ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 406 ตกลงเธอได้ยินไปมากแค่ไหนกันแน่
เพียงแต่ว่า สิ่งทั้งหมดที่เขาอดไม่ได้ต่อฮั่วชิงชิง หรือไม่ว่าจะเป็นความสงสารก็ตาม แต่ทำไมถึงเขาถึงได้ยอมบอกฮั่วเฉิงเลี่ยงง่ายดายขนาดนี้ ? !
เขาเกลียดฮั่วเฉิงเลี่ยง และเขาหวังว่าเขาจะกล้ำกลืนกับความเจ็บแค้นอย่างถึงที่สุด !
ดังนั้นแล้ว เมื่อมองไปยังฮั่วเฉิงเลี่ยงแล้วริมฝีปากของหันจื่ออี้ก็เต็มไปด้วยการเยาะหยันอย่างเย็นช้า: ฮั่วเฉิงเลี่ยง ดูท่ามันจะเป็นความคิดที่เพ้อเจ้อของคุณ ! ถ้าหากว่าคุณไปโรงเรียนมัธยมหนิงเฉินก็ไปลองถามดูนะว่าผมหันจื่ออี้มีผู้หญิงที่ชอบมาตั้งนานแล้วใช่หรือเปล่า? ! หรือไม่คุณก็ไปสอบถามที่มหาวิทยาลัยหนิงเฉิงดูว่าผมได้รอแฟนของผมมาตั้งนานแล้ว ! ดังนั้น คุณคิดว่าที่ผมแต่งงานกับชิงชิงเป็นเพราะชอบงั้นเหรอ ? นั้นมันเป็นเพียงแค่ลูกตุ้มน้ำหนักที่จะทำให้เข้าใกล้คุณก็เท่านั้นเอง !”
สีหน้าของฮั่วเฉิงเลี่ยงก็ถึงกับขาวซีด นัยน์ตาเต็มไปด้วยเถ้าที่ดับมอด : “ มันเป็นบาปกรรมที่ฉันทำขึ้นในตอนนั้น แล้วทำไมกรรมที่ตามสนนองถึงได้มาเกิดขึ้นบนตัวของชิงชิง ? เด็กคนนั้นได้รับความทุกข์ทรมานมากขนาดนั้น ตอนนี้……”
หันจื่ออี้มองไปยังฮั่วเฉิงเลี่ยงที่มีสีหน้าอาลัยอาวรณ์นั้น มันทำให้รอยยิ้มนั้นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น : “ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณตายไปแล้ว ตระกูลฮั่วมันก็จะตกอยู่ในกำมือของผม แล้วยังจะมีใครที่จะสนใจเธออีก ?”
“ ตูม !” ทันใดนั้นฮั่วเฉิงเลี่ยงก็คุกเข่าลงต่อหน้าหันจื่ออี้ : “ จื่ออี้ ฉันขอโทษที่ฉันทำให้พ่อแม่นายต้องตาย แต่ชิงชิงไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ขอร้องละ นายอย่าทำร้ายเธอเลยนะ ขอร้องนายละ !”
ในขณะที่พูดนั้น คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะก้มตัวลงมาตบที่พื้นเสียงดังโครม !
“ ไม่อยากทำร้ายเธองั้นเหรอ ?” หันจื่ออี้หัวเราะ : “ แล้วผมละ ? ทำไมคุณถึงได้ทำร้ายผม ? ! คุณรู้บ้างไหม สำหรับคุณแม่สำคัญกับผมมากแค่ไหน แต่คุณทำให้ผมต้องเสียเธอไป ! แล้วก็ยังมีแฟนของผมอีก ที่เป็นความรักอย่างสุดซึ้งในชีวิตของผม ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคุณ พวกเราก็คงจะแต่งงานมีลูกกันไปนานแล้ว และก็ไม่ถึงกับสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดในตอนนี้ ! คุณว่าผมไปทำให้ใครไม่พอใจ ทำไมถึงได้โดนทำร้ายแบบนี้ ? ! คุณเคยสงสารผมบ้างไหม ? !”
