ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 301 เรียกรวมตัวระดับโลก เพื่อกล่อมภรรยาให้มีความสุข
หยานชิงเจ๋อฟังคำพูดของชายชรา แล้วอึ้งไปครู่หนึ่ง
ด้านนอกเกล็ดหิมะยังคงโบยบินอยู่
จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ เช้าตรู่วันนั้น ซูสือจิ่นหมอบอยู่ที่หน้าต่าง สีหน้าที่ได้เห็นหิมะที่ตกลงมากะทันหัน
ตอนนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างอึดอัด แต่ว่า บางทีอาจเป็นเพราะเห็นหิมะตก เธอคงลืมไปชั่วขณะ จึงพูดกับเขาด้วยความประหลาดใจ ตอนนั้น ดวงตาของเธอเป็นประกาย
ไม่ผิด ถึงแม้เขาอยากจะย้อนกลับเหมือนเมื่อก่อน แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลับเลยเถิดไปแล้ว
เขาไม่มีความสามารถในการฝ่าฝืนฟ้าดิน ให้เวลาย้อนกลับ ให้เรื่องของพวกเขาในคืนนั้นเหมือนกับยางลบ ลบร่องรอยออกไปให้หมด
ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางกลับไปเหมือนเมื่อก่อน
งั้นเขา ก็สามารถลองที่จะยอมรับกับตอนนี้ได้ใช่ไหม?
ความคิดนี้ผุดขึ้น หยานชิงเจ๋อรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ไหลออกมาจากอก ทำให้เขาเสียระเบียบนิดหน่อย
พูดตามความจริง เขาไม่รู้ว่าจะเข้ากับเธอในฐานะสามีภรรยาได้ยังไง
นอนด้วยกันทุกวัน อนาคตก็ยังมีลูกของพวกเขา…เขาครุ่นคิดดูก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง
แต่ว่า เขามั่นใจว่า เขาจะไม่มีทางเป็นฝ่ายพูดเรื่องหย่ากับเธออีก
ถึงแม้คืนนั้น เขาจะเคยถามเธอแบบนั้น แต่ว่า หลังจากตื่นมา เขาเข้าใจแล้วว่า การแต่งงานในตอนแรกที่ถึงแม้จะเป็นการบังคับของพ่อแม่ แต่เขากลับเป็นคนยินยอมเอง
ในเมื่อเป็นเรื่องที่เขายินยอม จะกลับคำไม่ได้ เขาละทิ้งความสัมพันธ์ระหว่างเจียงซีหยู่ เลือกแต่งงานกับซูสือจิ่น เช่นนั้น เขาจะต้องรับผิดชอบกับการเลือกของตัวเอง
อีกอย่าง เขาพรากครั้งแรกที่ล้ำค่าของเธอไป ถ้าหากเขาหย่ากับเธอ เธอก็ต้องกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานครั้งที่สอง จะไม่ดีต่อเธอ
“วัยรุ่น ยังคิดกระจ่าง?” ชายชราที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูด
หยานชิงเจ๋อเรียกสติกลับจากความคิดเมื่อครู่ เขาหันหน้ามาแล้วพูด “ใช้ชีวิตตามแบบที่ตัวเองอยากเป็น? คุณคิดว่าได้เหรอครับ?”
นิ้วมือของชายชราวางลงบนโต๊ะเบา ๆ จากนั้นเขาก็พลิกเปิดหน้าแรกของหนังสือนิตยสาร “บนโลกนี้มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้? หนึ่งร้อยปีก่อน อาจจะคิดได้ถึงรถไฟที่วิ่งเร็วแบบนี้ มีสมาร์ทโฟนที่เราใช้ทุกวันไหม? อนาคตคือกระบวนการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ นายไม่เคยลอง ไม่เคยพยายาม จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นไปไม่ได้?”
