ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 252 ยอมเสียเปรียบเสียหน่อย แล้วแต่งงานกับเขาดีไหม
ร่างทั้งร่างของเธอสั่นเทา ริมฝีปากนั้นสั่นอย่างรุนแรงยิ่งกว่า ส่งเสียงออกมาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เป็นเธอที่เป็นฝ่ายมาหาเขาก่อน ในช่วงเวลากลางดึกมาก แถมยังสวมใส่ชุดนอนอยู่อีกด้วย
แต่ทว่า เขาจูบเธอกอดเธอ เธอกลับไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านอะไรกลับเลยจริง ๆ
ถ้าหากว่าจะบอกว่ามี ถ้าอย่างนั้นก็คงจะมีเพียงแค่เธอที่เอ่ยปากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แล้วบอกกับเขาว่าไม่ต้องทำต่อแล้ว
แต่ทว่า ในการเคลื่อนไหว เธอนั่นแทบจะเชื่องไปโดยปริยายเลย เป็นเพราะว่าเธอนั้นไม่มีแรงที่จะยกขึ้นมาเลยแม้แต่ครึ่งเดียว
หยาดน้ำตาหนึ่งหยดไหลรินออกมาจากดวงตา มันไหลออกมาเป็นประกายแวววาวที่แก้มใสของซูสือจิ่น ก่อนจะตกลงไปบนเตียงกว้างที่เมื่อคืนวานนั้นผ่านความเร่าร้อนมา และหายไปจนมองไม่เห็นแล้ว
“ฮะ ๆ” จู่ ๆ หยานชิงเจ๋อก็พุ่งหมัดเข้ามา บรรยากาศรอบกายแปรเปลี่ยนไปในทันที ทันใดนั้นเอง ภายในห้องนอนราวกับมีฝนระห่ำที่ยากจะพบเจอในรอบร้อยปีตกลงมาอย่างรุนแรง
หมัดของเขาพุ่งตรงไปทางซูสือจิ่นอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าในตอนที่เธอกลับปิดเปลือกตาลงแล้วเตรียมพร้อมที่จะรับมันนั้นเอง มันก็พุ่งผ่านกกหูของเธอไปเสียแล้ว แล้วไปกระทบเข้ากับหัวเตียงทางด้านหลังของเธอเข้าอย่างจัง
เสียงดังสนั่นดังขึ้น ซูสือจิ่นรู้สึกได้ถึงเตียงทั้งหลังที่สั่นไหวในทันที
อีกทั้งที่ข้างใบหูของเธอ ก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย มีเพียงเสียงลมจากหมัดของเขาที่พุ่งเข้ามาเมื่อครู่นี้เท่านั้น ราวกับว่าเป็นหน้าผาที่สูงชันหมื่นลี้ ที่มีลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาหาอย่างบ้าคลั่ง
หยานชิงเจ๋อก็ไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาอีกเลยแม้แต่ประโยคเดียว เขาลุกขึ้นยืน ในตอนที่สายตากวางมองไปยังเตียงกว้างนั้นเอง ประกายที่หางตาก็มองเห็นดวงตาที่แดงเรื่อและทิ่มแทง
นัยน์ตาสีดำขลับของเขาที่ไม่อาจอ่านได้นั้นหดตัวลง หลังจากนั้น เมื่อจัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็หมุนตัวแล้วจากไป
ภายในตัวห้อง เงียบสงบลงขึ้นมาจริง ๆ ซูสือจิ่นถึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
เธอหวนนึกถึงเสียงดังสนั่นของหยานชิงเจ๋อที่เขาทำเมื่อหัวเตียงเมื่อครู่นี้ อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง
ที่แท้แล้ว ที่หัวเตียงกลับมีรอยเลือดเพิ่มขึ้นมารอยหนึ่งเสียแล้ว
มือของเขาเป็นเพราะว่าออกแรงมากเกินไป ดังนั้นจึงได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว
เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ทว่า กลับเพิ่มความน่ากลัวมากกว่าการด่าทอกันเสียอีก
ที่แท้แล้วการที่ได้ใกล้ชิดกับเธอ เป็นเรื่องที่เขายากที่จะรับได้!
