ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 229 ให้ผมอยู่ต่อเป็นเพื่อนคุณไหม
เฉียวโยวโยวยังคงตกใจอยู่ หน้าอกของเธอขยับขึ้นลงรุนแรง การหายใจสงบลงอย่างช้าๆ ถึงค่อยเงยหน้ามองไป
เห็นว่าเป็นฟู่สีเกอ เธอค่อยๆ ได้สติ แต่ตอนที่เห็นประติมากรรมนูนข้างหลังเขาอีกครั้ง ร่างทั้งร่างก็หดตัวอย่างช่วยไม่ได้!
ฟู่สีเกอเห็นชัดว่าใบหน้าของเธอดูหวาดผวา เปิดปากพูด “เกิดอะไรขึ้น ?”
เฉียวโยวโยวอยากเข้าใกล้เขา ต้องการความอุ่นใจ แต่เหตุผลทำให้เธอก้าวขาไม่ออก
เธอทำได้แค่ยื่นนิ้วไปทางตำแหน่งด้านหลังตัวเอง“เมื่อกี้ฉันไปห้องน้ำ เห็นดวงตาคู่หนึ่ง!”
“ดวงตาคู่หนึ่ง?” ฟู่สีเกอขมวดคิ้ว “ในห้องน้ำมีคนอยู่?”
เฉียวโยวโยวถึงมีปฏิกิริยา“น่าจะไม่ใช่คน แต่เป็นรูปที่แขวน…”
“ทำไมขี้ขลาดขนาดนี้?” ฟู่สีเกอลังเลครู่หนึ่ง “ผมไปช่วยดูให้คุณ?”
เฉียวโยวโยวพยักหน้า “ค่ะ ขอบคุณ”
ฟู่สีเกอเดินนำหน้า เฉียวโยวโยวเดินตามหลังเขา มองด้านหลังเขา หัวใจเพราะความกลัวจากฝันร้ายหายไปไม่น้อย
ฟู่สีเกอเดินถึงห้องน้ำแล้วเปิดไฟ
ด้านในสว่างทันที และรูปภาพที่แขวนในนั้นก็ชัดเจนมาก
นั่นเป็นภาพวาดสีน้ำมันหญิงสาวภาพหนึ่ง ดวงตาของหญิงสาวโตมาก ในมือกอดตุ๊กตาผ้าไว้ และด้านหลังของเธอ เป็นทุ่งข้าวสาลีสีทองที่สวยงาม
“เป็นแค่ภาพวาดเท่านั้น” ฟู่สีเกอเปิดปากพูด“ต่อไปนี้เข้าห้องน้ำ จำไว้ว่าต้องเปิดไฟ”
เฉียวโยวโยวพยักหน้า ตามองต่ำ “ค่ะ”
ฟู่สีเกอกวาดตามองห้องหนึ่งรอบ แล้วพูด “ไม่มีอะไรแล้ว ผมกลับไปนอนแล้ว”
“อืม” เฉียวโยวโยวพยักหน้า “ขอบคุณ”
อันที่จริงเธออยากรู้นิดหน่อย เขาเดินมาที่ทางเดินตอนเที่ยงคืนทำไม แต่ตอนนี้เหมือนไม่มีสถานภาพที่จะถามแล้ว
ฟู่สีเกอเดินออกห้อง ช่วยเฉียวโยวโยวปิดประตู เฉียวโยวโยวเข้าห้องน้ำเสร็จ ปิดไฟกลับไปบนเตียง
แต่เธอนอนแค่หลับตา ก็เห็นภาพฝันร้ายก่อนหน้านี้ทันที รู้สึกว่าต้นคอเย็นๆ ทำให้เธอจับผ้าห่มไว้แน่น
เวลานี้ ระเบียงด้านนอกเหมือนมีลม เพราะเธอไม่ได้ปิดหน้าต่างในห้อง ดังนั้นผ้าม่านเลยขยับ ในความมืดมิดตอนกลางคืน เหมือนมีอะไรทะลุหน้าต่างมา
เธอตกใจจนร้องออกมา ศีรษะมุดไปใต้ผ้าห่ม หนาวสั่นเหมือนนกกระจอกเทศ
มือของเธอจับผ้าปูไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว วินาทีนี้ นึกไม่ถึงว่าจะหวังให้มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ
และฟู่สีเกอเดิมเพราะเจ็ทแลคนอนไม่หลับ เดินตรงทางเดินเพราะเจอเฉียวโยวโยว เขาเลยกลับห้องตัวเอง แต่ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม
เขานอนลง พยายามบังคับตัวเองให้นอน แต่หลับตากลับเห็นภาพใบหน้าซีดขาวของเฉียวโยวโยวเมื่อกี้
ท่าทางของเธอเมื่อกี้ ต้องตกใจมากแน่ ๆละมั้ง?
