ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 449 ความเกลียดชังนานวันยิ่งจืดจางลง แต่คุณกลับชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- Home
- ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ
- บทที่ 449 ความเกลียดชังนานวันยิ่งจืดจางลง แต่คุณกลับชัดเจนมากยิ่งขึ้น
หันจื่ออี้ตกตะลึง ดูเหมือนว่าไม่อยากจะเชื่อคำพูดของเธอ : “แต่ว่า……”
ฮั่วชิงชิงพูดตัดบทเขา : “ใช่สิ คีย์การ์ดของคุณ เมื่อคืนฉันหยิบมาเปิดประตู ก็เลยติดมือใส่กระเป๋ามาด้วย ลืมให้คุณเลย”
“เป็นอย่างนี้จริงๆเหรอ?” หันจื่ออี้กล่าวอย่างสงสัย
“เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” ฮั่วชิงชิงเช็ดน้ำตาไปพลาง แสร้งถามอย่างแปลกใจไปด้วย
น้ำเสียงของหันจื่ออี้เคร่งขรึมลงมา : “ไม่มีอะไร ฉันน่าจะเข้าใจผิด อย่างนั้นเมื่อคืนนี้ ก็ขอบคุณนะที่คุณมาส่งฉัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฮั่วชิงชิงพูดจบ ก็วางสายไป
เธอนั่งอยู่บนที่นั่งเป็นเวลานาน จึงเก็บผลรายงานบนพื้นขึ้นมา
สายตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตา เธอไม่ได้นำผลรายงานไปพบหมอที่ตนเองเพิ่งจะจองคิวไป แต่กลับเดินออกจากโรงพยาบาลโดยตรง
อาทิตย์ต่อมา ฮั่วชิงชิงใช้ชีวิตอย่างตกต่ำดำดิ่งอย่างมาก
เธอปิดมือถือ อยู่ในคอนโดมิเนียมคนเดียว มีเพียงแค่ตอนที่หิว จะกินหมั่นโถวหนึ่งอันที่ก่อนหน้านี้ไปซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่าง
ในช่วงเวลานั้น เสียงกริ่งประตูคอนโดมิเนียมของเธอดังขึ้นหลายครั้ง ครั้งแรกเป็นไปรษณีย์ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้ ทำได้เพียงวางซองจดหมายไว้ใต้พรมเช็ดเท้าหน้าประตู แล้วส่งข้อความให้ฮั่วชิงชิง
และต่อจากนั้น ก็เป็นหันจื่ออี้ เขาไม่สามารถติดต่อเธอทางโทรศัพท์ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมาหาเธอถึงหน้าประตูด้วยตนเอง
เวลานั้น เธอยืนอยู่ที่ประตูมองผ่านตาแมว เห็นว่าด้านนอกประตูเป็นเขา รู้สึกเพียงว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาน้อยกว่าห้าสิบเซนติเมตร แต่ราวกับถูกแยกกันจากความเป็นและความตายเลย
เธอยื่นมือไปสัมผัสประตูที่เย็นเฉียบ แต่ในความทรงจำกลับเป็นความเร่าร้อนของผิวหนังพวกเขาที่สัมผัสอยู่ด้วยกันตลอดคืนนั้น
เปรียบเทียบกับเวลานี้ ความสิ้นหวังในใจ ทำให้เธอไม่สามารถหาแรงจูงใจที่จะใช้ชีวิตได้อีกต่อไปแล้ว
จนกระทั่ง หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เธอไปโรงพยาบาล ฮั่วชิงชิงอยากจะบอกเรื่องงานศพกับฮั่วเหมียวเหมี่ยว จึงเปิดเครื่องขึ้นมา
เธอยังไม่ทันจะโทรออกไป ก็มีโทรศัพท์บ้านสายหนึ่งโทรเข้ามา ระบุว่ามาจากหนิงเฉิง
เบอร์บริษัทของหันจื่ออี้ เธอจำได้เป็นอย่างดี แต่เบอร์นี้ชัดเจนว่าไม่รู้จัก
อีกทั้งเธอยังคิดว่า เมื่อเธออธิบายทุกอย่างให้ฮั่วเหมียวเหมี่ยวฟังแล้ว ก็จะนัดหันจื่ออี้ทำเรื่องหย่า เพื่อให้เขาได้เป็นอิสระ
หลังจากนั้นเธอก็จะหาหมู่บ้านริมน้ำที่สงบๆไม่มีใครรู้จักสักหลังหนึ่ง และใช้เวลาในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ที่นั่น
ฮั่วชิงชิงกดรับสาย : “สวัสดีค่ะ”
“คุณฮั่วชิงชิงใช่ไหมคะ?” เป็นเสียงผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง
อืม ค่ะฉันเอง” ฮั่วชิงชิงกล่าว
“ในที่สุดก็หาคุณเจอ!” น้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นโล่งใจ จากนั้นก็กล่าวว่า : “ฉันมาจากแผนกตรวจวินิจฉัยของโรงพยาบาลนะคะ อันที่จริงต้องขอโทษด้วย วันนั้นผลรายงานที่ให้คุณก่อนหน้านี้เป็นของผู้ป่วยท่านอื่น เพราะว่าตอนนั้นคอมพิวเตอร์มีปัญหา ชื่อเป็นชื่อของคุณ แต่ไม่มีเนื้อหา เราจึงพิมพ์ใหม่อีกครั้ง แต่ต่อมาก็พบว่าไม่ใช่ของคุณ กลับเป็นของผู้ป่วยท่านอื่น!”
