ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 505 ไม่สามารที่จะควบคุมความรู้สึกที่รักจนโงหัวไม่ขึ้น
สือจินหว่านรู้สึกว่าโอหยางจวิ้นนั้นตัวสั่นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามีท่าทางที่พยายามอดทนเอาไว้ ส่วนเธอก็กลั้นหายใจและไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
อันที่จริงแล้ว ในใจของเธอก็รู้สับสนเช่นกัน
เธอรู้สึกสงสารเขา เพราะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานั้นเขาต้องทนลำบากมามากแค่ไหน แต่เธอยังคงเตรียมตัวไม่พร้อมจริงๆ
ดังนั้น เธอก็เลยไม่กล้าพูด แล้วก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงทำได้เพียงเชื่อฟังและอยู่ในอ้อมกอดของเขา และรู้สึกถึงพลังของเขาที่ส่งถึงผิวของเธอ
ผ่านไปสักพัก โอหยางจวิ้นถึงได้ปล่อยสือจินหว่าน
บนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ : “ หวันหว่าน อาจะส่งเธอกลับหอเอง ”
เธอก็เงยหน้าขึ้นความแปลกใจมากๆ
เขาช่วยเธอปิดชุดนอนที่เปิดอ้าเอาไว้ แล้วก็ฝืนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ : “ ถ้าเกิดว่าเธออยู่ที่นี่ คืนนี้อาก็คงจะทนไม่ไหวแน่ๆ !”
คำพูดที่โจ่งแจ้งเป็นพิเศษของเขา มันทำให้หัวใจของเธอนั้นเต้นรุนแรง
“ ออ โอเคค่ะ ” สือจินหว่านรีบดึงเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาแล้วก็กระโดดลงจากเตียงทันที
เธอก็หยิบเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไปก่อนหน้าขึ้นมา แล้วก็รีบเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับพูดว่า : “ ถ้างั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ !”
“ โอเค ” โอหยางจวิ้นบังคับตัวเองให้ละสายตาจากสือจินหว่าน แล้วก็หายใจเข้าลึกๆอยู่หลายครั้ง
ในห้องน้ำนั้น สือจินหว่านที่หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาก็พบว่าลืมเธอหยิบเสื้อชั้นในมา
เธอจึงทำได้เพียงสวมเสื้อคลุมอาบน้ำและวิ่งออกไปอีกครั้งเพื่อหาเสื้อผ้าชั้นในของตัวเองที่อยู่บนเตียง
เธอวิ่งออกมาด้วยความรีบร้อนเล็กน้อย จึงไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่นิดว่าโอหยางจวิ้นนั้นกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ด้านนอก
และเมื่อเธอวิ่งไปถึงข้างเตียง เขาก็ถอดจนเปลือยกายหมดแล้วพอดี
ดวงตาของสือจินหว่านก็กว้างในทันที และเธอก็กำลังตะลึงกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
ถึงแม้ว่าเมื่อกี้พวกเขาจะสนิทชิดเชื้อกันไปกันขนาดนั้นแล้ว แต่อันที่จริงเธอแทบจะหลับตาอยู่ตลอด หรือไม่ก็เห็นเพียงแค่ร่างกายส่วนบนของโอหยางจวิ้นเท่านั้น
ในเวลานี้ เขาก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าไว้แล้ว และเธอก็เห็นเขาหมดแล้ว !
รูปร่างที่สูงใหญ่ หุ่นสามเหลี่ยมกลับหัวที่สวยงาม แล้วก็ยังมีลายเส้นกล้ามเนื้อที่สัดส่วน ทั้งร่างกายเป็นสัดส่วนทองคำ ซึ่งไม่มีไขมันเลยแม้แต่นิด มันจึงทำให้เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงความรู้สึกที่เธอลูบกล้ามท้องของเขาในร้านอาหาร……
ทั้งสองต่างก็ตกตะลึงจนลืมที่จะมีท่าทีโต้ตอบ
หัวใจของสือจินหว่านเต้นเร็วมาก แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะวางมือยังไงดี และเขาของเธอก็ดูเหมือนจะถูกตะปูตอกเอาไว้
ทั้งๆที่มันควรจะวิ่ง แต่เธอกลับมองอยู่ตลอดโดยที่ไม่ละสายตาเลย จนกระทั่ง——
เธอเห็นอย่างชัดเจนว่า โอหยางจวิ้นเริ่มมีบริเวณบางจุดที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ยื่นตรงขึ้นและชี้ไปทางเธอ……
เธอก็ร้อง‘อ๊า’ขึ้นมา ทันใดนั้นก็รู้สึกตัวขึ้นได้และโบกไม้โบกมือ : “ อาจวิ้น ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ! ฉันมาหยิบของ ! ฉันลืม……”
ในขณะที่พูดนั้น เธอก้มลงไปที่เตียงด้วยความลนลานรื้อหาเสื้อผ้าชั้นในออกมา แล้วก็ชูขึ้นมาให้เขาดู : “ อันนี้ !”