“ ขอร้อง ขอร้องนายจริงๆเถอะนะ ในตอนนั้นมันเป็นเพราะฉันผิดเอง !” ฮั่วเฉิงเลี่ยงยังคงพูดซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง : “ ถ้านายจะให้ฉันตาย ฉันก็จะตายให้ในทันที แต่อย่าทำร้ายชิงชิงเลยนะ เธอเป็นภรรยาของนายนะ !”
หันจื่ออี้มองสีหน้าของฮั่วเฉิงเลี่ยงที่ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก หัวใจก็บีบรัดขึ้นเล็กน้อย
แต่ทว่า หลังจากชั่วขณะนั้นแล้ว เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ในตอนนั้นตัวเองได้ยินเพื่อนบ้านบอกว่าที่บ้านของเขานั้นมีกลิ่นเหม็นมากนั้น เขาก็ได้รีบกลับไป แต่พอไปถึงสภาพศพก็เริ่มเน่าเสียแล้ว
แม่ของเขาที่สวยขนาดนั้น ทำไมจากคนที่มีชีวิตอยู่ดีๆถึงได้กลายเป็นศพที่มีฟกช้ำเต็มไปหมดแบบนี้ ? !
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะผู้ชายที่เลวทรามต่ำช้าที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เพียงเพราะไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ก็เลยทำฆ่าเธอ !
ฮั่วชิงชิงเป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดฮั่วเฉิงเลี่ยงอย่างนั้นเหรอ ? ดีเลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยมีความคิดที่จะทำร้ายฮั่วชิงชิงมาก่อนก็ตาม แต่ในเวลานี้ ทุกคำพูดมันจะทำร้ายให้ฮั่วเฉิงเลี่ยงต้องนอนตายตาไม่หลับ !
“ ภรรยา ?” หันจื่ออี้หัวเราะอย่างเย็นชา : “ มันก็เป็นเพียงแค่การจัดงานแต่งงานขึ้นมาแล้วก็รับกระดาษใบเดียวก็เท่านั้น ! ฮั่วเฉิงเลี่ยง ผมจะบอกกับคุณตรงๆเลยก็แล้วกันนะ พวกเราแต่งงานกันมานานขนาดนี้แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเปลือยกายและมานอนอยู่บนเตียง ผมก็ไม่เคยที่จะแตะต้องตัวเธอเลย ! เป็นเพราะ ผมมักจะคิดว่าเธอคือลูกสาวของคุณเสมอ มันก็เลยทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง !”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของฮั่วเฉิงเลี่ยงก็สั่นสะท้าน ความโกรธก็ได้ส่งผลกระทบต่อหัวใจของเขา และมันทำให้เขาก็อ้วกเป็นเลือดออกมา
ต่อมา เขาก็ไออย่างรุนแรง และทุกครั้งที่ไออกมาก็จะมีเลือดออกมาไม่ใช่น้อย
“ พ่อ !” ประตูทางเข้าก็มีเสียงของฮั่วชิงชิงดังขึ้นมา เดิมทีประตูไม่ถูกล็อคเอาไว้ก็เลยสามรถเปิดเข้ามาได้ในทันที ฮั่วชิงชิงมองไปยังพ่อที่อยู่ข้างหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด ร่างกายก็ถึงกับอ่อนไปทั้งตัว !
เมื่อหันจื่ออี้เห็นว่าเธอล้มลงไป เขาก็รีบยื่นมือออกไปเพื่อพยุงเธอ แต่ทว่าฮั่วชิงชิงกลับปัดมือของเขาออกทันที พูดด้วยน้ำเสียงที่รวดเร็วและดุดัน : “ ถอยออกไป !”