ฮั่วชิงชิงกะพริบตา แล้วพูดอย่างช้าๆว่า : “หมายความว่ายังไง?”
“ขอโทษจริงๆค่ะ ระบบมีปัญหา ฉะนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องมาตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง จึงจะสามารถสรุปผลอย่างแน่ชัดได้!” ผู้หญิงคนนั้นพูดเสริมว่า : “นี่เป็นความรับผิดชอบของเรา ฉะนั้นคุณสามารถมาที่แผนกเราได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียเงินค่าลงทะเบียนเลยค่ะ!”
“ฉันป่วยใช่ไหมคะ?” ถึงเวลานี้แล้ว ฮั่วชิงชิงจึงไม่กล้าที่จะเพ้อฝันอีกต่อไป
“เราจำได้ว่าคุณไม่ได้ป่วย และระดับฮอร์โมนก็ปกติมากค่ะ” หมอกล่าว : “แต่เพื่อเป็นการยืนยัน ยังต้องเชิญคุณมาตรวจอีกครั้งหนึ่ง”
ฮั่วชิงชิงวางสายไป เดินไปที่ห้องน้ำ มองตัวเองที่ดูไม่ชีวิตชีวามากว่าหนึ่งสัปดาห์
เธอล้างหน้า หวีผมเรียบร้อยดีแล้ว จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาล
ยังคงรอเป็นเวลานานเหมือนเดิม จนกระทั่งหมอนำผลรายงานมาส่งให้ถึงมือเธอด้วยตัวเอง
ด้านบนแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างปกติดี ไตที่เธอได้รับจากการปลูกถ่ายนั้น อยู่ในร่างกายของเธอก็แข็งแรงดี
ราวกับนักโทษประหารได้รับแจ้งว่าให้ปล่อยตัวอย่างกะทันหัน ฮั่วชิงชิงแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง
หมอเห็นว่าเธอใจลอย จึงรีบกล่าวขอโทษ : “คุณฮั่ว ต้องขอโทษจริงๆนะคะ มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นน้อยมากจริงๆ ทั้งหมดเป็นความสะเพร่าของเราเอง……”
ฮั่วชิงชิงนึกถึงว่า ก่อนหน้านี้ที่เธอเป็นโรคไตวาย หันจื่ออี้โกหกเธอว่าเธอตั้งท้อง
แต่ครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ไตวาย แต่ก็เกือบฆ่าตัวตายจากผลรายงานที่ผิดพลาดไปแล้ว!
เดี๋ยวนะ ตั้งท้อง?!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮั่วชิงชิงก็เงยหน้าขึ้นมองหมอ : “ใช่สิ ถ้าฉันตั้งท้องอยู่ การเจาะเลือดจะส่งผลกระทบไหมคะ?!”
หมอรีบส่ายหัว : “เราเจาะเลือดออกไปปริมาณน้อย จึงไม่มีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ค่ะ!”
ฮั่วชิงชิงยังพูดอีกว่า : “อย่างนั้นอีกนานไหมคะกว่าจะรู้ว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า?”
“โดยทั่วไปแล้ว เจ็ดวันขึ้นไปผลตรวจวินิจฉัยจึงจะออกมา” หมอกล่าวว่า : “คุณฮั่ว คุณยังไม่ทราบใช่ไหมว่าตนเองตั้งครรภ์หรือเปล่า? อย่างนั้นเราช่วยตรวจให้คุณได้นะคะ”
ด้วยเหตุนี้ฮั่วชิงชิงจึงทำการเจาะเลือดอีกครั้ง
ผลตรวจการตั้งครรภ์ง่ายกว่ามาก ไม่นานผลตรวจก็ออกมา พยาบาลนำผลตรวจมาส่งให้ฮั่วชิงชิง : “คุณฮั่วคะ ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณตั้งครรภ์แล้ว!”
“ห๊ะ?” เดิมทีฮั่วชิงชิงแค่ลองคิดดูก็เท่านั้น แต่พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้จริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ!
