ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 185 บอกกับเขาว่า ไม่ได้เจอกันนานเลย
ถึงแม้หลานเสี่ยวถางจะไม่รู้ว่าหลานเล่อซินจะยังมีอะไรพูดกับตนเองอีก แต่ก็ยังคงรับสายโทรศัพท์
ในโทรศัพท์ น้ำเสียงของหลานเล่อซินดูลึกลับเล็กน้อย : “เสี่ยวถาง ตอนนี้คุณสะดวกรับสายไหม?”
หลานเสี่ยวถางจึงตอบว่า : “สะดวก”
หลานเล่อซินพูดว่า : “ฉันมีเรื่องหนึ่งที่จะบอกกับคุณ”
หลานเสี่ยวถางรู้ว่าแต่ไหนแต่ไรเธอก็เล่นลูกไม้มาตลอด ฉะนั้นเดิมทีก็ไม่คิดที่จะเชื่อ และพูดไปตรงๆว่า : “เรื่องอะไร คุณพูดมาตรงๆเลยได้ไหม?”
“มันเกี่ยวกับมูเฉินและคุณ” หลานเล่อซินพูดต่อว่า : “มิเช่นนั้น เราก็ไปหาที่นั่งคุยกันดีไหม?”
หลานเสี่ยวถางชักสีหน้าไม่พอใจ : “ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาว่าง ถ้ามีเรื่องจะพูดจริงๆ คุณพูดในโทรศัพท์ก็เหมือนกันนั่นแหละ!”
หลานเล่อซินได้แต่พูดว่า : “โอเค คืออย่างนี้ ฉันไปรู้ความลับมาเรื่องหนึ่ง ความลับที่เกี่ยวกับว่าทำไมมูเฉินถึงแต่งงานกับคุณ”
เธอพูดจบก็รีบอธิบายว่า : “ฉันไม่ได้จงใจจะทำลายพวกคุณหรือว่าต้องการอะไร ฉันแค่รู้สึกว่า คุณคือน้องสาวของฉัน ฉันจำเป็นต้องบอกให้คุณรู้”
หลานเสี่ยวถางต้องการจะวางสาย : “ฉันต้องเตรียมขับรถแล้ว ไม่มีเวลาคุยเล่นกับคุณมากมายขนาดนี้”
พูดจบเธอก็กำลังจะถอดหูฟังออก
“เสี่ยวถาง คุณไม่รู้สึกเหรอว่าในตอนนั้นเขารีบร้อนจะแต่งงานกับคุณมาก?” เสียงของหลานเล่อซินดังออกมาจากหูฟัง จู่ๆหลานเสี่ยวถางก็นึกถึงคำพูดของหันจื่ออี้กับสือเพ่ยหลินในตอนนั้น อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจึงไม่ได้วางสายไป
หลานเล่อซินยังพูดอีกว่า : “อันที่จริงแล้ว ที่เขาแต่งงานกับคุณไม่ใช่เพราะว่าชอบคุณหรอกนะ แต่เพราะว่าเขาติดหนี้บุญคุณพ่อของคุณ จึงแต่งงานกับคุณเพื่อดูแลคุณเป็นค่าตอบแทน!”
“พูดจาเหลวไหล!” หลานเสี่ยวถางโกรธเล็กน้อย : “เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อฉันเป็นใคร มิเช่นนั้น ทำไมไม่เคยบอกฉันเลยล่ะ! ที่คุณพูดนะมันไร้สาระสิ้นดี!”
“ไม่ใช่หรอก ที่เขาไม่ได้บอกกับคุณ เพราะว่าเขารอให้คุณตกหลุมรักเขา!” หลานเล่อซินพูดต่อว่า : “เพราะว่าคุณไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาติดหนี้บุญคุณพ่อของคุณ เพื่อเป็นการชดเชย จึงแต่งงานกับคุณและปฏิบัติต่อคุณเป็นอย่างดี หลังจากที่รอให้คุณตกหลุมรักแล้ว ถึงแม้ว่าพ่อของคุณจะค้นหาความจริงเจอ ก็จะต้องยอมจำนวนเพราะคุณ!”
