ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 366 ฉันจะพาหนูไปเจอพ่อแม่ของหนู
โอหยางจวิ้นไม่สนหน้าอกที่เจ็บ หันสายตามองไปทางด้านนอก
ตอนนี้ ลมข้างนอกเบาลงนิดหน่อยแล้ว พวกเขาถูกลมพัดมา ไม่รู้ตกลงมาที่ไหน
ร่มชูชีพของหลานเสี่ยวถางก่อนหน้านี้ยังสามารถมองเห็น ตอนนี้กลับหายไปไม่เห็นแม้แต่เงา
โอหยางจวิ้นอุ้มหวันหว่านขึ้นมาเล็กน้อย จูบลงใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอ “หวันหว่าน อย่าร้องไห้ ฉันจะพาหนูไปเจอพ่อแม่ของหนู”
เด็กน้อยเงยหน้ามอง มองโอหยางจวิ้นอย่างน้อยใจ ปากเล็กขมุบขมิบ
เพราะอยู่ด้วยกันมาหลายวัน ดังนั้นโอหยางจวิ้นเห็นปากเธอขมุบขมิบตอนนี้ ก็รู้ว่าเธอหิวอีกแล้ว
ดังนั้น เด็กน้อยร้องไห้ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะหิวแล้ว หิวนมแม่แล้ว?
โอหยางจวิ้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เป็นเด็กนี่ดีจริงๆ ตอนนี้จะเป็นจะตายยังไม่รู้ แต่ในใจของเธอ เหมือนอาหารยิ่งใหญ่กว่าฟ้า
เพียงแต่ เขาไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว จู่ ๆก็แรงฮึดขึ้นมา เครื่องบินที่เขานั่งแหลกเป็นเศษซาก
โอหยางจวิ้นอุ้มหวันหว่าน ไม่รู้ถูกลมพัดไปที่ไหน แล้วตกสู่พื้นน้ำ…
ตั้งแต่กางร่มชูชีพจนตกลงสู่ผิวน้ำทะเล ใช้เวลาไม่นานแท้ๆ แต่หลานเสี่ยวถางกลับรู้สึกตัวเองใช้เวลาไปหนึ่งศตวรรษ
เธอเห็นกับตาว่าเครื่องบินด้านล่างถูกพายุทอร์นาโดพัดไป ไม่รู้ไปหยุดที่ไหน
และตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่เห็นมีใครกางร่มชูชีพเลย และไม่เห็นหวันหว่านของเธอ
เธออยากร้องไห้ กลับคิดได้ว่าตอนนี้ไม่ควรร้องไห้ ควรหาลูกสาวตัวเองให้เจอ
แต่เธอลูบไปทั่วตัว ไม่ได้พกอะไรมาเลย ตอนนี้มีแค่ร่มชูชีพติดตัวเธอ ลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลที่กว้างใหญ่
อันที่จริงเมื่อกี้เธอคิด ถ้าหากพายุทอร์นาโดพัดมาทางเธอจะดีแค่ไหน อย่างงั้นก็สามารถพาเธอไปหาหวันหว่านได้
ตอนนี้ความหวังเดียวของเธอ ก็คือรอสือมูเฉินมา
หรือตอนเขามาเจอเธอ ในมือเขาก็มีหวันหว่านอยู่แล้ว แล้วพวกเธอก็กลับบ้านไปด้วยกัน
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เพราะลอยอยู่บนผิวน้ำทะเล ดังนั้นหลานเสี่ยวถางเลยไม่รู้เวลา
เพียงแต่ เธอรู้สึกดวงอาทิตย์เหนือศีรษะ ส่องจากมุมเฉียงเปลี่ยนเป็นส่องตรงลงมาแล้ว
ตอนนี้น่าจะใกล้เที่ยงแล้วมั้ง?
ก่อนหน้านี้ โอหยางจวิ้นและสือมูเฉินนัดกันไว้ที่สิบโมงครึ่ง ดังนั้นผ่านไปราว ๆ หนึ่งชั่วโมง สือมูเฉินคงรู้ว่าพวกเธอเกิดเรื่องแล้ว…
และเวลาเดียวกันนี้ หลานเสี่ยวถางเห็นมุมหนึ่งของขอบฟ้าเริ่มมีจุดสีดำหลายจุดเข้าใกล้จากที่ไกลๆ ต่อมาจุดเล็กสีดำใหญ่ขึ้น ลักษณะเหมือนเครื่องบิน
เธอนับแล้ว ปรากฏว่ามีสิบกว่าลำ
โดยปกติ ไม่มีทางที่เครื่องบินโดยสารบินจะบินพร้อมกันมากขนาดนี้ ถ้างั้นคงจะเป็น——
หลานเสี่ยวถางคิดถึงตรงนี้ ในใจเริ่มเห็นความหวัง และเห็นสัญลักษณ์ออเนอร์บนเครื่องบิน
เพราะฉะนั้น ครอบครัวเธอมารับเธอแล้ว?!
