ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 24 กลางคืนเรียนอะไร เจ็ดสิบสองรูปแบบ
หลานเสี่ยวถางทำตาปริบๆ เมื่อเห็นว่าสือมูเฉินอมยิ้ม
เธอเข้าใจดีว่า เธอไม่สามารถถามหาเหตุผลจากเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอสูญสิ้นทุกอย่าง และเธอไม่มีอะไรจะต้องให้สูญเสียอีกแล้ว
เธอยิ้มอย่างตรงไปตรงมา ” ดูเหมือนว่าการแต่งงานกับฉันจะเป็นการทำบุญ?”
“ใกล้เคียง ” นิ้วมือของสือมูเฉินลูบไปที่ไลผมของหลานเสี่ยวถาง “ แต่จำไว้ เมื่อเข้ามหาลัยแล้วต้องตั้งใจเรียนให้ดีๆ ถ้าเกรดออกมาดี ผมจะให้รางวัลคุณ ทำดีก็ต้องได้รางวัล ”
ในขณะที่พูด ท่าทางของสือมูเฉินก็เริ่มจริงจังมากขึ้น “เสี่ยวถาง ไม่ต้องกังวลสิ่งที่ฉันพูดกับคุณในห้องโถง ผมไม่ได้ล้อเล่น แต่มันคือสิ่งที่ผมตั้งใจ และถึงวันนั้น คนที่เคยรังแกคุณและคนที่คุณรัก พวกเขาจะได้ชดใช้ด้วยมูลค่ามหาศาล!”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกเพียงว่าช่วงหน้าอกมีของเหลวคล้ายเลือดกำลังเริ่มอุ่นขึ้น เดือดพลุ่งพล่านขึ้นมา และร่างกายก็เริ่มร้อนระอุ “ฉันจะทำได้จริงๆ เหรอ?
“ได้สิ ” สือมูเฉินตอบ ขณะที่เขาพูด เขาก็ปล่อยเธอ “กินก่อน กินเสร็จแล้วผมจะบอกแผนการเบื้องต้นให้คุณ ”
“ตกลง” หลานเสี่ยวถางพยักหน้า และกลับไปที่ที่นั่งของเธอพร้อมเริ่มกินในทันที
” กินข้าวต้องกินให้รู้รส ” สือมูเฉินชี้ไปที่ใบหน้าของหลานเสี่ยวถาง ” ดูสิ ข้าววิ่งไปที่แก้มแล้ว ”
หลานเสี่ยวถางรีบเอามือลูบแก้มเพื่อจะปัดออก แต่เธอก็ไม่สัมผัสโดนอะไร เธอเลยอดไม่ได้ที่จะเถียงออกไปว่า ” มีที่ไหนกัน ”
“อย่าไปเชื่อสิ่งที่คนอื่นพูดโดยที่ยังไม่ได้คิดให้ดีๆ ก่อน มีเมล็ดข้าวติดอยู่บนใบหน้าหรือไม่ คุณเองไม่รู้สึกเหรอ ” สือมูเฉินกล่าวเพิ่ม “ ต่อไปนี้ คุณจะเจอกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันมากมาย ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครอย่าได้หลงเชื่อง่ายๆ ”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า ” สือมูเฉิน สิ่งที่คุณกำลังเตือนฉัน มันถูกต้องมาก ”
“ ถ้าจะขอบคุณผม ง่ายนิดเดียว กลางคืนปรนนิบัติผมให้ดีๆ ” สือมูเฉินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินและก้มลงกินทันทีโดยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร
หลังจากเก็บโต๊ะเรียบร้อย หลานเสี่ยวถางก็มาที่ห้องทำงานของสือมูเฉิน
เขาจัดการปัญหาในอีเมล เขากำลังก้มหน้าลงอย่างตั้งใจทำงาน มันดูเป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์มาก
เธอมองค้างอยู่อย่างนั้นจนเขาเงยหน้าขึ้น ” เก็บเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า สือมูเฉินชี้ไปที่ที่นั่งข้างๆเขา “มานี่สิ”
เธอนั่งลงและอดไม่ได้ที่จะมองหน้าจอของเขา เธอรู้เพียงแต่ว่ามันเป็นภาษาฝรั่งเศสหรือเยอรมันทั้งหมด และเธอไม่รู้อะไรเลยสักคำ
สือมูเฉินหยิบเอกสารกองหนึ่งและพูดว่า “เสี่ยวถาง บอกผมมาก่อน คุณทำอะไรเป็นบ้าง ?”
