ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 150 วิธีการจะเอาชนะศัตรูนั้นต้องทำอย่างไร
หลานเสี่ยวถางผงะไปครู่หนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นมองสือมูเฉิน: “คุณไม่คิดว่าทำแบบนี้มันมากเกินไปหน่อยเหรอ?”
“ไม่นี่”สือมูเฉินกล่าว “ในวันนั้น ถ้าไม่ใช่คุณแม่ของคุณ คนที่ต้องเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายนั้นก็ต้องเป็นคุณ และหลังจากที่คุณพบกับความอัปยศอดสูเหล่านั้น คุณก็คงจะไม่เลือกทำแบบเธอ แต่คุณอาจเลือกที่จะจากไป ผมพูดถูกไหม?”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า ในใจยังคงรู้สึกกลัวเล็กน้อย: “ในเวลานั้นฉันคงเลือกเลียนแบบสมัยโบราณโดยการกัดลิ้นของตัวเองตาย แต่กลับพบว่าฉันไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะสุดท้ายแล้วฉันก็กลัวความตายอยู่ดี……”
“ดังนั้นเธอเกือบจะทำร้ายคุณจนตาย แม้ว่ายังไม่ได้ทำร้ายคุณแต่เธอก็คิดที่จะทำลายคุณ” สือมูเฉินมองไปที่ดวงตาของหลานเสี่ยวถาง: “เสี่ยวถาง คุณคิดว่าการลงโทษแบบนี้มันยังมากเกินไปหรือไม่?”
หัวใจของหลานเสี่ยวถางรู้ผ่อนคลายลงอย่างกะทันหัน เธอส่ายหัว: “ไม่นับว่าเกินไปค่ะ”
“เอาล่ะ ไหนไหนคุณแม่ของคุณก็สะดวกที่จะลงมือ และผมก็ดีใจมากที่ท่านสามารถปกป้องคุณได้ด้วยวิธีนี้ เพราะในบางครั้งผมอาจจะไม่สะดวกที่จะลงมือเอง” สือมูเฉินดึงหลานเสี่ยวถางเข้ามาในอ้อมแขนของเขา: ” มาให้สามีกอดไว้ ไม่ว่าคุณจะเห็นอะไร คุณก็ไม่ต้องกลัวนะ”
“ค่ะ” ริมฝีปากของหลานเสี่ยวถางยกขึ้นและหัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ในเวลานี้ผู้ชายที่อยู่รอบ ๆ ได้เปลี่ยนกลุ่มแล้ว และสองคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาจูงหมาป่าเข้ามาคนละตัว
หมาป่าแลบลิ้นสีแดงออกมา หลานเสี่ยวถางรู้สึกกลัวเล็กน้อย และหดตัวลงในอ้อมแขนของสือมูเฉิน
ทั้งสองพูดกับเย่เหลียนอี: “คุณหนูใหญ่ครับ เตรียมพร้อมแล้วครับ หมาป่าทั้งสองตัวนี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลยครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของหลานเล่อซินเปลี่ยนไปซีดเซียวทันที : “พวกแก พวกแกคิดจะฆ่าฉันเหรอ แม้ว่าฉันจะกลายเป็นผีฉันก็จะไม่ปล่อยพวกแกไปแน่!”
“ผี?” เย่เหลียนอีเยาะเย้ย “หลานเล่อซิน ถ้าเธอกลายเป็นผีจริง ๆแล้วล่ะก็ ได้โปรดมาหาฉันด้วยนะคะ เพราะฉันยังอ่อนต่อโลกมากและฉันยังไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิต!”
หลานเล่อซินถูกคนพยุงขึ้นจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ในขณะที่เธอดิ้นรนพยายามจะหนีอยู่นั้น เธอรีบพุ่งเข้าไปหาสือมูเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ: “มูเฉินโปรดช่วยฉันด้วย! หลายปีแล้วที่ฉันรู้สึกพิเศษกับคุณ คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ?ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก และไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเสี่ยวถางเลย ฉันแค่ขอให้คุณช่วยพูดอะไรแทนฉันหน่อยได้ไหม ได้ไหมคะ?”
