ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 408 วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของพวกเขา
ฮั่วชิงชิงหวั่นใจ หันจื่ออี้เมื่อกี้หมายความว่าไง?
เขาใช้ความแค้นมาเป็นแรงผลักดันตั้งแต่แรกเลยรึไง ตอนนี้แก้แค้นสำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นแม้แต่พลังในการมีชีวิตก็ไม่มีแล้ว?
จริงด้วย เขาว่าคนที่เขารักคือหลานเสี่ยวถาง ตอนนี้หลานเสี่ยวถางแต่งงานแล้ว ดังนั้นเขาเลยหมดกำลังใจ…
ฮั่วชิงชิงกำลังจะพูดอะไร แต่จู่ ๆก็คิดได้ เธอยังจะเชื่อคำพูดของเขาได้อีกหรือ?
เธอบอกตัวเอง เขาก็แค่กำลังแสดงละครเท่านั้น! เขาใช้ความใจอ่อนของเธอ ตกหลุมพรางของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้ทำให้พ่อนอนตายตาไม่หลับ!
เธอจะไม่ทำผิดซ้ำอีกแล้ว!
ตอนฮั่วชิงชิงจะพูดคำพูดเสียดสีออกไป หันจื่ออี้ยังคงทำตามที่พูดเหมือนเมื่อกี้ ใช้แรงทีละนิด ก็เหมือนชูมือยกขึ้น ค่อยๆดึงฮั่วชิงชิงขึ้นไป
ในขณะนี้ ศีรษะของเธอระดับเดียวกับดาดฟ้าแล้ว หันจื่ออี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว เลยพูดว่า “ชิงชิง คุณปีนขึ้นข้างบนเดี๋ยวนี้!ไม่ต้องกลัวผมจะรับคุณไว้”
ฮั่วชิงชิงได้ฟังคำพูดเขา หัวใจสั่นไหวนิดๆ
เดิมทีเธออยากตาย แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นดิ้นรนเอาตัวรอด?
แต่เธอยิ่งขึ้นข้างบน เห็นรอยเลือดบนมือของหันจื่ออี้ก็ยิ่งชัดเจน ตอนนี้ยังคงมีเลือดไหลออกมา
เธอรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก รีบเบนสายตาออก แล้วพยายามยกข้อศอกชิดขอบดาดฟ้า
ใช้แรงข้อศอก ขาก็ยกขึ้นไปด้วย แต่เดิมร่างกายเธอก็ไม่มีแรงอะไร ตอนกำลังจะยันขึ้นไป แขนอ่อนแรง ร่างกายหล่นไปข้างล่าง!
แต่ด้านหลังเธอกลับมีฝ่ามือข้างหนึ่งรับเอาไว้ ฮั่วชิงชิงได้ยินเสียงพูดอย่างยากลำบากของหันจื่ออี้ “ชิงชิง พยายามสู้อีกหน่อย!”
เธอรู้สึกฝ่ามือด้านหลังร้อนมาก เดิมที่ต่อต้านตอนนี้เหมือนกลายเป็นพลัง ฮั่วชิงชิงใช้แรง ในที่สุดก็ยันขึ้นไปได้
หันจื่ออี้ถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก
เพราะในที่สุดมืออีกข้างก็อิสระแล้ว เพราะฉะนั้นเขาปีนขึ้นดาดฟ้าอย่างราบรื่น
ขณะนี้ ฮั่วชิงชิงลุกขึ้น เธอหมุนตัวเดิมอยากไปดูว่าหันจื่ออี้เป็นยังไง แต่เพิ่งเดินถึงขอบ ก็ถูกหันจื่ออี้ที่เพิ่งขึ้นมาทับไปบนพื้นอย่างแรง
เพียงแต่ตอนพวกเขาจะถึงพื้น เขาพลิกตัวเธอ ดังนั้นเขาถูกทับไว้ด้านล่าง เธอที่อยู่ด้านบนไม่รู้สึกเจ็บเลย
“ชิงชิง อย่าโดด!”แขนของหันจื่ออี้กอดฮั่วชิงชิงไว้แน่น แต่สั่นนิดๆ
ฮั่วชิงชิงนิ่งไป เขาหมายความว่าไง?
ก็ได้ยินหันจื่ออี้รีบพูด “น้องสาวคุณยังเรียนมหาลัย คุณกล้าทิ้งเธอ ให้เธออยู่บนโลกอย่างไร้ญาติขาดมิตรเหรอ? ผมรู้ว่าคุณเจ็บปวดมาก ทั้งหมดเกิดจากผม แต่ผมก็อยากขอร้องคุณ อย่าโดด!”