หัวใจของหลานเสี่ยวถางดิ่งลง เธอทำอะไรเป็นที่ไหน ? เธอเรียนเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ในมหาวิทยาลัย แต่หลังจากเรียบจบ เธอก็ไม่ได้แตะมันอีกเลย ตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้ก็น่าจะมีแค่ การทำอาหาร นอกเหนือจากนั้น เธอก็ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง !
สักพัก หลานเสี่ยวถางรู้สึกมั่นใจในตัวเองขึ้นเล็กน้อย “ฉันไม่รู้ ฉันอาจจะทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ”
หลังจากเขาได้ฟังคำตอบ สือมูเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วคุณต้องการให้ผมนล้างแค้นคุณหรือคุณจะทำด้วยตัวเอง?”
“ฉันต้องการทำด้วยตัวเอง…” หลานเสี่ยวถาง คอตก “แต่ฉันไม่มีความสามารถอะไร และยังจะพูดแบบนี้ ฉันดูอวดเก่งมากใช่ไหม ?”
สือมูเฉินไม่ตอบ แต่เปิดเอกสารฉบับแรกและส่งให้หลานเสี่ยวถาง
เมื่อหลานเสี่ยวถางเห็นเนื้อหาอย่างชัดเจน เขาก็อดแปลกใจไม่ได้!
นี้เป็นบันทึกข้างต้นบนอินเทอร์เน็ตของเมื่อสามปีที่แล้ว สาเหตุคือ มีโปรแกรมแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตอย่างกะทันหัน โปรแกรมนี้สามารถถอดรหัสรหัสผ่าน WiFi ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเข้ารหัสด้วยตัวอักษรผสมกับตัวเลขก็ยังสามารถถอดรหัสได้ แต่อาจจะใช้เวลามากนิดหน่อย
ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันเป็นแค่โปรแกรมที่เหมือนแฮ็กเกอร์ แต่หลานเสี่ยวถางรู้สึกประหลาดใจที่สือมูเฉินเอาเรื่องนี้ออกมา !
คำพูดต่อไปของเขาทำให้เธอตกใจมากยิ่งขึ้น เธอได้ยินเพียงคำพูดของสือมูเฉิน ” เสี่ยวถาง หนึ่งในโปรแกรมเมอร์นี้ เป็นคุณใช่ไหม ”
“ฉัน–” หลานเสี่ยวถางรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย ” สิ่งนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเราทุกคนตั้งใจลบโปรแกรมและข้อมูลทั้งหมดแล้ว ”
“อย่างไรก็ตาม คุณมีส่วนร่วมในฐานะรุ่นน้องและสามารถทำงานร่วมกับแฮ็กเกอร์เหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นความสามารถชนิดหนึ่ง” สือมูเฉินสรุป “คุณมีพรสวรรค์ในด้านนี้”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยและเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเวลาสองปีที่เธอเสียไป “อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ติดต่อกับการเขียนโปรแกรมมาสองปีแล้ว อาจารย์บอกว่า คนหนุ่มสาวเก่งในเรื่องนี้ และถ้ายิ่งเราใช้สมองเท่าไหร่เราจะยิ่งเก่งขึ้น แต่ตอนนี้สมองฉันขึ้นสนิมแล้ว ”
“ผมจะติดต่ออาจารย์ที่เก่งที่สุดและให้คำปรึกษาแก่คุณ” สือมูเฉินกล่าว “ ผมรู้จักเพื่อนสองสามคนในพื้นที่นี้ หลังจากที่คุณเริ่มคุ้นเคยและเริ่มกลับมาใช้ทักษะเดิมได้ คุณก็จะสามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้
หลานเสี่ยวถางรู้สึกเพียงว่ามีประตูเปิดอยู่ตรงหน้าเธอแม้ว่าประตูจะยังไม่เปิดเต็มที่ แต่แสงจากด้านในก็ส่องแสงออกมา ให้กับชีวิตที่หม่นหมองของเธอ
เธอพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ ตกลง ฉันจะตั้งใจเรียน”
“ เสี่ยวถาง Times Group นั้นใหญ่มาก สือเพ่ยหลินก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักใคร หากคุณต้องการจัดการเขา ตอนนี้คุณยังทำไม่ได้ ” สือมูเฉินกล่าวว่า ” สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือทำตัวเองให้พร้อม เมื่อคุณค่อยๆ ลุกขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งแล้ว คุณจะมีวิสัยทัศน์ที่ดีขึ้น และคุณก็จะรู้วิธีสังเกตจุดอ่อนของเขา”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้าและทันใดนั้นก็มีความรู้สึกตาสว่างขึ้นมาทันที
“การล้างแค้น มีสองแบบ ” สือมูเฉินกล่าวต่อ “วิธีแรก คือการแสดงให้ศัตรูเห็นว่าเราอ่อนแอ และใช้ประโยชน์จากมันในการเอาชนะศัตรูด้วยการโจมตีครั้งเดียว”
เขาจิบชา ” แบบที่สองคือ การตัดเนื้อด้วยมีดที่ไม่คม และค่อยๆทรมาน คุณชอบแบบไหน?”
