ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 213 กาลเวลาไม่เคยทำให้คุณผิดหวัง
“ปลาชุบแป้งทอด” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
หลานเสี่ยวถางรู้ว่าสือมูเฉินชอบทานปลาต้มพริก แต่เขาจงใจบอกว่าปลาชุบแป้งทอด เพื่อเอาใจพ่อของตนใช่ไหม? เขารู้ด้วยเหรอว่าหลานเซี่ยวเฉิงชอบอะไร?
ในระหว่างที่เธอสงสัยอยู่ มุมปากของหลานเซี่ยวเฉิงก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน : “เสี่ยวถาง อย่างนั้นก็ทำปลาชุบแป้งทอดเถอะ ขอดเกล็ดปลาก็ให้ป้าหวังช่วยคุณนะ อย่าให้มีดบาดมือล่ะ!”
“อืม โอเคค่ะ” หลานเสี่ยวถางพยักหน้า สงสัยเล็กน้อยว่าสถานการณ์ที่ตึงเครียดเมื่อกี้นี้เป็นเพียงความเข้าใจผิดของตนเองเท่านั้น
“พ่อจะพามูเฉินไปเดินเล่นข้างล่าง อีกสักพักจะกลับมา” หลานเซี่ยวเฉิงกล่าว
“โอเค” หลานเสี่ยวถางเห็นคนทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่มีอะไรจริงๆ จึงสบายใจ พยักหน้าแล้วพูดว่า : “ฉันไปทำกับข้าวก่อน”
“เสี่ยวถาง เดี๋ยวเจอกันนะ” สือมูเฉินยิ้มให้เธอ จากนั้นก็เดิมตาหลานเซี่ยวเฉิงไปที่ชั้นล่าง
“ท่านพลโท!” องครักษ์ที่หน้าประตูทำความเคารพ หลานเซี่ยวเฉิงพยักๆหน้า แล้วเดินไปที่สนามยิงปืนโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เดิมทีที่สนามยิงปืนยังมีคนอยู่ แต่เมื่อหลานเซี่ยวเฉิงโบกไม้โบกมือ ทุกๆคนจึงออกไป
ในห้องโถงใหญ่ว่างเปล่าเหลือเพียงแค่เขากับสือมูเฉิน
“พูดมาเถอะ” หลานเซี่ยวเฉิงพูดอย่างเรียบๆ
สือมูเฉินมองไปยังเป้ายิงที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า แล้วพูดว่า : “ในตอนนั้นที่ฉันเจอหลานจึถง เขากำลังถือโน๊ตบุ๊กอยู่หนึ่งเครื่อง นั่งอยู่ในรถตู้คันหนึ่ง พอดีกับว่าในตอนนั้น เพราะว่าฉันเจอพวกโรคจิตที่ตามฉันไม่ยอมปล่อย ฉะนั้นก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าหลานจึถงคือคนคนนั้น”
สือมูเฉินเล่าต่อว่า : “จากนั้นฉันก็ให้คนล้อมเขาไว้ ทั้งสองฝ่ายจึงเกิดการต่อสู้กัน ต้องบอกว่าฝีมือในการยิงปืนของเขาดีมาก จึงโจมตีได้สำเร็จ แต่โน๊ตบุ๊กนั้นตกอยู่บนรถตู้”
“ดูจากเนื้อหาในโน๊ตบุ๊กแล้ว ฉันจึงรู้ว่าเราตามหาผิดคน” บนใบหน้าของสือมูเฉินมีความรู้สึกผิด : “เพราะการปรากฏตัวของเรา เป็นการเปิดเผยสถานที่พักของเขา หลังจากนั้นเมื่อฉันอยากจะกลับมาชดเชยให้ ก็พบว่าเขาถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว”
หลังจากที่หลานเซี่ยวเฉิงได้ฟังทั้งหมด มือก็กำแน่นจนกลายเป็นหมัด เพราะความโกรธที่เก็บไว้ในใจแขนจึงสั่นเทาไม่หยุด
เขาเอ่ยพูดด้วยน้ำเยือกเย็นราวกับลมพัดอยู่ในทุ่งราบที่รกร้างว่างเปล่า : “วันนั้นเขาแค่ออกไปทำหน้าที่ปฏิบัติภารกิจของทหาร ด้วยศักยภาพของเขา ฉันไม่เคยคิดเลยว่า ในวันนั้นเขาจะต้องถูกฝังไว้ที่นั่น!”