หลังจากที่ตื่นจากความฝันแล้ว เรื่องราวของความงดงามและสัมพันธ์อันเร่าร้อนทั้งหมดถูกฉีกขาดออกจากกันอย่างรุนแรงในทันที ส่วนที่หลงเหลืออยู่ในตอนนี้ มีเพียงแค่ความมืดมิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเท่านั้น
ซูสือจิ่นไม่รู้เลยว่าตอนเองลุกขึ้นมาได้อย่างไร
เธอเช็ดหยาดน้ำตาไปพลาง ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าจากบนพื้นไปพลาง
ในตอนที่สวมใส่เสื้อผ้าอยู่นั้นเอง เธอจึงได้เห็นร่องรอยต่าง ๆ ที่มีอยู่เต็มไปหมดบนเรือนร่างของตนเอง มองเห็นหลักฐานของความเร่าร้อนของเมื่อคืนวานในตอนนี้อย่างเยือกเย็น
เธอสวมใส่เสื้อผ้าปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด นั่งลงบนเตียง หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังเข้ามา
น้ำเสียงอบอุ่นของคุณแม่หยานดังขึ้นมาว่า “เสี่ยวจิ่น ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยหรือยังจ๊ะ? ฉันเข้าไปแล้วนะ……”
คุณแม่หยานเห็นว่าซูสือจิ่นไม่ได้ส่งเสียงตอบกลับมา ดังนั้นแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ฉันเข้าไปแล้วนะจ๊ะ” หลังจากนั้น ก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว
เธอเดินเข้ามา เห็นซูสือจิ่นนั่งอยู่บนเตียงกว้าง ร่างทั้งร่างราวกับว่าเป็นวิญญาณที่หลั่งน้ำตาเลย บนเตียงกว้าง ยังมีร่องรอยของเลือดอยู่วงหนึ่งด้วย
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วเธอจึงนั่งเข้าที่ทางด้านข้างของซูสือจิ่น ก่อนจะยื่นมือออกไปคว้าเธอเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะเอ่ยอย่างรักใคร่ว่า “เสี่ยวจิ่นจ๊ะ เป็นชิงเจ๋อที่ผิดเอง เป็นเขาที่ไม่ดี เธอไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะออกหน้าแทนเธอเองจ้ะ!”
ซูสือจิ่นได้ยินคำปลอบโยนของคุณแม่หยาน หัวใจก็ยิ่งเพิ่มความขมขื่นซับซ้อนขึ้นมาทันที อีกทั้งยังร้องไห้หนักกว่าเดิมไปเสียแล้ว
คุณแม่หยานคิดว่าเธอยังคิดไม่ได้ ดังนั้นแล้วจึงปลอบประโลมขึ้นอีกครั้งว่า “เสี่ยวจิ่น ฉันรู้นะว่าเธอคิดว่าชิงเจ๋อเป็นพี่ชายมาโดยตลอด แต่ทว่า ตอนนี้พวกเธอไม่สามารถที่จะเป็นพี่น้องกันต่อไปได้แล้ว อันที่จริงแล้วฉันหวังมาตลอดเลยว่าอยากที่จะให้เธอมาเป็นลูกสาวของฉันจริง ๆ เลยนะ ตอนนี้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมาแล้ว เธอก็ฝืนใจเสียหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ แล้วก็แต่งงานกับชิงเจ๋อดีไหม?”
หัวใจของซูสือจิ่นสั่นไหวในทันที ก่อนจะสบตามองคุณแม่หยานอย่างตกตะลึง
คุณแม่หยานเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า “ตอนนี้ พ่อของเขากำลังสั่งสอนเขาอยู่ในห้องหนังสือจ้ะ เธอวางใจเถอะนะ พวกเราจะไม่ให้เธอเสียเปรียบแน่นอน! หลังจากนี้ ฉันกับคุณลุงของเธอก็คือพ่อแม่แท้ ๆ ของเธอแล้วนะจ๊ะ พวกเราจะรักเธอมากกว่าเดิมแน่นอน!”
