ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 225 ดื่มเยอะเกินไป ง่ายต่อการเสียตัว
เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินเขาพูดยั่วเย้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะยื่นแขนไปทุบหน้าอกของสือมูเฉิน จากนั้นเธอเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้า “สือจิ่นไม่ต้องเสียใจนะ ฉันจะดื่มเป็นเพื่อนเธอเอง!”
“คุณกล้าเหรอ?” สือมูเฉินกอดเอวของหลานเสี่ยวถางแล้วหรี่ตาลง
หลานเสี่ยวถางกะพริบตาแล้วค่อยๆ หดตัวลง
หยานชิงเจ๋ออมยิ้ม “พี่สะใภ้ กลัวพี่เฉินมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
เสี่ยวถางไม่ได้กลัวฉันหรอก แต่……” สือมูเฉินยังไม่ทันพูดจบก็ถูกฟู่สีเกอขัดจังหวะ
เขาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วพูดกับซูสือจิ่น”พวกเขาไม่กล้าดื่มเป็นเพื่อนเธอหรอก มีแค่ฉันกับเธอที่ยังโสด งั้นฉันจะดื่มเป็นเพื่อนเธอเอง ยัยข้าวผัดชนแก้วกัน!”
เมื่อเฉียวโยวโยวได้ยินเช่นนี้ก็เหลือบไปมองเขา
และฟู่สีเกอก็มองมาทางเธอเหมือนกัน
สองตาประสานกัน จากนั้นฟู่สีเกอก็หันไปยิ้มกับหยานชิงเจ๋อ “ชิงเจ๋อ ยัยข้าวผัดแค่พูดชวนไปเรื่อยแหละ นายเอ็นดูเธอมากนะ ทำไมไม่ให้ความร่วมมือกับเธอล่ะ?”
หยานชิงเจ๋องุนงงครู่หนึ่งจากนั้นก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับแก้วเหล้าของซูสือจิ่น “เสี่ยวจิ่น ฉันดื่มเป็นเพื่อนเธอเอง!”
เมื่อเห็นแบบนี้ทุกคนจึงยกแก้วขึ้นชนพร้อม และดื่มหมดภายในพริบตา
เนื้อลูกแกะค่อยๆ เริ่มสุกพอดี จากนั้นคนใช้ก็หยิบเนื้อลูกแกะที่น่ารับประทานลงจากเตาย่าง หยิบมีดแล้วเริ่มหั่น
หยานชิงเจ๋อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาเจียงซีหยู่
หลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านข้างรีบพูดกับสือมูเฉิน “ดูชิงเจ๋อสิ อาหารพร้อมก็โทรหาแฟนทันที คงกลัวว่าซีหยู่จะหิว!”
“ถ้าคุณอยู่ข้างนอก ผมก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน” สือมูเฉินกระซิบข้างหูหลานเสี่ยวถาง
“อี๋ ขนลุกชะมััดเลย” แก้มของหลานเสี่ยวถางเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของสือมูเฉินหรือเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
หยานชิงเจ๋อวางสายแล้วพูดว่า “ซีหยู่ ใกล้จะถึงประตูแล้ว เดี๋ยวฉันจะออกไปรับเธอ” เขาพูดจบก็ลุกขึ้นทันที
ซูสือจิ่นมองตามหลังหยานชิงเจ๋อที่เดินออกไป เธอบีบแก้วเหล้าในมือของเธอ นิ้วของเธอสั่นเล็กน้อย
ตอนนี้ที่นั่งของหยานชิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ เธอนั้นว่างเปล่า เธอเข้าใจได้ในทันทีว่าถ้าเจียงซีหยู่มาถึงจะต้องนั่งคั่นกลางระหว่างเธอกับหยานชิงเจ๋ออย่างแน่นอน
ในเวลานี้จู่ๆ เธอก็ไม่อยากนั่งข้างเขา ไม่อยากเห็นเขาดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงอีกคน ซูสือจิ่น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าฟู่สีเกอ “พี่สีเย็น เราเปลี่ยนที่นั่งกันเถอะ!”
ฟู่สีเกอพูดอย่างงุนงง”จะเปลี่ยนที่นั่งทำไม?”
“ฉันมีเรื่องจะพูดกับพี่เฉิน” ซูสือจิ่นพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงฟู่สีเกอ
ฟู่สีเกอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยืนขึ้น แต่หลังจากที่เขาก้าวไปสองก้าว เขาก็พบว่าที่นั่งของซูสือจิ่นนั้นนั่งข้างเฉียวโยวโยว
แต่เขายืนขึ้นแล้ว ถ้าเขาไม่เดินไป เกรงว่า……
เมื่อเฉียวโยวโยวเห็นฟู่สีเกอเดินเข้ามาหาเธอ เธออดไม่ได้ที่จะหลับตาลง รู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก
ตกลงกันในวันนั้นแล้วไม่ใช่เหรอว่าจากนี้ไปให้กลายเป็นคนไม่รู้กัน แต่ทำไมเธอถึงไม่เรียนรู้ที่จะทำตัวให้ผ่อนคลายล่ะ?