สายตาของสือมูเฉินหม่นหมองลง พูดด้วยความเศร้าเสียใจ : “ขอโทษนะครับ!”
ถึงแม้ว่าหลานจึถงจะไม่ได้ถูกคนของเขาฆ่าตาย แต่ก็เป็นเพราะการตัดสินใจผิดพลาดของเขา ทำให้หลานจึถงโดนเปิดเผยที่พักจนถูกยิงตาย ท้ายที่สุดแล้วยังคงเป็นเพราะเขา มันจนปัญญาที่จะย้อนผลลัพธ์กลับคืนมาได้
“ขอโทษแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?” สายตาที่แหลมคมของหลานเซี่ยวเฉิงมองเข้ามา ชั่วขณะที่สนามยิงปืนก็เหมือนคลื่นพายุโหมกระหน่ำ อากาศเหมือนถูกดูดจนกลายเป็นสุญญากาศ!
“ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ แม้ว่าฉันจะให้ทั้งหมดที่มี แต่ก็ไม่สามารถเอาชีวิตของเขากลับคืนมาได้!” สือมูเฉินหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง : “วันนี้ที่ฉันมาก็เพื่อแสดงความจริงใจกับคุณ ฉันจะยอมรับโทษทั้งหมด!”
หลานเซี่ยวเฉิงหยิบปืนบนโต๊ะขึ้นมา กระสุนถูกบรรจุภายในชั่วพริบตา และในวินาทีต่อมา เขาได้เล็งปืนไปที่สือมูเฉิน : “เพราะว่าฉันไม่สามารถอยู่ด้วยกันกับลูกของตนเองได้ ฉะนั้นจึงได้รับเขาที่เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่มาเลี้ยง หลายปีที่ผ่านมาก็ปฏิบัติเหมือนกับเป็นผู้ให้กำเนิดด้วยตนเอง! คุณฆ่าลูกชายของฉันทางอ้อม! ฆ่าลูกศิษย์ที่น่าภูมิใจที่สุดของฉัน!”
พูดจบเขาก็เหนี่ยวไกอย่างว่องไวตรงไปตรงมา
“ปัง!”
กระสุนหนึ่งนัดพุ่งไปยังสือมูเฉิน
สือมูเฉินหลับตาลงไม่ขยับเคลื่อนไหว กระสุนผ่านผมด้านข้างของเขาไป เฉียดหูของเขาแล้วไปเข้าเป้ายิงปืนทางด้านหลัง
สักพักเขาจึงลืมตาขึ้นมา เอื้อมมือไปลูบที่ใบหูของเขา
ผิวหนังถูกลมพัดโดยกระสุนที่ผ่านไปด้วยความเร็วสูง ฉับพลันที่ปลายนิ้วก็มีเลือดสดๆติดมา
สือมูเฉินเดินไปที่โต๊ะข้างหน้า ดึงกระดาษทิชชูมาหนึ่งแผ่น แล้วทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหูอย่างระมัดระวัง
เห็นหลานเซี่ยวเฉิงกำลังมองเขาอยู่ เขาจึงอธิบายว่า : “ไม่สามารถให้หลานเสี่ยวถางเห็นได้ เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องความบาดหมางของเรา”
“เพราะว่าเสี่ยวถาง!” หลานเซี่ยวเฉิงพูดอย่างเย็นชา : “คุณแต่งงานกับเธอ เพราะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของฉันใช่ไหม?”
“จริงๆแล้วก็เป็นอย่างนั้น” สือมูเฉินยอมรับ : “ในตอนเริ่มแรกฉันแต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลนี้ ฉันอยากชดเชยให้ แล้วเห็นว่าเธอถูกรังแกจึงอยากช่วยเธอ ดูแลเธอ แต่ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ฉะนั้นตอนนี้ที่ฉันปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เพราะเป็นตัวเธอเอง ไม่ใช่เพราะว่าเป็นลูกสาวของใคร!”