“คุณป้าคะ——” ซูสือจิ่นรู้สึกเพียงแค่ว่าภายใต้หัวใจรู้สึกทุกข์ทรมาน เป็นเพราะว่าคำพูดของคุณแม่หยาน สุดท้ายแล้วก็หาทางออกได้แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะสวมกอดคุณแม่หยาน ก่อนจะส่งเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ
อีกทั้งหยานชิงเจ๋อเอง หลังจากที่สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วต่อสายโทรหาเจียงซีหยู่ไปแล้ว
สายพึ่งจะโทรติดไปเมื่อครู่นี้เอง ก็ถูกเจียงซีหยู่ตัดสายไปเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจึงเดินไปพลาง ก่อนจะต่อสายโทรหาต่อไปพลางด้วย
เพียงแต่ ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นมาจากปลายสายว่า ‘กำลังโทร’ เท่านั้น
สีหน้าของเขาแข็งค้างในทันที เธอบล็อกเขาไปเสียแล้ว!
เป็นในตอนที่หยานชิงเจ๋อกำลังที่จะเปลี่ยนรองเท้าเพื่อออกไปหาคนนั้นเอง ก็มีเสียงตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมาจากทางด้านหลังแล้ว!
“หยานชิงเจ๋อ!” คุณพ่อหยานสาวเท้ายาว ๆ ก้าวเข้ามาหาจากทางด้านหลัง “แกจะไปไหน?!”
“ผมจะไปหาซีหยู่ ผมจะไปอธิบายให้เธอฟัง!” หยานชิงเจ๋อเอ่ย
คุณพ่อหยานบันดาลโทสะจนไม่ไหวแล้ว ก่อนจะชี้ไปที่ทางประตู “แกทำเรื่องแบบนี้แล้ว ยังไม่ไปอธิบายกับเสี่ยวจิ่นและลุงซู อีกทั้งยังจะออกไปหาผู้หญิง?! ถ้าหากว่าวันนี้แกกล้าที่จะก้าวขาออกจากประตูไปแม้แต่ครึ่งก้าวด้วยแล้วละก็ ฉันก็จะไม่มีลูกชายอย่างแกอีกต่อไปแล้ว!”
ร่างทั้งร่างของหยานชิงเจ๋อสั่นไหวในทันที ทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง “ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผมพาเธอมา พวกพ่อก็พุ่งเป้าไปที่เธอแล้ว! เธอทำผิดอะไรหรือครับ? วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอนั่นแหละถึงเป็นผู้ที่โดนทำร้ายมากที่สุดแล้ว ผมจะไปตามเธอกลับมาทำไมถึงจะไม่ถูกต้องละครับ?!”
“เยี่ยมมาก!” สีหน้าของคุณพ่อหยานเยือกเย็นขึ้นในทันที “ถ้าแกออกไปตามเธอตอนนี้ ฉันก็จะป่าวประกาศออกไปข้างนอกทันที ว่าตระกูลหยานไม่เคยมีลูกชายอย่างแก!”
ร่างทั้งร่างของหยานชิงเจ๋อแข็งค้างในทันที สีหน้าเคร่งขรึมและเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย “พ่อครับ ทำไมพวกพ่อต้องบีบผมแบบนี้ด้วย?!”