ที่แท้เขาพุ่งตัวมาเมื่อกี้ เป็นเพราะนึกว่าเธอยังจะกระโดดลงไปอีก?
เขาเกลียดพ่อเธอไม่ใช่เหรอ รู้สึกว่าเธอน่าขยะแขยงเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกังวลแบบนี้?
ฮั่วชิงชิงว้าวุ่นใจ แต่ไม่ช้าเธอก็กดอารมณ์เหล่านั้นลงไป
เขาทำทุกอย่าง มีจุดประสงค์ทั้งนั้น!เธอห้ามโดนเขาบงการอีก!
ตอนนี้ เหมือนเพราะฮั่วชิงชิงยังไม่กลับมา ดังนั้น แม่บ้านจางของตระกูลฮั่วก็เลยมาตาม เห็นหันจื่ออี้กอดฮั่วชิงชิงอยู่บนดาดฟ้า เธอตกใจจนน้ำตาไหลออกมา
“ชิงชิง ทำไมเธอถึงมาตรงนี้! เธออยากให้พวกเราหัวใจวายตายรึไง?”
แม่บ้านจางเป็นคนดูแลฮั่วชิงชิงตั้งแต่เด็ก ถึงขนาดรู้สึกกับเธอมากกว่าคุณแม่
เพราะฉะนั้น เธอรีบออกจากอ้อมกอดหันจื่ออี้ ส่ายหน้าให้แม่บ้านจาง “ป้าจาง ฉันเปล่า ฉันแค่ขึ้นมาสูดอากาศ!”
“ชิงชิง เธอจะทำอะไรทำไมป้าจะไม่รู้ เด็กคนนี้ ทำไมถึงโง่แบบนี้!”แม่บ้านจางพูดอยู่ เดินเข้าไปกำลังจะดึงฮั่วชิงชิง พลันก็เห็นแผลของหันจื่ออี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “คุณหัน ทำไมคุณเจ็บหนักแบบนี้?รีบลงไปให้หมอตรวจ!”
ฮั่วชิงชิงได้ยินคำพูดของแม่บ้านจาง มองแผลที่มือของหันจื่ออี้อย่างไม่รู้ตัว
เขาเหมือนสัมผัสได้ถึงสายตาเธอ กำหมัดไว้ทันที พูดเรียบ ๆว่า “ไม่เป็นไร แผลถลอกนิดหน่อยเท่านั้น”
แม้ว่าจะพูดอย่างนั้น แต่เมื่อกี้ฮั่วชิงชิงเห็นแล้ว มือของหันจื่ออี้ไม่มีบริเวณไหนที่สภาพดีเลย เลือดและเนื้อเละเทะ ได้เห็นต้องตกใจ
เธอรู้สึกทรมานเหมือนใจถูกเข็มทิ่ม แต่ความเกลียดชังทำให้เธอกดความรู้สึกทุกอย่างลงไป
“ไม่เป็นไรได้ยังไง คุณหัน ตอนนี้ท่านชายฮั่วตายแล้ว ในบ้านก็ไม่มีผู้ชายคนอื่น พึ่งความช่วยเหลือจากคุณทุกอย่าง…”แม่บ้านจางพูดถึงตรงนี้ น้ำตาไหล่ออกมา “เมื่อเช้าเราส่งคนไปแจ้งท่านผู้หญิงฮั่ว แต่ท่านกลับพูดว่า บอกเวลาเข้าร่วมงานศพก็พอแล้ว!”
ฮั่วชิงชิงคิดถึงความสัมพันธ์พ่อแม่ของตัวเองหลายปีมานี้ก็ปวดใจ บางทีพ่อคงรักแม่ของหันจื่ออี้ตั้งแต่ต้น ที่จริงไม่ใช่เพราะเขาหลายใจ ยังเป็นเพราะการแต่งงานของพวกเขาเจ็บปวดมากจริงๆ?
“ชิงชิง พวกเราควรลงไปแล้ว มีเรื่องมากมายที่ยังต้องจัดการ”หันจื่ออี้เปิดปาก ใช้มือที่ไม่เจ็บนั้นจูงฮั่วชิงชิง
แต่เธอกลับดึงมือหลบ เดินนำหน้าไปก่อน
แม่บ้านจางไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของทั้งสองคน เพียงแค่เดินตามทั้งคู่ลงไป
ขณะนี้ ติดต่อรถขนศพเรียบร้อยแล้ว หันจื่ออี้มองฮั่วเฉิงเลี่ยงที่หลับตาอยู่ถูกยกขึ้นรถส่งไปที่เมรุ
หัวใจเขาว้าวุ่นอย่างรุนแรง ทั้งหมดกลายเป็นขี้เถ้าตามคนนั้นไป เหมือนทุกสิ่งกระจ่างออกมา
ความแค้นหลายปี ในที่สุดก็แก้แค้นสำเร็จ!
