ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 209 นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาผู้หญิงมาแล้วออกตัวปกป้อง
เมื่อทั้งสองมาถึงลานจอดรถ ฟู่สีเกอก็พาเฉียวโยวโยวรีบไปที่กองถ่าย MV อย่างรวดเร็ว
ฟู่สีเกอพาเฉียวโยวโยวไปถึงสถานที่ถ่ายทำ เมื่อพนักงานเห็นเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้เห็นพระโพธิสัตว์ที่กำลังช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากความทุกข์ พวกเขาเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว: “คุณฟู่ ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว! พี่ตู่กำลังอารมณ์เสียอยู่ข้างในนั้น หรือว่าคุณ–”
เธอยังพูดไม่จบ ก็ถูกฟู่สีเกอขัดจังหวะ: “โอเค ผมเข้าใจแล้ว”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นฟู่สีเกอพาเฉียวโยวโยวไปที่ห้องแต่งตัว ทันทีที่เขาไปถึงหน้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงบ่นดังออกมาจากข้างใน: “ทรงผมนี้ออกแบบอย่างนี้ แล้วยังมีการแต่งหน้าอีก ทั้งๆที่ฉันวางแผนไว้หมดแล้วว่าต้องเอาแนวแบบวัยสดใสบริสุทธิ์ ตอนนี้ความสดใสไม่มีแล้วดูเป็นคนที่ไม่มีสง่าราศีเลย!”
ฟู่สีเกอเคาะที่ประตูเบา ๆ และน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ก็ดังออกมาจากข้างใน: “เข้ามา!”
เฉียวโยวโยวหยุดเดินชั่วขณะ: “คุณเข้าไปคนเดียวเถอะ เดี๋ยวฉันจะรอคุณอยู่ข้างนอกนี้ดีกว่า”
ฟู่สีเกอไม่สนใจคำพูดของเธอ และยืนกรานที่จะจับมือเธอและจูงมือพาเธอเข้าไปด้วยกัน
เมื่อเดินเข้าไปถึง เฉียวโยวโยวก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน เธอจะไม่รู้จักดาราผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนนี้ได้อย่างไรกัน?! นี่ไม่ใช่ตู้ลี่ลี่นักแสดงหญิงที่ก่อนหน้านี้มีข่าวฉาวในวงการบันเทิงและกำลังจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตคนนั้นไม่ใช่เหรอ?!
ตู้ลี่ลี่กำลังจะขว้างอะไรบางอย่าง มือของเธอก็ยกขึ้นถึงระดับไหล่แล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังบุคคลนั้น ทันใดนั้นเธอก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นความโกรธบนใบหน้าของเธอก็จางหายไปราวกับน้ำแข็งที่ละลาย แต่ภายในสองวินาที ใบหน้านั้นมันถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม: “สีเกอ!”
นักร้องนั้นแต่เดิมก็มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตู้ลี่ลี่ที่ใช้ความสามารถในการ PK คู่ต่อสู้คนอื่น ๆขึ้นมาได้แบบนี้หรอก เมื่อเฉียวโยวโยวได้ยินน้ำเสียงที่เธอเรียกฟู่สีเกอแล้ว ทันใดนั้นเธอก็ชักมือกลับ
ฟู่สีเกอไม่ได้ปล่อยมือเฉียวโยวโยว แต่จับมือเธอเดินเข้าไปที่ตู้ลี่ลี่: “อะไรเป็นสาเหตุทำให้ดาราดังอย่างคุณตู้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ขนาดนี้ด้วยครับ?”
“ก็การแต่งหน้าและทรงผมแบบนี้ไง!” ตู้ลี่ลี่เม้มริมฝีปาก แต่ดวงตาของเธอกลับเปล่งประกาย: “สีเกอ คุณมาได้จังหวะเหมาะพอดีเลยนะคะ รีบมาช่วยฉันออกแบบและทำใหม่เร็ว ๆ วันนี้หลังจากการถ่ายทำเสร็จแล้ว อีกสักพักต้องไปพบกับนักลงทุนรายสำคัญ และไปสายไม่ได้ด้วย!”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม” ฟู่สีเกอพยักหน้า จากนั้นพูดกับเฉียวโยวโยวที่อยู่ข้างๆเขาว่า: “ที่รัก ถ้าคุณกระหายน้ำ เดี๋ยวผมจะบอกผู้ช่วยให้ซื้อของกินให้คุณนะ คุณรอผมอยู่ที่นี่ก่อน แป๊บเดียวก็เสร็จละ!”