และหลังจากที่เขาออกจากห้อง เธอยังกลัวอยู่ไหม?
คิดถึงตรงนี้ เขายิ่งนั่งไม่ติด สุดท้ายเลยลุกขึ้นนั่ง
ก่อนหน้านี้เขาเคยพูด เห็นเธอเป็นคนแปลกหน้า แต่เห็นท่าทางกลัวแบบนั้นของเธอ รู้สึกว่าตัวเองจะปล่อยไปไม่สนใจไม่ได้
ลังเลครู่หนึ่ง ฟู่สีเกอลุกขึ้นเดินออกห้องมาถึงหน้าประตูเฉียวโยวโยว เคาะประตู
เฉียวโยวโยวเดิมที่กลัวอยู่แล้ว ได้ยินเสียงเคาะประตู ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ “ใคร?!”
ด้านนอกประตู ฟู่สีเกอได้ยินเสียงหวาดกลัวของเธอชัดเจน ชั่วพริบตาก็เข้าใจว่าเธอยังคงกลัวอยู่แน่นอน ดังนั้นเลยพูดเสียงดัง “ผมเอง เปิดประตู”
เฉียวโยวโยวได้ยินเสียงของฟู่สีเกอ ก็โล่งใจไม่น้อย เธอเปิดผ้าห่ม และไม่กล้ามองผ้าม่าน เดินเท้าเปล่าเดินไปเปิดประตู
ฟู่สีเกอเห็นสภาพเธอตอนนี้ ลังเลครู่หนึ่ง “ฝันร้าย?”
เฉียวโยวโยวพยักหน้า “ฉันฝันว่ามีคนฆ่าฉัน…ฉันน่าจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมฆ่าคน เมื่อก่อนดูซีรีส์ไขคดีปริศนา พวกหลักฐานการบันทึก พวกยอดตุลาการราชวงศ์ซ่ง(ชื่อละคร)แนวนั้น ตอนกลางคืนก็จะกลัว…”
ระหว่างที่พูด อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นช้าๆ แล้วนึกถึงความสัมพันธ์พวกเธอในตอนนี้ พูดอย่างเกรงใจทันที “ฉันรบกวนคุณใช่ไหม? ขอโทษ…”
“เปล่า” ฟู่สีเกอจ้องเฉียวโยวโยว รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาพูดไปแล้วว่าจะเว้นระยะห่าง ตอนนี้หากเขาอยู่ห้องเธอต่อไม่ค่อยเหมาะสม
แต่ท่าทางเธอเมื่อกี้ เขากลับไปเหมือนจะยิ่ง…
ลังเลครู่หนึ่ง เขาเปิดปากพูด “ถ้าหากกลัว ผมอยู่ต่อเป็นเพื่อนคุณ”
เฉียวโยวโยวมองฟู่สีเกอด้วยความประหลาดใจ แต่สีหน้าของเขานิ่งมาก ทำให้เธอมองไม่ออก เธอพยายามให้ตัวเองดูเป็นธรรมชาติหน่อย “รบกวนเวลาคุณพักผ่อนหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไร ทุกครั้งที่เจ็ทแลคผมจะนอนไม่หลับ” ฟู่สีเกอพูดไปเดินไปทางโซฟา “คุณนอนเถอะ ผมนั่งตรงนี้ดูข่าวสักพัก”
“อือ” เฉียวโยวโยวพยักหน้า เธอเดินเท้าเปล่าไปที่ข้างเตียง กำลังจะนั่งลง ฟู่สีเกอเปิดปากพูดอีกครั้ง “ลองแช่เท้า ช่วยในการนอนหลับ”
“อ้อ ค่ะ” เฉียวโยวโยวพยักหน้า แต่ตอนเธอเดินไปถึงตรงห้องน้ำ และเพราะรูปหวาดกลัวภาพนั้น ดังนั้นเลยลังเล
ฟู่สีเกอสังเกตเห็นว่าเธอไม่เข้าไป เขาหมุนตัวไป ก็เห็นเฉียวโยวโยวจับชายเสื้อตัวเอง เหมือนกำลังต่อสู้กับอะไร
เขาไม่มีทางเลือก ลุกขึ้นเดินไปข้างตัวเธอ ก้มถามเธอ “กลัวรูปนั้น?”
