ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 138 ที่ที่ไม่มีแสงไฟ เหมาะกับการทำเรื่องลับตาคน
“ เปล่าเลย ” สือมูเฉินเอื้อมมือออกไปและทัดผมที่บังอยู่ตรงแก้มของเธอไปไว้หลังหู : “ เป็นเพียงแค่เพราะคุณเป็นหญิงสาวที่ใจดีและไร้เดียงสา ”
ในขณะที่เขาพูดอย่างจริงจัง : “ สิ่งที่หลานเล่อซินให้คุณฟัง มันเป็นเพียงแค่ช่วงหนึ่งของบทสนทนาที่พวกเราคุยกัน มีบางอย่าง ที่ถูกเธอตัดออกไป เพราะฉะนั้นแล้วเนื้อหาที่คุณได้ฟังนั้นมันไม่ใช่ทั้งหมด ”
หลานเสี่ยวถางกระพริบตา
“ มันก็ใช่ ถ้าถ้าเกิดว่าเธอที่จากไป ตอนนี้ผมก็อาจจะแต่งงานกับเธอ ในตอนนั้น ผมไม่ได้เกลียดเธอ แล้วก็ไม่ได้ชอบเธอ มันก็เหมือนกับหลายๆคนในเมืองนี้ การแต่งงานมันก็เป็นเพียงแค่การแต่งงานเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว เช่นเดียวกับสิ่งที่คุณได้ฟังจากเสียงที่ถูกอัดไว้ ถ้าเกิดว่าผมแต่งงานกับเธอแล้ว ผมก็คงไม่มีพัวพันกับคุณ ”
ในขณะที่สือมูเฉินพูดก็นั่งตัวตรงและจ้องมองไปที่ดวงตาของหลานเสี่ยวถาง : “ ผมก็เป็นเหมือนกับคนที่คุณเห็น เป็นคนมีเหตุผลมาก น้อยมากที่ทำเรื่องที่มันหุนหันพลันแล่น แน่นอนว่าผมก็เป็นผู้ชาย มีความต้องการทางร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย 20 ต้นๆอย่างผม ตอนที่ผมเรียนอยู่ต่างประเทศ ผมก็เคยทำ เพียงแค่ว่าหน้าตาเป็นยังไง ผมก็เกือบลืมไปแล้ว ว่าชื่ออะไร ต่อมาก็ได้หมั้นกับหลานเล่อซิน ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ บวกกับเรื่องที่ผมต้องการจัดการเรื่องบริษัทด้วยตัวเอง จริงๆแล้วมันยุ่งมาก ทุกครั้งที่ไปบ้านของตระกูลหลานก็เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่เคยที่จะแตะต้องตัวเธอมาก่อน ”
ในขณะที่พูด เขาก็ยกมือของตัวเองขึ้น : “ ในตอนนั้น ถ้าเกิดว่าต้องการจริงๆแล้วละก็ ทุกครั้งผมก็จะใช้พวกเขาในการหาทางออก ”
เขาหัวเราะ พูดตรงๆแล้ว : “ ผมเองก็ดูหนังโป๊ ในคอมพิวเตอร์ก็มีหลายเรื่องที่เป็นหนังเกย์ ฉะนั้นสิ่งของหลายอย่างก็ใช้เป็น แน่นอนว่าการปฏิบัติยังไม่มาก ที่ผมไม่ไปหาผู้หญิงหากิน ก็เพราะว่าผมมีนิสัยรักความสะอาดที่เกินไป บวกกับกลัวโรค เพราะฉะนั้นแล้วการปฏิบัติเกือบทั้งหมดก็ทำกับคุณหลังจากที่แต่งงาน ”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกช็อคเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าแม้กระทั่งเรื่องอย่างนี้สือมูเฉินก็บอกกับเธอ เธอเปิดริมฝีปากเล็กน้อย สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาดูตกตะลึงเล็กน้อย
“ผมเป็นคนที่กลัวความยุ่งยาก เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ไปยุ่งกับดอกไม้ริมทางข้างนอกแล้วมาสร้างความยุ่งยากให้ตัวเอง ” ในขณะที่สือมูเฉินพูดก็เอื้อมมือไปโอบด้านหลังเอวของหลานเสี่ยวถาง ท่ามกลางแสงสีในยามราตรีเสียงที่แหบราวกับแม่เหล็กแล้เสน่ห์ที่ปนเปื้อนไปด้วยสีสัน : “ ยิ่งไปกว่านั้น ผมก็มีภรรยาแล้วด้วย รู้สึกว่าไม่เลวเหมือนกัน และจะให้ผมทำเรื่องที่ไม่ดีกับคุณได้ยังไงกัน ?”
หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะจับเสื้อผ้าของสือมูเฉิน : “ มูเฉิน ขอโทษนะ ฉันมักจะชอบคิดเพ้อเจ้อตลอด……”
“ ต่อจากนี้ไปไม่ต้องกลัว แม้ว่าจะคิดเพ้อเจ้อไปจริง ก็อย่าลืมที่จะบอกผม ” สือมูเฉินแตะไปที่ปลายจมูกของหลานเสี่ยวถาง : “ คุณรู้ไหม? ถึงแม้ว่าผมจะคอยช่วยทำให้คุณเข้มแข็งและดูแลตัวเองได้ อันที่จริงกลัวว่าถ้าคุณอยู่ข้างนอกแล้วถูกทำร้าย อย่างไรผมก็ไม่สามารถที่จะอยู่ข้างกายคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณตรงหน้าผมแล้ว ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็มาได้หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่บอบบางในตอนนี้ ทำให้คนอดไม่ได้ที่อยากจะปกป้อง ”
เขายิ้ม : “ ผู้ชายเกิดมาพร้อมกับลัทธิชายเป็นใหญ่ ซึ่งพวกเขาหวังว่าผู้หญิงของตัวเองตัวจะสามารถพึ่งพาตัวเองได้ในทุกสิ่งเพื่อสนองความโอหังของตัวเอง อีกทั้งผมเอง ก็ไม่มีข้อยกเว้นเหมือนกัน ”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกประทับใจและรู้สึกขบขันเล็กน้อยกับคำพูดของเขา : “ มูเฉิน นี่คุณสอนให้ฉันกุมหัวใจผู้ชายยังไงหรอ ?”
สือมูเฉินหรี่ตาและมีแสงอมหิตในแววตาของเขา : “ กุมหัวใจของผู้ชายคนอื่นอย่างนั้นหรอ ? อย่าแม้แต่จะคิด ! ถ้าจะกุมหัวใจใครก็ได้แค่หัวใจของฉันเท่านั้น !”
เออ คำพูดที่เธอพลั้งปากออกไป คาดไม่ถึงว่าจะพูดผิดไป……
หลานเสี่ยวถังแก้มก็แดงเล็กน้อย และเมื่อเขาถามคำถามนี้ หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง : “ ฉันกุมหัวใจเอาไว้ได้แล้วหรือยัง ?”
เธอมองสือมูเฉินเฉินด้วยความตื่นเต้น และรอคำตอบจากเขา
เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย : “ ก็พอสมควรแล้วนะ ถึงอย่างไร ก็ยังสามารถที่จะพยายามขึ้นอีกได้นะ อย่างเช่น——”
ในขณะที่พูด ก็จูบลงไปบนคอของเธอ น้ำเสียงเหมือนจะกัดฟันพูดเล็กน้อย : “ เสี่ยวถาง ผมต้องการคุณ !”
หลานเสี่ยวถางตกใจและสายตาที่ล่องลอยมองไปรอบๆ
พวกเขาอยู่ในสวน ถึงแม้ในตอนกลางคืนจะไม่มีคน แต่……
“ มูเฉิน รอพวกเรากลับไป……” น้ำเสียงที่เป็นกังวลของหลานเสี่ยวถาง : “ กลับไปที่คฤหาสน์……”
“ มันไม่ทันแล้ว ” สือมูเฉินกัดไปตรงคอของหลานเสี่ยวถาง จนกระทั่งได้ยินเสียงสูดหายใจ และเสียงที่แหบของเขาก็พูดว่า : “ ใครใช้ให้เมื่อกี้คุณมองผมด้วยสายตาแบบนั้นละ ? คุณเป็นคนกระตุ้นให้ไฟนี้รุกขึ้นมา ก็ต้องดับไฟลงด้วยตัวเอง ”
เธอใช้สายตาแบบไหนกัน ?