อย่างที่คิด มีเครื่องบินลำหนึ่งเริ่มบินลงมาทางเธอ ใบพัดทำให้เกิดลมแรง พัดให้เกิดระลอกคลื่นขึ้น
ตามมาด้วย มีร่างหนึ่งยื่นศีรษะมา “พี่สาว รีบขึ้นมา!”
เห็นหลานเสี่ยวถางเหมือถูกเชือกของร่มชูชีพพันไว้ ดังนั้นหลานจื่อเฉินโดดลงจากเครื่องบินลงไปในน้ำ
ศีรษะเขาโผล่ขึ้นมาแล้ว ว่ายไปข้างตัวหลานเสี่ยวถางช่วยเธอแก้เชือกออก
เขาอุ้มหลานเสี่ยวถางขึ้น แล้วส่งไปที่บันไดเชือกก่อน แล้วปีนตามขึ้นไป
เฮลิคอปเตอร์รับคนแล้ว บินขึ้นทันที
“จื่อเฉิน หวันหว่านยังอยู่ที่โอหยางจวิ้น!” หลานเสี่ยวถางเพิ่งขึ้นไป ไม่สนที่เปียกไปทั้งตัว จับแขนหลานจื่อเฉินไว้แน่น พูดว่า “พวกเรารีบไปหาลูก!”
หลานจื่อเฉินพยักหน้า “ครับ!”
พูดอยู่ เขาหยิบอินเตอร์คอม สั่งทีมค้นหาทั้งหมด “ค้นหาทั่วผิวน้ำทะเล ให้เครื่องบินออเนอร์บินเป็นแนวตรงค้นหาต่อไป!”
หลังจากออกคำสั่งเสร็จ หลานจื่อเฉินยื่นผ้าขนหนูให้หลานเสี่ยวถางไปพลาง อธิบายไปพลาง “พี่สาว ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่เขยถึงรู้ว่าเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ เมื่อกี้ พี่เขยนั่งเครื่องบินของเกาะเริ่มค้นหาจากฝั่งโน้นแล้ว ผมให้
คุณตาเอาเครื่องบินของออเนอร์ที่จอดอยู่ออกมาให้หมด ทางเพอร์เซลล์ก็รับทราบข่าวแล้ว เริ่มออกค้นหาแล้ว”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า “แต่จื่อเฉิน ฉันเห็นพายุทอร์นาโดพัดเครื่องบินไป พวกเขาไม่ได้กางร่มชูชีพ…”
“พี่ ผมรู้จักโอหยางจวิ้น ก่อนหน้านี้ตอนเขารับใช้กองทัพ ก็คงได้ฝึกรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดทั้งหมดแล้ว ดังนั้น พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เขาต้องปกป้องหวันหว่านได้” หลานจื่อเฉินพูดวิเคราะห์ “ยิ่งไปกว่านั้น โอหยางจวิ้นเป็นความหวังเดียวของตระกูลเพอร์เซลล์ ทายาทเดียวของพวกเขาเกิดเรื่อง ตระกูลนี้คงเป็นบ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ? ดังนั้น พวกเขาต้องทุ่มสุดกำลังไปค้นหาแน่นอน!”
หลานเสี่ยวถางคิด เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ตอนนี้ออเนอร์ AT ตระกูลเพอร์เซลล์ ต่างทุ่มสุดตัว ถ้างั้นความน่าจะเป็นที่จะเจอตัวโอหยางจวิ้นกับหวันหว่านได้ก็สูง
ว่ากันว่า สายเลือดเชื่อมกัน จะมีการเหนี่ยวนำพิเศษอย่างหนึ่ง
หลานเสี่ยวถางรู้สึก ว่าตัวเองมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือหวันหว่านจะไม่เป็นอะไร ถ้างั้นเธอเพียงแต่รอข่าว ต้องได้ข่าวคราวของหวันหว่านแน่นอน!