หลานเซี่ยวเฉิงมองสือมูเฉินอยู่ตลอด ต้องการจะหาเบาะแสในสายตาของเขา
เพียงแต่สือมูเฉินพูดอย่างตรงไปตรงมา การแสดงออกของเขามีความจริงใจ อีกอย่างรายละเอียดของคราบเลือดที่ถูกขจัดออกไปเมื่อครู่นี้ จากมุมมองของการได้เห็นผู้คนเป็นเวลาหลายปีของเขา สือมูเฉินดีกับหลานเสี่ยวถางจริงๆ
หลานเซี่ยวเฉิงเดินอ้อมเขาไป หยิบปืนขึ้นมา ยิงไปยังเป้าที่เคลื่อนที่อยู่
จนกระทั่งกระสุนหมด หลานเซี่ยวเฉิงจึงวางปืนลง
เขาหันกลับมา ถอนหายใจแล้วพูดว่า : “จึถงตายไปแล้ว แต่ได้เสี่ยวถางกลับมา ก็ต้องขอบคุณคุณที่อยู่ข้างๆเสี่ยวถางในตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจุดประสงค์ของคุณในเวลานั้นคืออะไร ท้ายที่สุดแล้วคุณก็ยังคงทำดีต่อเธอ”
“ฉันจะปฏิบัติต่อเธออย่างดี โดยใช้ทั้งชีวิตและสติปัญญาของฉัน” สายตาสือมูเฉินเคร่งขรึมและเอาจริงเอาจัง น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ราวกับคำสาบาน
“โอเค ฉันจะจำคำพูดนี้ของคุณไว้!” หลานเซี่ยวเฉิงมองไปที่หน้าอกของสือมูเฉิน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเฉียบคม : “แต่ถ้าคุณทำอะไรผิดต่อหลานเสี่ยวถาง ครั้งต่อไปกระสุนจะไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งนั้นแล้วนะ!”
“ครับ” สือมูเฉินพยักหน้า
หลานเสี่ยวถางทำกับข้าวเสร็จแล้ว กำลังจะโทรศัพท์ไปเรียกคน ก็พบว่าคนทั้งสองเดินกลับมาจากด้านนอกแล้ว
ตอนที่เธอทำอาหาร ก็นึกถึงก่อนหน้านี้ที่สือมูเฉินพูดอย่างตรงไปตรงมา หัวใจก็เริ่มรู้สึกตุ้มๆต่อมๆ
คนทั้งสองออกไปด้วยกัน คงไม่ได้แบไพ่ในมือหมดแล้วใช่ไหม? ถึงขั้นไม่รอให้ทานอาหารเย็นแล้วค่อยพูดกัน? อย่างนั้นจะทะเลาะกันขึ้นมาไหม?
ดังนั้น เมื่อเธอดึงสติกลับมาแล้ว คาดไม่ถึงว่าปลาทอดราดซอสเปรี้ยวหวานที่ทำอย่างชำนาญมาโดยตลอด จะเกรียมไปเล็กน้อย
หลานเสี่ยวถางรีบยกกระทะขึ้น เมื่อหยิบมือถือจะโทรออก ก็เห็นว่าคนทั้งสองมาถึงแล้ว
เหมือนกับว่าขณะที่คนทั้งสองเดินก็พูดคุยกันไปด้วย อีกทั้งดูจากการแสดงออกแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปรองดองกันดี?
หลานเสี่ยวถางกวักมือเรียกคนทั้งสอง: “อาหารขึ้นโต๊ะแล้ว รีบไปล้างมือกันเถอะค่ะ!”
ชั่วพริบตาในดวงตาของหลานเซี่ยวเฉิงก็ถูกแทนที่ด้วยความรักและเอ็นดู: “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้ชิมฝีมือของลูกสาว!”
สือมูเฉินกล่าวอยู่ข้างๆว่า: “พ่อ เสี่ยวถางทำกับข้าวอร่อยมากเลยนะ ต่อไปถ้าเธอไม่ยุ่งกับงาน ก็จะให้เธอมาบ่อยๆ”
หลานเซี่ยวเฉิงพยักหน้า: “โอเค ถึงเวลานั้น ฉันจะเตรียมเหล้าที่ทหารของพวกเราทำเองเอาไว้ให้คุณ ได้ดื่มสักสองสามแก้ว!”
