ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 344 เขาจะบอกเธอ ว่าเขารักเธอ!
เธอกำลังตั้งใจทำอาหารให้บิดาของตนเอง ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของซูสือจิ่นก็ดังขึ้นมา
เธอเดินไปดู ก่อนจะค้นพบว่าเป็นหยานชิงเจ๋อที่ต่อสายโทรเข้ามาหาเธอ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็รับสาย
เขาคงจะโทรเข้ามาบอกเธอสินะ ว่าเขาส่งคอมพิวเตอร์มาให้แล้วใช่ไหม? อีกทั้งก็ยังเป็นเมืองเดียวกันอีกด้วย พรุ่งนี้ตอนช่วงเที่ยงก็อาจจะมาถึงแล้วก็ได้ เที่ยวบินที่เธอจองเอาไว้คือตอนช่วงค่ำ มันจะไม่เป็นการทำให้ทุกอย่างล่าช้าหรอก
“เสี่ยวจิ่น” น้ำเสียงของหยานชิงเจ๋อฟังดูแล้วมันขึ้นจมูกเล็กน้อย “เธออยู่ที่ไหน?”
“ฉันอยู่บ้านค่ะ กำลังทานข้าวกับคุณพ่ออยู่” ซูสือจิ่นเอ่ยขึ้น “พี่ส่งของมาให้แล้วใช่ไหมคะ?”
ลูกกระเดือกของหยานชิงเจ๋อขยับตัวขึ้นลงไปมาครู่หนึ่ง “ไม่ใช่”
“คะ?” ซูสือจิ่นตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นแล้วคืออะไรคะ?”
มือที่ถือโทรศัพท์ของหยานชิงเจ๋ออยู่สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย “เสี่ยวจิ่น ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอนะ”
ซูสือจิ่นช้อนสายตาขึ้นไปมองบิดาของตนเองครู่หนึ่ง
เมื่อครู่นี้ เธอได้บอกกล่าวเรื่องราวทั้งหมดให้บิดาฟังเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าบิดานั้นทั้งโกรธทั้งเป็นกังวลใจ แต่ทว่า ท้ายที่สุดแล้วก็เข้าใจเธอ ยินยอมที่จะให้เธอไปต่างประเทศ ยินยอมที่จะไม่บอกกับทุกคนว่าเธออยู่ที่ไหน
ดังนั้นแล้ว เมื่อเห็นบิดามองมา ซูสือจิ่นจังเอ่ยกับหยานชิงเจ๋อในสายว่า “ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดคุยกันแล้วล่ะมั้งคะ พี่ส่งคอมพิวเตอร์มาให้ก็พอแล้วละค่ะ อีกอย่างที่อยู่ฉันก็ส่งไปให้พี่แล้วด้วย”
“เสี่ยวจิ่น ไม่ใช่นะ” น้ำเสียงของหยานชิงเจ๋อสั่นเทาเล็กน้อย “เสี่ยวจิ่น ขอโทษ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ควรเข้าใจเธอผิดไปแบบนั้นเลย ตอนนี้ฉันรู้หมดแล้วล่ะ……”
หัวใจของซูสือจิ่นแข็งค้างในทันที ที่เขารู้หมดแล้วนั้นหมายความว่าอย่างไรกันนะ?
เพียงแต่ เดิมเธอก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่หยานชิงเจ๋อนั้นจะสามารถแฮ็กรหัสของเธอได้เลย คิดเพียงแต่ว่าเขาอาจจะไปคิดบัญชีกับลั่วฝานหวาแล้วก็ได้ อีกทั้งลั่วฝานหวาก็คงได้อธิบายเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบให้เขาฟังไปแล้ว
แต่ทว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามแต่ ทั้งหมดนั้นล้วนไม่สำคัญแล้ว
เขาไม่รักเธอ เรื่องที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเธอนั้นคิดอยากที่จะอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่งก็ตาม นั่นล้วนแล้วแต่ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปเสียแล้ว
ดังนั้นแล้ว ซูสือจิ่นจึงเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ถือสา ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันจะวางแล้วนะคะ ฉันยังไม่ได้ทานข้าวเลย”
“เสี่ยวจิ่น!” หัวใจของหยานชิงเจ๋อสั่นไหวในทันที “เธอกินข้าวเสร็จแล้วให้เวลากับฉันหน่อยจะได้ไหม? ตอนนี้ฉันจะเดินทางออกมาจากบ้านเพื่อไปหาเธอที่บ้านนะ! คอมพิวเตอร์ของเธอ ตอนนี้ฉันก็นำมาด้วยแล้ว ประเดี๋ยวจะได้ให้กับเธอเลยไง!”
ซูสือจิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยานชิงเจ๋อนั้นนำมันมาให้เธอโดยตรงเลยก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว ในเมื่อมีบางครั้งที่ขนส่งนั้นเชื่อถือไม่ค่อยจะได้มากนัก ถ้าหากว่าในระหว่างการขนส่งเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ต้นฉบับของเธอนั้นก็คงจะต้องไร้ประโยชน์ไปแล้วแน่ ๆ เลย……
ดังนั้นแล้ว เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสบตามองสายตากดดันของบิดาของตนเองแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ได้ค่ะ ประมาณยี่สิบนาทีฉันก็จะทานข้าวเสร็จแล้ว ประเดี๋ยวพี่จะถึงแล้วก็บอกฉันแล้วกันนะคะ ฉันจะไปพบพี่ที่นอกบ้านเอง”
“ได้เลย” หยานชิงเจ๋อนั้นราวกับว่ามองเห็นลำแสงในช่วยฤดูร้อนสาดส่องใส่เลยก็ไม่ปาน
หลังจากที่เขาวางสายไปแล้ว ก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสองวันมานี้ตนเองนั้นไม่ได้โกนหนวดเลย ดังนั้นแล้ว จึงกลับไปโกนหนวดในห้องน้ำให้สะอาดอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงหยิบกุญแจรถแล้วคอมพิวเตอร์ออกจากบ้านไป
ตอนที่ขับรถ เขารู้สึกว่าหัวใจของตนเองนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเต้นระรัวมากขึ้น ทั้งตื่นตระหนกทั้งตื่นเต้น ราวกับว่าไปในฐานะคนรักของอีกฝ่ายเลยก็ไม่ปาน ที่จะไปพบกันในสถานที่ที่ได้นัดแนะกันเอาไว้
ช่วงเวลาเลิกงานนั้นมันจะมีการจราจรหนาแน่นเป็นพิเศษ บนถนนเริ่มมีรถติดแล้วเล็กน้อย หัวใจของหยานชิงเจ๋อนั้นร้อนรนเป็นอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วหลังจากที่ผ่านมาครึ่งชั่วโมง เขาก็มาถึงที่หน้าประตูของซูสือจิ่นแล้ว
เขาโทรศัพท์หาเธอไปครั้งหนึ่ง เธอบอกว่าจะออกมาทันที
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาจึงลงจากรถ ก่อนจะยืนตัวตรงอยู่ที่ข้างรถ
ในตอนที่เขาเห็นเงาของเธอปรากฏเข้าสู่ในสายตานั้นเอง เขารู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจของตนเองนั้นรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นก่อน
จู่ ๆ เขาก็หวนนึกอะไรขึ้นมาได้ คำพูดนั้นก่อนหน้านี้ในไดอารี่ของเธอ
เธอบอกว่า เธอได้เจอเขา มักจะประหม่า มักจะหัวใจเต้นแรง มักจะอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไม่ออก
ตอนนี้ ในที่สุดแล้วเขาก็เข้าใจความรู้สึกของเธอแล้ว
แต่น่าแปลกตรงที่ เธอในตอนนั้น รับรู้เร็วเกินไป
แต่น่าแปลกตรงที่ เขาในตอนนี้ รับรู้ช้าเกินไป
แต่ทว่าก็ยังถือว่าโชคดี พวกเขาทั้งสองคนนั้นยังมีชีวิตที่ดีกันอยู่ เรื่องราวทั้งหมด ก็ยังถือว่ายังทันกาล
ซูสือจิ่นเดินมาถึงหน้าหยานชิงเจ๋อ ก่อนจะเอ่ยกับเขาว่า “นำคอมพิวเตอร์มาแล้วใช่ไหมคะ? ขอบคุณนะคะ”
เขาสบตามองเธอ กลัวว่าจะทำให้เธอตกใจ ดังนั้นจึงกักเก็บความอยากพุ่งเข้าไปดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดไปก่อน หลังจากนั้นจึงพยักหน้า “อืม อยู่ในรถ แต่ว่านะเสี่ยวจิ่น เธอช่วยเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม?”
ซูสือจิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ยังคงพยักหน้าหงึกหงัก “ได้ค่ะ”
ก็ในเมื่อพรุ่งนี้เธอก็จะไปแล้ว วันนี้จึงถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนจะได้พบหน้ากันก็แล้วกัน! เรื่องราวทั้งหมดก็ให้มันจบลงในคืนวันนี้เสียเลย
ที่ด้านนอกนั้นหนาวเย็นเล็กน้อย หยานชิงเจ๋อเห็นว่าซูสือจิ่นสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นนัก เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว เขาจึงถอดเสื้อโค้ตตัวนอกของตนเองออก ก่อนจะคลุมเอาไว้บนร่างของเธอ
เมื่อเธอเห็นดังนั้นแล้ว กลับรีบยกมือขึ้นมาทันที ก่อนจะถอดเสื้อออกมา “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่หนาวเลย อีกอย่างพี่ก็ใส่เพียงแค่เสื้อกันหนาวเพียงตัวเดียวด้วย……”
“ไม่เป็นไร” หยานชิงเจ๋อส่ายหน้า ดึงดันไม่ให้ซูสือจิ่นถอดมันออกมา
ซูสือจิ่นคิดไปคิดมา ในเมื่ออีกประเดี๋ยวพวกเขาก็จะแยกจากกันแล้ว ร่างกายของเขานั้นแข็งแรงเป็นอย่างมาก ลมพัดเข้าหน่อยเกรงว่าคงจะไม่เป็นหวัดหรอก
ดังนั้นแล้ว เธอจึงพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะเดินตามหยานชิงเจ๋อไปทางด้านหน้าต่อ
ที่ข้างบ้านของซูสือจิ่นเอง มีสวนสาธารณะเล็ก ๆ อยู่แห่งหนึ่ง หยานชิงเจ๋อเดินไปถึงหน้าประตูของสวนสาธารณะ เอ่ยว่า “เสี่ยวจิ่น พวกเราเข้าไปกันไหม?”
ซูสือจิ่นสบตามองเขาอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ? ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่พูดมาเลยก็พอแล้วล่ะ”
หยานชิงเจ๋อสบตามองนัยน์ตาราบเรียบของซูสือจิ่น เขารู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจนั้นถูกฉีกทึ้งอย่างสับสน อีกทั้งยังมีความหวาดกลัวอย่างหนึ่งกำลังหยุดเขาเอาไว้ด้วย
เธอ ปล่อยวางไปแล้วจริง ๆ หรือ ไม่รักเขาแล้วจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
สุดท้ายแล้วเขาก็เข้าใจความรู้สึกของคนรักกันแล้วว่ามันเจ็บปวดมากเพียงใด
อีกฝ่ายเพียงแค่พูดออกมาเพียงประโยคเดียวเท่านั้นเอง พร้อมกับสายตาคู่หนึ่งที่มองมา มันสามารถทำให้หัวใจของตนเองนั้น ราวกับว่าจมอยู่ในน้ำเลยก็ไม่ปาน
ริมฝีปากของเขาสั่นระริก กำลังเตรียมที่จะบอกเธอ ว่าเขารักเธอ
เหมือนกับเธอเลย ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก็หลงรักเธอไปเสียแล้ว
เขาไม่อยากที่จะแยกจากเธอเลย อยากที่จะเริ่มต้นกับเธอใหม่อีกครั้ง
พวกเขาจะคบหากัน แต่งงานกัน แล้วก็มีเจ้าตัวน้อยด้วยกัน พวกเขาจะจูงมือของกันและกันเอาไว้ แล้วอยู่ด้วยกันไปตลอดในชาตินี้ แล้วก็จะไม่แยกจากกันอีกครั้ง!
แต่ทว่าในตอนนั้นเอง ที่ปากทางเงียบสงบที่หนึ่ง ฉินไห่เทานั้นมาพร้อมกับพวกอีกหลานคนที่ถือกระบองมาด้วย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “เห็นนั่นไหม? ผู้ชายกับผู้หญิงสองคนนั้นน่ะ แกพุ่งเข้าไปสั่งสอนผู้ชายคนนั้นให้ฉัน!”
“ได้ครับ พี่เทาเอ่ยมาขนาดนี้แล้ว พวกเราจะทำภารกิจให้สำเร็จอย่างแน่นอนครับผม!” มีคนคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นแล้วจะให้สั่งสอนถึงขั้นไหนครับ?”
นัยน์ตาของฉินไห่เทานั้นเป็นประกายเหี้ยมโหดขึ้นมาทันที “ให้มันนอนติดเตียงจนลงไม่ได้ไปสามเดือนไปเลย!”