เธอร้องไห้ด้วยความกลัว และพูดตะกุกตะกักฟังแล้วจับใจความไม่ได้เลย
“คุณรังแกภรรยาของผม และยั่วยุต่อหน้าเธอเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของเราแตกแยก สิ่งนี้เรียกว่าไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ริมฝีปากของสือมูเฉินขดอย่างเย็นชา: “หลานเล่อซินก่อนหน้านี้ผมเคยเตือนคุณมาแล้วหลายครั้ง หวังว่าคุณจะหยุดการกระทำเหล่านั้นได้ แต่ว่า คุณกลับทำยังไงล่ะ?”
“มูเฉิน คุณจะใจร้ายเช่นนี้ไม่ได้!” หลานเล่อซินกล่าว: “คุณลืมไปแล้วหรือ?การที่คุณแม่ของคุณสามารถกลับมาได้ มันเป็นเพราะฉัน! ถ้าพวกเขาฆ่าฉัน ฉันเชื่อว่าชาตินี้คุณแม่ของคุณจะไม่มีวันให้อภัยคุณอย่างแน่นอน! ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกนั้น มันจะกลายเป็นปมที่ไม่มีวันแก้ได้อย่างแน่นอน!ดังนั้น มูเฉินถือซะว่าเห็นแก่คุณป้า ได้ไหมคะ……”
“ตอนนี้ผมยังสงสัยว่า คุณแม่ของผมถูกคุณล้างสมองหรือเปล่า” สือมูเฉินหรี่ตาของตัวเอง: “เล่อซินคุณเก่งกว่าคุณพ่อและคุณแม่ของคุณมาก ดั่งสุภาษิตที่ว่าสีเขียวกำเนิดจากสีฟ้าแต่เข้มกว่าสีฟ้า”
“มูเฉิน—” หลานเล่อซินถูกลากออกไป เธอร้องไห้และพูดว่า: “ฉันรักคุณมากขนาดนั้น ทำไมคุณถึงทำกับฉันเช่นนี้?! คุณลืมไปหรือ เมื่อสี่ปีก่อนเป็นเพราะฉันถูกบังคับให้จากไป ฉันไม่เคยทำอะไรที่ทรยศต่อคุณเลย!”
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะพูดอะไรสือมูเฉินก็ไม่สั่นคลอน ท่าทางของเขาไม่แยแส เมื่อมองไปที่ดวงตาของหลานเล่อซินก็เหมือนกับการมองคนแปลกหน้า โดยไม่มีความรู้สึกหรือสีหน้าใด ๆเลยแม้แต่น้อย
“เราออกไปดูการแสดงดี ๆ กันด้วยเถอะ!”ในขณะที่เย่เหลียนอีพูดอยู่นั้น ก็ได้พาหลานเสี่ยวถางและคนอื่น ๆ ไปถึงเวทีด้านนอก
หลานเล่อซินถูกลากไปที่รันเวย์ และข้างหลังของเธอมีชายสองคนที่จูงหมาป่าไว้
ในขณะนี้มีคนนำถาดพร้อมใส่ปืนไว้อยู่หนึ่งกระบอกแล้วยื่นให้เย่เหลียนอี: “คุณหนูใหญ่ครับ นี่คืออุปกรณ์ที่คุณต้องการครับ”
เย่เหลียนอีถือปืนในมือด้วยสีหน้าท่าทางที่เกียจคร้านและขี้เล่นเล็กน้อย
ทันใดนั้นเธอหมุนปืนพกและชี้ไปที่หลานเล่อซินทันที
ในขณะนั้นบรรยากาศบริเวณรอบ ๆ เปลี่ยนไปทันที ราวกับว่าไอสังหารทั้งหมดพุ่งเข้าหาหลานเล่อซิน และผู้ชมในนั้นต่างก็เงียบกริบ
หลานเล่อซินรู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกมาจากร่างกายส่วนล่างของเธอ เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ลมหายใจของเธอเหมือนจะหยุดหายใจ และเธอกลัวจนหัวใจเต้นแรงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
ระยะห่างระหว่างเธอกับเย่เหลียนอีไม่ได้ใกล้กันเลย แต่ปลายกระบอกปืนสีดำดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่ขมับของเธอยังไงยังงั้นแหละ
ในขณะนั้นเอง เธอได้ยินเสียงเรียกแห่งความตายดังก้องขึ้น
เวลาทุกนาทีและทุกวินาทีผ่านไป ความกดดันมหาศาลแบบนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำลายการป้องกันของคนๆหนึ่งได้ดี