หยานชิงเจ๋อถลึงตาโต เขามองชายชราอยู่หลายวินาที จากนั้นก็นึกขึ้นได้
จริงด้วย บนโลกนี้ ไม่มีอะไรที่แน่นอน
เขากับเธอ ในเมื่อเป็นพี่น้องกันไม่ได้ งั้นบางทีอาจจะลองเป็นสามีภรรยากันดูก็ได้
คิดได้ถึงตรงนี้ หยานชิงเจ๋อกังวลนิดหน่อย
เขาไม่ยอมรับไม่ได้ว่า เขาขาดประสบการณ์ในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เหมือนกับที่ตื่นมาวันที่สองก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับซูสือจิ่นยังไง
ตอนนี้ รถไฟรถความเร็วลง เหมือนกับถึงสถานีแล้ว
ชายชราลุกขึ้นยืน ตบบ่าหยานชิงเจ๋อเบา ๆ จากนั้นก็หยิบสัมภาระลงจากรถ
นอกหน้าต่าง หิมะล่องลอยภายใต้แสงไฟเร็วกว่าเดิม หยานชิงเจ๋อใจลอย ซูสือจิ่นตอนเด็กเล่นบ้า ๆ กับพวกเขา เพื่อทำตุ๊กตาหิมะ ปลายจมูกแดงไปหมดเพราะความหนาวเย็น
อารมณ์ของเขาค่อย ๆ คลายลงทีละนิด แล้วค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น
ตกลง งั้นเขาจะลองดูจริง ๆ ในฐานะสามีภรรยากับเธอตลอดไป
หิมะในคืนนี้ตกหนักมาก หยานชิงเจ๋อมาถึงโรงแรม ก็อาบน้ำร้อน จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า ซูสือจิ่นส่งข้อความนั่นหาเขา เขายังไม่ตอบกลับ
เขาปลดล็อกโทรศัพท์ อ่านข้อความที่ซูสือจิ่นส่งมาให้อีกครั้ง เขาลังเลอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็ตอบกลับ “อืม รอฉันกลับไป”
ขณะนี้ที่หนิงเฉิงเป็นเวลาตอนเที่ยง
ซูสือจิ่นรอข้อความจากหยานชิงเจ๋ออยู่ตลอด ความคาดหวังถูกแทนที่ด้วยความผิดหวังอย่างมาก
เธอเปิดคอมพิวเตอร์ เริ่มแนวคิดที่เธอคิดมาโดยตลอด
ฉันเรียนการออกแบบ แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของตระกูลซูหรือว่าตระกูลหยาน เหมือนกับไม่เกี่ยวสาขาการเรียนของเธอ
ดังนั้น เธออยากเปิดสตูดิโอออนไลน์ของตัวเองมาตลอด แต่หลังจากที่กลับประเทศ เพราะเรื่องของหยานชิงเจ๋อ เธออารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ตลอด เรื่องเปิดสตูดิโอจึงเลื่อนแล้วเลื่อนอีก
แต่ว่า ตอนนี้พวกเขาแต่งงานแล้ว ถึงแม้ความสัมพันธ์เทียบกับคู่สามีภรรยาปกติแย่มาก ๆ แต่ว่าเขาให้เธออยู่ที่เรือนหอของพวกเขา ก็ถือว่าคืบหน้าเยอะแล้ว
พอดีกับหลายวันมานี้ร่างกายของเธอฟื้นฟูแล้ว กลางวันไม่มีอะไรทำ จึงเริ่มวางแผนใหม่อีกครั้ง
ตอนที่อยู่ต่างประเทศ ซูสือจิ่นมีเพื่อนสนิทอยู่หลายคน ทุกคนมีแนวคิดที่ดีมาก
ดังนั้น ซูสือจิ่นเปิดFacebook เริ่มพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นเรื่องการสร้างสตูดิโอ
ในตอนที่เธอกำลังยุ่งจนสายตาเหนื่อยล้า จู่ ๆ โทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้น
ตอนนี้โฆษณาค่อนข้างเยอะ ซูสือจิ่นไม่ได้สนใจอะไร จึงยุ่งต่ออยู่พักหนึ่ง
จนกระทั่งเธอเจรจาขึ้นตอนแรกกับเพื่อนเสร็จ ในตอนที่เตรียมตัวจะพักทานข้าว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้น
เห็นว่าหยานชิงเจ๋อส่งข้อความวีแชทมา ซูสือจิ่นอึ้งอยู่หลายวินาที
เธอลังเลอยู่พักใหญ่ ถึงได้กล้าเปิดอ่าน ใจเต้นแรงขึ้นมาในทันที เพราะเกรงว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่น่าพอใจ
ปรากฏว่า ในตอนที่เธอเห็นประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ นั้น ซูสือจิ่นตระหนักได้ถึงความปีติยินดี
“อืม รอฉันกลับไป”
คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับเธอ!
