข้าสู่เขตภูเขา
ในขณะนั้นก็เย็นแล้ว และท้องฟ้าที่สดใสก็ค่อยๆมืดลงด้วยเมฆสีดำบนท้องฟ้าแทน และความกดอากาศต่ำมากจนทำให้คนนั้นรู้สึกหายใจลำบาก
หัวใจของหลานเสี่ยวถางกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะพูดอะไร ชายคนนั้นก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ ริมฝีปากของเขากดแน่นเช่นเดิม และดวงตาที่ฉายออกมาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ในที่สุด หลังจากที่ขับภูเขาแล้ว ก็มีทะเลสาบปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาทั้งสอง
ชายคนนั้นเร่งความเร็วมากขึ้น ขับตรงไปตามทะเลสาบ
เขาจอดรถไว้ริมทะเลสาบ จากนั้นดึงหลานเสี่ยวถางออกจากรถ
ที่นี่อยู่ไกลจากตัวเมืองมาก เพราะอากาศเหมือนฝนจะตกดังนั้นจึงไม่มีใครอยู่ริมทะเลสาบเลยแม้แต่คนเดียว
วันนี้หลานเสี่ยวถางสวมรองเท้าส้นสูง เธอสะดุดล้ม ชายคนนั้นก็ตำหนิที่เธอเดินได้ช้ามาก จึงลากตัวเธอมาอย่างไวจากนั้นโยนรองเท้าส้นสูงของเธอทิ้ง แล้วเดินมุ่งเข้าไปทางทะเลสาบ
“คุณจะทำอะไร?!” หลานเสี่ยวถางตกใจมาก
ขณะนี้พวกเขาลงไปในน้ำแล้ว ยังดีที่ระดับน้ำนั้นไม่เลยหัวเข่าของชายคนนั้น
เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องการล่อเสือออกจากป่าให้สือมูเฉินติดกับตามโทรศัพท์ และต้องการโยนเธอลงไปในน้ำ และฆ่าเธอเพื่อทำลายหลักฐาน? !
ชายคนนั้นลากเธอและลุยน้ำจนระดับน้ำถึงหน้าอกของเขา และเมื่อมีเสาไม้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา เขาจึงหยุด
เขาวางหลานเสี่ยวถางลง เนื่องจากความแตกต่างของระดับความสูง ดังนั้นระดับน้ำจึงถึงคอของหลานเสี่ยวถาง
แม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่ว่าอุณหภูมิในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกก็ต่ำอยู่แล้ว และหลานเสี่ยวถางก็จมลงไปทั้งตัวในน้ำที่เย็นจัด
เธอหนาวจนสั่นไปทั้งตัว ดิ้นรนอย่างสุดกำลังที่จะหลบหนี แต่มือของชายคนนั้นเหมือนคีมคีบเหล็กยังไงอย่างงั้นแหละ เธอไม่สามารถหลุดพ้นได้เลย เขาแค่ดึงตัวเธอ ตัวเธอก็ถูกลากไปทางด้านหลังทันที แล้วถูกเขากดลงบนหลักไม้
เขาใช้กริชตัดเชือกในมือของหลานเสี่ยวถางลง จากนั้นคว้ามือทั้งสองข้างของหลานเสี่ยวถาง และมัดเธอไว้กับเสาไม้อีกครั้ง
ในขณะนี้ จู่ๆ ฟ้าก็แลบ หลานเสี่ยวถางเงยหน้าขึ้นมอง เมฆหนามากและพายุฝนก็ใกล้เข้ามา
เธอตอบสนองอย่างกะทันหัน ทะเลสาบที่นี่ดูเหมือนจะอยู่ปลายน้ำ เมื่อฝนตก น้ำที่ต้นน้ำก็คงไหลลงมาทางนี้ และระดับน้ำในทะเลสาบก็จะสูงขึ้น และเธอจะถูกมัดให้จมอยู่ตรงนี้!
“คุณอยากให้ฉันจมน้ำตายเหรอ?” เธอตวาดใส่เขา:“ดูแล้วคุณก็ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป คุณทำเช่นนี้เพื่ออะไร คุณทำแบบนี้นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ถ้าโดนตัดสินประหารชีวิตอีกด้วยนะ!”
“ผู้หญิงของสือมูเฉิน ไม่ได้โง่ขนาดนั้น” ชายคนนั้นยังคงผูกหลานเสี่ยวถางอย่างแน่นหนา และเขาหันไปทางด้านหน้าหลานเสี่ยวถางแล้วมุมปากของเขาก็ค่อยๆยกยิ้มขึ้น และดูเหมือนเย็นชาและชั่วร้ายมากกว่าเดิม: “ผมจะได้รับโทษคดีฆ่าคนตายหรือไม่นั้น มันก็ขึ้นอยู่ความสามารถของเขาแล้วล่ะ!”