เธอไม่รู้ว่า เขาใช้จิตใจที่แน่วแน่ไปมากแค่ไหนเขาถึงได้กลับไปยืนในที่เดิม และเขาต้องใช้จิตใจที่แน่วแน่มากอีกครั้ง ถึงจะมองมายังเสื้อผ้าชั้นในที่เธอชูขึ้นมา แล้วก็ยังคงพูดว่า : “ เด็กดี รีบไปเปลี่ยนเร็ว ”
เมื่อกี้ตอนที่เธอชูเสื้อชั้นในขึ้นมา เขาก็นึกถึงสัมผัสของฝ่ามือที่อ่อนนุ่มและยืดหยุ่นของก่อนหน้านี้ที่อยู่บนเตียง และมันก็ค่อยๆเขมือบกินจิตใจที่แน่วแน่ในปกติของเขาไปทีละนิด
เมื่อได้ยินที่โอหยางจวิ้นพูด สือจินหว่านก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังชูเสื้อชั้นในให้เขาดู ทันใดนั้น หน้าของเธอก็ยิ่งแดงมากขึ้น
เธอคว้าเสื้อผ้าแล้วก็หันหลังวิ่งไป โดยไม่เห็นว่าประตูกระจกของห้องน้ำนั้นปิดอยู่ มันเลยทำให้เธอชนเข้ากับมัน แล้วมีเสียงอู้อี้ขึ้นมา
“ หวันหว่าน เป็นอะไรหรือเปล่า ?” เมื่อโอหยางจวิ้นได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ก็รีบวิ่งไปดู
“ ไม่เป็นไรค่ะ !” แม้ว่าหน้าผากของสือจินหว่านจะเจ็บ แต่ถึงอย่างไรเธอก็รีบลุกขึ้นมาเปิดประตูเข้าไป จากนั้นก็เข้าไปในม่านที่อยู่ด้านหลัง
ในตอนที่สวมเสื้อผ้านั้น มือของเธอก็สั่นเล็กน้อย
ผ่านไปสักพักกว่าจะสวมเสื้อผ้าเสร็จ แต่ถึงอย่างไรแก้มที่แดงก่ำก็ยังคงเช็คไม่ออก
พอเดินถึงประตู เธอก็ถามด้วยเสียงที่แผ่วเบา : “ อาจวิ้น เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วหรือยังคะ ?”
โอหยางจวิ้นก็เอ่ยปากพูดว่า : “ อื้ม เสร็จแล้ว ”
เมื่อสือจินหว่านออกไปก็เห็นว่าโอหยางจวิ้นนั้นกลับมาสวมชุดเมื่อกี้นี้แล้ว เธอก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
เธอนับได้ว่าเข้าใจแล้ว ที่แท้เวลาที่ผู้ชายและผู้หญิงอยู่ในห้องเดียวกัน มันเป็นแบบนี้นี่เอง…..
“ หวันหว่าน เธอลองดูซิว่าหยิบของครบแล้วหรือยัง ?” โอหยางจวิ้นพูด : “ อาส่งเธอกลับหอ พรุ่งนี้เช้าเจ็ดโมงอาค่อยไปรับเธอมากินข้าวเช้านะ ”
เธอพยักหน้า : “ อื้ม ฉันเอามาแค่โทรศัพท์ ส่วนของอย่างอยู่บนรถของอา พวกเราไปกันดีกว่า !”