เมื่อปะติดปะต่อกับข้อความที่เขาส่งให้เธอก่อนหน้านี้ นี่มันเหมือนบทสนทนาที่คู่สามีภรรยาทั่วไปคุยกันไม่ใช่เหรอ?!
ซูสือจิ่นอยากจะยิ้ม แต่ว่าน้ำตากลับไหลออกมา
เธออ่านข้อความสั้น ๆ นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา จึงดึงกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดหน้าให้แห้ง แล้วสูดจมูก
ในที่สุดพวกเขาก็ไม่เหมือนกับในตอนแรกแล้วใช่ไหม?
คืนนี้หยานชิงเจ๋อนอนหลับสนิทเป็นพิเศษ ในฝัน เหมือนกับฝันเห็นซูสือจิ่นนอนอยู่ข้างกายเขา ดังนั้นในตอนเช้า ใช้เวลาอยู่นานกว่าร่างกายจะฟื้นตัว
เขาลุกขึ้นนั่ง นวดขมับ ค่อย ๆ ระงับความปรารถนาที่หลั่งไหลมาจากความฝันเมื่อคืนนี้ จากนั้นก็ลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน ลุยอยู่กับงานทั้งวัน
ในวันที่สามจากที่หยานชิงเจ๋อลงรถไฟ สือมูเฉินได้รับสายจากเขา
“ชิงเจ๋อ” สือมูเฉินพูด “เซ็นสัญญากับบริษัทซอฟต์แวร์เรียบร้อยแล้วเหรอ?”
หยานชิงเจ๋อพูด “ใช่ครับ พี่เฉิน รายละเอียดทุกอย่างจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เงินก้อนแรกก็ถึงที่เรียบร้อยแล้ว”
สือมูเฉินกำโทรศัพท์อยู่นานถึงได้ถอนหายใจ “ดังนั้น สถานะของฉัน…”
หยานชิงเจ๋อรู้ว่าเขากำลังพูดอะไร เขายิ้มมุมปาก “ในที่สุดก็ไม่ต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว”
เขานิ่งอยู่พักหนึ่ง แล้วถามสือมูเฉิน “พี่เฉิน พี่วางแผนจะบอกพี่สะใภ้ตอนไหน? ผมหมายความว่า ยิ่งเร็วยิ่งดี ดีกว่าให้คนรอบข้างรู้หมดแล้ว แต่เธอกลับเป็นคนสุดท้ายที่รู้ ไม่แน่อาจจะโกรธพี่ก็ได้”
“ชิงเจ๋อ ช่วยฉันจัดงานออกแบบซอฟต์แวร์หน่อย” สือมูเฉินพูด “ในนามของบริษัทรายย่อยของAlliance Technology ขอเชิญนักออกแบบซอฟต์แวร์จากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมงานในออดิชั่นระดับโลก ท้ายที่สุดคนที่เป็นแชมป์ ฉันจะเป็นคนมอบรางวัลให้ด้วยตัวเอง”
หยานชิงเจ๋อได้ฟัง ก็อดยิ้มไม่ได้ “พี่เฉิน พี่มั่นใจในตัวพี่สะใภ้มากเลยนะ! ถ้าหากมีม้ามืดในการแข่งขัน… ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนทั่วโลก…”
สือมูเฉินเลิกคิ้ว “ในเมื่อฉันเป็นคนจัดงาน แน่นอนว่าฉันจะต้องจัดรายการตามความถนัดของเสี่ยวถาง จะปล่อยให้ม้ามืดออกมาได้ยังไง?!”
หยานชิงเจ๋อพูด “พี่เฉิน นี่พี่ใช้อำนาจชนะใจของผู้หญิง?”
สือมูเฉินพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ทำไมจะไม่ได้? สำหรับคนอื่น ก็ถือว่าเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง ถ้าถูกเลือกแล้ว ก็สามารถเข้าทีมออกแบบของบริษัทรายย่อยของAlliance Technologyได้ทันที ถึงแม้ว่าพวกเราจะเอาฮาร์ดแวร์เป็นหลัก แต่ด้านซอฟต์แวร์ก็ต้องพัฒนาด้วยเช่นกัน ต่อไปโอกาสทางการตลาดสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงเช่นคอมพิวเตอร์ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน! ”
“ครับ” หยานชิงเจ๋อพูด “ฝ่ายDRก็ร่วมมือกับพี่สะใภ้ไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง หัวข้อในครั้งนี้ผมให้พวกเขาเป็นคนออกแบบ”
“ข้อเสนอมีเพียงอย่างเดียว” สือมูเฉินคิดถึงภาพในอีกหนึ่งเดือน เขายิ้มมุมปาก “ฉันหวังว่าใช้สถานะของฉันอีกอย่าง มอบรางวัลให้กับเธอด้วยตัวเอง”
“ครับ ไม่มีปัญหา!” หยานชิงเจ๋อถอนหายใจ “พี่เฉิน พูดตามตรง เมื่อก่อนผมคิดว่าพี่เป็นคนที่บ้างานมาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าจะมีวิธีจีบผู้หญิงจริง ๆ!”
