ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 414 บริการหมอนวดคุณภาพขั้นสูง
และเวลานี้ กลุ่มเพื่อนของหยานชิงเจ๋อก็ต่างตื่นตกใจ
หลายคนที่ไม่รู้ว่าเขามีแฟนแล้วก็รีบออกมาถามข่าวคราว ปกติเขาจะไม่สนใจพวกคำถามประเภทซุบซิบนินทา แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ตอบกลับทีละคนๆอย่างอดทน
ซูสือจิ่นเห็นการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มเพื่อนของเขามากมายขนาดนั้น ด้วยเหตุนี้ จึงนำภาพส่งไปในกลุ่มเพื่อน ตามด้วยคำสามคำ : “รออั่งเปา”
ใครจะรู้ เพิ่งจะส่งออกไปได้ไม่ถึง 1 นาที วีแชตของเธอก็ดังขึ้นมา และหลังจากนั้นก็ได้รับอั่งเปาซองแรก
เป็นสือมูเฉินที่ส่งมา จำนวน 13.14 หยวน
ซูสือจิ่นแลบลิ้นออกมา : “พี่เฉิน ขี้เหนียวจริงๆเลย!”
“ไม่รู้จะทำยังไง อั่งเป่าจำกัดจำนวนเงินอยู่ที่ 200 หยวน ฉันอยากจะส่งให้ 1314 หยวน” สือมูเฉินตอบกลับ
ซูสือจิ่นจึงกล่าวว่า : “โอเค ยกโทษให้คุณ”
ไม่นาน คำอวยพรก็เด้งขึ้นมา ซูสือจิ่นเปิดดู เป็นลั่วฝานหวาส่งมา และให้อั่งเปาหนึ่งซอง กับคำอวยพรเรียบง่าย : “ซื่อจิ่น ขอให้คุณมีความสุขนะ”
ซูสือจิ่นเปิดอั่งเปา ข้างในมี 99.9 หยวน
ซูสือจิ่นรู้สึกซาบซึ้งใจ จึงตอบกลับไปว่า : “ขอบคุณนะ! คุณใจกว้างกว่าพี่เฉินเยอะเลย”
โทรศัพท์ทางด้านนั้น ลั่วฝานหวาเห็นการตอบกลับของซูสือจิ่น ก็หัวเราะ แล้วพูดกับจินเยว่ฉีที่อยู่ข้างๆว่า : “เยว่ฉี สือจิ่นจดทะเบียนสมรสแล้วนะ”
“ห๊ะ?” จินเยว่ฉียิ้ม : “พวกเขารวดเร็วจริงๆ!”
“รอหาวันที่เหมาะสมได้แล้ว เราก็ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ลั่วฝานหวาพูดจบ ก็เงียบไปสองวินาที จากนั้นก็พูดว่า : “เยว่ฉี อันที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันเพิ่งจะกลับมา ก็เคยนัดดูตัวกับสือจิ่นด้วย”
จินเยว่ฉีกะพริบตาปริบๆ : “ห๊ะ?”
ลั่วฝานหวาพูดว่า : “แต่เธอชอบหยานชิงเจ๋อมาตลอด ฉะนั้น วันนั้นที่นัดดูตัวเธอก็บอกกับฉันว่า เธอเพียงแค่ทำแบบขอไปที”
“อืม รู้สึกว่าซูสือจิ่นจะเป็นผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาดีนะ!” จินเยว่ฉีไม่ได้คิดมาก แต่ยิ้มแล้วพูดว่า : “ถึงอย่างไรต่อจากนี้ไปทุกๆคนก็เป็นเพื่อนกัน ถึงแม้ว่าจะเคยนัดดูตัวกัน ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ฉันไม่ถือสาหรอก!”
ลั่วฝานหวารู้สึกโล่งใจ จับมือของจินเยว่ฉีด้วยความซาบซึ้งใจ : “ขอบคุณนะ เยว่ฉี”
“ทำไมต้องสุภาพขนาดนี้ด้วย?” จินเยว่ฉีชี้ไปที่กล่องหลายอันที่อยู่ข้างๆ : “มาเถอะ ฝานหวา เรามาแกะกล่องของขวัญกันเถอะ!”
