ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 409 เธอยอมแต่งกับฉันใหม่อีกครั้งไหม
ซูสือจิ่นงงนิดๆ แต่เธอรู้จักผู้ช่วยคนนี้ เลยไม่ได้สงสัยพยักหน้า สวมผ้าพันคอลงจากรถ
และไม่รู้ทำไมบริเวณรอบๆวันนี้ กลับไม่มีแสงสว่าง ในใจซูสือจิ่นหวาดกลัวนิดๆ เลยเดินไปพลาง ยกมือถือโทรหาหยานชิงเจ๋อไปพลาง
โทรติดในเวลาอันรวดเร็ว เธอถาม “พี่ชิงเจ๋อ ฉันถึงแล้วแต่ที่นี่มืดมาก ฉันมองไม่เห็นพี่”
“เสี่ยวจิ่น ฉันเห็นเธอแล้ว เธอเดินตรงมาเรื่อย ๆ ฉันรอเธออยู่ตรงนี้”หยานชิงเจ๋อพูด
แม้รู้สึกว่าหยานชิงเจ๋อลับๆล่อๆ แต่ซูสือจิ่นก็ตอบกลับไป “ค่ะ” แล้วเดินไปข้างต่อ
เข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ซูสือจิ่นก็นึกถึงครั้งแรก ที่ใจเธอเต้นกับหยานชิงเจ๋อ เหมือนจะอยู่ใต้ต้นดอกชบา
เพียงแต่ ตอนนี้เป็นต้นฤดูหนาว แต่ตอนนั้นเป็นต้นฤดูร้อน ถึงจะมีดอกชบาเต็มต้น และเขาที่ยืนใต้ต้นไม้
เธอยิ่งเข้าใกล้ อาจเป็นไปตามสัญชาตญาณ ซูสือจิ่นแม้ว่ายังเห็นไม่ชัด กลับรู้ว่าหยานชิงเจ๋อก็อยู่ตรงหน้า
เธอเปิดปาก “พี่ชิงเจ๋อ”
ตามเสียงที่พูดจบของเธอ จู่ ๆเธอก็รู้สึกตาพร่ามัว
เดิมสีท้องฟ้าที่มืดมิด จู่ ๆก็ถูกความงดงามแทนที่ และต้นดอกชบาด้านหน้าต้นนี้ จู่ ๆก็มีดอกชบาเบ่งบานเป็นร้อยเป็นพันดอก
หยานชิงเจ๋อยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มีเงาดอกไม้จำลองตกกระทบ บนตัวของเขา
เขาสวมชุดสูท ผูกเนกไท รองเท้าหนังแวววาว ลักษณะเหมือนออกงานที่เป็นทางการ
ใบหน้าของเขา ถูกแสงส่องเป็นสีนวล แสงและเงา ยิ่งทำให้ใบหน้าที่ดูดีอยู่แล้วหล่อขึ้นไปอีก ทำให้คนลืมหายใจไปชั่วขณะ
เห็นซูสือจิ่นนิ่ง หยานชิงเจ๋อยิ้มให้เธอ แล้วก้มตัวเก็บดอกชบาดอกหนึ่งจากพื้น การกระทำเหมือนปีนั้น
ซูสือจิ่นมองด้วยความช็อก บนต้นไม้ ตอนนี้แสงและเงาเดิมที่ล่องลอยอยู่ แต่ดอกในมือที่หยานชิงเจ๋อเก็บมา กลับเป็นดอกจริงๆ
เขาเห็นดวงตาเธอเบิกโต อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วยื่นมือไปทางซูสือจิ่น “เสี่ยวจิ่น มานี่”
ซูสือจิ่นนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เดินเข้าไป หัวใจกระวนกระวาย
หยานชิงเจ๋อกุมมือเธอไว้ในฝ่ามืออย่างรวดเร็ว เขาพูดด้วยความสงสาร “สวมเสื้อผ้าหนาขนาดนี้แล้ว ทำไมมือยังเย็นขนาดนี้?”
เธอกัดริมฝีปาก “คนอื่นเกิดมาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว!”
