ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 362 ลูกในท้องดิ้นอีกแล้ว
ตั้งแต่วัยเด็กสิ่งที่โอหยางจวิ้นได้รับการอบรมสั่งสอนล้วนเป็นวิธีที่นำพาตระกูลเพอร์เซลล์ไปสู่ความรุ่งโรจน์ในทุกหนทาง
คำในพจนานุกรมชีวิตของเขามีเพียงสองคำเท่านั้น คือคำว่ารุ่งโรจน์และผลประโยชน์
แต่ตอนนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาสงสัยเกี่ยวกับความคิดหยั่งรากลึกของเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเพิ่งตัดสินใจที่จะร่วมมือกับAlliance Technology แล้วบอกข่าวนี้กับหลานเสี่ยวถาง
สิ่งนี้ทำให้เขาตระหนักว่าถึงแม้เขาจะเก็บหลานเสี่ยวถางไว้ที่นี่ตลอดชีวิต แต่ก็ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผลมากนัก
“สองวันนี้พักผ่อนให้เต็มที่นะ เตรียมตัวให้พร้อม!” โอหยางจวิ้นลุกขึ้นยืน “ช่วงนี้ผมจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ส่วนเหตุผลที่ผมตัดสินใจทำเรื่องนี้สือมูเฉินจะบอกคุณเอง”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไป
หลานเสี่ยวถางรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษเมื่อโอหยางจวิ้นออกไป เธอไม่ต้องกลั้นอารมณ์ใดๆ อีกต่อไป ฮัมเพลงเบาๆ พร้อมกับลูบท้องไปด้วย
“ทูนหัวของแม่ พ่อของลูกเก่งมาก เขาสามารถช่วยพวกเราได้จริงๆ!” หลานเสี่ยวถางยิ้มมุมปาก “ในหกวันพวกเราก็จะได้เจอเขาแล้ว! ให้เขาร้องเพลงให้ลูกฟังดีไหมนะ?”
ในขณะนี้ไม่แน่ใจว่าทารกในท้องของเธอเริ่มดิ้น เพราะรู้สึกถึงอารมณ์ความดีใจของเธอหรือเปล่า
ไม่มีใครอยู่ในห้องหลานเสี่ยวถางจึงเปิดกระโปรงขึ้น เธอได้เห็นทารกในท้องขยับไปมา ไม่รู้ว่าเป็นส่วนมือหรือส่วนเท้า
หลานเสี่ยวถางใช้มือกดลงไปที่ท้องเบาๆ ทันใดนั้นมันก็ขยับอีกครั้งซึ่งทำให้เธอรู้สึกสนุกเป็นพิเศษ
หลานเสี่ยวถางเล่นกับทารกในท้องอย่างสนุกสนาน
ในตอนกลางคืนเพราะเธออารมณ์ดี เธอจึงกินอาหารมื้อดึก
และแล้วก็ถึงเวลาที่เธอต้องวิดีโอคอลคุยกับสือมูเฉิน หลานเสี่ยวถางเดินมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพิ่งจะป้อนรหัสผ่านไปก็ได้รับคำเชิญให้วิดีโอคอลจากสือมูเฉิน
ทันทีที่เชื่อมต่อกันติด เธอยิ้มแล้วพูดกับใบหน้าที่คุ้นเคยและหล่อเหลาในหน้าจอ “มูเฉิน เราจะได้เจอหน้ากันในวันที่14 ใช่ไหม?”
“เขาบอกคุณแล้วเหรอ?” สือมูเฉินพยักหน้า “อืม เสี่ยวถาง พวกเราจะได้กลับมารวมตัวกันเป็นครอบครัวอีกครั้งในไม่ช้านี้”
“ฉันดีใจมากเลย!” หลานเสี่ยวถางคิดอะไรบางอย่างได้จึงยืนขึ้นแล้วลูบท้องของเธอให้สือมูเฉินดู“มูเฉิน ฉันไม่รู้ว่าลูกรับรู้ได้หรือเปล่า แต่เมื่อคืนเขาดิ้นและเตะฉันทั้งคืนเลย !”
“ลูกของเราซนจัง?” สือมูเฉินยิ้ม “ผมเดาว่าเขาได้เชื้อผมมาเต็มๆ แน่นอน ตอนที่ผมยังเด็กผมก็ซนแบบนี้แหละ ซนจนคนรู้ไปทั้งซอย”
หลานเสี่ยวถางยิ้ม “แต่คุณโตมาก็เป็นคนที่เชื่อฟังและอยู่ในทำนองคลองธรรม”
“อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพครอบครัว หลังจากนั้นผมก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้เรามาตั้งชื่อให้ลูกกันก่อน!”