ลั่วฝานหวาเห็นท่าทางดีใจของเธอ ชั่วขณะก็รู้สึกว่า ชีวิตในอนาคตจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน
เห็นคุณค่าสิ่งที่อยู่ข้างกาย อย่ากังวลกับผลได้ผลเสียของตนเอง เพียงเท่านี้ก็คว้าความสุขไว้ในมือได้อย่างมั่นคงแล้ว
เขาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มาหยุดอยู่ข้างๆจินเยว่ฉี : “โอเค เรามาแกะกันทีละอันนะ!”
เพราะครั้งนี้ที่ซูสือจิ่นกลับมาไม่ได้เป็นการอยู่ถาวร อีกทั้งการจดทะเบียนสมรสก็เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากการวางแผนโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นเมื่อเธอได้รับสินค้าตัวอย่างที่โรงงานทางด้านนั้นส่งมา จึงยืนยันที่จะร่วมมือทำการค้ากับหนิงเฉิงทางด้านนี้ และเตรียมกลับไปที่สตูดิโอของเธอ เพื่อทำการย้ายสถานที่ให้เสร็จสิ้น
หยานชิงเจ๋อได้ยินว่าเธอจะต้องไป เป็นธรรมดาที่จะไม่ยอม
เขาเพิ่งจะอยู่กับเธอได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน จะปล่อยเธอไปได้อย่างไร?!
เพราะเหตุนี้ เขาจึงทำงานติดต่อกันสามวัน หลังจากจัดการวางแผนล่วงหน้าในหลายๆอย่างเสร็จแล้ว ก็ทำการซื้อตั๋วสองใบ
เขากลายเป็นเด็กที่ตัวติดกันกับเธอ ตามไปยังสตูดิโอของซูสือจิ่นด้วยกัน
อีกอย่าง ในที่สุดครั้งนี้ก็สามารถเงยหน้าอ้าปากได้!
เมื่อก่อนเขาไม่มีสิทธิ์ แล้วก็ไม่กล้าปรากฏตัวอย่างพลการ ดังนั้นทุกๆครั้งที่ไปเจอเธอ ก็จะแอบซ่อนอยู่ตามมุม เห็นเธอพูดคุยเฮฮากับคนอื่น ความรู้สึกนั้น ช่างทรมานจริงๆ!
ครั้งนี้ เขาถือว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ แล้วก็นับว่าเป็นเจ้าของสตูดิโอด้วย หึหึ แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว!
ยังมีเวลาอีกสองวันก่อนที่ซูสือจิ่นจะกลับไปที่สตูดิโอ เย็นวันนี้ หยานชิงเจ๋อกลับมาจากบริษัท ก็มาทานอาหารเย็นกับซูสือจิ่น พักผ่อนสักพัก จากนั้นก็เริ่มทำการดูแลซูสือจิ่นต่อ
ก่อนหน้านี้ สือมูเฉินได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญให้ซูสือจิ่นไปทำการตรวจร่างกาย ซึ่งบาดแผลก็ฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นมากแล้ว แต่เมื่อแผลไปอยู่ใกล้ความชื้น และถ้าหากว่าภูมิต้านทานของร่างกายหรือสิ่งอื่นๆแย่ลง บริเวณนั้นก็จะเจ็บปวดขึ้นมา
พวกเขาจึงขอให้นักวิชาการด้านการรักษาสุขภาพที่มีผลงานค้นคว้าวิจัยมากมายทางด้านนี้ช่วยทำน้ำมันนวดให้กับซูสือจิ่น และหยานชิงเจ๋อยังได้เรียนรู้เทคนิคมาเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ทุกๆวันหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็จะช่วยนวดให้เธอ
ซูสือจิ่นขึ้นไปนอนบนเตียง หลับตาลงอย่างสบายๆ และเพลิดเพลินไปกับการนวดของหมอนวดคุณภาพขั้นสูง