จากนั้นตู้ลี่ลี่ก็จ้องมองไปที่เฉียวโยวโยว เหลือบมองที่ปลายดวงตาของเธอ: “สีเกอ เธอเป็นใคร?” น้ำเสียงนั้นอ่อนลงเล็กน้อย
“แฟนผม” ฟู่สีเกอกล่าว
“เปลี่ยนอีกแล้วเหรอ?” ตู้ลี่ลี่ยิ้ม: “คราวนี้รสนิยมจืดชืดจัง?”
เฉียวโยวโยวรู้สึกอึดอัดแปลก ๆ กับสถานการณ์เช่นนี้ และเมื่อเธอกำลังจะพูดว่าเธอจะออกไปเดินเล่น ก็ได้ยินฟู่สีเกอพูดขึ้นว่า: “โยวโยวไม่ใช่คนในแวดวงวงการบันเทิง คุณอย่าพูดเล่นแบบนั้น เกรงว่าเธอจะเข้าใจผมผิดได้”
“โอ้ คราวนี้ออกตัวปกป้องขนาดนี้เชียวเหรอ?” ตู้ลี่ลี่มองสำรวจเฉียวโยวโยวขึ้นลงหลายครั้งและกล่าวว่า: “แต่ฉันดูแล้ว มันก็ไม่น่าจะเป็นคนที่บ้านของคุณจัดเตรียมไว้ให้กับคุณหรอกใช่ไหม?”
“ผมเลือกด้วยตนเองอย่างจริงจัง” ฟู่สีเกอพูดไปด้วย และออกแบบทรงผมและแต่งหน้าให้เธอไปด้วย
“เหอะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอดูว่าครั้งนี้คุณจะทนคบได้นานแค่ไหน!” ตู้ลี่ลี่พูดด้วยน้ำเสียงประชดเบา ๆ
“คุณตู้ครับ ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดแบบนั้นอีก ผมจะแต่งหน้าให้คุณถึงครึ่งทาง ผมก็จะไม่แต่งต่ออีกแล้ว” ฟู่สีเกอหรี่ตาของตัวเอง มองดาราสาวสวยอย่างเย็นชาบ่งบอกว่าเขาจริงจังแค่ไหน
ตู้ลี่ลี่ตกตะลึงชั่วขณะ ใบหน้าของเธอแข็งทื่อเล็กน้อย แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง: “สีเกอ ฉันเป็นคนชอบพูดเล่น คุณอย่าโกรธสิคะ!”
ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็หันไปพูดกับเฉียวโยวโยวว่า:“นี่คนสวย ฉันกับเขาพูดล้อเล่นกันเป็นประจำ ไม่ใช่หาเรื่องคุณหรอกนะ คุณอย่าถือสานะ !”
เฉียวโยวโยวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเมื่อกี้นี้ฟู่สีเกอแค่ทำหน้าทำตาไม่พอใจแค่นั้นเอง และดาราผู้โด่งดังอย่างตู้ลี่ลี่นั้นจะเริ่มเปลี่ยนมาเอาอกเอาใจได้แบบนี้……
เธอเม้มริมฝีปาก: “ไม่เป็นไรค่ะ”
ฟู่สีเกอยังไม่อยากให้เรื่องมันจบง่าย ๆเช่นนี้ เขาจัดแต่งทรงผมให้กับตู้ลี่ลี่ไปด้วยและพูดว่า: “วันนี้โยวโยวยังไม่ทันล้างหน้า เพราะเราตื่นสายกันไปหน่อย คุณดูสิ ขนาดหน้าสดเธอก็ดูสวยขนาดนี้แล้ว สวยกว่าคนในแวดวงวงการบันเทิงอีกนะ รอคุณถ่าย MV เสร็จ ผมจะช่วยเธอออกแบบสักสองสามนาที คุณรอดูสิว่า ประโยคที่คุณพูดว่า “จืดชืด” ยังเหมาะสมหรือไม่
“คุณอยู่ด้วยกันเหรอ?” ตู้ลี่ลี่ถามด้วยความตกใจ
เธอรู้จักฟู่สีเกอก็นานพอสมควรแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอเป็นคนที่ไม่มีเส้นสายในแวดวงวงการบันเทิงและเธอค่อย ๆไต่เต้าขึ้นไป เรื่องในแวดวงวงการบันเทิงนั้นเธอก็รู้เรื่องไม่ใช่น้อย
แถมเธอยังรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับฟู่สีเกออีกด้วย
ได้ยินมาว่าเขามีแฟนหลายคน และแทบเปลี่ยนเดือนละคน อย่างไรก็ตามมีอยู่หลายครั้งที่เธอได้พบกับฟู่สีเกอเข้าโดยบังเอิญ ไม่ว่าจะเป็นกลางคืนหรือเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนเขาบ้านเลยสักคน
แล้วผู้หญิงที่แต่งตัวแสนจะธรรมดาคนนี้ กลับอาศัยอยู่กับฟู่สีเกอเนี่ยนะ? ยิ่งกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าคำพูดของฟู่สีเกอนั้นปกป้องเธออย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้เขาพาผู้หญิงมากองถ่ายนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งนี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในกองถ่ายมาก่อน
ยิ่งเป็นคนในแวดวงวงการบันเทิงก็ชอบการเกาะติดสถานการณ์อยู่แล้ว ในสายตาของฟู่สีเกอถ้าเฉียวโยวโยวแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นแล้วล่ะก็ เธอควรจะมีมิตรไมตรีที่ดีกับเฉียวโยวโยวก่อนหรือไม่?
แม้ดูเหมือนว่าเธอกับฟู่สีเกอนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่วันนี้เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเชิญตัวเขามาได้!
ดังนั้น บางทีเธอควรเริ่มลงมือจากเฉียวโยวโยว และพยายามหาโอกาสเพื่อให้ฟู่สีเกอมาออกแบบทรงผมให้กับเธอโดยเฉพาะ ดังนั้น บนพรมแดงของปีนี้ เธอจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้มากมายอย่างแน่นอน!
ขณะที่ตู้ลี่ลี่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นั้น ฟู่สีเกอหยิบเครื่องไดร์ผมขึ้นมา แตะปลายผมของเธอเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ใช่ เราพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ”
เฉียวโยวโยวรู้สึกว่าเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรต่อดี แต่ฟู่สีเกอกลับวางแผนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว
เธอยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องในอนาคต และหัวใจของเธอก็ลังเลอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เขาไม่เพียงแต่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยต่อสาธารณะอีกด้วย……
โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นสมาชิกของแวดวงการบันเทิง และตู้ลี่ลี่กับเธอนั้นเหมือนอยู่กันคนละโลก เฉียวโยวโยวรู้สึกโล่งใจมากเมื่อคิดได้เช่นนี้
เมื่อฟู่สีเกอกำลังยุ่งอยู่นั้นตู้ลี่ลี่เริ่มพูดเอาอกเอาใจ: “โยวโยว โดยปกติคุณชอบฟังเพลงของใคร?”
ในฐานะนักร้อง ถ้าเธอถามคำถามนี้ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว……เฉียวโยวโยวกล่าวว่า: “ฉันชอบฟังเพลงของคุณมาก โดยเฉพาะเพลง 《สุขสันต์วันอกหัก》”
ตู้ลี่ลี่กล่าวทันทีว่า: “พอดีเลย ในเดือนหน้าฉันมีคอนเสิร์ตที่หนิงเฉิง ฉันจะให้ตั๋ววีไอพีแก่สีเกอสองใบและใกล้กับเวทีที่สุด พวกคุณมาด้วยกันนะ ฉันจะร้องเพลงนั้นด้วยล่ะ!”
หลังจากที่ฟู่สีเกอฟังแล้ว เขาก็หันไปหาเฉียวโยวโยว: “คุณชอบมันจริง ๆเหรอ?”