หลานเสี่ยวถางได้ยินแบบนี้จึงพยักหน้า “โอเค แต่ตอนนี้ฉันไม่มีคู่มือตั้งชื่ออยู่ในมือเลยนึกไม่ออกว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร”
สือมูเฉินหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากโต๊ะ จากนั้นเขียนคำสองสามคำ เงยหน้าขึ้นแล้วพูดกับหลานเสี่ยวถาง “อันที่จริงผมเคยคิดเรื่องนี้ไปแล้วตอนที่ผมนอนไม่หลับ เสี่ยวถาง ดูสิคุณชอบชื่อนี้ไหม?”
เขากางกระดาษให้เธอดู
อักษรจีนสามคำ สือจินหว่าน
เมื่อหลานเสี่ยวถางเห็นชื่อนี้ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย “ฟังดูแล้วเหมือนสาวสวยผู้อ่อนโยน! มูเฉิน งั้นก็เอาชื่อนี้แหละ ฉันชอบ!”
“ดีเลย” สือมูเฉินพยักหน้า “แล้วชื่อเล่นล่ะ”
“งั้นชื่อเล่นเรียกว่าหวันหว่านดีไหม?” หลานเสี่ยวถางพูด
“ตกลง” สือมูเฉินพยักหน้าพร้อมกับสายตาที่จับจ้องมาที่ท้องของหลานเสี่ยวถาง ทันใดนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง“หวันหว่าน พ่อจะไปรับหนูและแม่กลับบ้านเร็วๆ นี้”
เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินคำพูดที่ทำให้เธออิ่มเอมหัวใจ หัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะ จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นได้ เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย “มูเฉิน คุณช่วยบอกฉันทีว่าอัลตร้าซาวด์นั้นแม่นยำใช่ไหม ถ้าเกิดว่าเป็นเด็กผู้ชายล่ะ มันต้องยุ่งยากแน่ๆ สิ่งของที่ฉันเตรียมไว้ให้หวันหว่านก่อนหน้านี้เป็นของเด็กผู้หญิงทั้งหมด……”
สือมูเฉินยิ้ม “มันน่าจะแม่นยำนะ แต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็ไม่เป็นไร เราไปซื้อใหม่ก็ได้ ถ้าคุณชอบผู้หญิงจริงๆ รออีกสองปีเราค่อยมีลูกกันใหม่นะ!”
“โอเคค่ะ!” หลานเสี่ยวถางยิ้ม ทันใดนั้นลูกท้องก็ดิ้นอีกครั้ง “อะ ดูสิลูกดิ้นอีกแล้ว!”
ขณะที่เธอพูดเธอได้ชี้ให้สือมูเฉินดู “มูเฉิน คุณเห็นไหม ลูกกำลังเคลื่อนไหว!”
สือมูเฉินมองผ่านหน้าจอเห็นลูกในท้องของหลานเสี่ยวถางดิ้นไปมา
ในเวลานี้จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าชีวิตมีมนต์ขลังพิเศษ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลกัน เขาก็รู้สึกได้ถึงความผูกพันทางสายเลือด
ในตอนแรกที่เขารู้ว่าหลานเสี่ยวถางกำลังตั้งครรภ์ เขาก็มีความสุขและเป็นกังวลพร้อมกัน
ในเวลานั้นพวกเขายังลังเลว่าจะเก็บหวันหว่านไว้หรือไม่
โชคดีที่ศึกษาข้อมูลเป็นจำนวนมากในขณะนั้นและติดตามผลอยู่ตลอดเวลา พบว่าการพัฒนาของหวันหว่านนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีจึงทำให้พวกเขามีภาพแบบนี้ในปัจจุบัน
ตอนนี้นึกขึ้นมาก็รู้สึกโชคดีจริงๆ โชคดีที่พวกเขาตัดสินใจแบบนี้ในตอนนั้น
ชีวิตใหม่กำลังจะกำเนิดขึ้นมา หลังจากนี้เด็กตัวน้อยผู้น่ารักในครอบครัวและชีวิตครอบครัวจะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
“เสี่ยวถาง ผมเห็นหวันหว่านแล้ว” สือมูเฉินพูดช้าลง “ผมคิดถึงพวกคุณมาก”
“ฉันก็คิดถึงคุณเหมือนกัน” หลานเสี่ยวถางลูบท้องเบาๆ “หวันหว่านเป็นเด็กดีนะ พ่อเห็นหนูแล้ว เที่ยงคืนแล้ว นอนได้แล้วนะ!”