เธอแอบมองเงาคนนั่งลงข้างๆ เธอจึงได้รู้ว่าฟู่สีเกอได้นั่งลงแล้ว แต่เธอพบว่าเธอไม่กล้าที่จะมองไปทางเขา
แต่ทุกคนไม่ได้ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติระหว่างพวกเขา ไม่นานหลังจากนั้นหยานชิงเจ๋อก็พาเจียงซีหยู่เดินเข้ามา
เมื่อเห็นว่าเปลี่ยนที่นั่ง หยานชิงเจ๋อจึงหันไปถามซูสือจิ่นที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง “เสี่ยวจิ่น ทำไมถึงไม่นั่งข้างซ้ายพี่ล่ะ?”
ซูสือจิ่นเลิกคิ้ว “ก็มันนั่งไม่สบาย!”
หยานชิงเจ๋อยิ้ม “เก้าอี้ในคฤหาสน์ของพี่สะใภ้เหมือนกันหมด มันจะดีหรือไม่ดีได้ยังไง?” เขาไม่ได้เอาจริงเอาจังมากนัก เขาแค่รู้สึกว่าซูสือจิ่นเอาแต่ใจตั้งแต่ตอนเป็นเด็กและการกระทำทั้งหมดของเธอนั้นเป็นเรื่องปกติ
เจียงซีหยู่นั่งลงข้างหยานชิงเจ๋อ จากนั้นยกแก้วขึ้นพร้อมชนกับทุกคน “ขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนต้องรอ ฉันจะดื่มลงโทษตัวเองด้วยแก้วนี้ก่อนนะคะ!”
เธอพูดจบก็ยกแก้วค็อกเทลดื่มหมดในรวดเดียว จู่ๆ หน้าของเธอก็แดงในทันที
ฟู่สีเกอพูดสบายๆ “ชิงเจ๋อ นายก็เห็นว่าแฟนของนายดื่มไม่ได้ นายไม่ช่วยเธอดื่มหน่อยเหรอ? เมื่อก่อนออกไปดื่มเหล้ายัยข้าวผัดจะดื่มนายยังห้ามไว้เลย……”
เมื่อซูสือจิ่นได้ยินอย่างนี้ก็ทำให้เธอนึกถึงบางสิ่งในอดีต
ในเวลานั้นเธอเพิ่งค้นพบว่าเธอมีความรู้สึกต่อหยานชิงเจ๋อนั้นแตกต่างจากคนอื่น ดังนั้นเธอจึงดื่มเหล้าเลียนแบบผู้หญิงคนอื่น อยากรู้ว่าถ้าเธอเมาเขาจะมารับเธอไหม
วันนั้นเธอไปที่บาร์สั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำสุดหนึ่งแก้วมาดื่ม
ตอนนั้นเธอเพิ่งเริ่มเป็นวัยรุ่นและไม่เคยดื่มมาก่อน ดังนั้นเธอจึงเมามากกับเหล้าเพียงแก้วเดียว
เพราะเธอแต่งตัวสวยและอายุยังน้อยเหมือนตุ๊กตาเจ้าหญิง เมื่อเห็นว่าเธอเมาแล้วพวกอันธพาลหลายคนจึงอยากเข้าไปคุยกับเธอ
หนึ่งในนั้นเอื้อมมือไปสัมผัสกับใบหน้าของเธอ
และในขณะนั้นหยานชิงเจ๋อก็มาถึงพอดี
เธอไม่เคยเห็นหยานชิงเจ๋อเป็นแบบนั้นมาก่อน เคยเห็นแต่ท่าทางเจ้าสำอางของเขา เมื่อเขาเดินเข้ามาได้หยิบเก้าอี้ฟัดใส่ไอ้พวกอันธพาลเหล่านั้น
เขามาเพียงลำพังและต่อสู้อย่างดุเดือดกับพวกนั้นสองสามคน
ในท้ายที่สุดหลายคนรอบๆ ตัวต่างก็ตกใจกับท่าทางที่เอาเป็นเอาตายของเขา แต่แขนของเขาหักทำให้ต้องใส่เผือกไว้เป็นเวลาหลายวัน
วันนั้นเมื่อเธอเห็นเขาเธอก็สร่างเมาในทันที
เห็นได้ชัดว่ามือของเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่รีบไปโรงพยาบาล นอกจากนี้เขายังหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะของเธอที่ยังดื่มไม่หมดมาดื่มให้หมด แล้วตะโกนใส่เธอ “ทีหลังอย่ามาสถานที่แบบนี้อีกนะ! ถ้าจะดื่มฉันจะช่วยดื่มเอง!”