โอหยางจวิ้นก็หยิบกุญแจขึ้นมา ดึงคีย์การ์ดออกมา แล้วกำลังจูงสือจินหว่านออกไป แต่ทว่าเมื่อมือของเขาเพิ่งจับไปที่ลูกบิดประตู เขาก็หยุดลง
เป็นเพราะว่าดึงคีย์การ์ดออก ก็ทำให้ภายในห้องมืดลงทันที แต่ทว่าความรู้สึกที่สัมผัสของมืออีกข้างที่จูงมือของสาวน้อยเอาไว้นั้นมันก็ชัดเจนขึ้นมาในทันที
โอหยางจวิ้นก็ได้ปล่อยมือจากลูกบิดประตู จากนั้นก็ล็อคไปที่เอวของสือจินหว่านแล้วก็ก้มลงไปจูบทันที
เธอไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นฝีเท้าก็ถอยไปด้านหลัง และเธอก็ถูกเขาชนเข้ากับประตู
เขาดูเหมือนกับไฟที่จูบเธอ เสียงที่คลุมเครือก็ระเบิดขึ้นภายในห้องที่มืดมิด และทำให้ภายในห้องมีอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นอีกครั้ง
เป็นเพราะฤดูร้อน ทั้งสองคนจึงสวมเสื้อผ้าที่บางมาก สือจินหว่านก็รู้สึกถึงร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งของโอหยางจวิ้น และเธอก็รู้สึกว่าแนวต้านที่อยู่ภายในใจของตัวเองมันได้เริ่มพังทลายลงแล้ว
เขาต้องไม่สบายมากๆแน่เลย ? ในเมื่ออีกไม่นานเธอก็ต้องแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นก็ให้เขาวันนี้แล้วกัน…..
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ในใจของเธอยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น หัวใจของเธอเต้นตึกตึกตึก/ตึกตักกระแทกกับทรวงอกของเธอ และเลือดในตัวก็พุ่งขึ้นไปยังสมอง ทำให้รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างไร เขาก็ปิดริมฝีปากของเธอไว้ตลอด มันทำให้เธอไม่สามารถส่งเสียงได้ ดังนั้นก็เลยไม่มีวิธีเธอจะแสดงจุดยืนของตัวเองได้
ในที่สุด ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนกว่าที่โอหยางจวิ้นจะปล่อยสือจินหว่าน
เธอก็ได้ปลุกความกล้าของเธอขึ้นมาและเอ่ยปากพูดกับเขาว่า : “ จวิ้น——”
“ หวันหว่าน พวกเราไปกันเถอะ !” ในขณะที่โอหยางจวิ้นพูดนั้น เขาก็เปิดประตูด้วยความเด็ดขาด
สือจินหว่านก็ถึงกลับตกตะลึง เขา……
เขากลับไม่รู้ความคิดเมื่อกี้ของเธอเลย แล้วก็ดึงเธอเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว
ร่างกายที่เปลี่ยนไปนั้น ยังไม่คืนกลับสภาพโดยสมบูรณ์ โอหยางจวิ้นพิงไปที่ระเบียงทางเดินแล้วก็เงยหน้าขึ้นเพื่อสงบสติอารมณ์สักแป๊บ จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดกับสือจินหว่านว่า : “ หวันหว่าน พวกเราแต่งงานให้เร็วเถอะนะ !”
เธอกัดริมฝีปาก : “ ค่ะ ”
ทั้งสองคนจึงออกจากโรงแรมด้วยกัน และโอหยางจวิ้นก็ได้ไปส่งสือจินหว่านที่ประตูทางเข้าหอพัก
เธอกำลังจะเปิดประตูรถ แต่จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นได้ ดังนั้นก็เลยเอนตัวเข้าไปใกล้เขา จากนั้นก็จูบไปบนแก้มของเขา และกระพริบตาปริบๆพร้อมกับพูดว่า : “ จวิ้นน้อย ราตีสวัสดิ์นะ !”
“ ราตีสวัสดิ์ หวันหว่าน ”โอหยางจวิ้นก็ยื่นไปลูบผมของสือจินหว่านพร้อมกับพูดว่า : “ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ !”
“ ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ !” สือจินหว่านยิ้มให้เขา จากนั้นก็เปิดประตูรถแล้วก็จากไป
เธอเพิ่งจะวิ่งไปถึงระเบียงทางเดิน ก็เห็นว่าหยานโม่หานที่ยืนพิงอยู่ตรงระเบียง และเงาของเธอก็ตกอยู่บนตัวบนของเขา ทำให้เงาของเขาจางลงอย่างเห็นได้ชัด
“ โม่หาน แกมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ?” เธอก็ถาม
“ ผมคิดว่าคืนนี้พี่จะไม่กลับมาแล้วสักอีก ” หยานโม่หานพูด
สือจินหว่านก็เข้าใจความหมายของเขาในทันที และหน้าก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย : “ ไม่มีทาง พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันเลย และพี่ก็ต้องกลับมาที่หอพักทุกวันอย่างแน่นอน……”
เมื่อเธอพูดจบแล้วก็กำลังจะเดินไปที่ห้องตัวเอง ก็เห็นว่าหยานโม่หานยังคงไม่ขยับ ดังนั้นก็เลยพูดอีกว่า : “ โม่หาน ดึกขนาดนี้แล้ว แกยังไม่นอนหรอ ?”
เขาหันไปมองเธอ แต่ในดวงตาที่สวยงามกลับมีเงามืดของอาคารบ้านเรือน : “ อืม ตอนนี้ก็คงนอนได้แล้ว ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ยืนตัวตรงและพูดกับเธอว่า : “ ราตีสวัสดิ์นะ พี่หวันหว่าน ” เมื่อพูดจบ เขาก็เดินกลับไปห้องตัวเอง
ในใจของสือจินหว่านรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก เธอรู้ความหมายของหยานโม่หาน แต่…..
เธอก็ถอดหายใจเล็กน้อย และเธอก็รีบเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง
เพิ่งจะเข้าไปถึง โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมาในทันที สือจินหว่านก็หยิบออกมาดู และเห็นว่าเป็นหยานโม่หานที่ส่งข้อความมา : “ พี่หวันหว่าน พี่สบายใจได้เลย เรื่องของพวกพี่ ผมไม่ไปบอกพ่อบุญธรรมหรอก แต่ถึงอย่างไรก็หวังว่าพวกพี่จะเป็นฝ่ายไปพูดด้วยตัวเองนะ ”
สือจินหว่านก็ตอบกลับไปว่า : “ อื้ม พวกเราได้วางแผนเอาไว้แล้ว เขาจะเป็นคนบอกกับพ่อแม่ฉันเอง และฉันก็ยื่นสมัครเรียนที่สหรัฐอเมริกาแล้ว ในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยก็สามารถที่จะแต่งงานได้ บางทีพวกเราก็อาจจะแต่งงานให้เร็วขึ้น ”
ณ ห้องข้างๆ หยานโม่หานที่เห็นว่าสือจินหว่านนั้นพูดถึงเรื่องแต่งงาน มือที่ถือโทรศัพท์จู่ๆก็สั่นขึ้นมาในทันที ผ่านไปสักพัก เขาก็ตอบกลับไปว่า : “ โอเค ขอให้พวกพี่มีความสุขนะ ”
“ ขอบคุณนายนะ โม่หาน ” สือจินหว่านก็ตอบกลับไป : “ ราตีสวัสดิ์ ”
ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังคงติดค้างกับการให้คำตอบเขาอยู่ แต่ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ให้เขาไม่ได้อยู่ดี
เธอก็พยายามระงับความรู้สึกผิดนี้เอาไว้ จากนั้นสือจินหว่านที่กำลังนั่งอ่านหนังสือบนเตียงอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ได้สั่นขึ้นมาอีกครั้ง
เธอก็หยิบขึ้นมา และเห็นว่าเป็นโอหยางจวิ้นที่เป็นคนส่งมา : “ หวันหว่าน อาถึงโรงแรมแล้วนะ ”
เธอก็ยิ้มมุมปาก : “ โอเค หลับเช้าหน่อยนะจวิ้นน้อย !”
“ โอเค ” เขาก็ส่งสติ๊กเกอร์ที่พยักหน้ามา
เธอเห็นว่าบนหน้าจอนั้นมันขึ้นมาอีกฝ่ายกำลังพิมพ์ ดังนั้นเธอก็เลยรอให้เขาส่งข้อความมา
แต่ทว่า ผ่านไปสักพัก เขาก็ยังไม่ส่งมา
ดังนั้นสือจินหว่านก็เลยถาม : “ มีอะไรที่อยากจะพูดกับฉันหรือเปล่าคะ ?”