“คำรายงานผลครั้งนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” พยาบาลกล่าว: “เพียงแต่โปรเจสเตอโรนของคุณค่อนข้างต่ำ แสดงให้เห็นว่ามีโอกาสแท้งคุกคาม คุณเอาใบตรวจไป แล้วไปยังแผนกสูตินรีเวช เพื่อจะได้รับยาเสริมโปรเจสเตอโรนค่ะ!”
ความรู้สึกภายในใจ เหมือนกับรถไฟเหาะ
เคยสิ้นหวังกับชีวิตที่ต้องนับถอยหลัง แค่จู่ๆก็มีคนมาบอกเธอว่า เธอสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ อีกทั้งยังตั้งครรภ์ลูกของคนรักอีกด้วย!
ฮั่วชิงชิงทำขั้นตอนรับยาแล้ว ก็รู้สึกสับสนงุนงง
จนกระทั่ง นั่งรถกลับมาบ้าน ทานยาตามที่หมอสั่งแล้ว จู่ๆก็รู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย มือของเธอ จึงค่อยๆคลำไปที่ท้องน้อยของตนเอง
ครั้งนี้ ในนี้มีชีวิตน้อยๆชีวิตหนึ่งจริงๆ นี่คือผลงานของเธอกับหันจื่ออี้
น้ำตา ไหลรินลงมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เป็นความตื้นตันใจ
เป็นเวลานาน ฮั่วชิงชิงจึงเคลื่อนสายตาอันขุ่นมัวไปยังข้างๆ แล้วหาวีแชตของหันจื่ออี้ในมือถือ
จากนั้น ก็โทรศัพท์ไปหาเขา
เวลานี้ หันจื่ออี้เพิ่งเซ็นสัญญากับลูกค้าเสร็จ เขามองดูปฏิทินเล็กน้อย ต้องการกำชับสั่งให้ผู้ช่วยหวังจองตั๋วกลับลอนดอนในอีกสองวันให้เขา จู่ๆมือถือก็ดังขึ้นมา
พอเห็นว่าเป็นฮั่วชิงชิงโทรผ่านวีแชตเข้ามา ด้วยเห็นนี้เขาจึงกดรับทันที: “ชิงชิง?”
“จื่ออี้——” ฮั่วชิงชิงเพียงแค่เรียกชื่อของหันจื่ออี้ ก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ขึ้นมา
หันจื่ออี้ได้ยินหัวใจก็ตึงเครียด จึงรีบกล่าวว่า: “เป็นอะไรไป?”
“ฉัน ฉัน…..” ฮั่วชิงชิงกำลังจะบอกว่าตัวเองท้องแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ บอกต่อหน้าจะดีกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงเปลี่ยนคำพูดทันที: “ฉันอยู่ที่คอนโดมิเนียมของพวกเรา”
ก่อนหน้านี้หันจื่ออี้ติดต่อฮั่วชิงชิงไม่ได้ แล้วยังเคยไปหาเธอที่นั่นด้วย สองวันมานี้ เธอปิดเครื่องมาโดยตลอด เขาจึงค่อนข้างเป็นห่วง แถมยังพูดด้วยเสียงที่สะอื้นอีก จึงตื่นตระหนกขึ้นมาทันที: ชิงชิง เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม? คุณไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้!”
เขาพูดพลาง สั่งคนขับรถ: “ไปคอนโดมิเนียมจิ่นเจียง”
หลังจากสั่งเสร็จแล้ว หันจื่ออี้ก็พูดกับมือถืออีกว่า: “ชิงชิง ไม่สบายใช่ไหม? ต้องการให้ฉันเรียกรถพยาบาลไหม?”
เธอได้ฟังคำพูดที่เป็นห่วงเป็นกังวลของเขาแล้ว หัวใจก็สั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอส่ายหน้า แต่ก็ตระหนักได้ว่าหันจื่ออี้มองไม่เห็น ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวเสริมว่า: “ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันแค่อยากจะบอกเรื่องหนึ่งกับคุณ”
“เรื่องอะไรเหรอ?” หันจื่ออี้รู้สึกเคร่งเครียดเล็กน้อย
“คุณมาแล้ว ฉันค่อยบอกคุณด้วยตัวเอง” ฮั่วชิงชิงกล่าว
ผ่านไปสิบกว่านาที หันจื่ออี้ก็มาปรากฏที่หน้าประตูคอนโดมิเนียม เขากดกริ่งที่ประตู
ฮั่วชิงชิงลุกขึ้น เมื่อมองผ่านตาแมวแล้ว ก็ตระหนักได้ว่า ระหว่างพวกเขา ในที่สุดก็ไม่ต้องกั้นขวางด้วยความเป็นความตายอีกแล้ว
เธอเปิดประตู
หันจื่ออี้เห็นเธอร้องไห้จนตาบวม จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปตรวจสอบ เห็นว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงกล่าวว่า: “ชิงชิง ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“จื่ออี้ ฉันท้อง” ฮั่วชิงชิงจ้องมองดวงตาของหันจื่ออี้: “ฉันท้องลูกของคุณ”
หันจื่ออี้กะพริบตาปริบๆ คิดว่าตัวเองฟังผิดไป: “อะไรนะ?”
