ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 177 เงินไม่พอ
ตอนที่ 177 เงินไม่พอ
เฉาฮวาอยากจะปล่อยโฮออกมา แต่นางยังมีสติรู้ว่าองค์รัชทายาทยังอยู่ข้างกาย
นางอดกลั้นเอาไว้ได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ นางก็อดกลั้นเช่นนี้มาตลอด
นางยิ้มให้เว่ยเชียง “ชื่อน่าสนใจจริงๆ เพคะ ไม่รู้ว่าผู้ใดตั้งชื่อแบบนี้”
นางถามด้วยสีหน้าปกติ แต่มือที่อยู่ในแขนเสื้อกลับสั่นไม่หยุด
รสชาติไชเท้าดองที่คุ้นเคย ชื่อหอสุราที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำส่วนลึก… หรือว่าซิ่วเย่ว์ยังไม่ตาย?
เฉาฮวาคิดถึงเพียงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมา
หากมีเพียงไชเท้าดองโถนี้ยังพอพูดได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เมื่อมีชื่อของหอสุราเพิ่มเข้ามา จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ที่ไหนกัน
นางเองก็ไม่อยากให้มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ
นางหวังว่าน้องซิ่วเย่ว์จะยังมีชีวิตอยู่
ซิ่วเย่ว์มีอายุน้อยที่สุดในหมู่พวกนางสี่คน นางเป็นคนไร้เดียงสา พวกนางเห็นซิ่วเย่ว์เป็นน้องสาวแท้ๆ คนหนึ่ง
“คือคุณหนูลั่วบุตรสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของแม่ทัพใหญ่ลั่วน่ะ” เว่ยเชียงให้คำตอบ พอเห็นเฉาฮวาทำหน้างุนงง เขาก็ยิ้มให้ “เจ้าอยู่แต่ในวัง คงไม่เคยได้ยินชื่อคุณหนูลั่ว”
วันนี้เขาตอบตกลงคุณหนูลั่วให้นางเข้ามาพบอวี้เหนียงอย่างไม่มีทางเลือก เมื่อพูดถึงตรงนี้ ให้อวี้เหนียงรู้จักสตรีน่าปวดศีรษะคนนั้นไว้หน่อยก็ดี
เฉาฮวาหลุบตาลงปกปิดความผิดหวัง ส่ายศีรษะเบาๆ “ไม่เคยได้ยินเพคะ”
“นางคือบุตรสาวที่แม่ทัพใหญ่ลั่วรักมากที่สุด พฤติกรรมของนาง… ค่อนข้างนอกลู่นอกทางไปบ้าง”
“นอกลู่นอกทาง?” ไม่รู้เหตุใดเฉาฮวาจึงนึกถึงท่านหญิงขึ้นมา
ท่านหญิงชอบเข้าครัว ชอบให้พ่อครัวสอนทักษะการทำอาหาร เริ่มแรกก็มีคนวิจารณ์ว่าท่านหญิงว่านอกลู่นอกทางเช่นกัน
“ใช่ หากนางพบของที่ชอบก็จะแย่งชิงมา ทั้งยังชอบเลี้ยงนายบำเรอด้วย”
“เลี้ยงนายบำเรอ?” เฉาฮวาเบิกตากว้าง
ท่านหญิงของพวกนางไม่ได้นอกลู่นอกทางถึงเพียงนี้หรอกนะ!
“แล้วร้านมีหอสุรานางก็เป็นคนแย่งชิงมาหรือเพคะ” เฉาฮวาเก็บอาการตื่นเต้นและถามขึ้น
เว่ยเชียงหัวเราะ “ไม่ใช่หรอก ได้ยินมาว่านางซื้อมาด้วยราคาสูงและเพราะได้คนครัวดี กิจการของหอสุราจึงดีมาก”
นั่นคือกำไรมหาศาลจริงๆ!
เมื่อคิดถึงราคา เว่ยเชียงก็ยิ้มไม่ออก
เขายังค้างเงินมีหอสุราอยู่ห้าพันหกร้อยยี่สิบตำลึง
เมื่อเว่ยเชียงเล่าให้ฟังว่าหอสุรามีคนครัวดี เฉาฮวาก็อดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้
คนครัวของมีหอสุราคือซิ่วเย่ว์หรือไม่นะ
นางอดคิดเช่นนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ก็ไม่กล้าเชื่อ
หากไม่ใช่เล่า
เฉาฮวาอดคลำกำไลทองฝังอัญมณีเจ็ดสีบนข้อมือไม่ได้
ผ่านมาหลายปีแล้ว นางดูแลกำไลวงนี้มาโดยตลอด เฝ้าคอยด้วยความหวังอันริบหรี่
มีบางครั้ง นางรู้สึกสิ้นหวังจนอยากจะฆ่าตัวตายไปหาท่านหญิง แต่นางก็กลัวว่าจะทำให้ท่านหญิงผิดหวัง
ท่านหญิงไม่เคยพูดปด ท่านหญิงบอกว่ากำไลวงนี้แลกแผ่นดินได้ก็ต้องแลกได้จริงๆ
เว่ยเชียงเห็นปฏิกิริยาของเฉาฮวาก็จับมือนางไว้
เฉาฮวาสะดุ้ง เกือบเผยพิรุธออกมา
“ฝ่าบาท?”
นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มทาบทับบนกำไล เฉาฮวาใจเต้นระรัว
องค์รัชทายาทเริ่มสังเกตกำไลวงนี้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว…
เฉาฮวาทั้งตกใจและหวาดกลัว ปลายนิ้วของนางยิ่งเย็นเฉียบ
“อวี้เหนียง คุณหนูลั่วยังชอบกำไลวงนี้ของเจ้าด้วย”
“ฝ่าบาท…” เฉาฮวาหน้าซีด
เว่ยเชียงจับมือของนางแน่น เอ่ยปลอบว่า “เจ้าวางใจได้ ข้าไม่ให้คุณหนูลั่วแย่งกำไลของเจ้าไปได้หรอก”
เฉาฮวาฝืนยิ้ม “หม่อมฉันแค่สงสัยว่าคุณหนูลั่วไม่เคยเจอหม่อมฉัน เหตุใดจึงรู้ว่ามีกำไลวงนี้อยู่ด้วย”
เว่ยเชียงถอนหายใจ “นางชอบกำไลของเว่ยเหวิน”
“กำไลนั่น…”
“อยู่ที่คุณหนูลั่วแล้ว”
เฉาฮวาแสดงสีหน้าประหลาดใจ แต่ในใจกลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ของของท่านหญิง ยอมให้ผู้อื่นดีกว่าไปตกอยู่ในมือของคนจวนผิงหนานอ๋อง
น่าเสียดายที่นางไม่มีโอกาสได้เจอคุณหนูลั่วที่มีพฤติกรรมนอกลู่นอกทางผู้นี้ ยิ่งไม่มีโอกาสได้ยืนยันว่าคนครัวของมีหอสุราคือซิ่วเย่ว์หรือไม่
วังบูรพาเป็นสถานที่ที่ผู้คนมากมายอยากจะเข้ามา แต่สำหรับนางแล้วที่นี่ก็เป็นเพียงกรงใบหนึ่ง
ทว่านางหนีไม่พ้นและหนีไม่ได้ด้วย
ด้วยสถานะสาวใช้ของท่านหญิงชิงหยาง ทำให้นางทำได้เพียงพึ่งพาองค์รัชทายาทเพื่อความอยู่รอดจึงจะสามารถปกป้องกำไลวงนี้ไว้ได้
“วันสองวันนี้คุณหนูลั่วจะมาเป็นแขกที่วังบูรพา ถึงครานั้นเจ้าลองไปพบดู”
เฉาฮวาประหลาดใจมากเมื่อได้ยิน “ฝ่าบาท?”
เว่ยเชียงรู้สึกปวดศีรษะมาก
เขาจะยอมรับต่อหน้าอวี้เหนียงไม่ได้แน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำอะไรนังหนูน้อยคนหนึ่งได้
“ไม่ต้องคิดมาก แค่พบกันเท่านั้น”
“เพคะ” เฉาฮวาก้มหน้า ไม่ถามมากความอีก
กาลเวลาไม่เคยทำร้ายหญิงงาม แม้เฉาฮวาจะมีอายุไม่น้อยแล้ว แต่ความงดงามของนางกลับไม่เคยลดลงเลย
เว่ยเชียงมองใบหน้าที่งดงามและลำคอยาวระหงของนาง หัวใจของเขาสั่นไหว เขาจับมือนางเดินไปที่เตียง
ดึกแล้ว เว่ยเชียงปล่อยให้เฉาฮวาจัดเสื้อผ้าก่อนจะจากไป
“เสวี่ยนชื่อ อาบน้ำหรือไม่เจ้าคะ”
นางกำนัลรับใช้เฉาฮวารู้นิสัยของนางดีจึงเอ่ยปากถาม
เฉาฮวาพยักหน้า เหมือนกับไร้เรี่ยวแรงที่จะพูด ปล่อยให้นางกำนัลสองคนประคองไปห้องอาบน้ำ
เมื่อร่างทั้งร่างจมลงไปในถังไม้ที่มีไอน้ำระอุขึ้นมา เฉาฉวาก็บอกให้นางกำนัลทั้งสองออกไป
