ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 159 พอดื่มเหล้าแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะใจกล้าขนาดนี้ !
หลานเสี่ยวถางกระพริบตา เหมือนกับว่าจะไม่เข้าใจคำถามที่ลึกซึ้งของสือมูเฉิน
ดังนั้นเขาจึงวางขาของลงและเขาไปพูดใกล้หูของเธอ : “ เอากันไหม ?”
“ โอ๋ ?” หลานเสี่ยวถางก็มีท่าทีโต้ตอบกลับไปว่า : “ พวกเราไม่ใช่กำลังทำอยู่หรอ ?”
ด้านหลังของสือมูเฉินก็รัดแน่นขึ้นมาในทันที
นี่เขา ถูกสับเปลี่ยนความคิดและนี่เธอกำลังยั่วยวนอยู่อย่างนั้นหรอ ?
เขามองอย่างละเอียด เมื่อเห็นรูปร่างที่ซื่อสัตย์ของหลานเสี่ยวถาง ก็รู้สึกทำกับทำอะไรไม่ถูก
เธอไม่ได้แสร้งทำมันออกมา คำตอบแบนี้ ถ้าเป็นตอนที่เธอมีสติคงทำแบบนี้ออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน !
เยี่ยมไปเลย !
สือมูเฉินเข้าไปกอดหลานเสี่ยวถาง : “ เสี่ยวถาง โอบเอวของผมเอาไว้ให้แน่นนะ ”
เมื่อหลานเสี่ยวได้ยิน ก็ให้ความร่วมเป็นอย่างดี ทั้งให้ความร่วมมือและยังยิ้มให้เขาอีกด้วย
เขาก็เอาฝ่ามือสอดเข้าไปในผมของเธอ แล้วก็กอดเธอไว้ในอ้อมแขน และทันใดนั้น ก็ดูเหมือนว่ามีอะไรอย่างที่มันล้นอยู่ในใจ
ท่าทางของเขาก็ค่อยๆนุ่มนวลลง ถึงแม้จะนุ่มนวล แต่ก็เต็มไปด้วยความลึกซึ้ง สือมูเฉินก็ก้มลงไปจูบเธอ ค่อยๆละเลงไปบนริมฝีปากของเธอแบบนั้น และเธอก็ยอมมอบตัวโดยดีให้กับเขา
เขารู้สึกถึงความเร้าใจของร่างกายของเธอ แล้วก็ค่อยๆลืมทุกอย่างไป ในที่สุด ในตอนท้ายสือมูเฉินรู้สึกแค่ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอย่างนี้มาก่อน
เขาหายใจหอบ มองดูหลานเสี่ยวถางที่อยู่ใต้ตัวของเขาที่กำลังจะหลับ และจูบลงไปเบาๆบนหน้าผากของเธอ : “ เสี่ยวถาง อย่าเพิ่งหลับนะ บนตัวมีแต่เหงื่อ พวกเราไปอาบน้ำกันก่อน ”
ในขณะที่พูด สือมูเฉินก็อุ้มหลานเสี่ยวถางแล้วก็ไปห้องน้ำด้วยกัน แต่ทว่าตอนที่อยู่ในห้องน้ำที่กำลังล้างตัวให้เธอ เขาก็ทนไม่ไหว และเป็นฝ่ายรุกขึ้นมาอีกครั้ง
ในที่สุด หลานเสี่ยวถางก็หลับไปในขณะที่สือมูเฉินกำลังเป่าผมให้เธอ
เขาที่ได้ยินเสียงงึมงำของเธอบนไหล่ของเขา : “ ไอ่คนขึ้งก ขี้หึง !”
เขาขมวดคิ้ว เธอกำลังว่าเขาหรอ ? !
สือมูเฉินรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยบีบไปที่ใบหน้ารูปไข่ของหลานเสี่ยวถาง
เธอก็ไม่ตื่น แต่ทว่ากลับยกมือขึ้นมาและกอดไปที่แขนของเขา : “ มูเฉิน มูเฉิน……”
จู่ๆหัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะอย่างกะทันหัน และจับมือของเธอที่เกาไปเรื่อย : “ อื้ม ผมอยู่นี่ ”
ริมฝีปากของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ร่างกายของเธอก็ยิ่งติดแน่นกับเขา : “ มูเฉิน ฉันมีความสุขมากเลย ”
สือมูเฉินยืมแสงคริสตัลมองไปที่หลานเสี่ยวถาง
ใบหน้าของเธอก็ยังคงหน้าแดงไม่เปลี่ยน หลังจากที่คบกับเขาแล้ว เธอก็ให้ความสำคัญกับผิวมาก รอยบนใบหน้าก่อนหน้านั้นก็ได้หายไปหมดแล้ว พอมองไปที่แก้มก็ไม่มีรูขุมขนเลย ราวกับว่าเป็นรูปที่ผ่านการแต่งมาแล้ว
ถ้ามองอย่างละเอียด ก็จะสามารถเห็นขนปุยเล็กๆบนแก้มของเธอ
สือมูเฉินก็อดที่จะคิดถึงภาพเหตุการณ์นั้นไม่ได้ ตอนที่เขาไปบ้านตระกูลหลาน ภาพตอนที่หลานเสี่ยวถางเปิดประตูให้เขา
ทุกครั้งเธอจะมีท่าทางที่เขินอายเล็กน้อย เมื่อเห็นเขา ก็จะยิ้มให้กับเขา จากนั้น ก็จะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าเขาจะไล่ตามหลังเธอไป
มีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ได้ติดต่อกัน ก็เป็นเพราะว่าเขามีธุระก็เลยรีบออกมาจากห้องหลานเล่อซิน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลานเสี่ยวถางก็ออกมาจากห้องของตัวเองเหมือนกัน ก็เลยทำให้เขาสะดุดกับเธอ
เขาเห็นตอนที่เธอล้มหัวเข่านั้นแดง ด้วยเหตุนี้จึงอุ้มเธอลงไปด้านล่าง
ในตอนนั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองเขา ในระหว่างนั้น เขาที่พูดคุยกับเธอ สายตาของเธอก็ล่องลอยไปที่อื่น
“ ปกติแล้วเป็นคนขี้ขลาด พอดื่มเหล้าแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะใจกล้าขนาดนี้ !” ดวงตาที่ลึกซึ้งของสือมูเฉิน ถามไปยังหลานเสี่ยวถาง : “ มีความสุขอะไรกัน ?”
“ ก็แค่มีความสุข !” ในขณะที่หลานเสี่ยวถางพูด หัวก็ตกจากไหล่ของสือมูเฉิน และหูของเขาก็แนบติดอยู่ของหน้าอกของสือมูเฉิน
เธอก็ยื่นแขนอีกข้างออกมา ลูบไปยังหน้าอกของสือมูเฉินและพูดงึมงำว่า : “ นี่มันอะไรอะ ? ใช่เตียงหรือเปล่า ? ทำไมไม่เห็นนุ่มเลย ?”
พอสือมูเฉินกลืนลูกกระเดือก หลานเสี่ยวถางที่กระสับกระส่ายก็จับไปที่มัน และเขาก็พูดขู่ที่ริมหูของเธอ : “ ถ้ายังจุดไฟไปเรื่อย ผมก็จัดการกับคุณอีกรอบนะ ”
“ ฮาว——”หลานเสี่ยวก็หาวนอนขึ้นมา แล้วก็หลับไป
เป็นเพราะว่าวันนี้ดื่มมากเกินไป บวกกับเอากันเกือบตลอดทั้งคืน เพราะฉะนั้นในวันรุ่งขึ้น ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นสูงแล้ว หลานเสี่ยวถางก็เพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้นมา
เธอรู้สึกว่าในหัวของเธอยังมีความมึนงงอยู่เล็กน้อย ร่างกายก็ปวกเปียกไม่อยากจะขยับ ดังนั้น ก็เลยค่อยๆลืมตาขึ้นและปรับการมองเห็นของแสงและพูดว่า : “ มูเฉิน——”
พอเธอเรียกหา แต่ก็กลับพบว่าสือมูเฉินก็ยังไม่ตื่น แล้วก็ยังคงอยู่ข้างๆเธอ อีกทั่งฝ่ามือก็ยังวางอยู่บนหน้าอกของเธอ พอได้ยินเสียงเรียกของเธอ น้ำเสียงก็มีความอ่อนเพลียเล็กน้อย : “ หา ตื่นแล้วหรอ ?”