หลานเสี่ยวถางกะพริบตาปริบๆ นี่……
ไหนบอกว่าความสัมพันธ์ของสามีและพ่อจะไม่ดี เหมือนกันกับลูกสะใภ้กับแม่สามีที่เป็นเพศเดียวกันจะไม่ลงรอยกันไม่ใช่เหรอ?
เธอไม่เพียงแค่รู้สึกว่าพวกเขาแสดงเข้าถึงบทบาทได้อย่างรวดเร็ว แต่ทำไมถึงดูปรองดองกันได้ขนาดนี้ล่ะ?
หัวใจที่เดิมทีเป็นกังวลมาโดยตลอด ในที่สุดก็ได้โล่งอก
คนทั้งสามนั่งด้วยกัน ถึงแม้ว่าปกติแล้วหลานเซี่ยวเฉิงจะไม่ค่อยพูด แต่ด้วยการปรับส่วนที่เหลือที่ขาดระหว่างกลางของหลานเสี่ยวถางแล้ว เขาที่เดิมที’เวลาทานข้าวจะไม่พูดคุย’ ก็สนทนากับสือมูเฉินด้วยดีอย่างมาก
ทานอาหารเสร็จแล้ว คนทั้งสามก็ยังไปเดินเล่นบริเวณรอบๆด้วยกัน เมื่อกลับมา สือมูเฉินก็เล่นหมากรุกกับหลานเซี่ยวเฉิงสองสามเกม
หลานเสี่ยวถางไม่ค่อยเข้าใจการเล่นหมากรุกมากนัก เพียงแต่เมื่อพิจารณาจากเบี้ยที่ถูกกินแล้ว ก็ดูเหมือนว่าฝีมือพอๆกัน แต่ท้ายที่สุด ก็เหมือนกับว่าหลานเซี่ยวเฉิงจะมีฝีมือในการเดินหมากที่ดีกว่า
เมื่อเก็บหมากรุกแล้ว หลานเซี่ยวเฉิงก็กล่าวว่า: “มูเฉิน คุณไม่ต้องพยายามเอาใจฉันหรอก ฉันเป็นคนมีหลักการ ควรจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น เพียงแค่คุณปฏิบัติดีกับเสี่ยวถาง อะไรก็พูดง่ายทั้งนั้น!”
“พ่อ!” หลานเสี่ยวถางเขย่าๆหลานเซี่ยวเฉิงอย่างไม่สบายใจ แล้วกล่าวอย่างออดอ้อนว่า: “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ มูเฉินปฏิบัติดีกับลูกมาโดยตลอด จริงๆนะ!”
“ที่บอกว่าผู้หญิงแต่งงานแล้วจะเห็นคนนอกดีกว่า ดูท่าจะจริง!” หลานเซี่ยวเฉิงกล่าว: “พ่อยังไม่ทันได้ว่าอะไรเลย ลูกก็ช่วยเขาพูดซะแล้ว!”
หลานเสี่ยวถางจึงรีบกล่าวว่า: “พ่อ เปล่านะ พ่อก็ปฏิบัติต่อฉันดีอย่างมาก! พวกคุณดีมากทั้งคู่เลย! ฉันรู้สึกว่าปีนี้ที่ตัวเองอายุ25ปีโชคดีอย่างมาก อยู่ดีๆก็เจอคนสามคนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน!”
“เพราะว่าเรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่คุณควรจะมีอยู่ในครอบครอง” สือมูเฉินลูบๆผมของหลานเสี่ยวถาง แล้วเอ่ยปากว่า: “กาลเวลาไม่เคยทำให้คนที่จิตใจดีอย่างคุณผิดหวัง”
“จู่ๆก็น้ำเน่า…..” หลานเสี่ยวถางกล่าว: “ฉันไปดูทีวีล่ะ พวกคุณคุยกันเถอะ!”
