ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 23 ฉันต้องการแก้แค้น ฉันควรทำอย่างไร
“เสี่ยวถาง คนหนุ่มสาวมักจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันบ้าง ต่างฝ่ายต่างทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน” หลานอวี้เจินบีบมือ หลานเสี่ยวถางและกล่าวว่า “ยายอาบน้ำร้อนมาก่อน อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลานทะเลาะกับสือเพ่ยหลินใช่ไหม?แต่เรื่องนี้ไม่ควรเอามาเกี่ยวข้องกับบริษัท การประมูลเดียว จะมาทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายแย่มันไม่ดีเลย หลานกลับไปคุยกับเขาดีๆ นะ”
จากนั้นเธอก็พูดอีกครั้ง ” เสี่ยวถาง แม้ว่ายายจะรู้ว่าถ้าหลานยอม หลานจะต้องรู้สึกแย่ แต่จะทำอย่างไรได้ ตระกูลหลานของเราตอนนี้อยู่หลังตระกูลสือมาก ดังนั้นบางครั้งเราก็ทำได้แค่อดทนเท่านั้น มันควรจะเป็นยายที่ต้องขอโทษหลาน ที่ให้หลานไปแต่งงานกับตระกูลสือจนต้องเจอกับเรื่องแย่ๆแบบนี้ …”
“คุณยาย —” หลานเสี่ยวถางเจ็บปวดและน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “โอเคค่ะ คุณยาย หลานจะกลับไปคุยกับสือเพ่ยหลินอีกครั้ง ”
ร่างกายของเธอสั่นเทา แต่ในใจของเธอกลับสาบานว่าเธอต้องการแก้แค้น!
สือเพ่ยหลินและเฉินจื่อโร่วฉันขอโทษเธอ เธออาจจะให้อภัย แต่พวกเขาทำร้ายคนใกล้ตัวของเธอซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของเธอ เธอจะไม่ปล่อยไว้แบบนี้เด็ดขาด !
“เสี่ยวถาง ดูสิ พอหลานกลับมา ยายก็พูดเรื่องไม่สบายใจให้หลานฟัง” หลาน อวี้เจินกล่าว “ยายไม่เป็นไร คงเป็นเพราะปีนี้ยายอายุใกล้จะ 80 ปีแล้ว คนที่แก่แล้วมักจะเป็นเช่นนี้ พอความดันต่ำก็จะเป็นแบบนี้ ไม่ต้องกังวล เที่ยงนี้อยู่ทานข้าวที่นี่ แม่บ้านจางเตรียมอาหารไว้ให้เยอะแยะเลย ของโปรดหลานทั้งนั้น”
หลานเสี่ยวถางยิ้มและพยักหน้า “ใช่ค่ะ ตอนนี้ที่หลานทำอาหารเป็น ก็ได้เรียนรู้จากป้าจางนี้แหละค่ะ !”
แม้ว่าหลานอวี้เจินจะนอนอยู่บนเตียง แต่สมองของเธอยังปกติดีทุกอย่าง เธอรู้ได้ทันทีหลังจากหลานเสี่ยวถางแต่งงานและไปอยู่ที่นั่น เธอไม่ได้รับความรักและความเมตตาจากคุณย่า อีกอย่างเธอต้องดูแลคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงแทน
เวลานั้น ทั้งคู่อาจรู้สึกดีอยู่ครู่หนึ่ง แต่ทุกอย่างก็เงียบไป
ตอนเที่ยงทุกคนนั่งทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เพราะแพ้การประมูล บรรยากาศจึงแย่มาก
แม่บ้านจางเอาอาหารไปให้หญิงชรา จึงมีเพียงหลานเสี่ยวถางพ่อและแม่บุญธรรมเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อนความรู้สึก หลานไห่ฮว๋าก็วางตะเกียบของเขาอย่างรวดเร็วและพูดกับหลานเสี่ยวถางว่า “เมื่อวานเธอบอกว่าหาทางออกได้แล้ว ไหนล่ะทางออกของเธอ !
“พ่อ ไม่ต้องห่วง เรายังมีโอกาส” หลานเสี่ยวถงนึกถึงคำพูดของสือมูเฉินเมื่อคืนนี้ เธอพูด
“โอกาส ?” หูซิ่วจูวิ่งรีบย้อนหลานเสี่ยวถาง “ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีโอกาส อีกอย่างวันนี้ฉันไปเดินเล่นที่ห้างเห็นอดีตสามีที่ดีของเธอกอดกับผู้หญิงเลวคนนั้น และกำลังเลือกแหวนกันอยู่ !”