หลานเสี่ยวถางหวนคิดได้ว่า เธอใช้แบบที่มีความระมัดระวังเล็ก และรอด้วยท่าทางทีที่ไม่ชัดเจน
เขาบอกว่า ผู้ชายชอบผู้หญิงที่ไม่ว่าจะอะไรก็จะพึ่งพาตัวเอง และเขาก็ชอบเหมือนกัน
ฉะนั้นแล้ว……
หลานเสี่ยวถางรู้สึกได้ถึงการสัมผัสที่มาจากด้านหลัง และรู้สึกตื่นตระหนกที่พบว่าพวกเขาล้มยาวลงบนเก้าอี้แล้ว
เขาอยู่บนตัวเธอ และจูบเธอย่างบ้าคลั่ง
เธอรู้ว่าช่วงล่างของเขานั้นตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งท้ายที่สุดมันก็แข็งแล้วก็ร้อนผ่าว และทับอยู่บนต้นขาของเธอ สัมผัสได้ถึงความรุนรงของมัน
“ มูเฉิน——” หลานเสี่ยวถางกำลังดิ้นอย่างใกล้ตาย : “ ถ้าหากว่าถูกคนเห็นเข้าละ……”
“ ผมรู้แล้ว ” สือมูเฉินที่บุ่มบ่าม ยังคงจูบเธอต่อเนื่อง
เขารู้สึกว่าตัวเองราวกับบ้าไปแล้วจริงๆ ปกติแล้วเขาใจเย็นและควบคุมตัวเองได้ แต่พอมาถึงเรื่องแบบนี้ ก็ไม่สามารถจะควบคุมความคิดที่จะขยี้เข้าไปในร่างกายของหลานเสี่ยวถางไม่ได้เลยสักนิด
สือมูเฉินจูบไปยังกระดูกไหปลาร้าของหลานเสี่ยวถาง และพูดเยาะเย้ยตัวเอง : “ เสี่ยวถาง คุณทำให้ผมรับรู้ถึงความรู้สึกที่อยากจะลองมันอีกครั้งด้วยตัวเอง ! แต่ไม่มีสามารถที่จะควบคุมมันได้จริงๆ ”
แม้ว่าหลานเสี่ยวถางยังคงมีสติอยู่ในใจ แต่ทว่าบนเรือนร่างของเธอถูกจูบอย่างนุ่มนวลบนม้านั่ง แทนที่เธอจะผลักเพื่อปฏิเสธแต่กลับปฏิเสธผิวเผินเท่านั้นและแก้มของเธอก็แดงมาก
เธอหอบ ร่างกายสั่นเล็กน้อย รูขุมขนที่เปิดออกและไม่สามารถที่ขยับตัวได้
“ เสี่ยวถาง ผมเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ” ในขณะที่สือมูเฉินพูด ก็ดึงมือของหลานเสี่ยวถางเอาไว้ จากนั้นเขาก็ยื่นเข้าไปในใต้เข็มขัดหนัง พันไว้ส่วนที่แข็งของเขา บังคับให้เธอจับและลูบไล้เอาไว้ : “ พวกเราเปลี่ยนสถานทีกันหน่อยดีไหม ?”
สายตาของหลานเสี่ยวถางเต็มไปด้วยละอองน้ำทางอารมณ์ เธออยากจะเอามืออกมา แล้วก็เพิ่งจะขยับมันไปแป๊บเดียว สือมูเฉินก้มศีรษะลงและกัดที่ใบหูของเธอ น้ำเสียงของเขาราวกับกำลังลงโทษ : “ ห้ามปล่อยออกนะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมก็จะอยู่ที่นี่……”
เธอสะดุ้งไปทั้งร่างกาย ที่เต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าที่พุ่งพล่านอยู่อย่างดุเดือด และเสียงที่ออกทางจมูกเบาๆ แสดงให้เห็นถึงความประนีประนอม
สือมูเฉินหัวเราะกับแผนชั่วที่สำเร็จ และเขาก็อุ้มหลานเสี่ยวถางขึ้นมาจากบนเก้าอี้
เขาก็ไม่ทำกับเธอที่นี่ ถึงอย่างไรที่นี่มันก็สวนสาธารณะ สวรรค์รู้ว่ามีกล้องหรือไม่มีกล้อง ต่อให้จะไม่มี แต่ถ้าเกิดว่ามีคนมาผ่าน เขาก็คงไม่ยอมที่จะให้ใครเห็นผู้หญิงของตัวเอง !
สือมูเฉินอุ้มหลานเสี่ยวถาง แล้วก็กดใบหน้าของเธอไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง เดินผ่านสวนไปยังตู้โทรศัพท์ที่ถูกทิ้งร้างไว้
บนพื้นที่มีใบไม้ร่วง พอเหยียบลงไปก็จะมีเสียงกรอบแกรบดังขึ้น ตู้โทรศัพท์ถูกทิ้งร้างไว้หลายปีแล้ว ถึงอย่างไร สมัยนี้ทุกคนก็ต่างใช้โทรศัพท์มือถือกันหมดแล้ว ยังจะมีใครที่ใช้บัตรโทรศัพท์ในการโทรอีก ?