ตระกูลฮั่วฮั่วเฉิงเลี่ยงตายแล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่ของเมืองไห่หลิน เพราะฉะนั้น งานศพวันนั้น ราวคนที่คบค้ากับ
ตระกูลฮั่วต่างมากันครบ
เพียงแต่ คนเหล่านั้นมาด้วยความคิดยังไง ไม่มีใครบอกได้
วันนั้น ฮั่วเหมียวเหมี่ยวก็รีบกลับจากมหาลัย สองพี่น้องคุกเข่าอยู่หน้าป้ายหลุมฝังศพตลอด การรับรองและเรื่องหลังจากนั้น ทั้งหมดมีหันจื่ออี้เป็นคนจัดการ
Huo Group ทุกคนต่างคิดว่าคงหายออกจากหน้าประวัติศาสตร์ กลับไม่มีใครคิด คนที่แข่งกับ Huo Group จู่ ๆกลับเงียบสงบ และหันจื่ออี้ฟื้นฟู Huo Groupขึ้นมารวดเร็วราวฟ้าผ่าด้วยตัวเอง กลับสู่ทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้ง
7 วันผ่านไป วันนี้หันจื่ออี้หยิบเอกสารหนึ่งฉบับไปที่ห้องหนังสือ ด้านหลังของเขา ยังมีทนายอีกสองคน
หันจื่ออี้ให้ทนายรอเดี๋ยว เดินไปถึงห้องฮั่วชิงชิง “ชิงชิง”
ฮั่วชิงชิงไม่ได้สนใจเขา หลายวันมานี้ เธอขับตัวเองไว้ในห้อง ไม่พูดกับใคร
หันจื่ออี้ถอนหายใจเบาๆ พูดน้ำเสียงอ่อนลง “ทนายมาแล้ว พวกเราต้องไปเซ็นหนังสือโอนหุ้น”
ฮั่วชิงชิงไม่พูดเหมือนเดิม เพียงแต่ยกมุมปากราวเย้ยหยัน
หันจื่ออี้เห็นเธอไม่ขยับ เลยก้มตัวไป “ถ้าหากคุณไม่ไป ผมอุ้มคุณไปก็ได้”
“หน้าไม่อาย!”ฮั่วชิงชิงถลึงตาให้เขา
หันจื่ออี้ไม่โกรธ รอฮั่วชิงชิงลุกขึ้น ตามเขาไปที่ห้องหนังสือ
ทนายเอาเอกสาร 4 ฉบับวางไว้หน้าฮั่วชิงชิง “คุณฮั่วชิงชิง นี่คือหนังสือโอนหุ้น คุณหันจื่ออี้เซ็นเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่คุณเซ็นชื่อคุณลงไป หุ้นทั้งหมด38%ของHuo Groupที่คุณหันจื่ออี้ถืออยู่ จะโอนเป็นชื่อคุณ รวมกับมรดกก่อนหน้านี้ของคุณ คุณก็คือหุ้นส่วนใหญ่ของ Huo Group”
ฮั่วชิงชิงเงยหน้ามองหันจื่ออี้ เขามองเธออยู่พอดี ประกายตาอ่อนโยน เหมือนเรื่องก่อนหน้านี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าไม่เอาเงินสักบาทจาก Huo Group เธอยังนึกว่าแค่พูดไปงั้นๆ ตอนนี้ดูแล้ว…
เธอดูเอกสาร เหมือนที่ทนายบอกจริงๆ
ฮั่วชิงชิงไม่รู้ว่าหันจื่ออี้ทำแบบนี้เพราะต้องการลดความรู้สึกผิดหรือเปล่า ยังไงถึงแม้สัญญาฉบับนี้มีกับดักอะไร ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้ว และไม่มีอะไรให้สูญเสีย
เพราะฉะนั้น เซ็นก็เซ็น!