หยานชิงเจ๋อเห็นเธองอน ใบหน้าที่เอ็นดูยิ่งแสดงชัดขึ้น เขาพูดอ่อนโยน “ไม่เป็นไร หลังจากนี้ฉันจะช่วยเธอกุมไว้ตลอดเวลา”
ซูสือจิ่นแก้มแดง กำลังจะพูดอะไร ต้นดอกชบาตรงหน้า จู่ๆก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
เปลี่ยนแปลงตามแสง ความสว่างของต้นดอกชบาอ่อนลง และรูปถ่ายสี่เหลี่ยมแจ่มชัดขึ้นทีละใบ
รูปถ่ายเหล่านั้น เป็นเธอหรือไม่ก็เขา ยังมีรูปบางส่วน ที่พวกเขาถ่ายด้วยกัน
ตั้งแต่วันที่เธอเริ่มตกหลุมรัก จนถึงตอนปัจจุบัน รูปถ่ายแต่ละใบเหมือนบันทึกเรื่องราวที่ผ่านมาของพวกเขา
มีช่วงเวลาที่มีความสุข มีพบเจอและจากลา
หัวใจเต็มแรงขึ้น มีคำตอบอะไรพุ่งออกมา
ซูสือจิ่นมองหยานชิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ หน้าตาของเขายังคงเป็นลักษณะที่เธอชอบที่สุดในความทรงจำ นานขนาดนี้แล้ว ทุกครั้งเห็นเขายังคงใจเต้นแรงเหมือนเดิม
ตอนที่ไม่รู้จะพูดอะไรดี หยานชิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ จู่ ๆก็บิดตัวมา แล้วคุกเข่าข้างหนึ่งให้ซูสือจิ่น
เขาจะขอเธอแต่งงานเหรอ?
หลายวันมานี้ เธอยังคิดอยู่ เขาเอาแต่พูดว่าเธอเป็นเมียเขา แต่กลับไม่เคยคิดถึงเรื่องขอแต่งงานเลย รู้สึกน้อยใจนิดๆ
แต่เธอคิดไม่ถึง เขาที่ไม่เก่งในด้านความรักแบบนี้ กลับตั้งใจออกฉากขอแต่งงานโรแมนติกขนาดนี้
ซูสือจิ่นจ้องหยานชิงเจ๋อที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นจนไม่รู้จะวางมือเท้าไว้ที่ไหน
ยังคงเป็นหยานชิงเจ๋อที่พูดก่อน
เขาเงยหน้ามองเธอ น้ำเสียงชัดเจนในความมืดมิด เสียงดีราวกับเสียงเปียโน “เสี่ยวจิ่น วันนี้เป็นวันพิเศษหนึ่งสำหรับฉัน ไม่ใช่แค่เพราะวันนี้เมื่อปีที่แล้ว พวกเรามีความสัมพันธ์ครั้งแรกแบบสามีภรรยา และมีรับความคุ้มครองทางกฎหมาย แต่เป็นเพราะ12ปีก่อนของวันนี้ เป็นจูบแรกของเรา”
“อะไรนะ?”ซูสือจิ่นมองหยานชิงเจ๋อด้วยความตกใจ
“ตอนนั้น เธออายุ 12 ปี ฉันจำได้แม่น ตอนดึกคืนนั้นเธอโวยวายอยากกินของเสียบไม้ ฉันก็ไปเป็นเพื่อนเธอ”หยานชิงเจ๋อนึกย้อนไป พูดว่า “ตอนนั้นเธอมั่นใจในการกินเผ็ดของตัวเองเกินไป หลังจากกินเห็ดเข็มทองไปจานหนึ่ง เผ็ดจนน้ำตาไหลออกมา”
ซูสือจิ่นจำได้แล้ว
ตอนนั้น เธอเผ็ดมากจริงๆ ดังนั้นตามหาน้ำดื่มไปทั่ว เหมือนดื่มอะไรของหยานชิงเจ๋อไป
“แต่ฉันจำไม่ได้ว่าพวกเราเคยจูบกัน?”ซูสือจิ่นพูดงงๆ
“เพราะเธอหาน้ำดื่ม ดื่มของตัวเองหมด ก็มาเอาของฉัน และตอนนั้นเถ้าแก่เสิร์ฟผิด เสิร์ฟเหล้าขาวให้ฉัน แล้วเธอไม่รู้ ดื่มไปอึกใหญ่ ”หยานชิงเจ๋อหน้าเข้ม “เธอเมาแล้วจูบฉัน”
ซูสือจิ่นเบิกตากว้างทันที ไม่อยากจะเชื่อ ตัวเองที่อายุ 12 ปีกลับกล้าทำเรื่องแบบนั้น
น้ำเสียงหยานชิงเจ๋ออ่อนลง “ตอนนั้น หัวใจฉันเต้นช้าลงหนึ่งจังหวะ”