บริเวณรอบๆแทบจะไม่มีแสงไฟ ถือว่าเหมาะกับการทำเรื่องลับตาคน
สือมูเฉินวางหลานเสี่ยวถางลง แล้วก็ก้มลงไปจูบเธอ ในขณะที่จูบก็ปลดกระดุมของเธอไปพร้อมๆกัน
เสื้อผ้าก่อนหน้าที่ของเธอขาด ฉะนั้นที่ใส่อยู่เป็นชุดของผู้ป่วยที่พยาบาลช่วยหามาให้ และมันค่อนข้างที่กว้าง มันเลยยิ่งทำให้รูปร่างของเธอดูเล็กประณีต
พอถอดเสื้อเชิ้ตแล้ว มือของเขาโอบเธอไว้อย่างนุ่มนวล ส่วนอีกมือหนึ่งก็ลูบไล้ไปบนตัวของเธอ จนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจของเธอที่ยิ่งอยู่ยิ่งสะเปะสะปะ จากนั้นเขาก็เลื่อนมือลงไปตามร่างกายของเธอ จนกระทั่งสัมผัสโดนส่วนล่างของเธอ
เธอบีบมันโดยที่ไม่รู้ตัว และเขาก็ใช้นิ้วมือลูบมันเบาๆ จากนั้นก็หัวเราะอยู่ข้างหูของเธอ : “ เสี่ยวถาง ผมคลำโดนน้ำแล้ว ”
ใบหน้าของหลานเสี่ยวถางก็ร้อนผ่าวขึ้นมา เธอยื่นมือออกไปเพื่อจะตีสือมูเฉิน แต่เขาคว้ามือของเธอ สิบนิ้วกำแน่น ยกขึ้นบนเหนือศีรษะ น้ำเสียงเซ็กซี่ที่ถึงแก่ชีวิต : “ กระทั่งแต่งงานไปจนถึงแก่เฒ่า คุณเสียพรหมจารีให้กับผมแค่คนเดียว ผมเองก็จะมีเซ็กส์กับคุณแค่คนเดียว ”
ลมร้อนที่พัดเข้าข้างหู บวกกับถ้อยคำที่โจ่งแจ้งและบีบคั้นหัวใจ โดยสัญชาตญาณแล้วกล่องเสียงของหลานเสี่ยวถางก็ส่งเสียงอายออกมา
มุมปากของสือมูเฉินก็ยกขึ้น แล้วก็ถางขาของหลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมาและดันมันเข้าไป
เธอร้องเสียงต่ำออกมาและเอื้อมแขนไปล้อมตรงคอของสือมูเฉิน
เขาพูดข้างหูของเธอ : “ เมื่อก่อนผมเคยรายงานข่าวฉบับหนึ่ง บอกว่าสิ่งสุดท้ายที่ผู้ชายหลั่งออกมา มันจะคงอยู่ในมดลูกของผู้หญิง มันจะพร้อมกันเข้าไปแทนที่และค่อยๆสลายไป แต่ทว่ามันจะมีอีกอย่างที่คงอยู่เอาไว้และคงเหลืออยู่ในร่างกายตลอดไป ”
เขาจับเธอไว้แน่นละไม่หยุดที่จะกระแทกอย่างแรง : “ ฉะนั้นแล้ว เสี่ยวถาง ของของผมจะอยู่ในร่างกายของคุณไปตลอดชีวิต ผมไม่มีทางที่จะเลิกกับคุณ ชีวิตคู่ของพวกเราจะยืนยาวไปตลอดกาล มีเพียงแค่ความตาย เท่านั้นที่เราจะพรากจากกัน ”
เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินสือมูเฉินพูดแบบนี้ ก็รู้สึกแค่ว่าหัวใจเต้นเหมือนกับกลอง เธออดไม่ได้ที่จะกอดเขาแน่น และพูดในหูของเขา : “ มูเฉิน ฉันอยากจะอยู่กับคุณ และอยู่กับคุณตลอดไป !”
เขายืดตรงและยิ่งลึกขึ้น : “ เสี่ยวถาง พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป นี่เป็นคำมั่นสัญญาที่ผมมอบให้คุณ เพราะฉะนั้นแล้วต่อจากนี้ไปไม่ต้องกลัวอีกแล้วนะ โอเคไหม ?”