เฉียวโยวโยวไม่ค่อยไปคอนเสิร์ต อย่างแรกเลยเพราะตั๋วมีราคาแพง และประการที่สองถึงแม้จะเสียเงินซื้อแต่ก็ไม่เคยได้ที่นั่งดี ๆเลย แต่ตอนนี้กลับได้ที่นั่งที่ดีที่สุด อีกทั้งเพลงของตู้ลี่ลี่เธอก็คิดว่าไม่เลว ดังนั้น เธอจึงพยักหน้า
ดวงตาของตู้ลี่ลี่เป็นประกาย เธอบอกว่าก่อนหน้านี้เธอเคยมอบตั๋วให้ฟู่สีเกอ แต่เขาบอกว่าเขาไม่สนใจเพลงของเธอ ดังนั้นจึงทำให้เธออยากมอบตั๋วให้เขาแต่ก็มอบให้ไม่ได้ แน่นอนว่าการเกลี้ยกล่อมผู้ชายนั้น ต้องเกลี้ยกล่อมคนข้างกายของผู้ชายคนนั้นดีกว่า
คนข้างกายพูดอะไรก็ได้ผลทั้งนั้น!
ฟู่สีเกอพูดว่า: “เอาล่ะ ในเดือนหน้าเราจะไปด้วยกัน”
ตู้ลี่ลี่ตกลงอย่างง่ายดาย: “โอเค เดี๋ยวฉันจะขอให้ผู้ช่วยเก็บตั๋วไว้ล่วงหน้าแล้วกัน!”
การเคลื่อนไหวของฟู่สีเกอนั้นเร็วมาก แค่ไม่ถึงยี่สิบนาที ก็ออกแบบทรงผมและแต่งหน้าให้ตู้ลี่ลี่ดูเหมือนจะเป็นคนละคน
เธอยืนขึ้น และหันกลับมามองที่หน้ากระจก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น: “สีเกอ ขอบคุณมาก ๆ! ถ้าไม่ใช่โยวโยวอยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ ฉันอยากจะเข้าไปจูบคุณจริง ๆ!”
“เธอไม่อยู่ก็ทำไม่ได้” ฟู่สีเกอเหมือนไม่ไว้หน้าใด ๆ : “ผมไม่ได้สนใจคุณสักหน่อย”
ตู้ลี่ลี่เองก็ไม่ได้ใส่ใจ และประจวบเหมาะเธอไม่สามารถเสียเวลาได้อีกแล้ว เธอรีบกล่าวคำลาทั้งสองคน: “ขอให้พวกคุณทั้งสองเที่ยวให้สนุกนะคะ ฉันไปเข้าฉากถ่ายทำก่อน!” หลังจากนั้นเธอพูดเสร็จก็รีบออกไปพร้อมกับผู้ช่วยของเธอทันที
ในห้องแต่งตัวเหลือเพียงฟู่สีเกอและเฉียวโยวโยว
เฉียวโยวโยวเหลือบมองฟู่สีเกอ: “ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่คุณออกแบบทรงผมให้คนอื่น ๆ คนอื่นก็ล้วนมอบรอยจูบให้คุณเป็นการตอบแทนอย่างนั้นเหรอคะ?”
ฟู่สีเกอเลิกคิ้วและเดินไปหาเฉียวโยวโยวและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำที่เย้ายวน: “หึงเหรอ?”
“ใครหึงคุณกัน! ฉันแค่รู้สึกมันสกปรก!” เฉียวโยวโยวขมวดคิ้ว
“ไม่มี ก่อนหน้าคุณผมจูบไปแค่คนเดียว” ฟู่สีเกอจับเอวเฉียวโยวโยวแล้วกล่าว
เฉียวโยวโยวรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังพูดถึงใคร และเธอก็เงียบทันที
สุดท้ายแล้วคุณเป็นใหญ่ทุกเรื่องอยู่แล้วนี่ ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและฟู่สีเกอนั้นยังไม่ค่อยชัดเจนเลย เมื่อพูดถึงแฟนเก่าของเขา เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจเขาหรือควรจะทำอย่างไรดี
ในเวลานี้ มีคนมาเคาะประตูห้องแต่งตัวเบา ๆ: “คุณฟู่ เสื้อผ้าและของใช้เตรียมพร้อมหมดแล้ว”
“เอาเข้ามา!” ฟู่สีเกอปล่อยเฉียวโยวโยวและเดินไปที่หน้าประตู รับกระเป๋าใบใหญ่แล้วล็อคประตู
เขาเดินไปหาเฉียวโยวโยว: “คุณอาบน้ำก่อนหรือให้ผมอาบก่อน?”