ฮั่วชิงชิงเซ็นชื่อตัวเองบนเอกสารทั้ง 4 ฉบับ
ทนายเก็บ 2 ฉบับ ยื่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เหลือ 2 ฉบับ ให้ทั้งสองคนเก็บไว้
ในห้องเหลือแค่หันจื่ออี้ กับฮั่วชิงชิง
เขาดูเอกสาร เปิดปากพูด“ชิงชิง ตอนนี้คุณเป็นหุ้นส่วนใหญ่ มีอำนาจในการเสนอปลดCEO แต่ตอนนี้ข้างกายคุณไม่มีคนรู้ด้านนี้ ถ้าหากคุณไม่เชื่อใจผม ผมสามารถเซ็นข้อตกลงอีกฉบับให้คุณ ในหนึ่งปีนี้ ผมจะสอนทุกเรื่องที่ผมรู้ รอคุณจัดการได้ด้วยตัวเอง ผมจะลาออกจากตำแหน่งCEOเอง…”
“ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการให้คุณสอน เพราะอยู่ร่วมกับคุณทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน! บนโลกนี้มีคนรู้เรื่องการจัดการธุรกิจมากมาย ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะเป็นอยู่คนเดียว”ฮั่วชิงชิงหมุนตัวออกไป ไม่มองหน้าหันจื่ออี้แม้แต่นิดเดียว
หันจื่ออี้ได้ยินคำพูดเธอ หัวใจบีบแน่น แต่หลังจากนั้นครู่เดียว ก็กลับเป็นปกติลุกขึ้นเดินออกไป
ขณะนี้ เมืองหนิงเฉิงที่อยู่ห่างไกล ซูสือจิ่นรับสายหนึ่ง
เช้าตรู่วันนี้ หยานชิงเจ๋อก็บอกว่าจะไปบริษัท ให้เธอกินข้าวเที่ยงเอง
ช่วงเช้าเธอจะไปเซ็นสัญญากับทางโรงงานพอดี จองตัวอย่าง1ล็อต เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยนอนอิ่ม
เสียงโทรศัพท์ดัง ซูสือจิ่นเห็นว่าเป็นผู้ช่วยของหยานชิงเจ๋อ เลยกดรับ “ฮัลโหล”
“คุณนาย ประธานหยานให้ผมบอกคุณ คืนนี้ 1 ทุ่ม เขาไปเจอเพื่อนที่โรงเรียนมัธยมหนิงเฉิน ถึงเวลานั้นให้คุณไปร่วมด้วย”ผู้ช่วยบอก“หกโมงครึ่งผมรอรับคุณที่ใต้ตึก ถ้าหากหิวล่ะก็ คุณกินรองท้องมาหน่อย คิดว่าประมาณ ทุ่มครึ่งถึงได้ทานอาหาร”
ซูสือจิ่นสงสัยนิดๆ หยานชิงเจ๋อไปเจอใคร?เธอดูปฏิทิน ถึงเห็นว่าวันนี้เป็นวันครบรอบ1 ปีที่แต่งงาน
เพียงแต่ เห็นได้ชัดว่าเขาลืมไปแล้ว เพราะเขาบอกว่าจะไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง หรือว่าจะเป็นคุณครูที่ดีกับเขามากตอนสมัยเรียน?
ก็จริง วันเกิดครูคนนั้นเหมือนจะเป็นช่วงนี้ เป็นงานเลี้ยงวันเกิดเหรอ?
ซูสือจิ่นรู้สึกหงุดหงิดใจ เขาจำวันเกิดครูได้ กลับลืมวันครบรอบแต่งงานของพวกเขา…
แม้ว่า วันนี้เมื่อ 1 ปีก่อน พวกเขาจะไม่มีความสุข
เธอเก็บความไม่พอใจไว้ ถาม “ฉันต้องใส่ชุดราตรีไหม?”
ผู้ช่วยบอก “ไม่ต้อง คุณสวมเสื้อผ้าปกติก็พอ ประธานหยานว่า ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว ให้คุณสวมเสื้อผ้าหนาหน่อย อย่ากลัวว่าหนามากจะไม่สวย อย่าเป็นหวัดอย่างเด็ดขาด”
ซูสือจิ่นได้ยิน ก็สบายใจขึ้นหน่อย “ได้ ฉันรู้แล้ว”
กลางคืน 6 โมงครึ่ง เธอรับสายผู้ช่วยแล้วเดินลงตึก 1 ทุ่มมาถึงหน้าประตูโรงเรียนมัธยมหนิงเฉิน
“คุณนาย ประธานหยานรอคุณอยู่ต้นดอกชบาด้านหน้า” ผู้ช่วยชี้ไปที่ถนนดำมืดข้างหน้า