ในขณะที่พูดนั้น เธอก็วิ่งไปยังตรงหน้าของฮั่วเฉิงเลี่ยงและประคองเขาไว้ : “ พ่อคะ พ่อ พ่อเป็นอะไรไป ? !”
หันจื่ออี้เห็นฮั่วชิงชิงที่นั่งยองๆอยู่ที่พื้น หัวใจของเขาก็รู้สึกหมดหวัง
ตกลงเธอได้ยินไปมากแค่ไหนกันแน่ ?
แต่เธอจะได้ยินมาแค่ไหนก็ดูเหมือนว่าจะไม่สำคัญ เป็นเพราะว่า สิ่งที่เธอเห็นนั้นคือพ่อของเธอกำลังคุกเขาต่อหน้าเขาเพื่อขอร้องอ้อนวอน จนกระทั่งอ้วกเลือดออกอย่างไม่หยุด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจฮั่วเฉิงเลี่ยงเลยแม้แต่นิด !
“ ชิงชิง——” หันจื่ออี้ที่เพิ่งเรียกชื่อของฮั่วชิงชิง ก็เห็นว่าเธอนั้นได้เงยหน้าขึ้นมาในทันที และในแววตาที่เต็มไปด้วยแสงแวววาวของน้ำตาที่ซ้อนเร้นไปด้วยโกรธแค้น
ความหมดหวังที่มีในใจมันก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ และหันจื่ออี้ก็อยากจะไปดึงฮั่วชิงชิงให้ลุกออกมา มือของเขาขยับ แต่สุดท้ายก็ยังคงปล่อยมือ
เดิมดีเขาไม่ได้อยากทำร้ายเธอเลย เพราะเขาเคยได้ลิ้มรสชาติของการที่ถูกคนอื่นทำร้ายมากก่อน และเธอก็เป็นผู้หญิงที่จิตใจดีไม่ได้มีความผิดอะไร เธอไม่ควรที่จะมาชดใช้ความผิดที่พ่อตัวเองได้ทำลงไป
แต่ทว่าในขณะนี้ ดูท่าทุกอย่างมันจะสายเกินไปแล้ว
หลังจากที่ฮั่วเฉิงเลี่ยงไอไปเป็นเวลานาน ในที่สุดก็เริ่มกลับมาดีขึ้น แถมยังเป็นเพราะว่าประตูห้องหนังสือนั้นเปิดอยู่ มันก็ทำให้คนรับใช้ได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหว ต่างก็เร่งฝีเท้ามายังที่นี่
“ คุณท่าน !” คนรับใช้ที่เห็นว่าฮั่วเฉิงเลี่ยงอ้วกออกมาเป็นเลือด ก็ตกใจก็จนแทบจะไม่มีสติ : “ คุณท่าน คุณ คุณท่านเป็นอะไรไปคะ ?”
ฮั่วชิงชิงที่ตั้งสติได้ก่อนก็พูดว่า : “ รีบโทร 120 เร็ว !”
บนตัวของคนรับใช้ไม่ได้มีโทรศัพท์ และพอกำลังจะออก ก็นึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้มีโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ดังนั้นก็เลยรีบโทรหา 120 ด้วยอาการที่ตัวสั่น
ฮั่วเฉิงเลี่ยงถูกฮั่วชิงชิงประคองไว้ แต่ถึงอย่างไรสายตาของเขาก็ยังคงมองมาที่หันจื่ออี้
ในเวลานี้เขาไม่มีแรงจนไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่ถึงอย่างไรฮั่วชิงชิงก็ยังคงดูออกว่าพ่อของตัวเองพูดว่า : ขอร้องนายเถอะนะ
เธอรู้สึกว่าหัวใจดวงนี้ของตัวเองดูเหมือนว่ากำลังถูกฉีกด้วยความรุนแรง บาดแผลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความเจ็บปวด แต่ยังมีลมหนาว ที่ออกมาจากบาดแผลนี้ทำให้หนาวไปจนถึงกระดูก
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าที่หันจื่ออี้แต่งงานกับเธอแท้ที่จริงแล้วจะเป็นเพราะจุดประสงค์อื่น ! ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลที่เขาไม่เคยแตะต้องตัวเธอเลยก็เพราะเขารู้สึกขยะแขยงเธอ !