เฉียวโยวโยวอึ้งไปครู่หนึ่ง “ทำไมต้องอาบน้ำ?”
“เมื่อกี้นี้ผมให้คุณเลือก แต่คุณไม่เลือก ถ้าเช่นนั้นผมตัดสินใจให้คุณเอง” ในขณะที่ฟู่สีเกอพูดอยู่นั้น เขาก็ดึงเธอเข้าไปในห้องน้ำ :“ถ้างั้นเรามาอาบด้วยกัน!”
“นี่ เสื่อเหม็นฤดูร้อน คุณหมายความว่ายังไง? คุณจะอาบก็อาบเองสิ!” เฉียวโยวโหยวดิ้นรน
“ก่นหน้านี้คุณยังเรียกผมว่าเสือหล่อฤดูร้อน นี่คุณพึ่งเป็นแฟนของผมได้ไม่นาน ก็รังเกียจผมแล้วเหรอ นี่ยังกล้ามาว่าผมเหม็นอีก……”ฟู่สีเกอถอนหายใจออกมาด้วยเสียงต่ำ: “พอดีเลย ตอนนี้คุณช่วยผมอาบให้ตัวหอม ๆเลยนะ!”
เมื่อเฉียวโยวโยวเห็นว่าเขาจริงจังมาก แม้แต่ผ้าเช็ดตัวและเจลอาบน้ำก็เตรียมพร้อมไว้ในกระเป๋าแล้ว เธอเบิกตากว้าง: “คุณวางแผนการไว้ล่วงหน้าแล้วใช่ไหม!”
“เราพลอดรักกันในห้องน้ำนานมากขนาดนั้น จนทำให้เหงื่อผมออกตั้งมากมาย……” ฟู่สีเกอกระซิบข้างหูของเฉียวโยวโยว: “คุณไม่รู้สึกอึดอัดเหรอ?”
เธอรู้สึกอึดอัด แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าจะอาบน้ำด้วยกันกันเขานี่นา!
ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เธอรู้สึกเหมือนถูกฉวยโอกาสตลอดเลย ตัวเธอเองก็ยังไม่ได้คิดดีหรือตัดสินใจอะไรเลย แต่เขากลับจัดการทุกอย่างเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
เธอในตอนนี้รู้สึกสมองว่างเปล่าและรู้สึกชาไปทั้งตัว? !
เมื่อเห็นว่าเฉียวโยวโยวไม่เต็มใจจริง ๆ และสีหน้าอาการรู้สึกกระวนกระวายใจ ฟู่สีเกอก็ทำอะไรไม่ถูก: “เอาล่ะ ผมจะอาบก่อน ให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจก่อน ถ้าคุณออกมาเราจะเริ่มงานทันที ”
หัวใจของเฉียวโยวโยวสั่นเทา: “เริ่มงานอะไร?” นี่เขาจะมีเซ็กส์โดยไม่คำนึงถึงสถานที่และโอกาสเลยใช่ไหม?
“ที่รัก คุณคิดไปไกลขนาดไหนแล้ว?” ฟู่สีเกอกัดที่ติ่งหูของเฉียวโยวโยว: “แต่ถ้าคุณต้องการเริ่มงานแบบไหน ผมจะทำให้คุณพอใจได้ทุกอย่าง!”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นเขาก็หยิบผ้าเช็ดตัวและเจลอาบน้ำเข้าไป
เฉียวโยวโยวทั้งโกรธทั้งวิตกกังวล เธอเห็นว่ากระเป๋านั้นยังตุงอยู่เลย เธอจึงเอื้อมมือเข้าไปแล้วพลิกของในกระเป๋า และเธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ข้างในยังมีกล่องอยู่หนึ่งกล่อง ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงโดยเฉพาะ หรือว่านี่เขาเตรียมไว้ให้สำหรับเธอโดยเฉพาะ?
ในขณะที่ปะติดปะต่อเรื่องราวสิ่งที่ฟู่สีเกอพูดกับตู้ลี่ลี่อยู่นั้น ถ้าเช่นนั้น สิ่งที่เขาพูดว่าเริ่มงานก็คือ……