หลานเสี่ยวถางคิดอยู่ครู่หนึ่ง ” ฉันเลือกแบบที่สอง ”
สือมูเฉินเหล่ตามองแล้วพูดว่า “เกลียดเขามากขนาดนี้เลย ? รักมากเลยเกลียดมากสินะ หรือว่าตอนนี้เธอยังไม่ลืมเขา ?
“ฉันไม่ได้ลืมเขาไม่ได้ !” หลานเสี่ยวถางแก้ตัวอย่างรวดเร็วและพูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่มีอะไรกับเขาจริงๆ มีแต่ความเกลียด! ความเกลียดชังนี้ไม่ใช่เพราะฉันอาลัยอาวอนเขา แต่เพราะว่าเขาทำร้ายคุณยายของฉัน …”
เมื่อเห็นว่าหลานเสี่ยวถางอธิบายอย่างกังวล สือมูเฉินยิ้มมุมปาก และพูดว่า “โอเค คำตอบนี้ ผมให้คุณผ่าน ”
อย่างที่เขาพูด เขาหยิบเอกสารอีกฉบับออกมา ” สิ่งนี้ คุณก็ควรดูมันด้วย ”
หลานเสี่ยวถางรับมันมา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ข้อมูลเบื้องต้นบันทึกอย่างชัดเจนถึงกระแสเงินทุนที่ไม่ปรากฏชื่อของ Blue Sky Group และในช่วงเวลาเดียวกัน บันทึกของหลานไห่ฮว๋าและภรรยาของเขาเดินทางไปมาระหว่างมาเก๊าและลาสเวกัสในสหรัฐอเมริกา
“เสี่ยวถางรู้ว่า Blue Sky Group นั้นดีมาตลอด ทำไมจู่ๆ ก็ค่อยๆตกต่ำลงเรื่อยๆ” สือมูเฉินชี้ไปที่ตัวเลขด้านบนแล้วพูดว่า “เงินก้อนโตเหล่านี้ในที่สุดก็ไหลเข้ากาสิโนและพวกเขาแพ้” พวกเขาเสียพนัน”
หลานเสี่ยวถางมองเห็น อันล่าสุดคือเมื่อสองเดือนที่แล้ว !
“ตอนที่คุณแต่งงานกับสือเพ่ยหลิน คุณได้เห็นสินสอดไหม? ไม่ได้เข้าร่วมโครงการประมูล พวกเขาเอาไปหมดในเวลาเพียงแค่คืนเดียว ” สือมูเฉินพูดเน้น “ เสี่ยวถาง ถึงแม้ถ้าTimes Group ไม่เข้าร่วมการประมูล ไม่ช้าก็เร็วที่Blue Sky Group จะต้องล้มละลายอยู่ดี คุณคิดว่าต่างกันตรงไหน ?
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ควร…” หลานเสี่ยวถังรู้สึกหมดหนทาง แต่เมื่อเธอนึกถึงหลานอวี้เจินที่กำลังป่วย เธอก็รู้สึกเป็นทุกข์ใจอีกครั้ง
“เว้นแต่ว่าพวกเขาหยุดเล่นการพนัน ไม่อย่างนั้น ใครก็ช่วยพวกเขาไม่ได้ ” สือมูเฉินกล่าว “คุณรู้สึกเสียใจและผิดต่อคุณยายหลาน คุณสามารถไปดูแลเธอได้บ่อยๆ และดูแลเขาได้บ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องกตัญญูโดยขายตัวเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่รับปากไว้ว่าจะหาวิธีช่วย ครั้งนี้จะให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ”
“ฉันเข้าใจ” หลานเสี่ยวถางพยักหน้า
หลานเสี่ยวถางหยิบบัตรเครดิตขึ้นมาใบหนึ่ง ” เสี่ยวถาง รหัสผ่านคือวันแต่งงานของเรา”
“ฉันรับไว้ไม่ได้…” หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกัน แต่ตัวเองก็ใช้ทุกอย่างของสือมูเฉิน แค่นี้ก็รู้สึกละอายใจมากละ จะเอาหน้าที่ไหนไปกล้าใช้เงินเขาอีก ?
“คุณไปหาคุณยายหลานทุกวัน ยังไงก็ต้องซื้อของฝากไปให้ไม่ใช่เหรอ ? ” ฉือสือเฉินกล่าว “ถ้าคุณซื้อของถูก เธออาจคิดว่าคุณถูกที่บ้านตระกูลสือรังแก แบบนี้จะยิ่งเป็นการทำให้เธอกังวล ?