มือของหยานชิงเจ๋อลูบไล้เคลื่อนไหวไปเบาๆใกล้ๆบาดแผลของซูสือจิ่น จากนั้นก็ออกแรงเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณ เพื่อคลายการติดขัดที่เส้นลมปราณออก
บางจุดรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะรู้สึกสบายมากกว่า
ฉะนั้นจึงทำให้ซูสือจิ่นที่หลับตาอยู่ เริ่มเคลิบเคลิ้มสะลึมสะลือเล็กน้อย
ในห้องของพวกเขามีการเปิดเพลงเบาๆเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และครั้งที่แล้วหลังจากที่ไปโรงแรมนั้นของสถานบันเทิง ซูสือจิ่นก็เกิดชอบผ้าม่านโปร่งแสงขึ้นมา ฉะนั้นบนเตียงของพวกเขาจึงมีผ้าโปร่งแสงห้อยลงมาครึ่งหนึ่ง ตามการสั่นไหวเบาๆของคนบนเตียง ก็เกิดการพลิ้วไหวตาม
มือของหยานชิงเจ๋อ นวดตามเส้นลมปราณลงไป สายตาก็เคลื่อนลงไปที่เอวของซูสือจิ่น
ร่างกายส่วนบนเธอไม่ได้สวมใส่อะไร และร่างกายส่วนล่าง ก็มีแค่กางเกงชั้นในตัวเล็กๆตัวเดียว
เกรงว่าน้ำมันนวดจะเปื้อนกางเกงชั้นในจึงดึงพับไว้ ฉะนั้นก้นขาวๆราวกับหิมะจึงเผยออกมาครึ่งหนึ่ง หยานชิงเจ๋อเห็นแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอย่างแรง
ทุกๆครั้งที่ซูสือจิ่นรู้สึกสบายที่สุด เขาก็กลับทรมานที่สุดเช่นกัน
แต่ประสิทธิภาพในการนวดทุกๆวันจำเป็นจะต้องถึงที่ ดังนั้นในเวลา 40 นาทีนี้ของเขา จะสามารถดูได้ ลูบคลำได้ แต่กินไม่ได้!
เขารู้สึกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของตนเองกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ร่างกายได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ยังคงอดทนอดกลั้น จำเป็นที่จะต้องนวดให้เสร็จก่อนที่จะได้เพลิดเพลินกับมื้อใหญ่
เพราะก่อนหน้านี้อดกลั้นมาเป็นเวลา 40นาที ดังนั้น ทุกคืนเขาเป็นเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหย จุดจุดนี้ ซูสือจิ่นที่นอนคว่ำ หลับตาอยู่ ไม่ได้รับรู้โดยสิ้นเชิง
ในที่สุด การนวดก็จบสิ้น หยานชิงเจ๋อพ่นลมหายใจออกยาว จากนั้น ก็โน้มตัวลง โอบกอดซูสือจิ่นจากด้านหลัง แล้วเริ่มจูบ
เธอตอบสนองอย่างสะลึมสะลือ เสียงกระซิบกระซาบ ตกกระทบหูของเขาราวกับสายฟ้าฟาด
ดวงตาของเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น เริ่มจูบบริเวณที่อ่อนไหวของเธอ ช่วงหลายวันมานี้ เขาใส่ใจสังเกตอย่างละเอียด ในที่สุดก็รู้ว่าเขาต้องจูบตรงไหน ต้องจูบอย่างไร เธอถึงจะมีปฏิกิริยามากยิ่งขึ้น
ดังนั้น ซูสือจิ่นจึงถูกเขาจุดไฟ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงกอดเอวของเธอแน่นจากด้านหลัง แล้วสอดใส่เข้าไปอย่างลึกซึ้ง
ทันใดนั้น ภายในห้องก็เต็มไปด้วยเสน่ห์และความรัก
ทุกครั้งที่จบสิ้น ซูสือจิ่นก็ขี้เกียจที่จะขยับตัวอีก และทางด้านหยานชิงเจ๋อก็เช็ดน้ำมันนวดที่เหลืออยู่บนตัวของเธอจนสะอาด จากนั้น ก็โอบกอดเธอแล้วกล่าวว่า : “เสี่ยวจิ่น การบริการเมื่อกี้ของสามีพอใจไหม?”