“ตามฉันมาที่ห้องหนังสือ!” คุณพ่อหยานเอ่ยขึ้น ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินเข้าไปด้านในแล้ว
สุดท้ายแล้วหยานชิงเจ๋อก็หันไปมองด้านนอกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็กำหมัดเข้าหากันแน่น
เป็นเพราะว่าเมื่อครู่นี้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ในตอนนี้ก็บีบเกร็งอย่างแรงอีก ดังนั้นแล้วจึงมีหยาดเลือดไหลออกมาจากหมัดของเขา แล้วไหลย้อยลงมาตามมือซีดขาวของเขาเป็นทางยาว ไม่นาน บนพื้นก็เต็มไปด้วยหยาดเลือดกองใหญ่แล้ว ดูแล้วคงจะเจ็บน่าดู
แต่ทว่า ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงหมุนตัวกลับไป แล้วก้าวเท้าตามบิดาเข้าไป มุ่งหน้าสู่ห้องหนังสือไปแล้ว
อีกทั้งในตอนนั้นเอง ที่สวนดอกไม้ด้านนอก เจียงซีหยู่มองเข้าไปในกระจกหน้าต่างของห้องรับแขก เห็นฉากนี้ทั้งหมดแล้ว สีหน้าบนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นทะมึนขึ้นมาทันที
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลือกที่จะละทิ้งเธอไปเสียแล้ว
เธอในหัวใจของเขา ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่คุ้มค่าเลยที่จะให้เขาต่อสู้เพื่อทำอะไรให้กับเธอสินะ!
เธอหมุนตัวกลับไป ก่อนจะสาวเท้ายาวก้าวออกไปจากสวนดอกไม้
หยานชิงเจ๋อมาถึงที่ห้องหนังสือแล้วก็เห็นว่าซูเผิงฮวาก็อยู่ด้วย เขาหันไปเอ่ยทักทายซูเผิงฮวาครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น ก็หมุนตัวหันไปหาบิดาของตนเอง
“คุกเข่าลง!” คุณพ่อหยานคำรามลั่น ในมือไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่มีแส้เพิ่มขึ้นมาหนึ่งเส้นเสียแล้ว
ซูเผิงฮวาเห็นว่าคุณพ่อหยานบันดาลโทสะขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะยืนพูดปลอบอยู่ทางด้านข้างว่า “เว่ยคุน อย่าโกรธไปเลยนะ ผมคิดว่าชิงเจ๋อเขาก็คงจะต้องอธิบายอะไรสักอย่างแน่ ๆ”
“เผิงฮวา เรื่องนี้คุณอย่างพึ่งเข้ามายุ่งก่อนเถอะครับ” คุณพ่อหยานหยานเว่ยคุนพูดไป ก่อนจะดันให้ซูเผิงฮวาไปที่หน้าประตู แล้วเอ่ยว่า “พวกเราจะต้องหาคำอธิบายให้กับเสี่ยวจิ่นแน่ ๆ แต่ทว่า เมื่อครู่นี้ท่าทางของชิงเจ๋อ ผมจำเป็นที่จะต้องลงโทษเขา!”
พูดไป เขาก็ปิดประตูลง หลังจากนั้น ก็เดินกลับมา
หยานชิงเจ๋อคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของหยานเว่ยคุน
ในมือของหยานเว่ยคุนกำแซ่เอาไว้แน่น ไม่มีสัญญาณอื่นใดเลย ก่อนจะยกแส้ขึ้นมา หลังจากนั้นก็ฟาดลงไปเสียแล้ว เสียงตีดังเพี๊ยะนั้นดังขึ้นที่แผ่นหลังของหยานชิงเจ๋อ
ร่างทั้งร่างของเขาสั่นเทาในทันที ที่หน้าผากมีหยาดเหงื่อไหลออกมา แต่ทว่า กลับไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาเลย
“แส้เมื่อครู่นี้ ลงโทษทีแกไม่รู้จักว่าอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ!” หยานเว่ยคุนเอ่ย “เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น สิ่งที่แกต้องทำเป็นอันดับแรก นั่นก็คือการปลอบขวัญคุณลุงซูของแก! ตระกูลหยานกับตระกูลซูมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาหลายปีมากขนาดนี้ แกกับเสี่ยวจิ่นก็เติบโตมาด้วยกัน เทียบกับผู้หญิงข้างนอกคนนั้นแล้ว สุดท้ายแล้วใครสำคัญมากที่สุด แกไม่รู้หรือไง?!”