ภายใต้การทรมานเช่นนี้ การป้องกันของหลานเล่อซินเริ่มพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง
โดยปกติเธอรักชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว ช่วงเวลาดังกล่าวกลืนกินเจตจำนงและความแข็งแกร่งของเธอไปจนหมด ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวเย่เหลียนอี สือมูเฉิน และหลานเสี่ยวถางมากขึ้น
“ปัง!” มีเสียงปืนดังขึ้น และหลานเล่อซินก็เข่าอ่อนลงจนเหมือนกลายเป็นโคลน
ใบหน้าของเธอน้ำหูน้ำตาไหลทะลักออกมา และหว่างขาของเธอเต็มไปด้วยปัสสาวะ ตอนนี้เธอกลัวจนปัสสาวะไหลอย่างต่อเนื่อง
หลังจากรอไปสองนาที เธอพบว่าแขนขาของเธอยังแข็งแรงดี และเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่ากระสุนนัดนี้ไม่ได้ถูกยิงบนร่างกายของเธอ!
เธอยังมีชีวิตอยู่!
เธอเป็นเหมือนนักโทษประหารที่ถูกปล่อยตัวในทันใด แต่เธอก็ร้องไห้ออกมาด้วยรอยยิ้ม
ผู้คนบนเวทีมองดูเธอแสดงเพียงลำพัง และผู้ชมทั้งหมดไม่แสดงความเมตตาออกมาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เฝ้าดูเธอล้มลงและดิ้นรนจนสุดชีวิตระหว่างความเป็นความตาย
เย่เหลียนอียื่นปืนในมือให้หลานเสี่ยวถาง: “เสี่ยวถาง เดี๋ยวรอบต่อไปถึงตาหนูแล้วนะ”
หัวใจของหลานเสี่ยวถางรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที: “หนูเหรอ?”
“หนูไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับผู้คน แค่หันหน้าไปรันเวย์ด้านล่างก็พอ” เย่เหลียนอีกล่าวว่า: “เมื่อหมาป่าได้ยินเสียงปืนมันก็จะวิ่ง เมื่อหลานเล่อซินได้ยินเสียงปืนเธอก็จะวิ่งเช่นกัน”
หลานเสี่ยวถางกระพริบตา
ข้างล่างนี้มีคนอธิบายให้หลานเล่อซินฟังว่า:“หมาป่าทั้งสองตัวนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย และเมื่อพวกมันได้ยินเสียงปืนดังขึ้น พวกมันอาจวิ่งหนีเอาชีวิตรอด หรืออาจต้องการจับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า ดังนั้นชะตากรรมชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรนั้น คุณขอพรจากสวรรค์เองแล้วกัน ”
“ได้โปรด อย่าทำอย่างนี้กับฉันเลย!” หลานเล่อซินคว้าขากางเกงของชายคนนั้น: “ฉันผิดไปแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะไม่กล้าทำอีกแล้ว พวกคุณพูดจะว่าอะไรก็เชิญ!ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ!”
ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้นก็มองไปทางหลานเสี่ยวถาง และเมื่อเธอเห็นปืนในมือของหลานเสี่ยวถาง สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด: “เสี่ยวถาง ฉันขอโทษ ที่ฉันเคยทำรุนแรงกับเธอมาก่อน สิ่งที่ฉันเคยพูดไม่ดีเธออย่าเอาเก็บไว้ในใจเลย อย่ายิงใส่ฉันนะ ฉันคือพี่สาวของเธอนะ!แม้ว่าเราจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่เราก็อยู่ด้วยกันมานานกว่าสิบปี!”