“ โอเคค่ะ ” มุมริมฝีปากของหลานเสี่ยวถางยกขึ้น รู้สึกเพียงแค่ว่าความไม่แน่นอนและความวิตกกังวลก่อนหน้านี้มันได้หายไปหมดแล้ว
บนพื้นนั้น รองเท้าหนังและใบไม้แห้งของสือมูเฉินยังคงกระทบกันดังเสียงกรอบแกรบ ด้านในที่เลือนราง ยังมีเสียงน้ำและเสียงกระแทก
หลานเสี่ยวถางยอมมอบตัวให้กับสือมูเฉินอย่างช้าๆ โดยที่ลืมไปเลยว่าอยู่ที่ไหน เพียงแค่ทำตามจังหวะของเขาไปอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาอยู่ที่บนพื้นก็ได้เปลี่ยนไปแล้วหลายท่วงท่า ในตอนท้ายขาทั้งสองของหลานเสี่ยวถางก็สั่น : “ มูเฉิน ฉันเดินไม่ไหวแล้ว……”
“ สามีอุ้มเอง ” สือมูเฉินหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋าของเขา ช่วยหลานเสี่ยวถางเช็ดส่วนล่าง จากนั้นอุ้มเธอขึ้นในแนวขวางและก้มลงมองเธอ : “ เมื่อกี้ผ่อนคลายไหม ?”
เธอกัดริมฝีปากและพยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดง
สือมูเฉินหัวเราะอย่างมีความสุขออกมา : “ ตราบใดผมยังขยับได้ ผมก็จะทำให้คุณพอใจ ! แต่ได้ยินมาว่าเมื่อผู้หญิงอายุ 30จะเหมือนป่าหมาป่าที่อายุ 40และความต้องการของผู้หญิงเมื่ออายุ 30-40 จะมีความต้อนการที่รุนแรงขึ้น ไม่รู้ว่าถ้าตอนนั้นคุณอายุ 40 แล้ว ผมยังจะสามารถทำให้คุณพอใจได้อยู่ไหม……”
ในขณะที่เขาพูดด้วยกึ่งเล่นกึ่งจริงจัง : “ ผมอายุมากกว่า 5 ปี แต่ดูเหมือนว่า ผมคงจะต้องจะบำรุงร่างกายเอาไว้มากๆ ต่อไปถ้าทำให้คุณไม่พอใจ ผมก็คงถูกคุณทิ้ง !”
หลานเสี่ยวถาง : “……” เธอจะเป็นเหมือนกับหมาป่าจริงๆหรอ ?
พอทั้งสองคนกลับไปถึงห้องพักผู้ป่วยแล้ว แต่สือมูเฉินก็ยังไม่ได้ปล่อยหลานเสี่ยวถาง
ในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงแค่หลอดไฟดวงเล็กๆที่เปิดเอาไว้ มันเลยมืดเล็กน้อย ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่รู้ว่าหลานเล่อซินนั้นลืมตาอยู่
เธอที่เห็นหลานเสี่ยวถางที่ถูกอุ้มเข้ามา ในใจก็รู้สึกอิจฉาริษยาและอดไม่ได้ที่จะบ้าคลั่งขึ้นมา แต่ทว่าน้ำเสียงกลับห่วงใย : “ เสี่ยวถางเป็นอะไรไปหรือเปล่า ? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ?”
หลานเสี่ยวถางไม่ได้ตอบ แต่ทว่าสือมูเฉินตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ : “ เมื่อกี้เธอเพิ่งออกกำลังกายมาก็เลยเหนื่อย เดินไม่ไหว ”
“ ออกกำลังกาย ?” หลานเล่อซินพูดซ้ำกับตัวเองอีกรอบ เมื่อหลานเสี่ยวและเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอก็เพิ่งจะเห็นชัดว่า แก้มของหลานเสี่ยวถางนั้นเป็นสีแดง สายตาเต็มไปละอองน้ำและในนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์รักที่แวววาว
ทันใดนั้น หลานเล่อซินรู้สึกรับไม่ได้รับและทำท่าทางที่ดุร้ายอีกครั้ง : “ พวก เมื่อกี้พวกคุณออกไป……”
“ บางครั้งเสี่ยวถางก็ต้องส่งเสียงออกมาบ้าง ” สือมูเฉินมองไปยังหลานเล่อซินด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง : “ กลัวว่ามันจะรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณ ดังนั้นพวกเราก็เลยออกไปข้างนอก ”