ใบหน้าของหลานเสี่ยวถางเริ่มแข็งทื่อ เธอไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เธอจำได้ที่สือมูเฉินพูดอย่างไม่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ตอนนนี้ของพวกเขายังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยให้คนอื่นรู้ นั้นเป็นอะไร? เธอยังคงคิดไม่ออก
“ดูเหมือนว่าสือเพ่ยหลินไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ กับเธอเลย ตอนนี้ครอบครัวตระกูลหลานเป็นแบบนี้ พวกเขามีปัญหาด้วยเหรอ !” หน้าอกและท้องของหลานไห่ฮว๋าเริ่มปั่นป่วน “สองปีที่ผ่านมาที่เธอแต่งงานไป เราไม่ได้เงินสักบาท สุดท้าย ยังถูกพวกเขาบังคับให้ล้มละลาย!”
หลานเสี่ยวถางตกใจ ” ล้มละลาย?”
“ตอนนี้ใครบ้างไม่รู้ว่าตระกูลหลานกำลังล้มละลาย ” หลานไห่ฮว๋ากล่าวว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Times Group เข้าร่วมในการประมูลเมื่อวานนี้ ทุกคนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทของเราได้พังทลายลงแล้ว และโครงการอื่นที่ตั้งใจจะร่วมมือกับเราทุกอย่างถูกล้มเลิก ถ้ายังเป็นแบบนี้ ไม่เกินสามเดือนบริษัท Blue Sky Group ได้ประกาศล้มละลายแน่ !”
หลานเสี่ยวถางเพิ่งรู้ถึงปัญหาใหญ่นี้ “พ่อค่ะ แม่ค่ะ ไม่ต้องกังวล ฉันมีเพื่อนเก่งมาก ฉันจะลองขอความช่วยเหลือจากเขาดู ได้เรื่องยังไงจะแจ้งให้ทราบอีกที !”
เห็นได้ชัดว่าหูซิ่วจูไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด เขาเหลือบไปมองหลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็ลุกขึ้นและไปที่ห้องครัวเพื่อหยิบช้อนซุป
แต่เมื่อเธอยืนขึ้น จากหางตาของเธอ เธอก็สังเกตเห็นรอยที่คอของหลานเสี่ยวถาง
อย่างไรก็ตาม คอเสื้อของหลานเสี่ยวถางค่อนข้างสูง ดังนั้นหูซิ่วจูจึงเห็นไม่ชัด
เธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปดึงคอเสื้อของหลานเสี่ยวถาง หลานเสี่ยวถางรีบหลบจากมือของเธอ หูซิ่วจูคว้ามือเปล่าเธอพูดอย่างโกรธเคือง ” เราเลี้ยงดูเธอมาหลายปี ตอนนี้เธอรู้จักแข็งข้อกับเราแล้วเหรอ !”
ในขณะที่หลานเสี่ยวถางยังไม่เคลื่อนไหว หูซิ่วจูดึงคอเสื้อของเธอออก และรอยจูบก็ถูกเปิดเผยในทันที
“นี่เป็นฝีมือชายหื่นที่ไหน !” หูซิ่วจูกล่าวด้วยความสงสัย
“ฉัน…” หลานเสี่ยวถางเม้มริมฝีปากของเธอ “เพื่อนของฉัน”
หูซิ่วจูมองไปที่หลานเสี่ยวถาง เพียงเพื่อคิดว่าได้เห็นลูกสาวบุญธรรมก่อนหน้านี้สองสามครั้ง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอดูดีขึ้น หูซิ่วจูรู้สึกแปลกใจ ” ผู้ชายที่เธอคบหาคนนี้เป็นยังไง ? ฐานะบ้านเขาเป็นอย่างไร? ”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกตัวเย็นไปอยู่ครู่หนึ่ง
ในตอนแรก เธอแต่งงานกับสือเพ่ยหลินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส คนครอบครัวเห็นเพียงของขวัญหมั้นของตระกูลสือ แน่นอนว่าไม่มีใครมีข้อโต้แย้งอะไร พวกเขาจะรู้ไหม หลังจากที่เธอแต่งงานไปเธอจะเป็นหม้ายตลอดชีวิต
ตอนนี้ เธอเพิ่งหย่าร้าง และพบรอยจูบที่คอของเธอ พวกเขาไม่ได้ถามว่าผู้ชายคนนั้นปฏิบัติต่อเธอดีหรือไม่ หรือหลอกเธอหรือเปล่า แต่กลับสนใจแค่ว่าชายคนนั้นมีเงินหรือไม่ …
หลานเสี่ยวถางไม่เต็มใจที่จะโกหก และเธอก็ไม่รู้จริงๆ ว่าสถานการณ์จริงของสือมูเฉินเป็นยังไง
ดังนั้นเธอจึงบอกไปว่า “ฐานะของเขาอยู่ในระดับปานกลาง แต่เขาปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี ”
“ดีกับเธอมีประโยชน์อะไร เด็กน้อยผู้น่าสงสาร!” หูซิ่วจูดุทันที “หลานเสี่ยวถาง ทำไมเธอถึงไม่ยอมโตสักที ? ใช้ชีวิตมา 25 ปีแล้ว จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีเงิน รักอย่างเดียวกินไม่ได้ ถ้ามีทางไหนที่เป็นทางออกให้ Blue Sky Group ก็รีบจัดการเสีย ?! ผู้ชายที่ไม่มีเงินแบบนั้น อย่าเอามาให้เสียเวลาเลย !
หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าเป็นเพราะความเย็นสะท้านภายในหัวใจของเธอ จึงทำให้ขนบนร่างกายลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัว
ก่อนที่เธอจะพูด หลานไห่ฮว๋าชิงพูดก่อน ” พูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็เพิ่งสังเกตเห็นว่า ”
“อะไรคะ ?” หูซิ่วจูหันไปมองชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างรวดเร็ว
“จำประทานซวี คนนั้นได้ใช่ไหม ?” หลานไห่ฮว๋าพูด “ผมได้ยินมาว่าภรรยาของเขา เป็นมะเร็งเต้านมและเพิ่งเสียชีวิต และตอนนี้เขาโสด ”
หูซิ่วจูเข้าใจในทันที และตาที่โลภของเธอก็จับจ้องไปที่หลานเสี่ยวถาง ” เสี่ยวถางถือว่าอายุยังน้อยและเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี อีกอย่างก่อนหน้านี้ที่เธอแต่งงานกับสือเพ่ยหลินก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ เราส่งเธอไปที่นั่น บางทีท่านประธานอาจจะถูกใจเธอก็ได้ ”
“แม่ แม่ทำไมแม่ต้องทำแบบนี้ …” หลานเสี่ยวถางรู้สึกเสียวสันหลังวาบ “ ทานประธานซวีคนนั้นอายุ 50 ต้นๆ แล้วมั้ง อายุเขาห่างกับฉันมาก ฉัน…”
“รู้อะไร !” หูซิ่วจูพูดว่า“ เธอไม่รู้หรอกว่าทรัพย์สินของตระกูลอวี้มีเท่าไหร่! เขาเป็นลูกชายคนเดียว ถ้าเขาเสียชีวิต ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกมอบให้ลูกชายของเขา แต่ถ้าเธอได้เป็นภรรยาเขาตอนนี้ เธอจะได้รับมรดกมากมาย ! อีกอย่างตอนนี้บริษัท Blue Sky Group ต้องการเงินทุนอย่างเร่งด่วน ถ้าเธอเกลี้ยกล่อมเขาและรีบแต่งงานกับเขาเร็วๆ ในนามของ Yu Group เขาจะไม่ส่งเสริม Blue Sky Group เลยเหรอ !”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกตัวชาไปทั้งตัว ” พ่อแม่ ฉันจะไม่แต่งกับเขา”
“เรื่องนี้ เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้!” หลานไห่ฮว๋าพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วพูดว่า “ต้นเดือนหน้า วันเกิดปีที่ 70 ของคุณจิน ตระกูลจินเห็นแก่หน้าคุณยายของเธอจึงส่งคำเชิญมาถึงเราด้วย แน่นอนว่าประธานซวีต้องไปด้วย ถึงเวลานั้น เธอควรจะทำตัวให้ดีดีละ ”
หลานเสี่ยวถางรู้ว่าไม่ว่าเธอจะโต้แย้งยังไง พวกเขาก็ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน และบางทีอาจมีผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้นเธอจึงหยุดโต้แย้ง เธอลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะไปหาคุณยาย”
หลังจากเธอออกมาจากบ้านตระกูลหลาน หลานเสี่ยวถางแวะซื้อผักสดที่ตลาด และเมื่อสือมูเฉินกลับจากที่ทำงานในตอนเย็น เธอก็เตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้ว
เมื่อเขาเห็น เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เสี่ยวถาง นี่ใช้หนี้ก่อนแต่งงานหรือเปล่า?”