“ อื้ม ” หลานเสี่ยวถางขยับเล็กน้อย จากนั้นตัวเองก็เพิ่งจะรู้สึกว่าหน้าอกถูกจับอยู่ที่เต็มฝ่ามือ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และแนบติดกับหน้าอกของสือมูเฉินและหลังก็แข็งทื่อขึ้นมาในทันที
พอสือมูเฉินลืมตาขึ้น ก็ขยับฝ่ามือเล็กน้อย นึกถึงภาพเหตุการณ์ของเมื่อคืน ริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ได้เก็บมือคืนมา แต่กลับเอามืออีกข้างไปจับด้วย แล้วก็ออกแรงบีบ น้ำเสียงที่ต่ำบริสุทธิ์ก็พูดอยู่ที่ริมหูของหลานเสียวถาง : “ เสี่ยวถาง คุณอวบอิ่มขึ้น ”
“ คุณ——”หูของหลานเสี่ยวถางก็ร้อนขึ้นมาในทันที เธอบิดตัว : “ รีบปล่อยนะ คนเค้ากำลังจะลุก !”
“ ทำไมต้องปล่อยด้วยละ ? คุณเป็นภรรยาผมนะ ไม่ว่าร่างกายส่วนไหนของคุณก็เป็นของผม !” สือมูเฉินก็แสดงอำนาจสิทธ์ขึ้นมา นี่เป็นการหยอกล้อเธอ : “ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวานคุณเป็นฝ่ายรุก แถมยังเป็นฝ่ายรุกให้ผมจับอีกด้วย !”
หลานเสี่ยวถางถึงกับตาโตขึ้นมาทันที : “ เป็นไปไม่ได้ !”
“ เสี่ยวถาง พาผมขึ้นเตียงแล้ว ก็คิดที่จะกลืนคำพูดอีกหรอ ?” สือมูสือพลิกตัวของเธอกลับมา : “ ลืมไปแล้วหรอว่าเมื่อวานเป็นฝ่ายรุกยังไงในการนอนกับผม ?”
ไม่สิ เธอดูเหมือนว่ายังจะจำภาพเหตุการณ์ได้เล็กน้อย……
เธอเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าของเขา แกะเข็มขัดของเขาออก และยังนั่งอยู่บนตัวของเขา……
หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าในหัวมีแต่เสียงดังก้อง แทบอยากจะหาเข็มมาเย็บมันเข้าไป !
สือมูเฉินพอเห็นสีหน้าของเธอแล้ว : “ นึกออกแล้วใช่ไหม ? เพราะฉะนั้น เสี่ยวถาง คุณต้องรับผิดชอบผม…… ”
“ นั่นมันเป็นความคิดของ Jarvis เพื่อนสนิทของคุณ !” หลานเสี่ยวถางปากมุ่ย : “ ฉันกลัวคุณจะโกรธ เขาก็เลยความคิดที่ไม่เข้าท่าแบบนี้กับฉัน ฉันถึงได้ทำแบบนั้นลงต่างหาก !”
เมื่อวานเธอสมองตันจริงๆ หรือเพราะว่ากังวลสือมูเฉินจะโกรธมากเกินไป ถึงได้รับฟังความคิดเห็นของJarvisแบบนี้ ! จริงๆเลย ขายหน้าไปถึงบ้านคุณยายแล้ว !
หลานเสี่ยวถางไม่สามารถหวนกลับไปในตอนแรกได้ !
“ ถึงอย่างไร คำแนะนำของเขาก็ไม่เลว ผมก็ชอบเหมือนกัน ” ในขณะที่สือมูเฉิน ก็มองไปยังหลานเสี่ยวถางด้วยความจริงจัง : “ ถ้าเกิดว่าคุณไม่เป็นฝ่ายรุกในการดับไฟ ผลลัพธ์ที่ตามก็อาจจะร้ายแรงจริงๆ ”
“ อ๋า ?” หลานเสี่ยวถางพูดอย่างสงสัย : “ แล้วคุณจะเป็นยังไง ?”
“ หันจื่ออี้คิดอยากจะได้ภรรยาของผม จะให้ผมไม่ฆ่าเขาได้ยังไง !” สือมูเฉินหรี่ตาพร้อมกับท่าทางที่ดุร้าย
หลานเสี่ยวถางตัวสั่น : “ แล้วตอนนี้ละ ?”
สือมูเฉิน : “ แต่ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้น่าสนใจอะไร แถมยังประหม่าผม ครั้งนี้ผมตัดสินใจจะปล่อยเขาไปชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้อีกเดี๋ยวถ้าออกไป จำเอาไว้ว่าอย่าแม้แต่จะมองเขาพริบตาเดียว !”