เมื่อในห้องไม่มีผู้อื่น นางก็มุดศีรษะลงไปในน้ำ ผ่านไปพักใหญ่จึงจะโผล่ศีรษะขึ้นมาหอบหายใจ
หากถามว่าเวลาไหนที่นางอยากจะจบชีวิตที่น่ารังเกียจนี้ที่สุด ก็คงเป็นเวลานี้
นางอยากจะทำความสะอาดผิวของนางทั้งภายนอกและภายในทุกครั้ง
เมื่อเดินออกจากถังไม้ เฉาฮวาเปลี่ยนเป็นเสื้อสีขาวดุจหิมะเดินเข้าไปในห้องด้านใน
นางกำนัลสองคนถือผ้ามาเช็ดผมให้นาง
เฉาฮวามีผมสลวยเงางาม ผมหนาเป็นมันเงาราวกับไหมเนื้อละเอียด
นางกำนัลคนหนึ่งซับผมให้นางพูดชมว่า “ผมของเสวี่ยนซื่อสวยจังเลยเจ้าค่ะ”
มิน่าองค์รัชทายาทจึงโปรดปรานเป็นพิเศษ นั่นคือประโยคหลังที่นางยังไม่ทันได้พูดออกมา
เฉาฮวาไม่ต้องคิดดูก็รู้ ด้วยเหตุนี้นางจึงขยะแขยงยิ่งกว่าเดิม
“พอแล้ว พวกเจ้าออกไปเถอะ”
“เสวี่ยนซื่อ ผมของท่านยังไม่แห้งเลยนะเจ้าคะ”
เฉาฮวาเอ่ยอย่างไม่แยแส “หมาดๆ ก็พอแล้ว วันที่ร้อนเช่นนี้ไม่นานก็แห้งแล้วล่ะ”
นางกำนัลสองคนเห็นนางเอ่ยเช่นนี้ก็พากันคารวะตามธรรมเนียมแล้วถอยออกไป
ในห้องเงียบงัน
เฉาฮวานั่งนิ่งครู่หนึ่ง เปิดช่องลับบนหัวเตียงแล้วหยิบขวดกระเบื้องขนาดเล็กออกมา
นางเทยาเม็ดหนึ่งออกมา คิดแล้วคิดอีกก่อนจะเทอีกเม็ดหนึ่งออกมา
นอกประตู ดวงตาคู่หนึ่งที่เห็นทุกอย่างเบิกกว้าง ปรากฏสีหน้ายินดีขึ้นมา
เช้าวันต่อมา บริเวณหนึ่งข้างภูเขาจำลอง นางกำนัลคคนหนึ่งเอาเม็ดยาส่งให้นางกำนัลอีกคน
นางกำนัลที่ได้ยาเม็ดนี้มาก็รีบไปรายงานพระชายารัชทายาททันที
“เมื่อคืนหลังจากร่วมอภิรมย์กับองค์ชายแล้ว อวี้เสวี่ยนซื่อกินยาแบบนี้หรือ” พระชายามองยาเม็ดหนึ่งที่นางกำนัลใช้ผ้ารองไว้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นและรังเกียจ
“ทูลพระชายา ชุ่ยหงนางกำนัลของอวี้เสวี่ยนซื่อเป็นคนเห็นกับตาเพคะ”
“กุ้ยหมัวหมัว เจ้านำยาตัวนี้ไปให้หมอหลวงดูว่ามีสรรพคุณอะไร”
“เพคะ”
พระชายาอารมณ์ดีเนื่องจากในที่สุดนางกำนัลที่จับตามองเฉาฮวาก็มีความคืบหน้า
แต่บัดนี้เว่ยเชียงอารมณ์ย่ำแย่มาก
“อะไรนะ เงินที่ใช้ได้ยังขาดอีกหนึ่งพันตำลึง?” เช้าตรู่ พอได้ยินรายงานของขันทีโต้วเหริน เว่ยเชียงก็รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ
โต้วเหรินยิ้มแห้ง “ทูลฝ่าบาท ขาดอีกหนึ่งพันหนึ่งร้อยตำลึงพ่ะย่ะค่ะ…”
เว่ยเชียงเงียบไปครู่หนึ่ง พูดว่า “เลือกหยกพกที่ไม่ขัดต่อข้อห้ามดีๆ สักชิ้นหนึ่งส่งไปให้คุณหนูลั่วพร้อมตั๋วเงิน”
“พ่ะย่ะค่ะ” โต้วเหรินออกจากพระราชวังไปเงียบๆ พร้อมกับหยกพกและตั๋วเงิน