“หลานเล่อซิน คุณไม่จำเป็นต้องพูดหรอก ความคิดคุณนี่มันพิสดารจริงๆเลย!” หลานเสี่ยวถางโมโหมาก หน้าอกแปรปรวนขึ้นมาทันที : “ที่มูเฉินพูดก็ถูก ฉันไม่น่าเห็นใจคุณเลยจริงๆ! คุณทำเพื่อตำแหน่ง ทำทุกอย่างไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล! แม้แต่เหตุผลไร้สาระอย่างนี้ คุณก็ยังกุเรื่องขึ้นมาได้ ฉันนับถือคุณจริงๆเลย!”
“เสี่ยวถาง ฉันไม่ได้กุเรื่องจริงๆนะ” หลานเล่อซินพูดชี้แนะอย่างจริงใจ : “ฉันเป็นห่วงคุณ กังวลว่าหลังจากที่เขาใช้ประโยชน์คุณเสร็จแล้ว ก็จะไม่ต้องการคุณแล้ว คุณก็จะต้องเสียใจอยู่คนเดียว!”
“โครม!” หลานเสี่ยวถางโกรธมาก จึงวางสาย พลางโยนมือถือทิ้งไปข้างๆ
หลังจากนั้นสองสามวัน เรื่องที่หลานเล่อซินโทรมา ก็ราวกับเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ถูกลืมไปแล้ว
วันนี้หยานชิงเจ๋อกลับมา พาแฟนสาวคนนั้นของเขามาด้วย สือมูเฉินจึงพาหลานเสี่ยวถาง ฟู่สีเกอ ซูสือจิ่น มาเลี้ยงต้อนรับเขา
ทุกๆคนจะจัดงานเลี้ยงกันที่ Royal Empire สือมูเฉินกับหลานเสี่ยวถางไปรับหยานชิงเจ๋อที่สนามบิน ส่วนคนอื่นๆที่เหลือก็ไปเจอกันที่ห้องวีไอพี
เมื่อพวกหลานเสี่ยวถางเข้ามาที่ห้องวีไอพี ฟู่สีเกอก็มาถึงแล้ว เขาลุกขึ้นยืน ตบๆไหล่ของหยานชิงเจ๋อ จากนั้นก็มองไปที่หญิงสาวข้างๆหยานชิงเจ๋อ : “ชิงเจ๋อ คุณไม่แนะนำสาวสวยท่านนี้หน่อยเหรอ?”
หยานชิงเจ๋อยิ้มๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน : “นี่คือเจียงซีหยู่ เป็นแฟนของฉัน”
พูดจบเขาก็แนะนำกับเจียงซีหยู่ว่า : “ซีหยู่ นี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันคนหนึ่ง ฟู่สีเกอ เป็นสไตลิสต์ที่มีชื่อเสียง”
เจียงซีหยู่หน้าตาสวยมาก ทำให้คนรู้สึกเหมือนกับว่าเห็นภาพวาดของเจียงหนาน Water Town เลย เธอยิ้มให้ฟู่สีเกอ : “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!”
ฟู่สีเกอพูดอย่างเป็นกันเอง : “บอกฉันหน่อยได้ไหม ว่าฟู่สีเกอจีบคุณยังไง?”
และเวลานี้ประตูห้องวีไอพีก็ถูกผลักออก เป็นคนผมสั้นคนหนึ่ง คนคนนั้นก็คือซูสือจิ่นเธอดูสะสวยสะอาดสะอ้าน
เธอกวาดสายตามองสถานการณ์ในห้องวีไอพี ดึงปกคอเสื้อคลุมลง แล้วพูดอย่างสบายๆว่า : “ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่ารถติดนิดหน่อย”
“ยายผัดผัก จะต้องเกรงใจอะไร? วันนี้เป็นคนกันเองทั้งนั้น!” ฟู่สีเกอกล่าว : “คุณดูสิ ชิงเจ๋อพาแฟนมาด้วยนะ!”