ในขณะนี้ โอหยางจวิ้นก็ได้ลบข้อความที่พิมพ์ไว้ก่อนหน้านี้ออก แล้วก็พิมพ์ตอบกลับไปอย่างง่ายมากๆว่า : “ อื้ม อาพบว่า อาคิดถึงเธออีกแล้ว ”
ในขณะนี้ เขากำลังนั่งอยู่บนหัวเตียง มองดูเตียงที่เธอเพิ่งนอน ความต้องการในสมองของเขาเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง โดยที่มันไม่สามารถที่จะควบคุมได้เลย
โทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็มีเสียงดังขึ้นมา เขาก็ก้มลงมองและเห็นเพียงแค่ที่เธอส่งมาว่า : “ ฉันก็คิดถึงอาเหมือนกัน ”
โอหยางจวิ้นก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาในทันที : “ หวันหว่าน อารักเธอนะ ”
อีกด้าน เมื่อเธอเห็นคำพูดของเขา หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ และเธอก็ตอบกลับไปว่า : “ เหมือนกัน ”
ตอนเริ่มทั้งสองคนยังพิมพ์อยู่ แต่พอผ่านไปสักพัก สือจินหว่านก็เริ่มส่งความเสียง ท้ายที่สุดก็คุยโทรศัพท์
จนกระทั่ง หลังเที่ยงคืน โอหยางจวิ้นก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “ หวันหว่าน เธอควรนอนได้แล้วนะ ! อาจะวางสายแล้ว พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ !”
เธอตอบกลับ : “ โอเค อย่าลืมฝันถึงฉันนะ ”
ทั้งสองคนก็วางสายและในที่สุดถึงได้นอนหลับ
ในเช้าวันที่สอง สือจินหว่านก็ลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วก็เลือกกระโปรงสวยๆมาหนึ่งตัว และเดินออกไปด้วยความดีอกดีใจ
พอดีกับที่สือมูสือกลับมาจากออกกำลังกายตอนเช้า เมื่อเห็นเธอก็เลยพูดว่า : “ หวันหว่าน ไปกินข้าวหรอ ? โม่หานล่ะ ?”
สือจินหว่านก็รู้สึกหนักใจ และรีบพูดว่า : “ โม่หานยังเตรียมตัวไม่เสร็จค่ะ หนูไปออกไปกินข้าวแล้วเดี๋ยวจะเอากลับมาให้เขาค่ะ ”
สือมูเฉินพยักหน้า : “ วันนี้กระโปรงสวยมากเลยนะ !”
“ ขอบคุณค่ะพ่อ !” สือจินหว่านก็ยิ้มอย่างน่ารัก
ในขณะที่เธอยังคงเดินออกไปต่อ สือมูเฉินก็เดินเข้าไปด้านใน
สือจินหว่านก็มาถึงถนนใหญ่ มองไปแต่ไกลก็เห็นรถของโอหยางจวิ้น เธอก็เปิดประตูเข้าไปลับๆล่อๆแล้วก็พูดว่า : “ เมื่อกี้เจอเข้ากับพ่อ ! จอเห่แน่ ยังไงอีกไม่นานเขาก็ต้องรู้ !”
โอหยางจวิ้นพูด : “ หวันหว่าน เมื่อคืนอาคิดมาแล้วว่าเรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องสารภาพให้เขารู้ก่อน ดังนั้นในสัปดาห์นี้ก็เป็นแบบนี้ไปก่อน สุดสัปดาห์หน้า พวกเราหาโอกาสไปคุยกับเขาให้มันชัดเจนกัน !”
“ สุดสัปดาห์หน้า ?” สือจินหว่านก็พูดความกังวลใจ : “ มันจะเร็วไปหรือเปล่า ? ยังมีแม่ที่อยู่ประเทศจีนอีกนะ !”
“ เพราะตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ ตราบใดที่อาจะเจอเธอ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเจอเข้ากับเขา ดังนั้น……” โอหยางจวิ้นพูด : “ หวันหว่าน เธออย่ากังวลใจไปเลย อาจะเป็นคนสารภาพเอง ! สุดสัปดาห์หน้า อาจะคุยกับเขาให้ชัดเจนเอง ถ้าเขาเห็นด้วย พวกเราก็จัดเตรียมงานหมั้นเลย !”