“เลิกพูดเหลวไหลได้แล้ว” ชายที่อยู่ข้าง ๆ พูดว่า: “ให้เวลาคุณ 15 วินาที คุณสามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหนก็วิ่งให้เร็วเท่านั้น มิฉะนั้นหากถูกหมาป่าไล่ตามทัน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้นเราก็ไม่สามารถคาดเดาได้แล้วล่ะ แน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ คุณเห็นกล่องที่วางไว้อยู่อีกด้านหนึ่งไหม? มีอาหารของหมาป่าอยู่ในนั้น และหากคุณวิ่งไปจนถึงตำแหน่งนั้นก็ถือว่าคุณชนะเกมนี้”
“ไม่ ฉันจะวิ่งทันหมาป่าได้ยังไงกัน ?” หลานเล่อซินอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
“คุณยังมีเวลา 13 วินาที, 12, 11……” ชายคนนั้นเอ่ยเลขออกมาโดยสีหน้าไม่ใยดี
หลานเล่อซินกลัวมากจนต้องรีบลุกขึ้น และวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดในชีวิต
เธอไม่เคยวิ่งเร็วขนาดนี้มาก่อน รู้สึกเพียงว่าขาของเธอคู่นี้ไม่ใช่ขาของตัวเอง มีลมพัดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย มีเพียงสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดเท่านั้นที่ผลักดันให้เธอต้องวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังขึ้น และในขณะเดียวกันโซ่ของหมาป่าทั้งสองตัวก็ถูกปล่อยออก และกระสุนก็ตกลงไปข้างหลังพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงจำเป็นต้องวิ่งไปข้างหน้า
หลานเล่อซินรู้สึกกลัวจนกระสับกระส่าย และวิ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
เธอรู้ว่าหมาป่าทั้งสองตัวนั้นทำให้ระยะห่างระหว่างเธอและพวกมันสั้นลงอย่างต่อเนื่อง และเธอก็รู้ด้วยว่าหมาป่าสองตัวนั้นอาจจะวิ่งไปข้างหน้าหรือกัดกินฉีกเนื้อเหยื่อที่อยู่รอบ ๆ ตัวพวกมันเมื่อพวกมันโกรธก็เป็นได้!
เธอทำได้เพียงอธิษฐานต่อพระเจ้าเท่านั้น
ในอดีตนั้นหลานเล่อซินก็เป็นผู้หญิงที่เติบโตมาอยู่แต่ในบ้านเธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย เธอไม่เคยได้วิ่งเร็วขนาดนี้มาก่อน? หลังจากวิ่งยังไม่ถึงหนึ่งเมตรเธอก็เริ่มหมดเรี่ยวแรงถึงกับหายใจหอบรัว
อย่างไรก็ตามเพื่อความอยู่รอดเธอจึงยังไม่หยุดวิ่ง เมื่อเธอได้ยินเสียงกระดิ่งที่คอหมาป่านั้น เธอก็ยังสามารถเพิ่มความเร็วได้อีกเล็กน้อย
ในขณะนี้ หมาป่าตัวหนึ่งนั้นได้วิ่งผ่านเธอไปแล้ว
เธอรู้สึกชัดเจนว่าในขณะนั้น หัวใจของเธอถูกบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บ ลำคอของเธอเหมือนมีอะไรมาบีบเข้าอย่างแรงจนลมหายใจเธอกระตุกวูบแน่น วิญญาณของเธอหวาดกลัว และเธอก็เหมือนจะเป็นลมล้มไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หมาป่าตัวนั้นแซงหน้าเธอไปแล้ว มันก็ยังคงวิ่งพุ่งไปด้านหน้าต่อไป ปล่อยให้เธออยู่ตามลำพัง ทั่วร่างกายของเธอนั้นราวกับว่ามันถูกบดขยี้ด้วยรถบดถนนและมันแสนทรมานอย่างสุดจะบรรยาย
แต่เธอไม่สามารถผ่อนคลายกังวลได้ เพราะเสียงกริ่งยังดังอยู่ข้างหลังเธอ และยังเหลือหมาป่าอีกตัวหนึ่งใกล้จะวิ่งตามเธอทันแล้ว!