มิฉะนั้นจะรุนแรงแบบนี้
หลานเสี่ยวก็รับปากอย่างเชื่อฟัง : “ โอเค ”
“ อืม ” สือมูเฉินก็พลิกหลานเสี่ยวถางกับมาอยู่ในอ้อมอกของตัวเอง : “ แบบนี้สิเด็กดี มา ให้สามีกอดนอนสักแป๊บ ”
หลานเสี่ยวถางหลับอยู่ตรงไหล่ของสือมูเฉินอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ตอนนี้ริมฝีปากของเขายกขึ้นจนไม่สามารถเก็บมันลงมาได้
สือมูเฉินแอบยิ้มอยู่นาน จากนั้นก็มองหลานเสี่ยวถางที่อยู่ในอ้อมแขน ในใจก็รู้สึกจำใจแล้วก็รู้สึกตลก
ภรรยาของเขาถูกหลอกโดยง่ายดาย ดูเหมือนว่า เขาจะต้องใส่ใจมากขึ้น !
ทั้งสองคนก็หลับไปสักแป๊บ แล้วก็เพิ่งจะลุกไปล้างหน้าบ้วนปากด้วยกัน ตอนที่จะออกจากห้อง มันก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว
ทั้งสองเพิ่งมาถึงด้านนอกที่ทำกิจกรรม สมาชิกของกลุ่ม DR ก็เดินเข้ามาทักทาย : “ ลูกพี่ สีหน้าดูไม่เลวเลยนะ ! แต่พี่สะใภ้ดูดียิ่งกว่านะ !”
ถ้าไม่ได้ถูกสือมูเฉินโอบเอาไว้ละก็ แน่นอนป่านนี้ก็คงไปซ่อนแล้ว
สือมูเฉินพยักหน้าโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน : “ มันก็ควรที่จะต้องดูดีอยู่แล้ว ”
ในขณะนั้น หันจื่ออี้ก็เดินเข้ามา สายตามองไปยังหลานเสี่ยวถาง : “ เสี่ยวถาง ทำไมถึงได้นอนตื่นสายเป็นแล้ว ? เมื่อก่อนสมัยเรียน เมื่อก่อนคุณชอบกำชับผมว่าอย่าให้ไปสาย……”
หลานเสี่ยวถางเชื่อฟังสือมูเฉิน ก็เลยไม่พูดกับหันจื่ออี้ เพราะฉะนั้น สือมูเฉินก็เลยรับบทสนทนามา : “ เมื่อคืนเสี่ยวถางเหนื่อยมาก เพราะฉะนั้นก็เลยตื่นสาย ถึงอย่างไร ร่างกายก็คงต้องออกกำลังกายให้มากกว่านี้……”
หันจื่ออี้ถอนหายใจ แล้วก็มองไปตรงคอของหลานเสี่ยวถางด้วยสายตาที่ตึงเครียด รู้สึกว่าตรงคอเสื้อ ดูเหมือนกับว่าจะมีรอยจูบจ้ำแดงที่ออกโผล่ออกมา
เขาไม่นึกมาก่อนแล้วก็กำหมัดแน่น กลัวว่าจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้แล้วก็ลงมือกับสือมูเฉิน ด้วยเหตุเหตุนี้ จึงเร่งฝีเท้าและเดินจากไป
หลานเสี่ยวถางเพิ่งตื่นก็เลยยังไม่ได้กินอาหารเช้า ตอนนี้เห็นว่าสือมูเฉินกำลังคุยกับสมาชิก DR ดังนั้นก็เลยไปที่โซนทานอาหาร ตั้งใจว่าจะกินให้อิ่มท้องก่อน
เพิ่งกำลังจะกินเค้กน้ำผึ้ง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอก็หยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเฉียวโยวโยวโทรมา
“ เสี่ยวถาง ” ฟังน้ำเสียงของเฉียวโยวโยวดูเหมือนไม่ค่อยดีเล็กน้อย : “ เจียนปอจะกลับมาแล้ว ”
หลานเสี่ยวถางตกใจ : “ จริงหรอ ? มันก็ดีนิ เธอก็ได้ดูด้วยว่าเขาหมายความว่ายังไงกัน ”
ก่อนหน้านี้ ฟู้เจียนปอออกนอกลู่นอกทาง หลานเสี่ยวถางก็เป็นคนที่ตักเตือน แต่ต่อมาก็เห็นว่าเฉียวโยวโยวมีท่าทางตัดใจไม่ได้จริงๆ เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