หยานชิงเจ๋อเอ่ยปากขึ้นมาว่า “ไม่ใช่ผู้หญิงอะไรด้านนอกนะครับ เธอเป็นแฟนสาวของผม ในอนาคตก็จะมาเป็นภรรยาของผม!”
“ภรรยา?!” หยานเว่ยคุนเอ่ย “คิดก็อย่าได้แม้แต่จะคิดเลย! แกกับเสี่ยวจิ่นเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว ความบริสุทธิ์ของเธอก็ไม่มีแล้ว แกจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบเธอ!”
“พ่อให้ผมแต่งงานกับเธอหรือครับ?!” หยานชิงเจ๋อเงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึงและโทสะ “ผมจะแต่งงานกับเธอได้อย่างไรกันครับ?!”
“เธอที่เป็นผู้หญิงเกิดเรื่องแบบนี้กับแกแล้ว เธอยังกล้าพูดที่จะไม่แต่งอีกหรือ?!” หยานเว่ยคุนบันดาลโทสะจนสั่นสะท้าน “แกในหลายปีมานี้ ไปอยู่เมืองนอกเรียนอะไรมาได้กันนะ แม้กระทั่งของที่เดิมเป็นของบรรพบุรุษก็ลืมเลือนไปหมดแล้ว?!”
“พ่อครับ เสี่ยวจิ่นเป็นน้องสาวของผม ผมจะไม่แต่งงานกับเธอครับ” หยานชิงเจ๋อเอ่ยขึ้นมาในทันทีอย่างสงบ “ชั่วชีวิตนี้ ผมไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับเธอ!”
“ดังนั้นแล้ว แกก็คือยอมที่จะให้ฉันตีจนตาย แต่ไม่ยอมแต่งงานสินะ?!” หยานเว่ยคุนบันดาลโทสะจนสั่นเทา “ดีมาก ฉันจะดูสิ ว่าแกจะหัวแข็งไปจนถึงเมื่อไหร่?! ฉันต่อต้านความคิดที่แกจะไปเรียนที่เมืองนอกมาโดยตลอด แต่แกก็ยังที่จะไป ตอนนี้ แม้กระทั่งความรับผิดชอบพื้นฐานและหน้าที่ของลูกผู้ชายแกก็ไม่มีแล้ว!”
พูดไป เขาก็ง้างแส้ขึ้นมา ก่อนจะฟาดลงไปที่หยานชิงเจ๋อติดต่อกันสองครั้ง
เป็นเพราะว่าสวมใส่ชุดอยู่บ้าน ไม่ได้หนาอะไรมาก ดังนั้นแล้ว ที่แผ่นหลังของหยานชิงเจ๋อ ไม่นานนักก็มีรอยเลือดปรากฏขึ้นมามากกว่าสามรอยแล้ว
เขารู้สึกเพียงแค่ว่าที่แผ่นหลังของเขารู้สึกแสบร้อนเป็นระยะ ๆ แต่ทว่า เขายังคงกัดฟันแน่น ไม่ได้ส่งเสียงความเจ็บปวดใด ๆ ออกมาเลย
หยานเว่ยคุนเห็นว่าหยานชิงเจ๋อกำลังท้าทายตนเองอยู่ ทันใดนั้นโทสะของเขาก็ปะทุขึ้นมาในทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว จึงง้างแส้แล้วฟาดลงมาอีกครั้ง!