เขามีน้ำใจต่อเธอมาก! แววตาของหลานเสี่ยวถางเต็มไปด้วยดวงดาววิบวับ และเธอแสดงความรู้สึกออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“อย่ามองผมด้วยสายตาที่ลึกซึ้งแบบนี้ ” สือมูเฉินโน้มตัวเข้าไปใกล้หลานเสี่ยวถางแล้วกระซิบข้างหูของเธอ “มิฉะนั้น ผมจะรู้สึกว่าคุณรักผม”
เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินสิ่งที่เขาพูด หัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะ
รัก?
เธอเจ็บช้ำมาแสนนาน หัวใจของเธอเป็นรูพรุนหมดแล้ว ยังจะรักใครได้อีก ?
แม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อเธออย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเธอจะลืมวิธีที่จะเชื่อใจใครสักคนอย่างสุดใจ
สักครู่ หลานเสี่ยวถางสูญเสียความเป็นตัวเองเล็กน้อย
เมื่อสือมูเฉินเห็นการแสดงออกของเธอ หัวใจของเขาก็กระชุ่มกระชวย เขาขัดจังหวะความคิดของเธอและพูดว่า ” เสี่ยวถาง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เริ่มเรียนการเขียนโปรแกรมในตอนเช้าและใบขับขี่ในตอนบ่าย ผมสมัครให้คุณแล้ว สำหรับเวลากลางคืน ——” เขาลากเสียงและสิ้นสุดการพูด
“กลางคืนเรียนอะไร ” หลานเสี่ยวถางถามอย่างต้องการคำตอบ
“เรียน 72 รูปแบบ ” สือมูเฉินกล่าวอย่างจริงจัง ” มีแหล่งข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ต ผมจะปริ้นออกมาให้คุณ และเรามาศึกษาด้วยกัน
หน้าของหลานเสี่ยวถางเริ่มร้อน และหูของเธอเริ่มแดง
เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฉันจะไปอาบน้ำ”
“โอเค” สือมูเฉินตอบกลับ “แต่ผมยังมีงานบางอย่างที่ต้องทำ ผมจะใช้เวลาจัดการถึงสี่ทุ่มครึ่ง คุณนอนรอผมไปก่อน ”
หลานเสี่ยวถางไม่กล้าตอบกลับเลยเพราะกลัวว่ามีกับดักอยู่ข้างหลังเธอและรีบเดินหนีไป
ในตอนกลางคืน เธอนอนลงหลังจากอาบน้ำเสร็จ ในสองนึกถึงฉากเมื่อคืนนี้
เธอรู้กลัวจนเนื้อตัวกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง
เธอเหลือบดูเวลา สี่ทุ่มครึ่ง
ทันใดนั้นความคิดก็แวบเข้ามาในจิตใจของหลานเสี่ยวถาง เมื่อวานที่มูเฉินกลับมาดึกเป็นเพราะเขาหึงและโกรธจริงๆ หรือเป็นเพราะเขาทำงานเลิกดึกแบบนี้เป็นประจำ ?
เขาไม่มีตำแหน่งใน Times Group ไม่ใช่หรือ หรือว่าเขามีงานอย่างอื่นที่ทำอยู่ ?
จำไว้ว่า Times Group มักจะเน้นไปที่ธุรกิจในประเทศ และฝ่ายต่างประเทศก็ร่วมมือกับประเทศที่พูดภาษาอังกฤษมากขึ้น และหน้าจอของสือมูเฉินในตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษ!
หรือว่าเขาอะไรปิดบังอยู่อีก ?
ขณะที่คิดไปเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้สือมูเฉินก็เปิดประตูเดินเข้ามา
หลานเสี่ยวถางรีบแสร้งทำเป็นหลับ แต่ถูกสือมูเฉินจับได้ก่อน “รอผมอยู่เหรอ?”
เธอต้องลืมตาขึ้น แต่พบว่าสือมูเฉินออกไปแล้วเหลือแต่ความว่างเปล่า เธอหันหลังกลับแล้วแทบผงะ “คุณเป็นอะไร —”
“ในบ้านไม่มีคนอื่น ผมจะไปอาบน้ำยังต้องใส่เสื้อผ้าไปไหม ?” สือมูเฉินพูดพร้อมเอนตัวลงและพูดว่า “วันนี้คุณจะไม่เจ็บปวดอีกแล้ว เดี๋ยวเรามาศึกษาพร้อมกัน ……สิบแปดรูปแบบทั้งหมด ”