ซูสือจิ่นไม่ได้ตอบรับหัวข้อนี้ แต่เดินไปตรงหน้าหยานชิงเจ๋อ แล้วยิ้มให้เขา : “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ!”
อันที่จริง ตอนที่อยู่อเมริกา เธอมักจะหาโอกาสที่จะเจอเขาอยู่บ่อยๆ ที่บอกว่า ‘ไม่ได้เจอกันนาน’ ก็เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น แต่ราวกับผ่านไปสามฤดูใบไม้ร่วงเลย
แววตาหยานชิงเจ๋อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในน้ำเสียงมีความรักใคร่เอ็นดู : “สือจิ่น มา ฉันจะแนะนำให้คุณรู้จัก นี่คือเจียงซีหยู่ แฟนของฉันเอง”
เวลานี้ซูสือจิ่นมองไปที่เจียงซีหยู่ แล้วพยักหน้าให้อย่างเย็นชา
“ซีหยู่ นี่คือซูสือจิ่นของตระกูลซู เป็นน้องสาวคนเล็กของพวกเราที่เติบโตมาด้วยกัน!” หยานชิงเจ๋อไม่ได้สนใจท่าทีของซูสือจิ่น อธิบายกับเจียงซีหยู่ว่า : “ซูสือจิ่นเป็นคนตรงไปตรงมา ปกติแล้วก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบคุณหรอกนะ”
“อืม ฉันรู้แล้ว พวกคุณก็เหมือนเป็นญาติพี่น้องกันนั่นแหละ!” เจียงซีหยู่ยิ้ม ตาและคิ้วโค้งได้รูปสวยงาม
ทุกคนต่างนั่งลง สือมูเฉินกล่าวว่า: “วันนี้เป็นการเลี้ยงต้อนรับชิงเจ๋อ ชิงเจ๋อกลับมาครั้งนี้ อาจจะต้องอยู่เป็นเวลานาน ยากที่ทุกคนจะได้รวมตัวกัน อีกสักครู่ทุกคนดื่มให้เต็มที่ ไม่ต้องประหยัดค่าเหล้าให้ฉัน!”
“ได้เลย อย่างนั้นก็เอาLafite Rothschild 1982มาสักสองสามขวดเถอะ!” ฟู่สีเกอพูดพลาง ไปเรียกบริกร
ตอนสั่งอาหาร ทุกคนก็หมุนเวียนกัน พอถึงหยานชิงเจ๋อ เขาก็นำเมนูวางตรงหน้าของเจียงซีหยู่ แล้วกล่าวกับเธออย่างอ่อนโยนว่า: “ซีหยู่ คุณย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้ว่าคุณจะเคยชินกับรสชาติอาหารทางนี้หรือเปล่า? คุณลองดูว่ามีที่คุณชอบทานไหม?”
———หนังสือยอดนิยมที่สุด ที่ได้รับความสนใจในการค้นหาบนวีแชต [樱桃阅读] โหลดเลยจะได้ไม่พลาด———
ฟู่สีเกอที่อยู่ข้างๆเห็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวหยอกล้อว่า: “ชิงเจ๋อ ท่าทีแบบนี้ของคุณทำให้พวกเราแทบจำไม่ได้เลย!”
เขาพูดพลาง สะกิดซูสือจิ่นที่อยู่ข้างๆ: “คุณว่าพี่ชิงเจ๋อของคุณเจอคนที่สามารถทำให้เขายอมจำนนแล้วหรือเปล่า? ที่แท้ ชิงเจ๋อก็ชอบแบบอ่อนโยนและงดงามแบบนี้นี่เอง”
ซูสือจิ่นหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ใจว่า: “ผู้ชายอย่างพวกคุณไม่ชอบผู้หญิงที่แข็งกระด้างบ้างเหรอ?”