เฉียวโยวโยวตามองต่ำ “อืม” แค่รูปภาพหนึ่งก็กลัว อันที่จริงน่าขายหน้ามาก แต่ตั้งแต่เด็กที่กลัวหนังสยองขวัญแบบเธอ ไม่มีวิธีเอาชนะความกลัวได้เลย…
“ผมเข้าไปเป็นเพื่อน” ฟู่สีเกอพูดอยู่เดินเข้าห้องน้ำ ยื่นมือเปิดน้ำ
เฉียวโยวโยวมองด้านหลังเขา อารมณ์ตอนนี้ว้าวุ่นมาก
เธออยากถามเขา ก่อนหน้านี้บอกว่าหลังจากนี้จะเห็นเธอเป็นคนแปลกหน้า ทำไมเขายังมาสนใจเธอ?
หรือว่า เธออยากรู้ อนาคตพวกเธอแม้ว่าไม่ได้เป็นคนรัก สามารถเป็นเพื่อนได้ไหม?
แต่มีบางอย่าง ทำลายแล้วเหมือนจะเปลี่ยนกลิ่นอายไป ดังนั้น เฉียวโยวโยวไม่ได้เปิดปากพูด ทำแค่รอฟู่สีเกอเปิดน้ำจนเสร็จอย่างเงียบๆ แล้วเดินไปวางเท้าลงไปในน้ำอุ่น
เห็นเฉียวโยวโยวเริ่มแช่เท้า ฟู่สีเกอเลยนั่งข้างอ่าง หลังพิงกำแพงหลับตาพักผ่อน
———การอ่านที่ใหม่และฮิตที่สุด บัญชีสาธารณะที่ค้นหาในวีแชท [Cherry Reading] หายไปจากรถติดตาม———
ในห้องน้ำไม่ได้มีพื้นที่กว้าง เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจถี่
เฉียวโยวโยวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หันมองไปทางฟู่สีเกออย่างช่วยไม่ได้
เธอเห็นเขาหลับตาทั้งสองข้าง มองแล้วดูท่าทางอ่อนเพลีย ลักษณะไม่เหมือนปกติที่เห็น เขาที่เงียบสงบ เหมือนดูสุขุมขึ้น
เธอกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าตัวเองแอบมอง ดังนั้นรีบหันเหสายตาไป
เป็นอย่างที่บอก หลังจากแช่เท้าไปสักพัก เฉียวโยวโยวรู้สึกคนทั้งคนผ่อนคลายลงมาก ความตึงเครียดหายไปหมด
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ฟู่สีเกอลืมตาขึ้น
เฉียวโยวโยวเช็ดเท้าให้แห้งลุกขึ้น กลับไม่ได้ระวังที่พื้นมีน้ำ ลื่นเล็กน้อยเธอทรงตัวไม่ดี หงายหลังจะล้มไปทันที
ฟู่สีเกอที่นั่งอยู่ใกล้ๆ มือไวตาไว โดดลงมาเรียบร้อยแล้วดึงเฉียวโยวโยวเข้าหาตัวเอง
จมูกของเธอชนกับหน้าอกเขา เจ็บนิดๆ แต่ทรงตัวได้แล้ว เฉียวโยวโยวยืนขึ้นจากหน้าอกของฟู่สีเกอ นวดจมูกไปพลาง เงยหน้าเขาไปพลางตามสัญชาตญาณ
เขาก็ก้มมองเธอ ภายใต้ไฟคริสทัล ใบหน้าทั้งสองคนมีแสงและเงาจางๆ
“จมูกไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฟู่สีเกอได้สติแล้วถาม
“ไม่เป็นไร” เฉียวโยวโยวส่ายหน้า รู้ว่าตัวเองเมื่อกี้ทำตามสัญชาตญาณ ยังดึงเสื้อของฟู่สีเกอ เธอรีบปล่อยออกแล้วค่อยๆถอยห่างขอบเขตการหายใจของเขา
ความกดดันทั้งตัวผ่อนลง หัวใจของเฉียวโยวโยวกลับเป็นปกติ เธอรู้สึกอายเล็กน้อย