“ครับผม! ถ้าอย่างนั้นแล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะครับ”
นัยน์ตาของฉินไห่เทานั้นเจ้าเล่ห์ลามกขึ้นมาทันที เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ผู้หญิงคนนั้น พวกแกอย่าพึ่งทำอะไรก่อน รอให้ไอ้ผู้ชายคนนั้นล้มลงก่อน ฉันค่อยคิดหาวิธีจัดการกับเธอเอง!”
“ครับ พวกเราไปกัน!”
หน้าประตูของสวนสาธารณะ หยานชิงเจ๋อสบตามองหญิงสาวที่อยู่ใกล้ ๆ กัน รู้สึกเพียงแค่ว่าจู่ ๆ หัวใจก็อ่อนตัวลงไม่เชื่อฟังเสียงแล้ว
แรกเริ่ม เขาไม่เข้าใจหัวใจของตนเอง รู้สึกเพียงแค่ว่าชอบที่ได้อยู่กับเธอ
ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว เขาถึงค้นพบว่าความรู้สึกหลังจากที่ได้รู้ตื่นเช่นนี้ จู่ ๆ ก็ล้นทะลักเข้ามาราวกับไฟลามทุ่ง ให้เขามองเธอ ก็คิดจะยกยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้ว ให้เขาจับมือเธอ ก็คิดอยากที่จะประทับจูบลงบนใบหน้าของเธอแล้ว หลังจากนั้นในทุก ๆ วินาทีก็ล้วนแล้วแต่คิดอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับเธอ!
“เสี่ยวจิ่น อันที่จริงแล้ว ฉัน——”หยานชิงเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง
“ใครน่ะ?!” จู่ ๆ ซูสือจิ่นกลับโพล่งออกมาแล้ว ก่อนจะหันไปเอ่ยกับคนที่อยู่ทางด้านหลังของหยานชิงเจ๋อ
ชายคนที่เดิมคิดจะลอบโจมตีกลับค้นพบแล้วว่าถูกจับได้เสียแล้ว ก่อนจะปรากฏตัวออกมา หลังจากนั้น ไม่นานนักก็มาพร้อมกันกับคนอีกหลายคน ก่อนจะพุ่งเข้ามาล้อมรอบหยานชิงเจ๋อกับซูสือจิ่นเอาไว้
“พวกเรามาเพราะอยากจะยืมเงินพวกแกไปใช้นิดหน่อยน่ะ!” คนที่เป็นหัวโจกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา
หยานชิงเจ๋อเห็นว่าฝั่งตรงข้างมีกันอยู่สี่คน ในมือล้วนแล้วแต่มีอาวุธด้วยกันทั้งนั้น เดิมเขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย เพราะทางด้านข้างของเขาก็ยังมีซูสือจิ่นอยู่ด้วย
เขากลัวว่าพวกมันจะทำร้ายเธอ เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงเอ่ยว่า “อยากได้เงินใช่ไหม? แต่กระเป๋าตังค์ของฉันอยู่บนรถ ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกแกก็ไปกับฉันสิ แล้วจะฉันให้พวกแก ดีไหม?”
“มึงไม่อยากให้เงินก็พูดมา หาข้ออ้างอะไรอีก!” คนที่เป็นหัวโจกตะโกนขึ้นมา “พวกเราทั้งหลาย ลุยเลย! ทำให้มันพิการไปเลย!”
ซูสือจิ่นตกใจจนสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นอย่างมาก เธอรีบยืนแขนออกไปทันที “พวกนายตีเขาไม่ได้นะ!”
“เสี่ยวจิ่น รีบหนีไปเร็ว!” หยานชิงเจ๋อเห็นว่าพวกมันสามสี่คนมีท่าทีจะเอาจริงขึ้นมาแล้ว ทันใดนั้นเองหัวใจจึงบีบตัวเข้าหากันแน่น ก่อนจะดึงแขนของซูสือจิ่น หลังจากนั้นจึงเอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า “เธอวิ่งพุ่งออกไปทางพวกมัน วิ่งหนีไปแล้วก็ค่อยไปแจ้งความ อย่าให้พวกมันเห็นว่าเธอแจ้งความเป็นอันขาด!”
พูดไป หยานชิงเจ๋อผลักซูสือจิ่นออกไป ก่อนจะผลักออกไปให้ห่างจากพวกคนสามสี่คนนั้น
ซูสือจิ่นวิ่งออกไปได้สองก้าว ก่อนจะสัมผัสเข้าที่กระเป๋ากางเกง หลังจากนั้นจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อครู่นี้ที่รับสายของหยานชิงเจ๋อ ก็ถือโอกาสวางโทรศัพท์เอาไว้ทางด้านข้าง เดิมก็ไม่ได้นำติดตัวมาด้วยเลย!