จากนั้นเขาก็ดึงเธอออกจากบาร์เหล้า นับตั้งแต่วันนั้นเธอจึงไม่กล้าดื่มอีกเลย
เพราะเธอกลัวว่าเขาจะบาดเจ็บเพราะเธออีก
ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อไหร่ โลกทางอารมณ์ของเขาดูเหมือนจะตื่นตัวขึ้น
เขาเริ่มมีผู้หญิงคนอื่นอยู่ข้างกาย แม้ว่าเขาจะยังดีกับเธอ แต่ในตอนนั้นเธอตระหนักได้ว่ามันเป็นความรักแบบพี่ชายที่มีต่อน้องสาว
มากที่สุดเขาก็แค่จับมือเธอ แต่ไม่เคยจูบเธอเลย
เขามีแฟน กอดแฟน ทะเลาะกับแฟน และจูบแฟนของเขา
แต่กับเธอเขาตะคอกใส่เธอ ระหว่างเธอกับเขา เขาก็แค่รักเธอแบบเอ็นดูเท่านั้น แต่เขาไม่เคยรักเธอเหมือนผู้หญิงพวกนั้นเลย
ผู้หญิงทุกคนในวัยแรกแย้มต่างก็มีฮีโร่ในฝันทั้งนั้น
เมื่อมองย้อนกลับไปตอนแรกที่เธอหลงรักเขา แม้ว่าเธอจะรู้ว่าความรักที่มีต่อเขานั้นแตกต่างจากสือมูเฉินและคนอื่นๆ แต่เธอก็ยังต้องการใกล้ชิดมากขึ้น
แต่ในคืนนั้นเขาต่อสู้อย่างเลือดสาดเหมือนอย่างฮีโร่ และทันทีที่เขาพาเธอออกจากบาร์ ความชอบที่เธอมีต่อเขาก็เพิ่มมากขึ้นเหมือนเมล็ดพืชที่พบกับดินและปุ๋ย ทันใดนั้นมันก็หยั่งรากลึกในหัวใจของเธอ เติบโตเป็นต้นไม้ที่สูงตระหง่าน
ดังนั้นเธอจึงคิดในภายหลังว่าถ้าเธอไม่เลียนแบบการไปดื่มเหล้าที่บาร์ของคนอื่น เธออาจจะค่อยๆ ลืมความรู้สึกชอบที่มีต่อหยานชิงเจ๋อไปก็ได้ เหมือนกับที่เธอรู้สึกกับฟู่สีเกอและคนอื่นๆ ?
แต่เวลามันผ่านไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ยากที่ใช้คำว่าถ้ามาใช้ และเธอก็ยังหาคำตอบในใจไม่ได้เลย
ในเวลานี้หยานชิงเจ๋อได้ยินคำพูดของฟู่สีเกอก็ทำให้เขายิ้มออกมา “เสี่ยวจิ่น เป็นน้องสาวของฉัน เมื่อก่อนเธอโง่ไปดื่มเหล้าเลียนแบบคนอื่น ฉันกลัวว่าเธอจะถูกหลอก การห้ามไว้ก็เป็นเรื่องที่ควร!”
ซูสือจิ่นหลับตาลง เธอเข้าใจสิ่งที่หยานชิงเจ๋อไม่ได้พูดอีกครึ่งหนึ่งของประโยค
เพราะเจียงซีหยู่อยู่ข้างๆ เขา ต่อหน้าเพื่อนๆ เขาจึงไม่จำเป็นต้องช่วยเธอหยุดดื่ม
ต่างจากเธอ เธอทำได้เพียงเดินอยู่ข้างหลังเขา ไม่ได้อยู่เคียงข้างเขา
เจียงซีหยู่ฟังคำพูดของหยานชิงเจ๋อก็ยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มไม่เยอะหรอกค่ะ ทุกคนไม่จำเป็นต้องดูแลฉันเป็นพิเศษ ผ่อนคลายกันให้สบายนะคะ!”
“ใช่ ต่อไปนี้พวกเราจะเป็นครอบครัว!” ฟู่สีเกอยิ้มและยื่นมือไปหยิบเหล้า
อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งยื่นมือออกไป และเฉียวโยวโยวที่อยู่ข้างๆ เขาก็ยื่นมือออกไปเหมือนกัน และปลายนิ้วของทั้งสองก็สัมผัสกัน เหมือนกับว่าพวกเขาถูกน้ำร้อนลวก
เฉียวโยวโยวรีบดึงมือของเธอออก ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณเอาก่อนเลย!”