ซูสือจิ่นพูดอย่างสะลึมสะลือ : “อืม ให้ 95คะแนน”
พอหยานชิงเจ๋อได้ฟัง 95? ไม่ใช่คะแนนเต็มหรอกเหรอ?!
เขายื่นมือไปลูบคลำบริเวณที่จั๊กจี้ของซูสือจิ่น : “คุณภรรยา งั้นคุณบอกว่าซิว่า ฉันบริการไม่ดีตรงไหน ต้องปรับปรุงแก้ไขไหม?”
ซูสือจิ่นง่วงมากแล้ว เธอพึมพำเล็กน้อย : “ดีหมดแล้ว ไม่ต้องปรับปรุงแล้ว!”
“งั้นอีก 5คะแนนนั้นไปอยู่ที่ไหนล่ะ?” หยานชิงเจ๋อเป็นคนที่จริงจังในการทำงาน ดังนั้น เขาจึงรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ จึงเตรียมสอบถามกับซูสือจิ่นให้ชัดเจนสักหน่อย
แต่เธอกลับหาว แล้วหลับไปในอ้อมกอดของเขา
เขาเห็นท่าทีที่น่าเอ็นดูของเธอที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง จึงไม่อยากที่จะรบกวนเธออีก ด้วยเหตุนี้ จึงโอบกอดเธอ แล้วหลับตาลง
แต่ตอนที่ซูสือจิ่นและหยานชิงเจ๋อนั่งเครื่องบินมาด้วยกัน หยานชิงเจ๋อได้มอบแบบฟอร์มให้หนึ่งแผ่น
ซูสือจิ่นมองดู ด้านบนมีตัวอักษรตัวใหญ่เขียนว่า : “แบบสำรวจความพึงพอใจในการให้บริการของสามี
ด้านล่าง หยานชิงเจ๋อมีตัวเลือกไว้ให้มากมาย:
1.ปัญหาของเวลา สั้นเกินไป or นานเกินไป? หรืออื่นๆ?
2.ปัญหาของกำลัง ควรจะเบาลง or แรงขึ้น? หรืออื่นๆ?
3.ปัญหาของท่วงท่า…….
หยานชิงเจ๋อทำไว้ 18 รายการ และทุกๆตัวเลือกจะมีช่องเครื่องหมายอยู่ด้านหลัง
เมื่อนำมารวมแล้ว ก็เป็นรายงานการสำรวจที่ไม่ได้มีรายละเอียดอะไร
สุดท้าย ยังมีข้อความอีกบรรทัดหนึ่งว่า : หวังว่าหลังจากผ่านการประเมินครั้งนี้ไปแล้ว ฉันจะสามารถปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และได้รับ100คะแนนจากคุณภรรยา
ซูสือจิ่นกุมหน้าผาก บ้าจริง ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงพูดว่า 95 และไม่พูดว่า 100ไปนะ?
เป็นอย่างที่คิด หลุมที่ตนเองขุดไว้ให้ตนเอง จะต้องร้องไห้แน่ๆ
ดังนั้นหยานชิงเจ๋อจึงเห็นว่า ในหัวข้อแรกเรื่องเวลา ซูสือจิ่นเลือกว่า : นานเกินไป
จากนั้น เห็นเธอกรอกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาไร้เดียงสา : “คุณภรรยา คุณแน่ใจนะว่าคุณอ่านคำถามดีแล้วถึงได้ตอบ?”
ทำไมทุกคำตอบ ช่างต่างจากความคาดหวังของเขาเหลือเกินล่ะ?