ขณะที่เธอกำลังพูดทันใดนั้นเธอก็หยุดนิ่งไป หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอกดมือลงเก้าอี้แน่น
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลานเสี่ยวถางผิดปกติ สือมูเฉินจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “เสี่ยวถาง เกิดอะไรขึ้น?”
“ปวดท้อง……มดลูกบีบรัดตัว!” หน้าผากของหลานเสี่ยวถางเริ่มมีเหงื่อออกแล้ว เธอพูดด้วยความกังวล “มูเฉิน ฉันควรทำอย่างไรดี ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะคลอดแล้ว!”
แม้ว่าสือมูเฉินจะประสบพบเจอกับปัญหามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ภรรยาของเขากำลังจะคลอดลูก
นอกจากนี้เขายังไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอ เขาก็รู้สึกสับสนและงงงวยเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแต่ก็ตระหนักว่าการลุกขึ้นของเขาก็ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังวิดีโอกับหลานเสี่ยวถางไม่สะดวก เมื่อคิดได้เขาจึงนั่งลงอีกครั้ง
“เสี่ยวถาง ไม่ต้องกลัว พยายามตั้งสติให้มากๆ ” ในที่สุดสือมูเฉินก็กลับมามีสติอีกครั้ง“รีบตะโกนเรียกคนใช้ดังๆ ! โอหยางจวิ้นไม่ใช่ให้หมอพักอยู่ชั้นล่างเหรอ ให้คนใช้ไปเรียกหมอเร็วเข้า!”
“ตกลง!” หลานเสี่ยวถางพูดอย่างกังวล “แต่พวกเขาจะรู้ว่าฉันกำลังใช้คอมพิวเตอร์เพื่อติดต่อกับคุณ!”
“ในเวลานี้อย่าเพิ่งสนใจอะไรเลย อีกไม่นานคุณก็ต้องกลับมาอยู่เคียงข้างผมแล้ว” สือมูเฉินพูด “นั่งลงแล้วตะโกนเรียกคนใช้!”
“ตกลง!” หลานเสี่ยวถางนั่งลงบนโต๊ะแล้วตะโกนเรียกคนด้านข้างนอก “help!help”
ไม่นานคนใช้ก็ได้ยินเสียงของเธอแล้วรีบเข้ามา
เมื่อเห็นหลานเสี่ยวถางกำลังกุมท้อง คนรับใช้ก็พูดอย่างกังวล “คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรมากไหมคะ?”
“อาจจะคลอดแล้ว รีบไปเรียกหมอเร็วเข้า!” หลานเสี่ยวถางพูด
“ค่ะ!” คนใช้รีบวิ่งลงไปข้างล่าง
ในขณะนี้สือมูเฉินกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เมื่อเห็นความเจ็บปวดและความกังวลใจของหลานเสี่ยวถาง เขาก็แทบอยากจะบินมาหาเธอตอนนี้ในทันที “เสี่ยวถาง ผ่อนคลายตัวเอง อย่ากลัวทุกอย่างจะราบรื่น”
ในขณะที่ปลอบโยนเธอ เขาเองก็พยายามผ่อนคลายตัวเองให้มากที่สุดเหมือนกัน พยายามทำบรรยากาศให้ผ่อนคลาย “คุณในฐานะแม่ต้องเข้มแข็งและกล้าหาญมากๆ อีกสักพักก็จะได้เจอหน้าหวันหว่านแล้ว”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า “โอเคค่ะ”
ในขณะนี้เธอต้องการให้สือมูเฉินอยู่เคียงข้างเธอจริงๆ จับมือเธอและให้กำลังใจแก่เธอ
“เสี่ยวถาง ผมเคยได้ยินมาว่าการคลอดลูกมันเจ็บปวดมาก แต่ผมก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้” สือมูเฉินพูด “อีกสักพักก็จะเข้าห้องคลอดแล้ว คุณต้องเข้มแข็งไว้นะ เพราะผมและลูกกำลังรอคุณอยู่” .”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า
ในเวลานี้หมอมาถึงแล้ว เมื่อเห็นอาการของหลานเสี่ยวถาง เขาก็พูดทันทีว่า “สัญญาเตือนล่วงหน้า เตรียมตัวแล้วเข้าไปที่ห้องคลอด!”