ฟู่สีเกอหยิบขวดเหล้าขึ้นมา แต่กลับเทให้เฉียวโยวโยวก่อน “ให้ผู้หญิงก่อน”
พูดจบเขาก็เทเต็มแก้วของตัวเองแล้ววางขวดลง
ในเวลานี้คนใช้นำแกะย่างไร้กระดูกมาวางเสิร์ฟ
“มาเร็วทุกคน วันนี้เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะมารวมตัวกัน มันคือโชคชะตาที่พวกเราได้อยู่ด้วยกัน ผมขอดื่มให้กับทุกคน!” สือมูเฉินหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา
ทุกคนชนแก้วกัน จากนั้นซูสือจิ่นพูดแนะนำ”เมื่อกี้บอกว่าอยากเล่นเกม แต่เวลาไม่พอ ดังนั้นพวกเรากินไปเล่นเกมไปกันเถอะ!”
“ก็ดีนะ จะเล่นเกมอะไรดีกันล่ะ” เจียงซีหยู่พูด
“พวกเรามีเจ็ดคน ไม่มากหรือน้อยเกินไป ถ้าอย่างงั้นพวกเรามาเล่นเกมฆ่ากัน!” ซูสือจิ่นพูด“คนที่ถูกฆ่าตายก่อนจะต้องถูกลงโทษให้ดื่ม และถ้ารอบแรกฆาตกรถูกชี้ตัวและตำรวจถูกฆ่าตายในรอบแรกพวกเขาทั้งหมดจะถูกลงโทษ ให้ดื่มสามแก้วโอเคไหม?”
“โอเค ไม่มีปัญหา!” เฉียวโยวโยวพยักหน้า
หลานเสี่ยวถางเหลือบไปที่เฉียวโยวโยว “โยวโยว อย่าดื่มมากเกินไป”
เฉียวโยวโยวนึกถึงครั้งก่อนที่เธอดื่ม แล้วเธอกับฟู่สีเกอ…… เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เขา
ฟู่สีเกอไม่ได้มองเธอ แต่ยิ้มให้หลานเสี่ยวถาง”กลัวว่าเพื่อนรักจะดื่มเยอะเกินไปแล้วเสียตัวเหรอ?”
ใบหน้าของเฉียวโยวโยวแดงก่ำขึ้นในทันใด
หลานเสี่ยวถางจ้องไปที่ฟู่สีเกอ “สีเกอ นายเป็นผู้ชายคนเดียวที่โสดอยู่ตอนนี้ หรือว่าความหมายของนายคือจะรังแกโยวโยวของพวกเราเหรอ?!”
“ไม่กล้าหรอก แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง แต่เธอไม่ใช่มีแฟนแล้วเหรอ?” ฟู่สีเกอพูดพร้อมกับมองไปที่เฉียวโยวโยว
เฉียวโยวโยวกระตุกมุมริมฝีปากของเธอโดยไม่พูดอะไร
“เอาล่ะ เริ่มได้!” ซูสือจิ่นพูด “ให้พี่เฉินเป็นผู้ตัดสินในรอบแรกแล้วจับสลากเป็นผู้ตัดสินในรอบต่อไป เพราะมีคนไม่มากนัก เล่นกฎที่ง่ายที่สุด ฆาตกรคนเดียว ตำรวจคนเดียว ที่เหลือเป็นประชาชน”
“ตกลง” หลานเสี่ยวถางพยักหน้า “เริ่มเลย! ฉันเคยเล่นกับเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนจบมัธยมปลาย น่าสนุกมาก!”
“เอาละ พี่เฉินแจกไพ่ได้!”
สือมูเฉินแจกไพ่ให้ทุกคนแล้วพูดว่า “ได้โปรดหลับตาในความมืดมิด ส่วนคนที่เป็นฆาตกรลืมตาขึ้น”
หลานเสี่ยวถางไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะได้ไพ่นักฆ่า
เมื่อเธอเห็นไพ่ เธอคิดว่าเธอควรจะฆ่าใครก่อน เพราะหากเธอถูกชี้ตัว เธอจะต้องถูกลงโทษให้ดื่มเหล้าสามแก้ว
เธอจำได้ว่าเธอนั้นเป็นคนคออ่อน คราวที่แล้วเธอเมา แล้วเธอก็ทำแบบนั้นกับสือมูเฉิน……
ดังนั้น เธอจึงต้องอดทนจนถึงที่สุด