เธอไม่กล้าที่จะคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เธอไม่รู้ว่าเลยพ่อของตัวเองนั้นไปทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อหันจื่ออี้ และความจริงใจของพวกเขาก็กลับแลกมาเป็นจิตใจที่โหดเหี้ยมเสมือนหมาป่าของหันจื่ออี้ !
และเธอก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะรักผู้ชายเลวแบบนี้ !
เธอรู้เสียใจในภายหลัง รู้สึกโทษตัวเอง ไปจนกระทั่งเกลียด !
แต่อย่างไร ความเสียใจเจ็บปวดทรมานมันก็ไม่ได้เป็นเหตุผลที่จะทำให้เกลียดแบบนี้ และมันก็ไม่สามารถที่จะบรรเทาลงได้มากสักเท่าไหร่ !
ในตอนที่ยังวัยรุ่น เธอเคยรักฟู่สีเกอเข้ากระดูก ; และเมื่อโตขึ้น เธอก็ได้ใช้ใจไปรักหันจื่ออี้อย่างสุดหัวใจ !
เดิมที เธอคิดว่าความเจ็บปวดที่มีทั้งหมดนั้น ในที่สุดมันก็ได้จบลงไปสักที และพระเจ้าก็ได้ส่งผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นแบบนี้มาไว้ตรงหน้าของเธอ เพื่อที่จะได้ชดเชยกับความเจ็บปวดทรมานที่ผ่านของเธอ
แต่เพิ่งจะเข้าใจในเวลานี้ว่าการชดเชยนี้ มันเป็นสิ่งที่แทงใจมากๆจนทะลุไปยังกระดูกอย่างจัดเจน ! เมื่อเทียบกับที่เสียฟู่สีเกอไปแล้ว มันเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าพันเท่า !
ในไม่ช้ารถ 120 ก็มา และข่าวคราวนี้ก็ทำให้ทุกคนในตระกูลฮั่วตกใจตื่น
เมื่อทุกคนเห็นว่าเสาหลักของตระกูลฮั่วถูกหามขึ้นรถ ทุกคนต่างก็คิดเพียงแค่ว่าอุบัติเหตุ และถึงแม้ว่าฮั่วเฉิงเลี่ยงจะถูกหามขึ้นรถแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงจ้องมองอย่างเขม็งไปทางหันจื่ออี้ที่สายตาเต็มไปด้วยการขอร้องอ้อนวอน
ส่วนแม่ของฮั่วชิงชิงนั้นเป็นเพราะว่ามีเรื่องหมางใจกันกับฮั่วเฉิงเลี่ยงเมื่อสองวันก่อน และทั้งสามีภรรยาต่างก็ได้แยกกันอยู่ตั้งนานแล้ว แต่เป็นเพราะว่าเป็นตระกูลที่ทั้งเงินและมีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกันอยู่ มันก็เลยไม่สามารถที่จะหย่ากันได้ ดังนั้น สำหรับคนภายนอกยังคงคิดว่าเป็นสามีภรรยากันอยู่
ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คนที่จะช่วยเหลือและดูแลได้จริงๆมีเพียงแค่ฮั่วชิงชิง
เธอก็ขึ้นไปบนรถพยาบาลด้วย และหันจื่ออี้ที่กำลังจะตามขึ้นไป ก็ถูกเธอไล่ออกไป