หลานเสี่ยวถางยิ้ม “ไม่ ฉันแค่คิดว่าคุณทำงานหนักจนเกินไป ”
แววตาของสือมูเฉินดูพึงใจ เขาก็เดินไปหาเธอและก้มศีรษะลงจูบหลานเสี่ยวถาง “แม้ว่าเมื่อวานนี้เราจะจูบกันหลายครั้งแล้ว แต่ผมก็เป็นคนเริ่มก่อน ดังนั้นคุณคิดยังไง ถ้าคุณจะเริ่มจูบผมก่อน มันคุ้มค่ากว่าที่จะต้องทำอาหารเป็นสิบๆครั้ง ”
แก้มของหลานเสี่ยวถางร้อนจัด อย่าลืมตาเด็ดขาด
“ดูเหมือนว่าภรรยาของผมชอบทำอาหารมากกว่าจูบฉัน” สือมูเฉินแกล้งเธอเล่น “นี่ควรจะดีใจหรือผิดหวังดีนะ?”
หลานเสี่ยวถางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ เธอหันกลับมาและพูดอย่างเคร่งขรึม ” เสี่ยว —” เธอพูดได้เพียงคำเดียว เธอก็ตระหนักถึงบางสิ่ง ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนคำพูดของเธออย่างรวดเร็ว ” ฉันควรเรียกคุณว่าอะไร ”
“เรียกชื่อ? ” ฉือมูเฉินล้างมือเสร็จ นั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วหันมามองที่เธอ “ หรือจะเรียกสามีก็ได้ ”
หลานเสี่ยวถางกัดริมฝีปากของเธอ ” มูเฉิน…”
เธอไม่ค่อยชินกับการเรียกเขาแบบนี้ เวลาพูดเธอก็ทำได้แค่พูดเสียงเบา
เขายกมุมปากขึ้นด้วยความสงสัย ” คุณต้องการจะพูดอะไรกับผม?”
“ บ่ายวันนี้ ฉันกลับไปที่บ้านตระกูลหลานมา คุณยายไม่สบาย” หลานเสี่ยวถางกล่าว
“คุณยายหลานเป็นยังไงบ้าง?” สือมูเฉินกับหลานอวี้เจิน แน่นอนว่าพวกเขาสนิทกัน
“คุณยายแก่และสุขภาพไม่ดี แต่ครั้งนี้ที่เธอไม่สบายเพราะเรื่องการประมูล ” หลานเสี่ยวถางสูดหายใจเข้าลึก ๆ “มูเฉิน คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันควรทำยังไง ? ฉันอยากแก้แค้น!”
สือมูเฉินยื่นแขนของเขาออกมา “มานี่สิ”
หลานเสี่ยวถางเดินไปหาเขาและถูกดึงเข้าไปนั่งบนตักของเขา เขาโอบรอบเธอ จ้องมองที่เธออย่างลึกซึ้ง ” ต้องการแก้แค้นแล้วเหรอ ?”
“พวกเขาปฏิบัติกับฉันอย่างนั้น จะบอกว่าฉันงี่เง่าก็ได้ และฉันมองคนไม่ออก จริงๆฉันไม่ได้สนใจหรอก แต่พวกเขาทำกับคนใกล้ตัวฉัน ฉันยอมให้ไม่ได้!” หลานเสี่ยวถางจ้องเข้าไปในดวงตาของสือมูเฉิน ” แต่ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรเลย ฉันต้องการแก้แค้น แต่ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการกับพวกเขาที่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร ”
“คุณมีผม ” สือมูเฉินมองไปที่เธอ ” ผมจะช่วยคุณ”
แม้ว่าจะมีคำง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ แต่ดูเหมือนว่าหลานเสี่ยวถางจะพบทางออกที่ส่องสว่างอยู่ตรงหน้าในคืนที่มืดมิดเช่นนี้
เธอพยักหน้าและมีน้ำตาในดวงตาของเธอ ” มูเฉิน ขอบคุณมากนะ ! บอกฉันว่าต้องทำยังไง ขอแค่สามารถเอาคืนพวกเขาได้ ฉันจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม !”
“คุณไม่ต้องแลกกับอะไรทั้งสิ้น คุณแค่เป็นภรรยาที่ดีของผมก็พอ ” สือมูเฉินมองลงมาที่เธอ
เธอพยักหน้า ในดวงตามีน้ำตาเอ่อล้น ” ทำไมคุณถึงช่วยฉัน ? และทำไมแต่งงานกับฉัน? ฉันไม่มีอะไรเลย และฉันก็แต่งงานมาแล้วสองปี…”
สือมูเฉินกล่าวว่า ” เงินบริจาคที่ได้รับจากสภากาชาด อาจไม่สามารถเข้าถึงทุกคนที่ต้องการได้ ”
หลานเสี่ยวถางสับสน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับสภากาชาด?
ในขณะที่กำลังสงสัย ก็ได้ยินสือมูเฉินพูดว่า ” การกุศล ควรเริ่มจากคนใกล้ตัวก่อนไม่ใช่เหรอ ผมเห็นว่าคุณน่าสงสาร ดังนั้นผมจึงรีบแต่งงานกับคุณก่อน ”