ภายในห้องนอนของหยานชิงเจ๋อเอง ซูสือจิ่นร้องห่มร้องไห้อยู่ครู่หนึ่งแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจึงเงยศีรษะขึ้นมาจากอ้อมกอดของคุณแม่หยาน เธอเช็ดน้ำตา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่สบายใจว่า “คุณป้าคะ ขอโทษนะคะ ฉันร้องไห้จนทำให้เสื้อผ้าของคุณป้าสกปรกเสียแล้ว”
“แม่เด็กโง่ พูดอะไรเนี่ย?” คุณแม่หยานยื่นแม่ออกไปลูบเส้นผมของซูสือจิ่น “เสี่ยวจิ่น อย่างเศร้าใจไปเลยนะ ถึงแม้ว่าชิงเจ๋อจะไม่ได้โรแมนติก แต่ทว่าจิตใจของเขาดีนะจ๊ะ รอให้เขาคิดให้ออกก่อน หลังจากนี้พวกเธอก็ใช้ชีวิตกันดี ๆ เพียงแค่เอาเปรียบเธอเสียแล้วละนะ ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเธอกับลั่วฝานหวาของตระกูลลั่วคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีมากต่อกันเลยนี่นา ถือว่าเป็นชิงเจ๋อที่ชิงสุกก่อนห่ามเสียแล้ว หลังจากนี้ฉันจะให้เขาชดเชยแก่เธออย่างดีเลยนะจ๊ะ……”
หัวใจของซูสือจิ่นมีความรู้สึกผิดที่อยู่ภายในหัวใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอเป็นที่แยกหยานชิงเจ๋อออกจากเจียงซีหยู่ เธอแทบจะเป็นคนที่เลวที่สุดในโลกของทั้งสามคน
แต่ทว่า พวกเขากลับยังมาปลอบประโลมเธอ ทำให้หัวใจของเธอโทษตนเองอย่างทุกข์ทรมานและซับซ้อนมากกว่าเดิม
เธอคิดอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ตอนนี้พี่ชิงเจ๋อ……”
“อยู่ที่ห้องหนังสือของพ่อเขาจ้ะ” สีหน้าของคุณแม่หยานเข้มขึ้นในทันที “เจ้าเด็กคนนี้ สมควรที่จะโดนสั่งสอนสักหน่อยแล้วละนะ!”
แต่ทว่าในตอนนั้นเอง ซูเผิงฮวาเดินเข้ามา น้ำเสียงร้อนรนเล็กน้อย “ผมดูท่าแล้วว่าเว่ยคุนโกรธจนขึ้นหัวขึ้นมาแล้วล่ะ คงจะไม่ได้ทำอะไรชิงเจ๋อใช่ไหม? พวกเราไปพูดปลอบเขาหน่อยดีไหมนะ?”
ทันใดนั้นเองซูสือจิ่นก็หวนนึกถึงอะไรขึ้นมาได้ในทันที มีครั้งหนึ่งที่หยานชิงเจ๋อทำผิด ภาพที่ถูกหยานเว่ยคุนตีด้วยแส้ก็ลอยขึ้นมาในทันที
หัวใจของเธอบีบตัวกันในทันที ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างกุลีกุจอ “คุณลุงจะตีพี่ชิงเจ๋อเข้าหรือเปล่าคะ? พวกเราไปดูกันเร็วค่ะ!”
เมื่อเอ่ยมาขนาดนี้แล้ว คุณแม่หยานก็เริ่มกังวลใจขึ้นมาแล้ว ในเมื่อก็เป็นบุตรชายแท้ ๆ ของตนเอง เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เธอก็ลุกขึ้นยืนตามแล้วเอ่ยว่า “ไปจ้ะ พวกเราไปดูกันหน่อยเถอะ!”
ประตูห้องหนังสือถูกเล็กเอาไว้แล้ว แต่ทว่า ทุกคนที่อยู่ที่ประตูก็ได้ยินเสียงแส้ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน ซูสือจิ่นได้ยินเพียงแค่เสียงหัวใจที่เจ็บปวด เธอเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนว่า “คุณป้าคะ กุญแจละคะ? พี่ชิงเจ๋อจะโดนตีจนน่วมแล้วหรือเปล่าคะ พวกเรารีบไปช่วยเขากันเถอะค่ะ!”