สือมูเฉินสีหน้าภาคภูมิใจ น้ำเสียงกลับพูดออกมาอย่างจริงจัง “ชิงเจ๋อ นี่ไม่ใช่อุบาย แต่เป็นความฉลาดทางอารมณ์โดยธรรมชาติ”
หยานชิงเจ๋อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก…
เพียงแต่ เป็นเพราะจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และยังเป็นการออดิชั่นระดับโลกอีกด้วย พวกกับหลานเสี่ยวถางตั้งครรภ์อยู่ ถ้าหากถ้าหากระยะเวลาของกิจกรรมนานเกินไป เธอท้องโตแล้ว ตอนขึ้นเวทีเกรงว่าจะคงไม่ชอบที่ตัวเองไม่สวย
ถ้าหากเธอไม่ชอบที่ตัวเองไม่สวย แล้วไปบ่นกับสือมูเฉิน ถ้างั้นเขาที่เป็นเพื่อนก็ต้องถูกคิดบัญชีไปด้วย
คิดได้ถึงตรงนี้ หยานชิงเจ๋อรีบติดต่อ DR ทันที ให้ออกแบบหัวข้อก่อน จากนั้นแจ้งฝ่ายการตลาดAlliance Technologyเพื่อประชุมทันที
ตอนนี้ในโรงพยาบาลจิตเวช หมอเอาผลการตรวจวางไว้ด้านหน้าหลานเล่อซิน “ผลการตรวจดีเอ็นเอ คุณดูเอาเองเถอะ!”
หลานเล่อซินหยิบขึ้นมา แล้วฉีกผนึกด้านบนออกอย่างเร็ว เธอหยิบเอกสารด้านในซองออกมา
เธอไม่ดูคำพูดพล่ามด้านบน อดใจรอไม่ไหวที่จะข้ามไปยังหน้าผลการประเมิน
ในตอนที่เห็นตัวอักษรด้านบน สีหน้าของเธอแข็งทื่อในทันที
เธออ่านเนื้อหาทั้งสามซ้ำแล้วซ้ำอีก จากนั้นผลการตรวจก็หลุดร่วงจากมือ
ด้านบนเขียนว่า เด็กมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอ
เด็กไม่เกี่ยวข้องกับสือมูเฉินแต่อย่างใด
ส่วนชุดสุดท้าย เป็นผลของเมิ่งเฉินหยางกับเด็ก ผลปรากฏว่า พวกเขามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน
“เป็นไปไม่ได้!” หลานเล่อซินกรีดร้อง แต่ว่าไม่ว่าเธอจะปฏิเสธยังไง ในใจของเธอรู้ดี เธอจบเห่แล้ว
เธอไม่มีความหวังใด ๆ ทั้งสิ้นอีกต่อไป
เธอออกมาจากห้องด้วยความมึนงง เธอเดินอย่างสิ้นหวังในทางเดินแคบ ๆ
ในตอนนี้เอง เธอกลับเห็นเงาของคนคนหนึ่ง
หลานเล่อซินถลึงตาโต มองโจวเหวินซิ่วอย่างตกตะลึง
เห็นได้ชัดว่า โจวเหวินซิ่วก็เห็นเธอแล้ว
ทั้งสองมองตากันอยู่หลายวินาที ความเกลียดชังรุนแรงได้จุดประกายในดวงตาของโจวเหวินซิ่ว
เธอถือโอกาสที่พยาบาลที่ดูแลเธอไม่ทันได้สังเกต เดินเข้าไปหาหลานเล่อซินอย่างเร็ว
“หลานเล่อซิน นางโง่ ถ้าไม่ใช่เพราะแก พวกเราทุกคนคงไม่ต้องเป็นแบบนี้!” โจวเหวินซิ่วง้างมือขึ้น ตบหน้าหลานเล่อซินอย่างแรง