*
Huo Group ภายในเวลาไม่ถึงเดือนหลังจากที่หันจื่ออี้เข้ามาควบคุมดูแล ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ และเนื่องจากมีหลายเรื่องมากที่ Latitude ดังนั้น หันจื่ออี้ต้องกลับไปที่หนิงเฉิง
เขากับฮั่วชิงชิงก็แทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยตลอดหนึ่งเดือน ถ้าจะพูด ทุกครั้งก็เป็นเขาที่พูดกับเธอ เธอเงียบไม่พูดจา อย่างมากสุด ก็พูดประชดเขาสองสามคำ
วันนี้ เขาจองตั๋วเครื่องบินสำหรับสองคน จากนั้นจึงกล่าวว่า : “ชิงชิง กลับหนิงเฉิงด้วยกันกับฉันเถอะ ที่นั่นอากาศไม่หนาวขนาดนี้ คุณจะได้ไม่หนาวจนออกจากบ้านไม่ได้ด้วย”
ฮั่วชิงชิงชำเลืองมองไปยังหันจื่ออี้ : “ตกลงคุณต้องการอะไร?”
หันจื่ออี้ถูกเธอถามจนนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย : “ชิงชิง คุณกำลังพูดอะไรอยู่?”
“ตอนนี้คุณก็มีทุกอย่างแล้วนี่ ฉันก็ให้ในสิ่งที่สามารถให้คุณได้ไปจนหมดแล้ว คุณยังจะพาฉันไปหนิงเฉิงให้คุณต้องขยะแขยงอีกทำไม?” ฮั่วชิงชิงหัวเราะเยาะเย้ย
“ชิงชิง วันนั้นคุณได้ยินหมดแล้วเหรอ? ฉันพูดแบบนั้นกับพ่อของคุณจริงๆ แต่ฉันไม่ได้มีความหมายแบบนั้นเลยนะ…..” หันจื่ออี้กำลังจะอธิบาย ที่ตนเองบอกว่าอยู่ด้วยกันกับเธอแล้วรู้สึกขยะแขยงอย่างมาก ก็เพียงเพื่อทำให้ฮั่วเฉิงเลี่ยงโกรธ แต่หลังจากที่เขาสำนึกได้แล้ว เขาก็ทำให้ฮั่วเฉิงเลี่ยงโกรธจริงๆ และทำให้เขาโมโหจนเสียชีวิต
การตายของฮั่วเฉิงเลี่ยง คือเงื่อนตายของเขาและฮั่วชิงชิง
ดังนั้น เขาจึงหุบปาก เงียบไม่พูดจา
“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ?” ฮั่วชิงชิงมองไปยังหันจื่ออี้ : “เราหย่ากันเถอะ!”
“ชิงชิง คุณพูดอะไรเนี่ย?” หันจื่ออี้มองเธอ : “คุณสุขภาพไม่ดี จากนี้ไปให้ฉันได้ดูแลคุณให้ดีเถอะนะ…..”
“ไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำอีกแล้ว!” ฮั่วชิงชิงกล่าว : “ฉันยอมตายดีกว่า ฉันไม่ต้องการการดูแลจากศัตรูอย่างคุณ!”
หันจื่ออี้ตัวสั่นสะท้าน ภายในห้องเงียบสงัดลงมาถึงขีดสุด
กระทั่งผ่านไปเป็นเวลานาน เขาจึงมองเธอ : “ชิงชิง คุณคิดดีแล้วจริงๆใช่ไหม? แล้วถ้าฉันจะบอกว่า ในอนาคตฉันจะพยายามชดเชยให้ดีที่สุดก็เป็นไปไม่ได้แล้วใช่ไหม?”
“ใช่ ระหว่างเรา มันเป็นไปไม่ได้แล้ว!” ฮั่วชิงชิงกล่าวอย่างเด็ดขาด
ถึงแม้ว่า เธอยังคงรักเขา ความรู้สึกเหล่านั้น ไม่สามารถบอกให้ไม่มีแล้วจะไม่มีได้
แต่เธอก็เกลียดเขา ถ้าเธอยอมรับเขา เพราะพ่อ เธอก็คงไม่มีความสุขไปชั่วชีวิต!
หันจื่ออี้มองเธอ อย่างเศร้าเสียใจ : “ได้ งั้นฉันจะกลับไปหนิงเฉิง แล้วจัดการทำตามระเบียบขั้นตอน”