ฮั่วชิงชิงนำใบรายงานผลที่ถูกเหงื่อและน้ำตาทำให้ชื้นส่งไปให้เขา: “วันนั้นฉันโกหกคุณ เช้าวันต่อมาฉันถึงออกจากโรงแรมของคุณ…….”
หันจื่ออี้ยังคงไม่ได้สติกลับมา เขารับใบรายงานผลที่ฮั่วชิงชิงส่งมาให้ แล้วอ่านอย่างละเอียดรอบหนึ่ง
เป็นเวลานาน ในสมองของเขา จึงค่อยๆปรากฏคำสองสามคำขึ้นมา: เธอท้องแล้ว เป็นลูกของเขาด้วย!
เห็นหันจื่ออี้ไม่ขยับเขยื้อน หัวใจของฮั่วชิงชิง ก็เริ่มกังวลขึ้นเรื่อยๆ: “จื่ออี้ คุณไม่ต้องการใช่ไหม…..คุณคิดว่าพวกเรา……”
หันจื่ออี้จึงตอบสนองกลับมาจากอาการช็อก จากนั้น ในก้นบึ้งของหัวใจก็ระเบิดความดีใจออกมาอย่างระงับไม่อยู่
“ชิงชิง ฉันต้องการ!” เขาพูดจบ ก็รู้สึกว่าการแสดงออกของตัวเองอาจจะไม่ชัดเจน จึงกล่าวเสริมทันทีว่า: “เมื่อสองปีก่อนฉันก็เคยบอกแล้วว่า หวังว่าพวกเราจะมีลูกสักคนหนึ่ง ดังนั้น จะไม่ต้องการได้ยังไงล่ะ?”
ฮั่วชิงชิงมองเขาอย่างนิ่งอึ้ง: “จื่ออี้ ความหมายของคุณคือ…….”
หันจื่ออี้ยกมือขึ้น กุมไหล่ของฮั่วชิงชิง แล้วกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า: “ชิงชิง พวกเราไม่ต้องหย่ากันแล้ว อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จากนี้ไป ฉันกับลูกจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป ขอเพียงแค่คุณเต็มใจ”
นี่คือจุดจบที่เธอต้องการ จุดจบที่เคยคิดคาดหวังแต่ไม่อาจขอร้องได้
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา: “จื่ออี้ อันที่จริง ถึงแม้ว่าจะไม่มีลูก ฉันก็ไม่คิดที่จะหย่ากับคุณ สองปีมาแล้ว ความเกลียดชังที่อยู่ภายในใจฉันก็เริ่มจืดจางลง แต่คุณ กลับยิ่งชัดเจนมากขึ้น……”
หันจื่ออี้มองฮั่วชิงชิงอย่างตกตะลึง ในภาพความทรงจำ เธอไม่เคยแสดงความรู้สึกที่มีต่อเขาโดยตรงแบบนี้เลย
เพียงแต่ฟังเธอกล่าวต่อไปว่า: “วันนั้นสาเหตุที่ฉันไป เป็นเพราะว่าฉันไม่สบาย จึงโกหกคุณ แต่วันนี้ฉันไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าฉันไม่ได้ป่วย เพียงแต่ตั้งครรภ์…..”
มือของเธอลูบเบาๆที่ท้องน้อยของตัวเอง: “จื่ออี้ สุขภาพฉันไม่ดีมาโดยตลอด ฉันกลัวว่าจะดูแลลูกของเราได้ไม่ดี……”
หันจื่ออี้ตอบสนองกลับมา จึงรีบเข้าไป มือหนึ่งโอบกอดเธอเอาไว้ อีกมือหนึ่งวางลงบนท้องน้อยของเธอ: “ชิงชิง ฉันจะดูแลพวกพวกคุณเป็นอย่างดี”
ถึงแม้ว่าตอนนี้ร่างกายเขาจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ยังคงพูดประโยคนี้
น้ำตาของฮั่วชิงชิงเอ่อล้นอยู่ในดวงตา เธอพิงหน้าอกของหันจื่ออี้ แล้วยื่นแขนไปโอบกอดเขา: “อันที่จริง คุณก็ต้องได้รับการดูแล จากนี้ไป ให้ฉันได้ดูแลคุณให้ดีนะ โอเคไหม?”