ตอนนี้ เครื่องบินออเนอร์ค้นหาเป็นแนวตรงบนมหาสมุทร
ไม่นาน เครื่องบินก็บรรจบกับทางด้านAT
ด้านข้างเฮลิคอปเตอร์มีอีกลำหนึ่งบินขนาบข้าง หลานเสี่ยวถางมองผ่านหน้าต่างเห็นสือมูเฉิน
แม้เพียงแค่ผ่านๆ แต่เขาก็เหมือนรับรู้ หันมองกลับมา
สายตาทั้งสองคนสื่อหากัน เพราะวิถีโค้งของเครื่องบิน ไม่ช้าก็ห่างกัน
ระหว่างทาง หลานจื่อเฉินใช้อินเตอร์คอมสื่อสารกับทีมบินคนอื่นตลอด หลานเสี่ยวถางมองเครื่องบินลำที่สือมูเฉินนั่งไปพลาง และมองด้านล่างผิวน้ำทะเลไปพลาง
เธอได้ยินหลานจื่อเฉินพูดอินเตอร์คอมตลอด อีกด้านบอกว่ากอบกู้ซากปรักหักพังได้ หัวใจดวงหนึ่งเต้นแรงไม่หยุด
จนถึง หลังจากที่เครื่องบินค้นหามานาน ไม่ไปเติมน้ำมันไม่ได้ ทีมบินไปลงจอดบนเกาะเล็กที่นัดไว้กับสือมูเฉินและ
โอหยางจวิ้นก่อนหน้านี้
หลานเสี่ยวถางเพิ่งลงจากเครื่องบิน ก็เห็นสือมูเฉินมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เขายื่นแขนออก ดึงเธอเข้ามากอด “เสี่ยวถาง คุณไม่เป็นไรนะ?”
“มูเฉิน หวันหว่านหายไป…” หลานเสี่ยวถางเดิมที่ไม่ร้องไห้เลย แต่ตอนสือมูเฉินกอดเธอไว้แน่น ตอนเธอได้ยินเสียงเขาดังอยู่เหนือศีรษะ น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ห้ามไม่อยู่อีกต่อไป
สือมูเฉินแม้ว่ากระวนกระวายใจเหมือนกัน แต่กลับพูดด้วยสายตาแน่วแน่ “เสี่ยวถาง พวกเราต้องหาหวันหว่านเจอ ไม่ต้องเป็นห่วง เชื่อผม!”
“จริงเหรอ?” หลานเสี่ยวถางเงยหน้ามองเขา “มูเฉิน หวันหว่านเด็กขนาดนั้น ฉันกลัวโอหยางจวิ้นเพื่อช่วยตัวเอง ไม่สนใจลูก อีกอย่างลูกไม่ได้ดื่มนมมาครึ่งวันแล้ว ฉันกลัวลูกหิว…”
“เสี่ยวถาง โอหยางจวิ้นให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ครอบครัว ตอนนี้หวันหว่านอยู่ในมือเขา ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริง ออเนอร์กับATไม่มีวันปล่อยตระกูลเพอร์เซลล์ไป”สือมูเฉินพูด “เพราะฉะนั้น คุณวางใจ เขาต้องปกป้องหวันหว่านได้!”
หลานเสี่ยวถางฟังคำพูดสือมูเฉิน หัวใจผ่อนคลายลงมาก แต่ยังพูดว่า“ฉันเห็นพวกเขาเข้าไปตรงกลางพายุทอร์นาโด ฉันกลัว…”
“เป็นเพราะความเร็วของพายุทอร์นาโด ดังนั้นอาจพัดพวกเขาไปไกล เพราะฉะนั้นพวกเราถึงยังหาพวกเขาไม่เจอ”
สือมูเฉินพูดวิเคราะห์ “แต่ทางด้านตระกูลเพอร์เซลล์ที่มีอำนาจทางอากาศก็เคลื่อนไหวแล้ว ทางพวกเรารอเติมน้ำมันเสร็จก็เริ่มค้นหาต่อ ดังนั้นผมเชื่อว่าไม่ช้าก็จะหาพวกเขาเจอ!”
“อืม”หลานเสี่ยวถางพยักหน้า พิงบนตัวสือมูเฉิน เบาใจลงหน่อย “ฉันก็รู้สึกว่าหวันหว่านจะไม่เป็นอะไร”
“เสี่ยวถาง หวันหว่านของเราต้องไม่เป็นอะไร” สือมูเฉินไม่ได้บอกเธอ เรื่องโจวเหวินซิ่วตายแล้ว เพียงแต่พูด “ลูกผ่านอะไรมามากขนาดนั้น ถึงมายังโลกใบนี้ พระเจ้าคงไม่ใจร้ายกับลูกเป็นแน่!”