ซูสือจิ่นมองเขาอย่างตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“เพราะงั้น หลังจากจากครั้งนั้น จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเธอโตแล้ว ไม่ใช้เด็กผู้หญิงแล้ว ฉันไม่กล้ากอดเธอเหมือนเมื่อก่อน ไม่กล้าหอมแก้มเธอ ยิ่งไม่ยอมเพราะความเหนื่อยเลยให้เธอนอนบนเตียงฉัน”หยานชิงเจ๋อหัวเราะ “ฉันบอกตัวเองตลอดเวลา เธอเป็นแค่น้องสาวฉัน ไม่พูดไม่ได้ ฉันล้างสมองตัวเองสำเร็จ ฉันคิดว่าตัวเองรู้สึกกับเธอ แค่เพียงพี่น้อง”
“เพราะฉะนั้น…”ซูสือจิ่นคิดอยู่ ตอนเธอเพิ่งอายุ 12 ปี และตอนนั้นเธอยังไม่ได้ชอบเขา เพราะเธอมีใจให้เขาตอนปีที่ 2 เดือน 6
“เพราะฉะนั้น เสี่ยวจิ่นเป็นฉันที่ชอบเธอก่อน”หยานชิงเจ๋อเสริมคำพูดเธอให้สมบูรณ์
พูดอยู่ เขาหยิบกล่องแหวนสีแดงที่สวยหรูหนึ่งจากกระเป๋าเสื้อสูท
เขาเปิดออกช้าๆ มีแหวนเพชรพวกเขาอยู่ด้านใน
แหวนเพชรวงนี้ เขาใช้มันเอาชนะแจ็คก่อนหน้านี้ แต่ซูสือจิ่นบอกไม่แต่ง ดังนั้นกลับบ้านไปเลยถอดมันออก
“เสี่ยวจิ่น เดิมฉันคิดอยากจะเปลี่ยนแหวนเพชรแบบอื่น แต่กลับมาคิดวิเคราะห์ดีๆ”สายตาหยานชิงเจ๋อมองไปที่แหวนเพชรวงนั้น น้ำเสียงเหมือนตกอยู่ในภวังค์
“เพราะเริ่มแรกฉันอยากดูแลเธอไปตลอดชีวิตจริงๆ ใช้ความคิดนี้ไปเลือกแหวนด้วยกันกับเธอ เพียงแต่เวลานั้นฉันไม่รู้อะไรคือรัก ทำเรื่องมากมายที่ทำให้เธอผิดหวังและปวดใจ ดังนั้นตอนนี้ ฉันยังคงอยากใช้มัน รักษาร่องรอยความเจ็บปวดทั้งหมดให้หายไป”
“ฉันยอมใช้ทั้งชีวิต มาปกป้อง ดูแล และรักเธอ จะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก”
ระหว่างที่พูด เขาสูดหายใจลึกๆ “เสี่ยวจิ่น เธอจะยอมแต่งงานกับฉันอีกครั้งไหม?”
ซูสือจิ่นกลั้นหายใจ รู้สึกหัวใจเต้นแรงจนชนหน้าอกอีกครั้ง รู้สึกเวียนหัว เวลาเดียวกันใบหน้ากลับร้อนขึ้น
เธอพยาบาลกะพริบตา แต่น้ำตาไหลยังคงออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ฟ้ารู้ เธอรอคำพูดนี้ของเขามานานแค่ไหน!
ไม่รอซูสือจิ่นตอบ หยานชิงเจ๋อพูดต่อ“ฉันรู้ สถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากคบกับฉัน เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากตรงนี้ อนาคตของพวกเรา ก็เริ่มขึ้นจากตรงนี้ เสี่ยวจิ่น ฉันรักเธอ แต่งงานกับฉันได้ไหม?”
ซูสือจิ่นพยักหน้า ร้องไห้ไม่มีเสียงเหมือนเดิม
หยานชิงเจ๋อยกมือซ้ายเธอขึ้น แหวนวงที่ไร้เจ้าของมา10เดือนกว่า สวมไปบนมือเธออีกครั้ง
นิ้วนางพวกเขาติดกัน แหวนชิดกัน ภายใต้แสงและเงา ยิ่งเปล่งประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ซูสือจิ่นกุมมือหยานชิงเจ๋อไว้ ดึงเขาลุกขึ้นมา
เขาเพิ่งลุกขึ้น ก็เหนี่ยวเอวเธอเข้ามาทันที แล้วก้มตัวจูบลงไป
เหมือนเป็นจูบแรก และเหมือนห่างกันมานาน ในเวลาสั้นๆแยกกันยาก
จนกระทั่ง เสียงดอกไม้ไฟดังขึ้นเหนือศีรษะ หยานชิงเจ๋อถึงปล่อยซูสือจิ่นออก จูงมือเธอมองความงดงามของดอกไม้ไฟที่สว่างเต็มท้องฟ้า
“สวยจัง!” สายตาซูสือจิ่นเต็มไปด้วยความหลงใหล “ชิงเจ๋อ คุณเป็นคนทำเหรอ?”