เธอมองเขาด้วยสายตาความเกลียดชังและตัดขาดเยื่อใยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
หันจื่ออี้ถึงกลับตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ จนกระทั่งรถพยาบาลขับออก จากนั้นเขาก็กลับตัวไปปลอบคนในตระกูลฮั่วและครอบครัว
ในขณะที่กำลังปลอบทุกคน ท้องฟ้าด้านนอกก็ได้เริ่มสว่างแล้ว หันจื่ออี้ไม่ได้นอนเลย และเขาก็ได้เดินออกมาบ้านตระกูลฮั่วในทันที
เมืองไห่หลิน ตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเช้าและช่วงเย็น สำหรับหันจื่ออี้ที่ใส่เพียงเพียงเสื้อเชิ้ตและเสื้อนอก ในไม่ช้าก็คงจะหนาวจนแข็งไปทั้งตัว
เขาไม่ได้ขับรถ แต่กลับเดินอยู่บนท้องถนนและมุ่งตรงไปข้างอย่างไร้จุดหมาย
เขาไม่รู้ว่าเขาเดินมานานแค่ไหนแล้วก่อนที่เขาจะมาหยุดยืนอยู่บนสะพานมองดูแม่น้ำที่ไกลสุดลูกหูลูกตา โดยไม่ขยับเขยื้อน
พระอาทิตย์เริ่มค่อยๆขึ้นมา มีแสงสีแดงที่แสบตา ที่ค่อยๆกระโดดจากขึ้นจากขอบฟ้ามาทีละน้อย แสงสีแดงสดก็ได้ตกกระทบบนดวงตาของหันจื่ออี้ และย้อมด้วยแสงสีที่อบอุ่น แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังคงทำให้คนรู้สึกหนาวเย็น
เขาขยับมือที่เย็นจนแข็งทื่อเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาฮั่วชิงชิง
แต่ทว่าเขายังไม่ทันจะโทรออก ฮั่วชิงชิงก็ได้โทรมาแล้ว
หันจื่ออี้ก็รีบรับสายในทันที : “ ชิงชิง——”
“ หันจื่ออี้ ! คุณคงได้มีความสุขแล้ว ! พ่อฉันตายแล้ว ! การช่วยเหลือเมื่อกี้มันไม่ได้ผล ! ” น้ำเสียงที่บ้าคลั่งของฮั่วชิงชิงแบบนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย : “ คุณมันปีศาจร้าย ฉันเกลียดคุณ !”
“ ชิงชิง ขอโทษ ” หันจื่ออี้กำมือแน่น เพราะฝ่ามือที่ออกแรง เล็บก็เลยแทบจะจมดิ่งเข้าไปยังฝ่ามือ : “ ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายคุณเลย ชิงชิง ให้ผมเป็นคนดูแลเธอเถอะนะ !”
“ หันจื่ออี้ สิ่งที่คุณพูดกับพ่อของฉัน ฉันได้ยินหมดแล้ว ! คุณอย่ามาทำเสแสร้งพูดขอโทษเลย ! ฉันไม่สนใจหรอกนะ และต่อไปนี้ฉันก็จะไม่เชื่อคุณแล้ว ” ฮั่วชิงชิงทั้งร้องไห้และทั้งโกรธ : “ Huo Groupของพวกเราตกเป็นของคุณแล้วใช่ไหม และคุณก็จะกวาดพวกเราออกจากประตูในทันทีใช่ไหม ? ถ้าอย่างนั้นดีเลย คุณก็ฆ่าพวกเราให้ตายไปเลย !”