ตอนกลางคืน ขณะที่สือมูเฉินและหลานเสี่ยวถางเดินทางกลับบ้าน ก็ได้รับโทรศัพท์จากหยานชิงเจ๋อ
“ชิงเจ๋อ?” สือมูเฉินมองดูเวลา จะสามทุ่มครึ่งแล้ว โดยปกติดึกขนาดนี้แล้วหยานชิงเจ๋อจะไม่โทรหาเขา
“พี่เฉิน ชายคนนั้นปรากฏตัวอีกแล้ว” หยานชิงเจ๋อกล่าว: “เมื่อกี้ทางด้านDRบอกว่า IDของเขาที่นิ่งมาโดยตลอดกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะต้องการลงมือกับฐานข้อมูลของคุณ”
สือมูเฉินชะลอความเร็วรถ: “ฉันก็รู้ ครั้งที่แล้วเขาเดาสถานะของฉันได้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำอะไรเลย เพียงแต่คาดไม่ถึงว่า เขาจะต้องการลงมือกับฐานข้อมูล!”
“คาดว่าเขาต้องการจะเข้าถึงฐานข้อมูล แล้วนำเอาหลักฐานไป เพื่อบอกกับทุกคน ถึงสถานะของคุณ เพื่อเติมเต็มหัวใจที่ต้องการจะรบชนะคุณมาโดยตลอด!” หยานชิงเจ๋อกล่าว: “พี่เฉิน คุณอยู่ทางนั้น ฉันคาดว่าคืนนี้คุณคงไม่ได้หลับไม่ได้นอนแน่ เพราะหลายเครือข่ายที่ต้องเริ่มดำเนินการ ล้วนต้องการการมอบอำนาจจากคุณ!”
“ฉันกำลังเดินทางกลับบ้าน ถึงบ้านแล้วจะติดต่อคุณทันที” สือมูเฉินกล่าว: “ชิงเจ๋อ รบกวนแล้ว ครึ่งค่อนคืนแล้วต้องมาทำงานเป็นเพื่อนฉัน!”
“ไม่เป็นไร รอหลังจากนี้ฉันแต่งงาน คุณให้อั่งเปาซองใหญ่ๆกับฉันก็พอ!” หยานชิงเจ๋อกล่าวหยอกล้อ
คนทั้งสองสนทนากันอีกสองสามคำ สือมูเฉินก็วางสาย
หลานเสี่ยวถางที่อยู่ข้างๆเขา เห็นการแสดงออกที่เคร่งขรึมของเขาเมื่อกี้นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม: “มูเฉิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
“เสี่ยวถาง ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจัดการได้” สือมูเฉินยิ้มๆกับหลานเสี่ยวถาง: “รอให้เรื่องครั้งนี้เสร็จสิ้นแล้ว พวกเราออกไปเที่ยวกันนะ!”
ขณะที่พูด ด้านหน้าก็มีสิ่งกีดขวาง สือมูเฉินจึงเลี้ยวพวงมาลัยรถ เพื่อหลบไปอีกด้านหนึ่ง
เพียงแต่ขับไปได้ไม่นาน ทางด้านหน้าก็มืดตึ๊ดตื๋อ หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า: “ไฟที่ถนนนี้เสียเหรอ?”
สือมูเฉินเปิดไฟสูง กำลังจะขับไปข้างหน้า จู่ๆก็รู้สึกว่ายางรถสั่นเล็กน้อย
“เป็นอะไรเหรอ?” หลานเสี่ยวถางกล่าวถาม
“น่าจะถูกอะไรบางอย่างตำ” สือมูเฉินเห็นแรงดันลมยางบนมาตรวัดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เขามองบริเวณโดยรอบ: “ที่นี่กำลังทำการก่อสร้าง คาดว่าบนถนนคงมีสิ่งของอะไรบางอย่างที่ตำล้อรถ”
หลานเสี่ยวถางกล่าว: “อย่างนั้นทำอย่างไรดีล่ะ? โทรขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไหม?”
“มียางอะไหล่อยู่ท้ายรถ” สือมูเฉินกล่าว: “ฉันจะลงไปดูเหตุการณ์สักหน่อย เสี่ยวถาง คุณรอฉันอยู่บนรถนะ”
สือมูเฉินพูดพลางลงจากรถ จึงเห็นว่าล้อหน้าด้านขวาถูกสิ่งของที่ใช้ในการก่อสร้างตำอยู่จริงๆ
เขากำลังจะไปเปิดอะไหล่ท้ายรถ เวลานี้ ก็รู้สึกได้ถึงเสียงลมจากบริเวณโดยรอบ จากนั้น ก็มีชายสองสามคนเข้ามาตีวงล้อมเขาเอาไว้