เขาได้ยินการเรียกของเธอเปลี่ยนไป หัวใจเหมือนเต็มไปด้วยดอกไม้ไฟ หยานชิงเจ๋อพยักหน้า มองริมฝีปากแวววาวของซูสือจิ่น อดไม่ได้ที่จะจูบลงไป “อืม เธอลืมแล้วเหรอ ตอนมัธยมเธอเคยบอกฉัน ตอนตัวเองถูกขอแต่งงาน อยากให้มีดอกไม้ไฟที่จุดไว้เรื่อยๆ”
หลังจากดูละครรักเลยพูดไปเรื่อยของเธอ เขากลับจำมันได้ทั้งหมด
ซูสือจิ่นใจสั่น รู้สึกความเสียใจ เจ็บปวด การจากลาที่ทรมาน ที่เคยผ่านมาอย่างยาวนาน ทั้งหมดคุ้มค่า
รอบตัวพวกเขา รูปถ่ายฉายออกมาไม่หยุด
ซูสือจิ่นเห็น ตอนเขาวัยรุ่น จูบมือเธอตอนเด็กในซอยเล็กของหนิงเฉิง เธอยังมีปิงถังหูหลุหนึ่งไม้ในมือ กินเลอะเทอะเต็มปาก เขาก้มหน้ามองเธอด้วยความเอ็นดู
ยังมี เหมือนตอนเธอเพิ่งขึ้นปฐมชั้นปีที่1 เขาขี่จักรยาน เธอนั่งอยู่ตรงแก่นหน้าของจักรยาน มือเขาหนึ่งของเขาโอบเอวเธอไว้ มืออีกข้างจับรถ ท่าทางสง่างาม
หลังจากนั้น พวกเขาไปเล่นสเกตด้วยกัน เธอสวมเสื้อผ้าหนา เหมือนซาลาเปาเล็กๆ ความสูงถึงแค่หน้าอกของเขา ดูเหมือนผู้ใหญ่จูงเด็ก
แล้วไปปิกนิกด้วยกัน เขาหั่นผักอยู่ เธอนั่งรอกินอย่างเด็กดี ท่าทางเหมือนคนตะกละ
เวลาผ่านไปเร็วมาก บันทึกช่วงเวลานั้นอย่างไม่ตั้งใจ เก็บไว้ถึงตอนนี้ กลายเป็นหลักฐานที่ผ่านมาของพวกเขา
ต่อมาพวกเขาต่างโตขึ้น
เธอไปที่เมืองของเขา ควงแขนเขาไว้ เอนศีรษะตัวเองไปบนไหล่เขาเงียบๆ เขาไม่รู้ตัว เธอกลับยิ้มด้วยความสุข
ต่อมา พวกเขาแยกกันแล้ว เธอหนีไปต่างประเทศ และเขากลับตามหาด้วยความบ้าคลั่ง
เธอเห็น เขาเหมือนตามเธอไปเกือบทั่วยุโรป หลายที่ เธอเหมือนเพิ่งผ่านไป เขากลับมาช้าหนึ่งก้าว
ถึงขนาดที่ ซูสือจิ่นยังเห็นรูปถ่ายหนึ่งในเมืองโรม ในมุมที่ไม่สะดุดตา มีด้านหลังครึ่งตัวของเธออยู่ หากไม่ใช่ว่าเธอจำเสื้อผ้าที่สวมตอนนั้นได้ เกรงว่าตัวเองก็ดูไม่ออก…
ถึงตอนสุดท้าย เธอกลับมาแล้ว เธออุ้มหวันหว่านอยู่ เขาโอบไหล่เธอไว้
ทุกอย่างค่อยๆดีขึ้น ในที่สุดพวกเขาคืนดีกัน รูปถ่ายหลังจากนั้นมีแต่ความหวานชื่น
ดูรูปถ่ายทั้งหมดแล้ว ซูสือจิ่นรู้สึกเหมือนผ่านห้วงกาลเวลา
ที่แท้พวกเขารู้จักกันมา20ปีแล้ว อย่างไม่ทันรู้ตัว
ชีวิตคนเราจะมี20ปีได้กี่ครั้ง? โชคดีที่เดินมาครึ่งค่อนชีวิต เธอยังคงกลับมาอยู่ข้างกาย