เธอรู้สึกถึงเสียงลมที่พัดมาจากข้างหลัง จากนั้นเสื้อผ้าด้านหลังของเธอก็ดูเหมือนจะถูกฉีกขาดออกจากกัน หัวใจของเธอเกือบจะหยุดเต้น และเธอรู้สึกถึงกลิ่นไอปีศาจอันเยือกเย็นของเทพเจ้าแห่งความตายที่กำลังใกล้เข้ามาเพื่อฆ่าเธอ
หมาป่าตัวนั้นได้ฉีกเสื้อผ้าของหลานเล่อซินออกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นมันก็กำลังจะเข้าโจมตีเป็นครั้งที่สอง
แต่ในเวลานี้ จมูกของมันขยับเหมือนได้กลิ่นอีกกลิ่นหนึ่งโชยเข้าจมูกของมัน
ข้างหน้ากล่องอยู่ในสายตาของมันแล้ว และข้างในกล่องนั้นเป็นอาหารสดที่พวกมันชอบกิน!
ดังนั้น มันจึงทิ้งเหยื่ออย่างหลานเล่อซิน และวิ่งตรงไปหาอาหารสดในกล่องนั้นทันที
ในขณะที่มันวิ่งผ่านหลานเล่อซินไป เธอไม่สามารถประคองตัวเองได้อีกต่อไปและล้มลงไปกองกับพื้น
เกราะป้องกันในหัวใจของเธอมันได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ และในแววตานั้นเหม่อลอย
ชายในชุดสูทเดินเข้ามาลากเธอขึ้น แล้วลากเธอไปไว้ตรงหน้าของหลานเสี่ยวถาง
หลานเล่อซินเห็นว่าหลานเสี่ยวถางถือปืนอยู่ในมือ และมันเป็นปืนที่สามารถฆ่าเธอได้ในทันที
ร่างกายของเธอสั่นเทาไปทั้งตัว และดวงตามองไปที่หลานเสี่ยวถางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่เหลียนอีรู้ได้ทันทีว่าในตอนนี้หลานเล่อซินกลัวหลานเสี่ยวถางสุด ๆแล้ว ดังนั้นเธอจึงพูดว่าในช่วงที่หลานเล่อซินอ่อนแอที่สุดนั้นเธอเสริมย้ำอีกครั้งว่า: “หลานเล่อซินเธอเห็นหรือยัง?จากนี้ไปถ้าเธอกล้าที่จะกลั่นแกล้งถางถางอีก เนื้อและเลือดสดในกล่องนั้นก็จะเป็นจุดจบของเธอ!”
หลานเล่อซินจ้องมองไปที่ทั้งสองคนด้วยสายตาที่เหม่อลอยและว่างเปล่า
“เข้าใจหรือยัง!” ดวงตาของเย่เหลียนอีคู่นั้นแลดูดุดันและเยือกเย็น น้ำเสียงของเธอเผยให้เห็นถึงความแกร่งและความกดดันมาก
“ฉันเข้าใจแล้ว! ฉันเข้าใจแล้ว!” หลานเล่อซินรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างสั่นเทา: “เสี่ยวถาง ต่อไปนี้ฉันไม่กล้าทำอะไรเธออีกแล้ว อย่าฆ่าฉันเลยนะ!ฉันสำนึกผิดไปแล้ว ที่ผ่านมานั้นมันเป็นความผิดของฉันเอง!”
“เธอทำผิดตรงไหน?”เย่เหลียนอีถาม
“ผิดตรงที่ฉันไม่ควรคิดไม่ดีกับเสี่ยวถาง ฉันไม่ควรสร้างความบาดหมาง ฉันไม่ควรอิจฉาเสี่ยวถาง……” หลานเล่อซินโบกมือไม่หยุด: “อย่างไรก็ตามมันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด เสี่ยวถางได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ!ฉันไม่กล้าทำอีกแล้วจริงๆ……”
เมื่อเห็นสภาพของเธอในตอนนี้หลานเสี่ยวถางขมวดคิ้ว: “ฉันหวังว่าเธอจะสามารถทำตามสิ่งที่เธอพูดเอาไว้ได้ เธอไปซะเถอะ ฉันไม่ต้องการที่จะเห็นเธออีก!”