ระยะห่างจากที่นี่ห่างจากบ้านเธอประมาณห้านาที ถ้าหากว่าเธอวิ่งไป ไม่รู้ว่าจะทันกาลหรือเปล่า!
เพียงแต่ ในตอนที่เธอกำลังจะออกตัววิ่งนั้นเอง จู่ ๆ เธอก็มองเห็น ที่หัวมุมไกล ๆ นั้นเอง กลับมีฉินไห่เทายืนอยู่ด้วย!
เธอเข้าใจได้ในทันที นี่มันอยากจะได้เงินอะไรกัน เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าฉินไห่เทาจะมาแก้แค้นน่ะ!
ดังนั้นแล้ว ถ้าหากว่าเธอวิ่งหนีไป ย่อมจะต้องถูกฉินไห่เทาจับเอาไว้แน่ ๆ ไม่แน่ว่า……
ร่างทั้งร่างของซูสือจิ่นเย็นยะเยือกในทันที ในตอนที่เธอหมุนตัวกลับไปนั้นเอง หยานชิงเจ๋อก็ถูกคนพวกนั้นรุมตีเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าเขากับสือมูเฉินนั้นมักจะออกกำลังกายด้วยกันก็ตาม แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้ฝึกฝนถึงขั้นต่อยตี ก่อนจะถูกคนเหล่านั้นที่มีกระบองล้อมเอาไว้ ไม่นานนักร่างทั้งร่างของเขาก็ถูกตีเข้าไปหลายจุดแล้ว
ซูสือจิ่นรู้สึกเพียงแค่ว่าในทุกวินาที หัวใจของเธอนั้นมีแต่ความเจ็บปวด เธอพุ่งเข้าไปที่หัวมุมตรงนั้นก่อนจะหันไปเอ่ยกับฉินไห่เทาว่า “ฉินไห่เทา คุณปล่อยเขาไปนะ! คุณพูดมาสิ คุณต้องการข้อตกลงอะไร?”
ฉินไห่เทาเดิมก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกเธอพบเห็นเข้า แต่ทว่าในเมื่อถูกเจอแล้ว เขาจึงเดินออกมาจากเงาดำมืด
เขาหันไปเอ่ยกับซูสือจิ่นว่า “ได้สิ พูดถึงข้อตกลงกันอีกครั้งแล้วใช่ไหม? ง่ายดี!”
พูดไป เขาก็เบนสายตาไปพิจารณาเรือนร่างของซูสือจิ่นขึ้นลงตรง ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ขอเพียงแค่คุณนอนกับผมต่อหน้าเขาสักครั้งหนึ่ง ผมก็จะรับประกันให้ได้เลยว่าครั้งนี้เขาจะไม่ถูกตีจนพิการแน่ ๆ!”
สีหน้าของซูสือจิ่นแปรเปลี่ยนในทันที ในตอนที่กำลังจะเอ่ยปากพูดอยู่นั้นเอง หยานชิงเจ๋อก็เอ่ยขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาว่า “ฉินไห่เทา ขอเพียงแค่วันนี้ฉันสามารถมีชีวิตรอดไปได้ ในอนาคต ฉันจะทำให้แกมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายแน่!”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ยังมีหน้ากล้าที่จะมาพูดกับผมอีกหรือ?!” ฉินไห่เทาเอ่ย “คุณคงไม่รู้สินะ ผมไม่กลัวอะไรมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว? ถึงแม้ว่าจะติดคุก ผมก็ไม่กลัว! ติดคุกปีสองปี ทำตัวดีก็สามารถออกมาได้แล้ว! ส่วนผู้หญิงคนนี้ของคุณ ผมจะเอาแน่!”
หยานชิงเจ๋อได้ยินแล้วทันใดนั้นเองหัวใจก็พลันระเบิดโทสะออกมาทันที เขาใช้สายตาเคียดแค้นมองไปยังฉินไห่เทา
คนในตอนช่วงเวลาแบบนี้ แต่ทว่ากลับมีเรี่ยวแรงบางอย่างที่ยากจะจินตนาการระเบิดออกมาแล้ว ดังนั้น เขาจับจ้องไปยังหมัดและกระบองที่กำลังฟาดลงมา แทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยก็ไม่ปาน ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาฉินไห่เทาตรงหน้าทันที หลังจากนั้น เขาก็ง้างหมัดขึ้นมา ก่อนจะทุ่มแรงสุดกำลังแล้วเหวี่ยงมันออกไป!