เมื่อกี้ที่ล้มแบบนั้น เหมือนจงใจยั่วยวน แต่เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ และไม่รู้จะชี้แจ้งยังไง
“งั้นฉันไปนอนแล้ว” เฉียวโยวโยวเปิดปากพูด ทำลายบรรยากาศเงียบๆในตอนนี้
“อืม” ฟู่สีเกอพยักหน้า เดินตามเธอออกจากห้องน้ำ
เธอกลับขึ้นเตียง เขาเดินไปทางโซฟา
เฉียวโยวโยวเปิดผ้าห่มนอนลงไป เพราะผ่อนคลายหลังจากแช่เท้า ดังนั้นเลยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
ที่โซฟา ฟู่สีเกอยังคงดูมือถือ ไม่ได้หันไปมอง
เวลาผ่านไปช้าๆ เฉียวโยวโยวเพราะมีเรื่องกังวลใจอยู่ เลยตื่นขึ้นกลางคันอีกครั้ง
เธอมองนอกหน้าต่าง ด้านนอกยังปกคลุมด้วยความมืดมิด และไม่รู้ตอนนี้กี่โมง
และบนโซฟา ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ เหมือนฟู่สีเกอหลับไปแล้ว
แม้อุณหภูมิที่นี่จะค่อนข้างสูง แต่ในตอนกลางคืนยังเย็นเล็กน้อย เขาไม่ได้ห่มอะไร จะเป็นหวัดได้ง่าย…
เฉียวโยวโยวคิดถึงตรงนี้ รีบลุกขึ้น
เธอเงียบฟังอยู่ครู่หนึ่ง มั่นใจว่าฟู่สีเกอหลับแล้ว ดังนั้นเลยหยิบผ้าห่มผืนบางจากตู้ กอดเดินออกมาถึงหน้าโซฟา
ใช้แสงริบหรี่ในห้อง เฉียวโยวโยวเห็นฟู่สีเกอนอนครึ่งท่อนอยู่บนโซฟา เพราะโซฟาค่อนข้างเล็ก ดังนั้นอีกครึ่งท่อนอยู่ด้านนอก
ข้างมือเขายังมีมือถือวางอยู่ เห็นชัดว่าดูมือถืออยู่แล้วหลับไป
เฉียวโยวโยวคลี่ผ้าห่มผืนบาง คลุมบนตัวฟู่สีเกออย่างเบามือ
เขาที่งัวเงียเหมือนรู้สึกได้ถึงอะไร แค่บ่นเบาๆ แต่ไม่ตื่น
เธอรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ กลัวเขาจะเห็นเธอ แต่เห็นเขาพลิกตัวแล้วนอนต่อ ถึงถอนหายใจโล่ง
เขาเหมือนนอนไม่ค่อยสบาย ขมวดคิ้วเล็กๆ ร่างกายขยับเข้าไปในโซฟา
เฉียวโยวโยวยืนอยู่ข้างโซฟา เวลานี้อยากเรียกฟู่สีเกอกลับห้องตัวเองไปพักผ่อนบนเตียง แต่มือยื่นไปแค่ครึ่งเดียว สุดท้ายก็วางลง
เธอช่วยเขาคลุมผ้าห่มเสร็จ มองเงียบๆอยู่หน้าโซฟา
ฟู่สีเกอ ขอบคุณ
เธอพูดอยู่ในใจไม่ออกเสียง
แต่ไม่ว่าจะอารมณ์ไหน เธอเข้าใจดี เขากับเธอ เป็นเพียงแค่ความฝันหนึ่งที่สวยงามเท่านั้น
เพราะพ่อแม่ เธอยอมรับความจริงไม่ได้ หรือบางที ความรู้สึกลึกๆของเธอเป็นคนขาดความอบอุ่น ดังนั้นถึงไม่กล้าเอาอนาคตให้กับชีวิตที่ไม่มั่นคง
เพราะนอนบนโซฟา ดังนั้น ฟู่สีเกอตื่นขึ้นตอนฟ้าสาง
ตอนนอนตะแคงทำให้แขนชา เขารอไปพักหนึ่งถึงยันตัวลุกขึ้น
ในเวลานั้นเองผ้าห่มผืนบาง บนตัวร่วงลงมา ฟู่สีเกอเก็บมันขึ้นมา มองไปทางเฉียวโยวโยวอย่างช่วยไม่ได้
ผ้าห่มนี้ เมื่อคืนไม่มี เธอเป็นคนคลุมให้เขาเหรอ?