“คุณหมายความว่าอย่างไร” หลานเสี่ยวถางถาม: “พวกคุณเอาโทรศัพท์ของฉันไปที่ไหนแล้ว?”
ชายคนนั้นยิ้มอย่างเย้ยหยันและพูดว่า:“ทางตรงข้ามกับที่แห่งนี้! มันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะหาตำแหน่งที่แท้จริงของคุณได้หรือไม่ และเขาจะมาช่วยคุณได้ทันก่อนที่คุณจะจมลงไปในหรือเปล่าไงล่ะ!”
“คุณมันโรคจิต!” หลานเสี่ยวถางตวาดลั่น: “พวกคุณโกรธแค้นอะไรกัน คุณทำอะไรเขาไม่ได้ก็เลยลักพาตัวฉันมาและมัดฉันไว้แบบนี้นะเหรอ?คุณเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า?!”
“คุณคิดว่าไงล่ะ” ชายคนนั้นไม่สนใจใยดี กลับรู้สึกว่ามันน่าสนุกมากขึ้น เขาอธิบายต่อว่า: “ผมต่อสู้กับเขามาหลายครั้ง และเขาก็ชนะทุกครั้ง เหตุผลเดียวกัน ครั้งนี้ก็เป็นเกมที่ผมวางแผนเอาไว้ และถ้าหากคุณตายแล้ว ก็แสดงว่าเขาแพ้เกมนี้ไปโดยปริยาย”
ในที่สุดหลานเสี่ยวถางก็เข้าใจทุกอย่างแล้วว่าชายผู้นี้เป็นพวกโรคจิตจริงๆ!
ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเขาแพ้เรื่องอะไรให้กับสือมูเฉิน ดังนั้นเขาจึงอยากเอาชนะสือมูเฉินขนาดนี้ และในครั้งนี้เขากลับเอาผู้หญิงที่ไร้เดียงสามาเป็นเครื่องมือเนี่ยนะ!
“แม้ว่าคุณจะชนะในครั้งนี้ คุณก็ชนะอย่างไม่สมเกียรติเลยสักนิด!” หลานเสี่ยวถางตะโกนใส่เขา: “สถานที่แห่งนี้ดูก็รู้ว่าระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแน่ๆ แม้ว่าจะเป็นเทพพระเจ้ามันต้องใช้เวลามากกว่าจะมาถึง ยังไงคุณก็ฝ่ายชนะอยู่แล้ว เพื่อปกปิดความด้อยของคุณเอง! คุณจะไม่มีวันภูมิใจกับสิ่งที่ทำหรอก!”
ชายคนนั้นมองเธอด้วยแววตาอาฆาต ในขณะนี้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกพูดแทงใจดำจนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว: “เวลาไปทำงานต่างประเทศที่ไหนผมไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนไปด้วยเลยสักครั้ง คุณเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น!ดังนั้น ขอเพียงแค่คุณตายโดยที่เขาเป็นต้นเหตุ เขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างตายทั้งเป็นไปตลอดชีวิต ! นี่คือผลลัพธ์ที่ผมต้องการมากที่สุด!”
“ฉันเชื่อว่า ขอเพียงฉันตาย เขาจะแก้แค้นให้ฉันอย่างแน่นอน !” หลานเสี่ยวถางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้น: “คุ้มไหมกับการที่ต้องการแค่การเอาชนะ และไม่สนใจชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และไม่สนใจชีวิตของตัวเอง มันคุ้มค่าแล้วเหรอ?”
“คุณไม่ใช่ผู้เล่นเกม คุณจะเข้าใจมาความรู้สึกของผู้เล่นในเกมได้อย่างไรกัน?” มีคลื่นแห่งความกระตือรือร้นในสายตาของชายคนนั้น มุมปากของเขายกขึ้น โดยมีบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้ภายใต้ดวงตาของเขา และทันใดนั้นเขาก็เข้าหาหลานเสี่ยวถางและพูดว่า:“ผมสงสัยว่าสือมูเฉินต้องมีตัวตนอยู่อีกตัวตนหนึ่งแน่ๆ ดังนั้นถ้าหากเขาช่วยชีวิตคุณได้ เท่ากับว่าในสิ่งที่ผมคิดนั้นผมเดาถูก!”
หลานเสี่ยวถางตกใจ: “คุณหมายความว่าไง?”
ชายคนนั้นหัวเราะ สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข: “ดังนั้นในครั้งนี้ไม่ว่าเขาจะสามารถช่วยคุณได้หรือไม่ ผมก็ต้องเป็นฝ่ายชนะอยู่ดี! ชนะอย่างแน่นอน!”