สาวใช้ทั้งสองคนรีบพยุงหลานเสี่ยวถางเดินออกไป
ในเวลานี้มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา โอหยางจวิ้นรีบมาทั้งที่ยังใส่ชุดนอน
เขารีบถามหมอ “ถางถาง จะคลอดแล้วเหรอ?”
“ใช่ค่ะ คุณผู้ชาย” หมอพยักหน้า “คุณผู้หญิงมดลูกบีบรัดตัว เร็วกว่าที่คาดไว้สองสัปดาห์”
“ทารกในครรภ์จะได้รับผลกระทบไหม?” โอหยางจวิ้นถาม
หมอส่ายหัว “ไม่ค่ะ อายุครรภ์ครบ38สัปดาห์แล้ว เร็วกว่ากำหนดแค่สองสัปดาห์ ทารกในครรภ์มีพัฒนาการที่ดีจากการตรวจครรภ์ในครั้งก่อน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรผิดปกติและไม่ถือว่าเป็นการคลอดเร็วเกินไป”
ในไม่ช้าหลานเสี่ยวถางก็ถูกนำเข้าไปในห้องคลอด
เธอเสียใจที่เธอตื่นเต้นเกินไปในช่วงตอนบ่าย และเธอไม่รู้ว่าอารมณ์ของเธอส่งผลต่อหวันหว่านหรือเปล่า ถึงทำให้หวันหว่านออกมาเร็วก่อนกำหนด
ในขณะนี้การบีบรัดตัวมดลูกของเธอเริ่มรุนแรงขึ้น และความเจ็บปวดก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น
ผู้ที่ไม่เคยคลอดลูกจะไม่มีวันรู้ว่าการคลอดลูกมันเจ็บปวดแค่ไหน
เธอจับที่จับข้างเตียงทั้งสองข้างไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดที่หลังมืิอ
ในขณะที่ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์และวัดอุณหภูมิของหลานเสี่ยวถาง และเฝ้าระวังการเปิดของปากมดลูกอย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลาผ่านไปหลานเสี่ยวถางรู้สึกเพียงว่าเธอกำลังจะถูกทรมานจนตาย แต่จิตสำนึกบอกให้เธออดทนต่อไป
“หมอ ปากมดลูกเปิดกี่เซนแล้ว” เธอถามด้วยความเจ็บปวด
“แปดเซนแล้วค่ะ คุณผู้หญิง อดทนอีกสักนิดนะ อีกไม่นานก็จะเสร็จแล้ว” หมอจับหลังมือของหลานเสี่ยวถาง
ด้านนอกห้องคลอดโอหยางจวิ้นถามสาวใช้ที่เคยคลอดลูก “การคลอดลูกมันอันตรายไหม?”
คนใช้ส่ายหัว “คุณผู้ชายคะ เมื่อก่อนมันอันตรายมาก แต่ตอนนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าแล้ว คุณผู้หญิงจะไม่เป็นไรค่ะ”
“แล้วทำไมเข้าไปสองสามชั่วโมงแล้วยังไม่คลอด?” โอหยางจวิ้นมองท้องฟ้าสีจางข้างนอก
“คุณผู้ชายคะ ครั้งแรกที่ผู้หญิงคลอดลูกมักจะค่อนข้างช้าค่ะ เร็วที่สุดจะใช้เวลาสองหรือสามชั่วโมง ถ้าช้าก็จะประมาณหนึ่งวันหนึ่งคืนเลยค่ะ ถ้ายังไม่คลอดอาจจะต้องผ่าคลอด……” สาวใช้พูด “คุณผู้ชายยังไม่ได้นอนทั้งคืน ทำไมไม่ไปพักผ่อนก่อนคะ?”
“ไม่เป็นไร” โอหยางจวิ้นส่ายหัว รู้สึกใจร้อนเล็กน้อย “ผมจะรอจนกว่าเธอจะคลอดเสร็จ”
ในห้องคลอดหมอตรวจสอบดูแล้วก็พูดว่า “ปากมดลูกเปิดครบสิบเซนแล้ว ทารกได้กลับหัวแล้ว คุณผู้หญิง เตรียมตัวเบ่งได้เลย!”