ดังนั้น แต่ไหนแต่ไรหยานชิงเจ๋อถึงไม่ชอบเธอเลย เพราะเธอไม่ใช่แบบนั้นใช่ไหม? ก็จริง เธอมีนิสัยขี้โมโหตั้งแต่เด็ก ต่อยตีหนีเรียนก็เคยทำมาหมดแล้ว ต่อมา เพราะชอบเขาจึงได้เริ่มเก็บอาการ
แต่ธรรมชาติของคนมีนิสัยยังไง ภายหลังต่อให้พยายามเปลี่ยนแปลง ก็ยังสามารถพบร่องรอยตำหนิจากในอดีตมาโดยตลอด
เหมือนกับที่ตอนนี้เธอสวยแล้วก็ไม่ขี้โมโหแล้ว แต่หมอกฝนแห่งความแข็งกระด้างกลับไม่ได้ห่างหายไปโดยสิ้นเชิง
“ใครว่าล่ะ?” ฟู่สีเกอเบะปาก: “น่ารักตรงไปตรงมาก็ดีนะ!”
ซูสือจิ่นได้ฟังแล้ว อดไม่ได้ที่จะมองฟู่สีเกออย่างแปลกใจ: “เมื่อก่อนคนนั้นของคุณ…..”
ฟู่สีเกอรู้ได้ทันทีว่าซูสือจิ่นจะเอ่ยถึงใคร การแสดงออกบนใบหน้าจึงอดไม่ได้ที่จะแข็งทื่อเล็กน้อย
ซูสือจิ่นสำนึกอะไรบางอย่างได้ จึงรีบกล่าวว่า: “ขอโทษค่ะ ฉัน……”
“ไม่เป็นไร” ฟู่สีเกอกล่าว: “ฉันแค่จะบอกว่า อันที่จริงนิสัยของแต่ละคน ล้วนมีจุดเด่นที่ทำให้คนชื่นชอบ จึงไม่สามารถใช้มาตัดสินทุกอย่างได้”
“พี่สีเย็น คุณ——” ซูสือจิ่นหรี่ตามอง: “คงไม่ได้มีใจให้ใครอยู่ใช่ไหม? เช่นผู้หญิงเก่งๆเหรอ? หรือว่า แบบฉัน?”
“อืม ฉันมีใจให้คุณแบบนี้ แล้วคุณจะเต็มใจไหมล่ะ?” ฟู่สีเกอพูดพลาง แสร้งทำตาเยิ้มชายตามองด้วยความเสน่หา
ซูสือจิ่นไม่เล่นด้วย: “ขืนบีบต่อไปอีก ขี้ตาคงจะออกมาแล้วนะ!”
“ยายข้าวผัดผัก หลายปีมาแล้วคุณก็ยังเป็นแบบนี้ มิน่าล่ะถึงไม่มีแฟน!” ฟู่สีเกอกล่าวอย่างทอดถอนใจ: “คุณดูแฟนสาวของชิงเจ๋อสิ เรียนรู้ที่จะอ่อนโยนกับคนอื่นหน่อย จะได้ไม่โสดไปตลอดชีวิต!”
เดิมทีเธอและฟู่สีเกอแต่ไหนแต่ไรก็พูดจากันแบบนี้มาโดยตลอด บางครั้งก็พูดเหน็บแนมกัน แต่วันนี้ได้ฟังฟู่สีเกอพูดแบบนี้ แล้วยังนำเจียงซีหยู่มาเปรียบเทียบอีก ทันใดซูสือจิ่นก็รู้สึกว่า จนปัญญาที่จะอดทนอดกลั้นได้
เธอลุกขึ้นยืนในทันที แล้วเดินออกไปโดยไม่พูดจาเลยสักคำ
ฟู่สีเกอทึ่มทื่อไปเล็กน้อย ตามบทบาทที่ผ่านมา ซูสือจิ่นควรจะพ่นไฟใส่เขา โดยบอกว่าเขาก็โสด แล้วมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนเธอไม่ใช่เหรอ?
“สีเกอ คุณพูดอะไรเนี่ย สือจิ่นเป็นอะไรไปแล้ว?” สือมูเฉินกล่าว: “ยังไม่ไปขอโทษอีก?!”