หลานเสี่ยวถางดูท่าทางที่แสดงออกมาของเขา ก็รู้ได้ทันทีว่าเขานั้นจริงจังกับเกมนี้มากเกินไปแล้ว ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอก็ไม่คิดจะเปลี่ยนความตั้งใจเดิมตั้งแต่แรกของตัวเองเลย
ในขณะนี้ เมฆบนท้องฟ้าก็ค่อยๆขยายออกช่องหนึ่ง จากนั้นเม็ดฝนขนาดใหญ่ยังคงสาดลงมา หลานเสี่ยวถางรู้สึกถึงสายฝนที่เย็นยะเยือกที่ตกลงมาหยดบนใบหน้าของเธอ และดวงตาของเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปไกล
เขาจะมาไหม?
ชายคนนั้นกล่าวว่าสือมูเฉินนั้นอาจมีตัวตนอื่น หากเขาสามารถมาช่วยเธอทันได้ ถ้าเช่นนั้นมันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้นั้นมันแม่นยำ สือมูเฉินก็จะถูกเปิดเผยตัวตนที่ซ่อนอยู่ของเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้น เพื่อมาช่วยชีวิตเธอแล้ว เขาจะไม่ลังเลใจที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเองใช่หรือไม่?
ในขณะนี้หลานเสี่ยวถางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสือมู่เฉินนั้นจะมาช่วยเธอหรือไม่มา
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอดูเหมือนจะอ่านใจเธอที่กำลังสับสนลังเลของเธอออก และเขาก็ยิ้มเยาะ : “ดูเหมือนว่าคุณจะรักเขามากเลยนะเนี่ย! ผมเป็นคนนอกยังรู้สึกพลอยตื้นตันไปด้วยเลย! ก็ไม่รู้เหมือนกันนะเพราะคุณแล้วเขาจะยอมมาช่วยไหม แต่ว่าผมไม่มีเวลามากพอที่จะเสียเวลากับคุณที่นี่หรอกนะ!”
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็หันหลังกลับ ลุยน้ำขึ้นฝั่ง ผลักหญ้าสูงระดับครึ่งคนทั้งสองข้างออกไป แล้วหายตัวไปภายใต้ม่านฝน
ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ หลานเสี่ยวถางยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน มองดูฟ้าที่ฝนกำลังตกอย่างหนักเพราะกับเสียงฟ้าร้อง จนหลานเสี่ยวถางถึงกับสงสัยว่าเธอจะจมน้ำตายก่อนหรือถูกฟ้าผ่าตายก่อนกันแน่?
ในเวลานี้ลมแรงขึ้นจนทำให้ใบหน้าของเธอรู้สึกเจ็บเหมือนโดนตบอย่างนั้นแหละ
ร่างกายของหลานเสี่ยวถางจมอยู่ในน้ำทะเลสาบที่เย็นยะเยือก เธอหนาวจนสั่นไปทั้งตัว และเธอก็รู้สึกว่าหนาวเหน็บจนชาไปถึงขั้วหัวใจ
ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาของเธอหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ เดิมทีระดับน้ำนั้นอยู่ใต้คอของเธอ แต่ขณะนี้เกือบจะอยู่ใต้คางเธอแล้ว
เธอพยายามดิ้นรนอยู่ในน้ำ แต่ว่าหลักไม้ดูเหมือนจะไม่ใหญ่ แต่แข็งแรงอย่างมาก ดังนั้นแม้ว่าเธอจะพยายามอย่างสุดเรี่ยวแรง แต่หลักไม้ก็ไม่ขยับเลยสักนิด
สภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆนั้นก็เริ่มมืดลง และแม้แต่จากตำแหน่งที่อยู่เธอ ก็ไม่สามารถมองเห็นฉากฝั่งได้อีกต่อไป หัวใจของหลานเสี่ยวถางเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอสิ้นหวังและหมดหนทาง
ในขณะที่ยังคงทำงานอยู่ในไซต์งานก่อสร้างในวันนี้ สือมูเฉินก็ได้รับโทรศัพท์จากหลานเสี่ยวถาง โดยเธอบอกว่าเธอได้ออกจากบ้านของตระกูลฮั่วแล้ว และกำลังจะไปซื้อของในเมือง
เขาบอกกับเธอว่าเมื่อเธอซื้อของเสร็จแล้วให้รีบกลับโรงแรมทันที จากนั้นเขาก็คุยรายละเอียดขั้นตอนต่อไปกับคนงานในไซต์ก่อสร้างต่อ
ในขณะนี้ โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น และเขาหยิบขึ้นมาเพื่อดูว่าเป็นข้อความที่หลานเสี่ยวถางส่งมาหรือไม่
มุมปากของเขาโค้งอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคิดว่าเธอกำลังจะถามเขาว่าเขาอยากทานอะไรเสียอีก และเขาก็เริ่มคิดเองตอบเองในใจของเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นข้อความที่ส่งมานั้น เขาก็ต้องตกตะลึงในทันที
เธอพูดเพียงประโยคเดียว: “มูเฉิน รถแท็กซี่ที่ฉันขึ้นเมื่อออกจากบ้านตระกูลฮั่วนั้นรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ ช่วยฉันด้วย”