“ใช่ หวันหว่านต้องกลับมา!” หลานเสี่ยวถางพูดอยู่ ก็หลับตาลง สิบนิ้วประสานกัน เริ่มอธิษฐานด้วยความศรัทธา
บนเกาะ เครื่องบินเติมน้ำมันเสร็จ นักบินประจำตำแหน่ง จะเริ่มบินต่อแล้ว
หลานเสี่ยวถางไม่วางใจเรื่องหวันหว่าน กำลังจะตามไป ก็ถูกเย่เหลียนอีขวางไว้ “ถางถาง ลูกเพิ่งคลอดน้องไม่กี่วัน เมื่อกี้ยังตกน้ำอีก ไม่ควรโดนลมอีก ลูกรอข่าวของพวกเขาบนเกาะ แม่ให้มูเฉินอยู่ดูแลลูก!”
หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “หนูอยากเจอหวันหว่านให้เร็วที่สุด ถ้าเกิดลูกหิว…”
หลานจื่อเฉินเห็นริมฝีปากหลานเสี่ยวถางมีสีม่วงนิดๆ เห็นชัดว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว อุ้มเธอขึ้นยัดไปในอ้อมกอด
สือมูเฉินที่จะขึ้นเครื่องอยู่แล้ว “พี่เขย พวกพี่ไม่ต้องไปแล้ว รอผมพาหลานสาวตัวน้อยกลับมา!”
ยากที่จะเห็นหลานจื่อเฉินแสดงความดุดันออกมา หลานเสี่ยวถางถูกเขาจับไว้ อยากขยับแต่กลับไม่มีแรง ทำได้เพียงมองหลานจื่อเฉินและเย่เหลียนอีขึ้นเครื่องบินไป แล้วเปิดใบพัด บินหายไป
สือมูเฉินเดิมอยากไปด้วย แต่เพราะไม่วางใจหลานเสี่ยวถาง ดังนั้นเลยอยู่ดูแลเธอ
ถึงอย่างไร หวันหว่านก็เป็นหลานสาวเย่เหลียนอีเหมือนกัน ท่านต้องค้นหาสุดความสามารถ และเขาไปก็ขับเครื่องบินไม่เป็น ก็ช่วยอะไรไม่ได้
“มูเฉิน——”หลานเสี่ยวถางแช่น้ำอุ่นเสร็จ ร่างกายอบอุ่นแล้ว เธอห่มผ้าขึ้นมา จับมือสือมูเฉินไว้“ฉันรู้ว่าตัวเองกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่คิดถึงหวันหว่านถูกพายุทอร์นาโดพัดไป ในใจฉันก็ทรมานมาก…”
“เสี่ยวถาง ผมเข้าใจความรู้สึกคุณ เพราะผมเป็นพ่อของหวันหว่านเหมือนกัน แม้แต่อุ้มก็ยังไม่เคยได้อุ้มลูกเลย ก็ทำลูกหายไป ผมก็ทรมานมากเหมือนกัน”สือมูเฉินพูด “แต่ คุณต้องคิดไว้ พวกเราเป็นพ่อแม่ของลูก ก่อนอื่นพวกเราต้องเข้มแข็ง แบบนี้ หลังจากลูกกลับมา พวกเราถึงสามารถดูแลลูกได้ดีขึ้น”
พูดอยู่ เขาช่วยหลานเสี่ยวถางเช็ดผมให้แห้ง “เสี่ยวถาง คุณเป็นแม่ของหวันหว่าน หลังจากลูกกลับมา ยังต้องดื่มนมคุณ ยังต้องให้คุณกล่อมลูกนอน ดังนั้นคุณต้องพักผ่อนให้ดี อีกเดี๋ยวถึงมีแรงทำเรื่องพวกนี้ และอย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยจนล้มป่วยไป ต้องให้น้ำเกลือ แบบนี้หวันหว่านก็ดื่มนมที่มียาปฏิชีวนะไม่ได้”
หลานเสี่ยวถางฟัง ก็รีบพยักหน้า “มูเฉิน คุณพูดถูก! ฉันจะป่วยไม่ได้ ฉันต้องพักผ่อนให้มาก ถึงมีน้ำนม แบบนี้หวันหว่านจะได้ไม่หิว!”
คิดถึงตรงนี้ เธอรีบลุก “ฉันจะไปนอนเดี๋ยวนี้!”
“อืม” สือมูเฉินช่วยห่มผ้าห่มให้เธอ “เสี่ยวถาง นอนหลับสักตื่น ตอนคุณตื่น หวันหว่านก็กลับมาแล้ว!”