ฟู่สีเกอลุกขึ้นทันที: “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
ซูสือจิ่นวิ่งไปยังระเบียงทางเดิน ด้านหน้ามีชายวัยรุ่นคนหนึ่งเดินมา ในมือกำลังถือไฟแช็ก จุดบุหรี่หนึ่งมวน
เธอเดินเข้าไป แย่งบุหรี่จากในมือของผู้ชายคนนั้น แล้วก็ไม่สนใจจะมีท่าทีตอบสนองอะไร แล้วรีบก้าวเท้าเดินไปยังลิฟต์
ฟู่สีเกอออกมา เห็นฉากนี้ จึงรีบกล่าวขอโทษผู้ชายคนนั้น จากนั้น ก็รีบไล่ตามไป
เขาเข้าไปขวางซูสือจิ่นที่อยู่หน้าลิฟต์
เธอกำลังยัดบุหรี่ใส่ในปาก แล้วสูบทันที เธอสำลักจนหน้าแดงไปทั้งหน้า แต่ยังคงต้องการที่จะสูบต่อ
ฟู่สีเกอแย่งบุหรี่ออกมา กำลังจะอบรมสั่งสอนคน ก็เห็นว่าในดวงตาของซูสือจิ่นมีน้ำตาไหลรินออกมา เขาใจอ่อนลงในทันที แล้วกล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า: “ยายผัดผัก ตกลงคุณเป็นอะไรไป?”
“คุณมายุ่งอะไรด้วยล่ะ?!” ซูสือจิ่นผลักเขาออก: “ฉันอยากสูบบุหรี่คุณก็ต้องมายุ่งด้วยเหรอ?!”
เวลานี้ ชายวัยรุ่นคนเมื่อกี้ก็เดินเข้ามา ในมือถือซองบุหรี่และไฟแช็ก: “คุณผู้หญิง ถ้าคุณต้องการ ฉันให้คุณ!”
ฟู่สีเกอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จึงระบายใส่ผู้ชายคนนั้นว่า: “คุณเป็นใครห๊ะ? คุณไม่รู้หรือไงว่าอยู่ตรงนี้มันขวางหูขวางตามาก?!”
เพียงแต่ซูสือจิ่นขัดแย้งกับหน้าตาของฟู่สีเกออย่างมาก เธอยิ้มให้กับชายวัยรุ่นคนนั้น: “โอเค เอามาให้ฉันเถอะ!”
“ซูสือจิ่น คุณกล้าลองสูบบุหรี่เหรอ?!” สีหน้าของฟู่สีเกอเยือกเย็นลงมาอย่างมาก อารมณ์ที่ระเบิดออกมาทำให้ซูสือจิ่นนิ่งอึ้งไปในชั่วพริบตา
“เมื่อกี้ถ้าฉันพูดผิดไป ฉันต้องขอโทษด้วย!” ฟู่สีเกอกล่าว: “แต่วันนี้ชิงเจ๋อกลับมา คุณต้องกลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้ ถึงจะอารมณ์ไม่ดีก็สูบบุหรี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้น ฉันจะเอาเรื่องที่คุณก่อเรื่องวุ่นวายไปบอกตระกูลซูเดี๋ยวนี้ ฉันจะคอยดูว่าพ่อแม่ของคุณจะจัดการคุณอย่างไร!”
“ฟู่สีเกอ ตั้งแต่เล็กจนโตพวกคุณแต่ละคนจะมายุ่งกับฉันทำไมนัก?!” ซูสือจิ่นตะโกนออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก: “ฉันไม่ใช่น้องสาวของพวกคุณสักหน่อย!”
เหมือนกับวันนี้ ที่หยานชิงเจ๋อแนะนำกับเจียงซีหยู่ ก็บอกว่าเธอคือน้องสาวคนเล็กของพวกเขา แต่เธอแซ่ซู ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับพวกเขาแม้แต่ครึ่งเดียว! แล้วมีสิทธิ์อะไรมาแขวนป้ายแบบนี้ให้เธอตั้งแต่แรก!
“ดูท่า คงจะไม่ต้องการบุหรี่ของฉันแล้วแหละ” ชายวัยรุ่นคนนั้นจ้องมองซูสือจิ่น: “คุณซูครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ! แล้วพบกันใหม่!”