“ ชิงชิง——” ในใจของหันจื่ออี้ก็จมดิ่ง : “ ที่ผมมาหาพ่อคุณก็เพื่อที่จะแก้แค้นจริงๆ แต่ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายคนในตระกูลฮั่วคนอื่นเลย สำหรับตระกูลฮั่ว ผมไม่ได้อยากเลย…… ”
หน้าอกของฮั่วชิงชิงก็ยกขึ้นยกลง : “ พ่อของผมก็เป็นเสาหลักของบ้าน ตอนนี้สมาชิกในครอบครัวของตระกูลฮั่วกำลังไม่พอ และฉันก็ไม่เข้าใจการจัดการบริหารของธุรกิจ และน้องสาวผมก็ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย คุณขู่เข็ญพ่อฉันจนตายกับทำลาย Huo Group มันต่างกันตรงไหน ? ! “
เธอกำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าของโรงพยาบาล มองไปด้านล่าง เธอเกลียดตัวเองที่ไม่ใจสู้
ถึงแม้ตอนนี้แล้วเธอก็ยังไม่บอกกับคนในครอบครัว ที่คุณพ่อตายเร็วขนาดนี้ก็เป็นเพราะหันจื่ออี้ ! และเธอก็พบว่า ตัวเองไม่สามารถทำมันได้ !
เธอเป็นลูกสาวที่อกตัญญู ภายในวันเดียว ถูกสามีที่รักอย่างสุดซึ้งวางแผนจนทำให้เสียพ่อไป ยังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเพื่ออะไร……
เธอค่อยๆก้าวทีละก้าวขึ้นไปยังริมขอบของดาดฟ้า
แต่ในเวลานี้ หันจื่ออี้ไม่รู้อะไรเลยทั้งหมดและยังคงกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งฮั่วชิงชิงพูด
อันที่จริงแล้ว ตระกูลฮั่วในปัจจุบันไม่มีคนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการเลย ต่อให้นายท่านแห่งตระกูลฮั่วจะฉลาดและมีวิสัยทัศน์ก็ตาม แต่ก็เป็นไม่ใกล้ฝั่งแล้ว ถ้าเกิดว่าหุ้นของ Huo Group ยกให้กับฮั่วชิงชิงทั้งหมด Huo Group ก็คงจะถูกบริษัทคู่แข่งค่อยๆกลืนกินไปทีละนิด
ดังนั้น หันจื่ออี้ก็เอ่ยปากว่า : “ ชิงชิง ผมจะยอมช่วยคุณบริหาร Huo Group และหุ้นส่วนก็ให้กับคุณ ส่วนผมก็เป็นเพียง CEO ที่คุณเชิญมา ค่าตอบแทนไม่ต้องให้ผมเลยสักบาท ! ผมจะฝึกฝนให้คุณเกิดทักษะเอง แล้วก็รอให้คุณมีความสามารถจนสามารถรับช่วงต่อจากบริษัทได้แล้ว จากนั้นก็ส่งมอบบริษัทให้กับคุณโดยสมบูรณ์แบบ…….”
“ เหอๆ หันจื่ออี้ พูดได้น่าฟังจริงๆเลยนะ ช่วยพวกเราบริหาร Huo Group อย่างนั้นเหรอ ? นี่คุณกำลังเล่นละครให้ใครดู ? !” ฮั่วชิงชิงหัวเราอย่างเย็นชา
นึกถึงคุณพ่อเมื่อกี้ที่แม้แต่กำลังจะตายก็ยังพึงพำว่า‘ขอร้อง’สองคำนี้ ฮั่วชิงชิงรู้สึกว่าคำพูดที่ไม่มีเสียงพวกนั้น มันเหมือนราวกับมีดที่กำลังขูดเนื้อ !
เธอเหลือบมองด้านล่าง ตึกนี้สูงมาก ถ้าโดดลงไปละก็แน่นอนว่าร่างกายและกระดูก็คงละเอียดเป็นผง
แต่เธอก็เคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ตอนนี้คุณพ่อที่รักทะนุถนอมตัวเองจากไปแล้ว เธอ ยังจะมีอะไรให้อาลัยอาวรณ์อีก ?
เธอก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็พูดกับหันจื่ออี้ผ่านหูโทรศัพท์ : “ จื่ออี้ คุณรู้ไหมว่าคุณจะขู่เข็ญให้ฉันตายอีกคน ? ”