ท้ายที่สุด เฉียวโยวโยวก็บอกว่า เธอจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับฟู้เจียนปอ ถ้าเกิดว่าเขากลับมาจากต่างประเทศแล้วยังคงดีต่อเธอ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นที่มันไม่ควรจะมี เธอก็จะยอมฉลองวันเกิดกับเขาโดยดี
ในเมื่อ พวกเขารู้จักกันมา 20 กว่าปีแล้ว ต่างก็ซึมซ้ำเข้าไปในชีวิตของกันและกันแล้ว มันไม่ใช่แค่ว่าบอกให้ตัดก็จะสามารถตัดขาดได้
“ อื้ม ” เฉียวโยวโยวตอบกลับแค่คำเดียว และถอนหายใจพูดว่า : “ แต่ เสี่ยวถาง จู่ๆฉันก็รู้สึกอยากถอนตัวกลางคัน……”
“ โยวโยว ถึงอย่างไรเธอก็ยังถือสาอยู่ใช่ไหม ?” หลานเสี่ยวถางเคยผ่านประสบการณ์ถูกทรยศแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นก็เลยเข้าใจความรู้สึกของโยวโยวอย่างดี : “ ถ้าเกิดว่ายังถือสาอยู่จริงๆละก็ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ ?”
“ เสี่ยวถาง อันที่จริงแล้ว……” เฉินโยวโยวก็นึกถึงค่ำคืนนั้นของฟู่สีเกอ อยากพูดแต่ก็ไม่ได้พูด ท้ายที่สุดเธอก็พูดบอก : “ ฉันไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขายังไง เพราะฉะนั้นเสี่ยวถาง วันมะรืนนี้เขากลับมา เธอไปรับเขาเป็นเพื่อนฉันได้ไหม ?”
“ ได้สิ ไม่มีปัญหา !” หลานเสี่ยวถาง : “ พอถึงตอนนั้นพวกเราไปด้วยกัน ! พอดีเลย ฉันก็อยากเห็นว่าเขาจะเป็นคนยังไงกันแน่ !”
“ เสี่ยวถาง เธอนี่ดีจริงๆเลย ” เฉียวโยวโยวตอบ
“ ความสัมพันธ์ของพวกเราสองเขา ยังจะต้องพูดอะไรน้ำเน่าอยู่อีกหรอ ?” หลานเสี่ยวถาง : “ โอเคพอได้แล้ว ทุกครั้งที่พูดถึงเขา จากที่เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งก็กลายมาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก มันไม่ดูเหมือนเธอเลย !”
“ โอ้ บางทีฉันอาจจะเป็นหนี้เขาในชาติที่แล้วก็ได้ !” ในขณะที่เฉียวโยวโยวพูด ก็วางสายไป
หลานเสี่ยวถางกำลังจะเก็บโทรศัพท์ ก็เห็นมีการแจ้งเตือนของวีแชทมาหนึ่งรายการ
เธอก็เปิดเข้าไปดู เป็น Jarvis ที่ส่งมา : “ เมื่อวานลองแล้วหรือยัง ? ผลออกมาเป็นยังไงบ้าง ?”
หลานเสี่ยวถางก็มองไปรอบๆด้วยความไม่มั่นใจ เห็นว่าไม่มีใคร ก็เลยรีบตอบกลับไป : “ มันก็สำเร็จอยู่หรอก แต่ทว่ามันขายหน้ามากเลย ”
Jarvis : “ ขายหน้าไม่เห็นเป็นไร แค่สำเร็จก็โอเคแล้ว ผมเข้าใจเขานะ ต่อไปถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่ไม่แน่ใจก็มาถามผมได้นะ ”
หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะตอบกลับไป : “ ขอบคุณนะคะ คุณJarvis คุณนี่เป็นคนที่มีน้ำใจจริงๆคนหนึ่งเลย !”
Jarvis : “ ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมเป็นเพื่อนสนิทของสือมูเฉิน แน่นอนผมก็ต้องหวังว่าครอบครัวของเขาจะรักใคร่ปรองดองซึ่งกันและกัน ”